ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
หมู่บ้านหล่อโย : นอนบ้านดิน กินอย่างอาข่า บ้านหล่อโย (Ban Lo Yo local village) จ.เชียงราย
    • โพสต์-1
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    ก่อนออกเดินทาง

    "เสน่ห์ของการเดินทาง คือการได้สัมผัสชีวิตผู้คน” เราเชื่อแบบนั้นเสมอ

    เราติดตาม Facebook : Akha Mudhouse Maesalong มานานแล้ว ได้เห็นรูปสวยๆ และเรื่องราวของบ้านดินอาข่า หมู่บ้านหล่อโย ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงรายแล้วรู้สึกสนใจ อยากไปพักผ่อน ชมวิวสวยๆ และเรียนรู้วิถีชีวิตอาข่าดูบ้าง จนกระทั่งช่วงปลายปี มีวันพักร้อนเหลืออยู่เลยลาหยุดช่วงคริสต์มาสได้พอดี เลยถือโอกาสนี้ตามรอยทริปในฝันของเราซะเลย ก่อนไปเราติดต่อจองห้องพักกับทางเพจ Akha Mudhouse Maesalong และสอบถามวิธีการเดินทางไว้ซึ่งมี 2 วิธีคือ นั่งรถสองแถวจากตัวเมืองเชียงรายเข้าไป หรือจะขับรถเข้าไปเองก็ได้ เราเลยวางแผนจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปกันเองเผื่อว่าอยากจะแวะที่ไหนแวะได้ตามใจ  

    • โพสต์-2
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    สู่หมู่บ้านหล่อโย

    เรานั่งเครื่องบินมาถึงสนามบินเชียงรายในช่วงเกือบเที่ยง นั่งแท็กซี่เข้ามาหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ในเมือง ตั้งสเปคไว้ว่าขอแบบที่ขับขึ้นลงเขาง่ายๆ มีที่ให้ตั้งเป้เราหน่อย แต่ช่วงปลายปีเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ มอเตอร์ไซต์แบบที่เรามองหาก็เคยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เดินหาอยู่นานจนไปเจอร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ใกล้ๆ วัดเจ็ดยอด เชียงราย มีมอเตอร์ไซค์แบบที่เราต้องการเหลืออยู่พอดี เย้

    จากเมืองเชียงรายไปหมู่บ้านหล่อโย เราขับออกไปทางทางหลวงหมายเลข 1 ไปทางแม่จัน จริงๆ แล้วทางนี้ค่อนข้างอ้อมไกล แต่เรากะว่าไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ เจออะไรน่าสนใจข้างทางเราคงแวะไปเรื่อยๆ ไปให้ถึงหมู่บ้านหล่อโยก่อนมืดก็พอ ส่วนวันกลับเราจะลงอีกทางหนึ่งทีไม่อ้อมแทน ถือว่าลองวิ่งทั้งสองทาง   

    • โพสต์-3
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    เส้นทางนี้เราผ่านหมู่บ้านชาวเขาหลายหมู่บ้าน ตอนอยู่ในเมืองอากาศปกติ ขึ้นดอยมาเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็นต้องจอดรถควักเสื้อหนาวมาใส่ ประมาณบ่ายสามเราเริ่มหิวแล้ว แต่หันซ้ายหันขวาไม่เจอร้านข้าว ฮ่าๆๆ โชคดีขับผ่านไร่ชา 101 เลยแวะเติมพลังหน่อย ที่นี่มีซาลาเปาชาเขียวไส้หมูกับชาดอยแม่สลองร้อนๆ ให้จิบแก้หนาวด้วย    ขับไปเรื่อยๆ จะเริ่มมีรีสอร์ท ร้านอาหารจีนยูนนานอยู่ตามรายทาง ผ่านหมู่บ้านสันติคีรี หรือหมู่บ้านแม่สลองซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี ทางไปสู่หมู่บ้านหล่อโยคือขับเลยออกจากเขตหมู่บ้านสันติคีรีไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่ ระหว่างนั้นอาจโหวงเหวงเพราะมันไม่มีอะไรเลย คิดในใจว่ามาถูกทางแน่นะ 555 เอาเป็นว่าให้สังเกตป้ายบ้านดินอาข่า สีเขียวๆ แดงๆ ด้านซ้ายมือให้ดี ทางเข้าจะเป็นเนิน มั่นใจๆ ขับเข้าไปเลย  

