สะบายดีปากเซ

ปากเซ เมืองที่โอบล้อมไปด้วยภูเขากับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายเต็มไปด้วยมนเสน่ห์ เมืองหลวงของแขวงจำปาสักเพื่อนบ้านของเรานี่เองค่ะ จริงๆปากเซก็ไม่ได้ไกลจากเมืองอุบลเลย ทั้งอาหารการกิน ภาษา วัฒนธรรม ก็คล้ายๆกันรู้สึกอบอุ่นเหมือนเที่ยวอยู่ในบ้านตัวเองเลยค่ะ

จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดในวันหยุดสิ้นเดือนของเดือน ตุลาคม แน่นอนว่าตังค์ในกระเป๋าเราก็พลอยบางเบาไปด้วยแต่ก็ต้องแพ้เสียงเรียกร้องของหัวใจ Lol ทริปนี้เป็นการเดินทางในต่างประเทศ ประเทศสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือเรียกย่อๆว่า สปป ลาว ด้วยงบที่มีอย่างจำกัดกับเพื่อนสาวคนสนิทอีกหนึ่งคนทั้งบ้า ทั้งบ๊องพอกัล

เราเริ่มต้นกันที่ บขส อุบลราชธานีขึ้นรถตู้อุบล-ช่องเม็ก

ระยะทางประมาณ90 กมถึงที่บขส สิรินธรซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด่านช่องเม็กมากนักข้ามถนนมาอีกฝั่ง เพื่อทำ Border Pass ที่หน่วยทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ราคา30 บาท

แล้วข้ามฝั่งมาที่พรมแดนลาวทำเรื่องที่ ตม ลาวเสียค่าธรรมเนียม100 บาทBorder Pass สามารถอยู่ที่ลาวได้แค่ 3 วัน2 คืนเท่านั้นนะคะ สำหรับใครที่มี Passpot ก็สามารถติดต่อที่ ตม ลาวได้เลยเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท ระหว่างนั้นสามารถเดินเลือกซื้อเลือกชมสินค้าที่ระลึก สินค้าปลอดภาษีที่ฝั่งลาวค่ะ

จากนั้นก็ไปต่อรถตู้ที่ท่ารถอยู่ห่างจากด่านตรวจคนเข้าเมืองลาวประมาณ300 เมตรขึ้นรถช่องเม็ก-ปากเซเวลาออกรถไม่แน่นอนคนเต็มก็ออกพี่แกว่างั้น

จากท่ารถถึงเมืองปากเซระยะทางประมาณ42กมจะถึงสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่นข้ามแม่น้ำโขงมาเมืองปากเซใช้เวลาเดินทางประมาณ1 ชม

รถตู้จะจอดให้ลงบริเวณหน้าตลาดดาวเรือง หลังจากที่ลงรถตู้สามล้อจะมาห้อมล้อมราวกับเราเป็นซุปเปอร์สตาร์ ที่หน้าตลาดจะมีธนาคารเราสามารถไปแลกเงินได้โดยอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท= 230 กีบ เราต่อรถจากตลาดดาวเรืองไปร้านเช่ารถมอไซโดยคิดราคาคนละ10,000 กีบ หรือประมาณ40 บาท

เราไปที่ร้านเช่ามอไซและเช่ามอไซไปแว๊นชมเมืองวันนี้ราคา 100,000 กีบหรือ ประมาน434 บาทในเวลา1 วันจากนั้นเราก็ไปเช็คอินที่โรงแรมเก็บกระเป๋าแล้วออกไปแว๊นกันเล้ยยย

ที่แรกที่เราไปคือวัดหลวง วัดประจำเมืองตั้งอยู่ในตัวเมืองปากเซหาไม่ยากเลยค่ะ สถาปัตยกรรมออกแนวคลาสสิค งดงามโดยวัดหลวงนี้เป็นที่เก็บอัตถิของราชวงค์ลาวหลายท่านและเป็นที่เก็บอัตถิของท่านกระต่าย  โดนสโสฤทธิ์นายกรัฐมนตรีของลาว

ทางด้านหลังของวัดติดกับแม่น้ำเซโดนไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงเป็นที่มาของชื่อเมืองปากเซค่ะหลังจากไหว้พระขอพรเพื่อให้การเดินทางของเราผ่านไปอย่างสวัสดิภาพ^^ 

พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วเราจะเดินทางต่อไปที่วัดพูสะเหลา 

