เชื่อได้เลยว่าคนเมืองจำนวนไม่น้อยที่ต้องเร่งรีบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงมีบ้างในบางอารมณ์ ที่ใจนั้นโหยหาอยากจะออกไปพักผ่อนยังสถานที่อันเงียบสงบ และเห็นว่าเป็นโอกาสดี เราเลยชวนแพ็คกระเป๋าออกมาเปลี่ยนบรรยากาศกันที่ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมืองเล็กๆ ซึ่งวิถีชีวิตของผู้คนยังผูกอยู่กับความเรียบง่าย ในท่วงทำนองที่เนิบช้า หากว่าเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าค้นหาเช่นนี้ ทว่าก่อนอื่นสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อมาถึงก็คงต้องมองหาที่พักให้สอดคล้องเข้ากับกับตัวตนของเมืองนี้ ดังนั้นจึงเป็นที่ใดไปไม่ได้นอกจาก โรงแรม โพธิ์ ๑ สุขพันธ์โพธาราม แม้ชื่อจะฟังดูไม่คุ้นหู แต่ถ้าได้ทราบที่มาที่ไปแล้วน่าจะถูกใจจนอยากจะมาเหยียดกายเอนใจกันให้หายเหนื่อยเป็นแน่ทีเดียว

ด้วยรูปทรงที่ไม่เหมือนใครของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารไม้หลังเก่าสองชั้น อายุร่วมๆ ครึ่งศตวรรษ แต่เดิมก่อนที่โพธิ์ ๑ จะเปิดให้เป็นที่พักเช่นในทุกวันนี้ พื้นที่และอาคารบนที่ดินผืนนี้เคยเป็นโรงเรียนประถมมาก่อน กระทั่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจมาเป็นโรงแรม โดยใช้ประโยชน์จากของเดิมที่มีอยู่จนกลายเป็นจุดเด่นของที่นี่ไปแบบปริยาย ทั้งนี้ รูปแบบของห้องพักนั้นมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภท คือเป็น บ้านหลังใหญ่ หรือเรียกตามคอนเซปได้ว่า บ้านพักครู ส่วนในแบบอื่นก็จะแยกเป็นห้องๆ ไป แต่ละห้องจะมีชื่อเรียกเรียงตามชั้นปีตั้งแต่ อนุบาล1 – ชั้นประถม 6 ซึ่งมีด้วยกันอยู่ 7 ห้อง และเมื่อได้รู้เช่นนี้ เราก็เริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของวันอันแสนสุข ในช่วงวัยที่กำลังซุกซนไปตามประสา

คราวนี้ก็มาดูถึงเรื่องห้องพักในส่วนแรกภายในอาคารไม้สองชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องอนุบาล 1 – ห้องประถม 6 เริ่มกันด้วย ห้อง ป.4หรือ ประถม 4 ซึ่งเป็นเตียงเดี่ยว ขนาดห้องมีความกว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอสำหรับผู้เข้าพัก ตกแต่งด้วยของโบราณหาชมยากเช่น โต๊ะไม้ซึ่งตรงกลางมีพื้นที่สำหรับโชว์ถ้วยชากาแฟ รวมไปถึงแผ่นเสียงที่นำมาใส่กรอบติดไว้ข้างฝา ซึ่งมีให้เห็นได้เป็นระยะ ไม่เพียงแต่ภายในห้องเท่านั้น 

ถัดไปก็เป็นห้องของเด็กโตขึ้นอีกมาอีกนิดคือ ห้อง ป.6หรือ ประถม 6 ห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่มีระเบียงเล็กๆ ส่วนตัวด้านนอก ภายในจะเป็นเตียงคู่ ขนาดเล็กกว่าห้อง ป.4 อยู่ซักหน่อย หากแต่ความสะดวกสบายไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และห้องน้ำซึ่งหลายคนมักกังวล ก็หมดห่วงไปได้เลย เพราะถึงแม้ตัวอาคารที่พักจะเป็นไม้เก่าทั้งหมด แต่ห้องน้ำนั้นปรับปรุงขึ้นมาจนใหม่เอี่ยมอ่อง ตอบสนองการใช้สอยได้เป็นอย่างดี

ในห้องพักส่วนที่สองซึ่งเป็น บ้านหลังใหญ่ หรือ เรียกง่ายๆ ว่า บ้านพักครู มีสองชั้นขนาดกำลังดีไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ชั้นล่างเป็นใต้ถุนเปิดโล่งมีโต๊ะนั่งรับประทานอาหาร พื้นที่พักผ่อนพบปะพูดคุย ขณะที่ด้านบนของตัวบ้านมีห้องรับแขก พร้อมกับโซฟารับรอง โต๊ะทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงของเก่าที่ใช้ตกแต่งซึ่งวางโชว์อยู่ในตู้ก็มีให้เห็นมากมาย และเมื่อเดินลึกเข้าไปเล็กน้อยก็จะเป็นห้องนอน ซึ่งก็ค่อนข้างเรียบง่าย มีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น รวมถึงยังมีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้บรรยากาศโดยรอบที่พักถือว่าร่มรื่นอยู่พอสมควร เนื่องจากพื้นที่ตรงกลางเป็นสนามหญ้าบวกกับต้นไม้ขนาดน้อยใหญ่ รวมไปถึงสระบัว ซึ่งสามารถสร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และทุกๆ เช้าทางที่พักยังมีบริการเมนูรองท้องอย่าง ปาท่องโก๋ ไว้ทานคู่กับเครื่องดื่มร้อนๆ ทั้งหลาย ณ ร้านกาแฟ หลานขุนสุข แขกผู้เข้าพักสามารถบริการตนเองได้ตามอัธยาศัย ทั้งนี้ในระหว่างนั่งเพลิดเพลินปล่อยสมองให้โล่ง อยู่ๆ เกิดนึกสงสัยขึ้นว่า ทำไมชื่อที่นี่ต้องเป็น โพธิ์ ๑ สุขพันธ์โพธาราม เพราะเมื่อฟังดูเผินๆ แล้วช่างให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านของท่านขุนในสมัยก่อนอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งก็เป็นจริงอย่างว่า เพราะคำว่า โพธิ์ ๑ คือนามสกุลเดิมคุณปู่ ของเจ้าของคนปัจจุบัน ก่อนที่ท่านจะได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านขุน จนเปลี่ยนมาใช้นามสกุลใหม่ว่า สุขพันธ์โพธาราม และเจ้าของคนปัจจุบันนั้นมีความรู้สึกภูมิใจอยากที่จะคงไว้ทั้งสองนามสกุล นี่จึงเป็นที่มาของชื่อที่พักแห่งนี้ 

เอาเป็นว่าใครที่เบื่อกับความเร่งรีบในเมืองใหญ่ หรือสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งซึ่งผู้คนต่างแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวในช่วงวันหยุดละก็ ลองหาโอกาสมาพักผ่อนยังเมืองเล็กๆ อันเงียบสงบอย่าง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพราะไม่แน่ว่าคุณอาจจะติดใจในท่วงทำนองอันเนิบช้ายังสถานที่แห่งนี้ก็เป็นได้

อำเภอโพธารามเป็นเมืองเงียบสงบ ในมื้อค่ำแขกผู้เข้าพักควรหาอะไรทานให้เร็วซักหน่อย เพราะหลังจาก 3 ทุ่มไปแล้วร้านรวงต่างๆ ก็พากันปิดตัวเกือบทั้งหมด