    • โพสต์-4
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    หมู่บ้านหล่อโย

    "หมู่บ้านหล่อโย" อยู่เพียงใต้จมูกของดอยแม่สลอง หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเงียบสงบ ราวกับตัดขาดกับหมู่บ้านท่องเที่ยวอันคึกคักออกโดยสิ้นเชิง จะมีก็เพียงนักเดินทางที่รักการบุกเบิกเส้นทางใหม่ๆ แวะเวียนเข้ามาเพียงวันละไม่กี่กลุ่มที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวอาข่าที่ตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวดอยแม่สลอง

    ที่นี่มีโฮมสเตย์บ้านดินให้นอนเคล้าอากาศเย็นๆ และลองใช้ชีวิตอย่างชาวอาข่าแท้ๆ ดูสักครั้ง และสิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับที่นี่คงไม่พ้นผู้คนที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่กลับบ่มเพาะแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่ใครมาพักก็คงอดไม่ได้ที่จะกลับไปเล่าต่อให้ใครๆ ฟัง

     

    • โพสต์-5
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    คุยกับเจ้าของบ้านดิน

       

    ที่นี่เอง เราได้รู้จักกับพี่โยฮัน - ประกาศิต เชอมือกู่ ผู้ปั้นดินจนกลายเป็นโฮมสเตย์บ้านดินอาข่าแห่งนี้ แต่กว่าจะมาถึง พี่โยฮันเล่าว่าตนชาวอาข่าที่ได้ทุนไปเรียนสายเกษตรมาจากอิสราเอล จากนั้นก็กลับได้อบรมมัคคุเทศก์ที่เมืองไทย จึงมีโอกาสคลุกคลีกับวงการท่องเที่ยวด้วย

    ในเวลานั้นเขาเห็นว่าระบบการเกษตรในเมืองไทยไม่อาจทำให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากความยากจนได้ พี่โยฮันจึงตัดสินใจใช้ประสบการณ์ทั้งสองสาขาอาชีพมาวางแผนสร้างการท่องเที่ยวภายในชุมชน ท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง เพราะถ้าเทียบกับหมู่บ้านท่องเที่ยวดอยแม่สลอง ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่นจนดึงดูดใครให้เลี้ยวรถเข้ามา ความคิดฝันเรื่องการท่องเที่ยวจึงแปลกประหลาดที่สุดในตอนนั้น

    จากดินก้อนแรกสู่โฮมสเตย์ขนาด 4 ห้อง ขยายกลายเป็น 8 ห้องในเวลา 9 ปี การบอกต่อของนักท่องเที่ยวทำให้ผู้คนแวะเวียนมาที่นี่

    “ตอนแรกที่ผมเริ่มทำบ้านดิน คนเขาคุยกันหาว่าผมบ้าไปแล้ว เขาจับตาดูกันมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เขาก็เห็นแล้วว่า เออ.. มีแขกมาพักจริงๆ"



    จุดเด่นของหมู่บ้านหล่อโยเป็นเรื่องของวิถีชีวิตชนเผ่าแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้ถูกดัดแปลงเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยว พี่โยฮันตั้งใจไว้ว่าบ้านดินแห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวอาข่าในวันที่วัฒนธรรมดั้งเดิมเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา เขาทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมพรคนละหนึ่งข้อ และเขาก็ได้ทักษะการทำท่องเที่ยวมาเพื่อสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในบ้านของตัวเอง