จุดชมวิวที่มองเห็นได้ทั่วทั้งเมืองปากเซเลยค่ะ มีพระประทานองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนภูเขาหันหน้าออกไปทางเมืองปากเซ ฟีลคล้ายๆที่เมือง รีโอเดจาเนโร ที่มีพระเยซูกางแขนปกป้องชาวยิวอยู่ ส่วนที่นี่ก็เช่นเดียวกันก็มีพระพุทธรูปปกป้องชาวเมืองปากเซอยู่บนยอดเขาพูสะเหลาหลักจากกราบพระขอพรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ไปทานข้าวต่อที่ร้านอาหารดาวลินค่ะส้มตำไก่ย่างลาบเป็ดและทีเด็ดของเมืองลาวค่ะไม่สั่งไม่ได้คือเบยลาวค่ะคนละขวดพอหายเหนื่อย Lol เกี่ยวกันไหมเนี่ยหลังจากที่ทานข้าวอิ่มหนำเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็แว้นรถกลับโรงแรมกันค่ะ

 วันที่สองที่ปากเซ เริ่มต้นสายๆค่ะไม่อยากตื่นเลยเพลียร่าง แต่ก็ต้องตื่นป่ะนี่มาเที่ยวนะ !!!เรามาทานอาหารเช้ากันที่ร้านเดิมค่ะร้าน ดาวลิน เจ้าของบริการดีมากเป็นกันเองและยังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้เราด้วยมื้อเช้าเราสั่ง โจ๊ก กับไข่กระทะ 

ต้องการร้านนั่งฟังเพลงนั่งชิลนิดนึง หากาแฟอร่อยๆต้องร้านนี้เลยค่ะ สีนุกค่าเฟ่กาแฟที่ลาวขึ้นชื่อในอันดับต้นๆของเอเชีย เผลอๆติดอันดับต้นของโลกกันด้วยนะ กาแฟมีคุณภาพอร่อยมากๆ กาแฟที่ปลูกเองผสมกับค่าเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสนิดนึง นั่งดื่มชาทานเค้กนิดๆชมบรรยากาศของเมืองปากเซไป นี่แหละชีวิตสโลไลฟ์ที่ตามหาปากเซเป็นเมืองชิคๆค่ะ ผู้คนน่ารัก อัธยาศัยดี น้ำใจงามใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับธรรมชาติ จขกท.นี่หลงรักเลยค่ะ

ตาดผาส้วม ส้วมในภาษาลาวหมายถึงห้องที่กั้นไว้สำหรับลูกเขยและลูกสาวในคืนวันแต่งงาน คือประมาณห้องหอนั่นเอง ตาดคือชั้นหินที่ลดหลั่นกันลงมาแปลรวมกันคือ น้ำตกห้องหอ

ห่างจากตาดผาส้วมมาไม่ถึง100 เมตรมีหมู่บ้านชนเผ่าของลาวมา8 เผ่ารวมกัน

ตาดฟานอีกจุดนึงที่เป็นไฮไลเลยค่ะ มีน้ำตกสองสายมารวมกันสูงถึง120 เมตรฝั่งซ้ายไหลมาจากห้วยผักกูด ฝั่งขวาไหลมาจากอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวไหลมาบรรจบกัน เป็นน้ำตกที่ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้เพราะอยู่สูงมากต้องเดินไปข้างล่างประมาณ5 กม รีสอร์ตสมารถพักค้างคืนได้ที่ข้างล่างถ้ามีเวลานะคะ ด้านบนบริเวนใกล้ๆมีรีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านกาเฟสามารถนั่งชิลๆได้

ตาดเยืองอยู่ไม่ไกลจากตาดฟานมากนัก สวยงามไม่แพ้กันค่ะ ลงไปข้างล่างมีละอองน้ำชุ่มฉ่ำมากค่ะ

หลังจากที่เที่ยวกันมาทั้งวันแล้วเราก็กลับไปพัก อาบน้ำกันที่โรงแรมแล้วออกไปหาไรทานข้างนอกค่ะวันนี้เราเปลี่ยนมาทานที่ร้าน ไพดาว ด้วยอาการหิวโหยยมากค่ะหลังจากที่ลุยกันมาทั้งวัน

วันที่สามจบทริปที่ปากเซ เราเช็คเอ้าท์ คืนมอไซและขึ้นรถสามล้อไปที่ท่ารถหลังตลาดดาวเรืองค่ะ แวะซื้อของฝาก ของกินอะไรกัน ตลาดดาวเรืองเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของปากเซเลยก็ว่าได้เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่คึกคัก เจ้าของนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ก็เจ๊ดาวเรืองเจ้าของกาแฟดาวไงคะ ซื้อของฝากเสร็จแล้วขึ้นรถกลับอุบลกันเถอะค่ะคิดถึงบ้านมากแล้ว บ๊าย บายปากเซแล้วเจอกันใหม่นะ

สำหรับการเดินทาง จุดหมายปลายทางอาจจะไม่ได้สำคัญที่สุดแต่เสิ่งที่เราพบเจอระหว่างทางต่างหาก การได้เรียนรู้ พบเจออะไรใหม่ มิตรภาพ เพื่อนใหม่ การที่เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดในโปรแกรมการท่องเที่ยวอาจจะทำให้เราผุดไอเดียดีๆก็ได้