    "ผมเป็นคริสเตียน ศาสนาผมมีคำสอนให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ในความจริงผมอาจไม่ได้รักคนอื่นเท่าตัวเองเป๊ะ แต่ผมอยากให้สิ่งที่ผมทำมีประโยชน์กับคนอื่นด้วย เมื่อก่อนที่นี่ขาดแคลนน้ำมาก ผมจะทำโฮมสเตย์เลยไปพยายามเจรจากับทางการ หมู่บ้านเราเลยมีแท็งค์น้ำไปด้วย ถ้าแขกมา เราได้กำไรคืนมา ผมก็สะสมเงินตรงนี้ไปต่อท่อส่งน้ำเรื่อยๆ อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะซื้อได้ทีละท่อ แต่มันเหมือนฝันค่อยๆ กลายเป็นจริงขึ้นมา ตอนนี้ผมมีโครงการทำพิพิธภัณฑ์อาข่าที่นี่ด้วย แต่ยังไม่เสร็จดี”

    "งานนี้เป็นงานใหญ่ 9 ปีที่ทำบ้านดินมาเป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของความฝัน เหมือนเป็นจุดเล็กๆ ของกระดาษแผ่นใหญ่ หน้าที่เราคือค่อยๆ เติมมันจนเต็มแผ่น"
    • โพสต์-6
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    นอนบ้านดิน

      แม้บ้านดินจะไม่ใช่ของอาข่าโดยแท้ แต่พี่โยฮันยังยึดมั่นเสมอว่า หมู่บ้านที่นี่สวยงามตามแบบของมัน ไม่ควรมีตึกแปลกๆ มาทำให้ทิวทัศน์ของที่นี่ดูแปลกตาไป โฮมสเตย์ของเขากลมกลืนกับสีสันของหมู่บ้านและมีแบบแผนตามวิถีของชาวอาข่า สีน้ำตาลอมส้มของบ้านดินให้ความรู้สึกอบอุ่น กลมกลืนกับดินภูเขาและบ้านเรือนรอบๆ ระเบียงเปิดกว้างมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน เจือไอหมอกจางและหนาทึบตามจังหวะความชื้นและไอแดดในแต่ละวัน เหมาะที่จะตื่นมาชมทะลหมอกยามเช้า พร้อมดื่มชาร้อนๆ ที่ขึ้นชื่อของดอยแม่สลอง        

    • โพสต์-7
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    ห้องที่นี่มีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม มีเครื่องทำน้ำอุ่นทุกห้อง ไม่ต้องกลัวนะคะว่าหนาวแล้วอดอาบน้ำ ห้องนอนสะอาด เตียงไม่มีฝุ่น ผ้าห่มเป็นผ้าห่มกำมะหยี่หนาๆ กันความหนาวระดับยอดดอยได้อยู่หมัด

     

    • โพสต์-8
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    กิจกรรม

    นอกจากอิ่มเอมกับบรรยากาศของบ้านดินแล้ว กิจกรรมของที่นี่ยังแอบอิงกับวิถีธรรมชาติของชาวอาข่า ใครชื่นชอบการเดินป่าก็สามารถเดินป่าเรียนรู้วิถีการเก็บของป่าตามแบบฉบับของชาวอาข่าได้ ทีเด็ดที่สุดของการเก็บของป่าที่นี่คือการตามล่าหารถด่วนหรือหนอนไม้ไผ่สีขาวกลับมาประกอบอาหารกินกันที่บ้านดิน

    “รถด่วนจะมีตามฤดูกาล ใครอยากลองกินรถด่วน ต้องมาช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคม แล้วไม่ใช่ว่ารถด่วนจะอยู่ทุกปล้องไม้ไผ่นะ มันมีเทคนิคที่เราต้องเรียนรู้อยู่ ถ้ามาแล้วเวลาไม่พอจะเดินป่า จะตามแม่พี่ไปเก็บเมล็ดกาแฟ หรือเกี่ยวข้าวไร่ก็ได้ กิจกรรมที่นี่มีเยอะนะ แต่อิงกับฤดูกาล ถ้าคุณมาฤดูนี้คุณจะได้เจออย่างหนึ่ง ถ้ามาอีกฤดูก็จะได้เห็นอีกอย่างหนึ่ง เราไม่ได้สร้างมันขึ้นมาเองเลย มันเป็นเสน่ห์ของธรรมชาติ” พี่โยฮันเล่าให้เราฟัง

    • โพสต์-9
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

     

     

    บ้านดินอาข่ามีกิจกรรมเรียนรู้วิถีชีวิตอาข่าอีกมากมาย เช่น การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งมีความหมายมากกว่าการแสดงให้นักเดินทางได้ชมระหว่างรับประทานอาหารค่ำ ในยุคที่ชาวบ้านหันมาแต่งตัวแบบคนเมืองมากขึ้น นี่เป็นโอกาสที่ชาวบ้านได้มารวมตัวกันสวมชุดประจำเผ่าสวยงามและถ่ายทอดวัฒนธรรมพื้นบ้านของตัวเอง นักเดินทางคนไหนอยากกลมกลืนกับบรรยากาศหมู่บ้าน ที่นี่มีชุดประจำเผ่าอาข่าให้ยืมใส่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเหมือนกัน

    (การแสดงไม่รวมในแพ็คเพจเที่ยว สอบถามราคากับทางเพจดูนะคะ แนะนำว่าถ้ามาเป็นกลุ่มจะได้ช่วยกันแชร์ราคาเยอะๆ)

    • โพสต์-10
    Friday Again •  กุมภาพันธ์ 19 , 2559

    กินอย่างอาข่า

    หากใครอยากลองเรียนทำอาหารอาข่า สามารถเข้าไปเป็นลูกมือของคุณพ่อคุณแม่พี่โยฮัน ซึมซับวิถีชีวิตแบบชาวอาข่ากันได้ถึงก้นครัว เพราะตำรับอาหารอาข่า คงไม่ใช่อะไรที่หากินได้ง่ายๆ ในเมือง พี่โยฮันเล่าว่ามีฝรั่งจำนวนหนึ่งที่มาพักเพื่อเรียนทำอาหารโดยเฉพาะ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งอาจจะทำ package เรียนรู้วิธีทำอาหารอาข่าในอนาคต

    อาหารที่เราช่วยกันลงมือทำจะถูกจัดเป็นขันโตกชุดใหญ่ตามแบบฉบับของชาวเหนือ แต่ที่ดู Local กว่านั้นเห็นจะเป็นถ้วยชามและช้อนไม้ไผ่ อาหารอาข่าจะประกอบด้วยผักเป็นส่วนใหญ่ เช่น หมูผัดยอดมะระหวาน ลาบแห้ง ทีเด็ดที่สุดคงหนีไม่พ้นน้ำพริกอาข่ารสเด็ดไว้จิ้มกับผักสดๆ และไข่เจียวชิ้นหนาพอดีคำ อาหารที่นี่จัดว่า healthy เหมาะกับคนที่รักสุขภาพ มาเที่ยว เดินป่าเดินเขาเยอะๆ หิวก็กินอาหารได้เยอะ ไม่ต้องกลัวอ้วน

    ใครไม่กินผักไม่ต้องกลัว เพราะพิสูจน์แล้วว่าคนไม่ค่อยกินผักมากินแล้วยังรู้สึกว่าผักที่นี่หวานอร่อยผัดกับหมูแล้วรสชาติกำลังดี และถ้าติดใจข้าวดอยสีม่วงๆ หนึบๆ สามารถซื้อติดมือกลับบ้านได้ด้วย

  1. โหลดเพิ่ม