#1วันในกระบี่ :: แว๊นซ์มอ’ไซค์ ไป.. หนองทะเล
ไป “กระบี่” อีกแล้ว!
นี่เป็น 1 ในหลายครั้งที่ได้ไปเยือน กระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดทางภาคใต้ที่ได้ไปเที่ยวบ่อยมาก ทุกครั้งที่ไป กระบี่ ก็มักจะออกทะเล ไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ เดี๋ยวทริปนี้จะลองเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง จะไปที่ไหนดีน่ะเหรอ? ตามไปเที่ยวด้วยกันสิ!
11.45 น. สนามบินดอนเมือง
จะบอกว่า.. ปัจจัยที่ทำให้ได้ออกเดินทาง และเป็นปัจจัยสำคัญเลยล่ะ นั่นก็คือ.. การได้ตั๋วเดินทางถูกๆ มันทำให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละทริป ประหยัดไปมากเลยนะ และก็ทำให้ตัดสินใจออกเดินทางได้ง่ายๆ อีกด้วย ช่วยให้สบายกระเป๋า ประหยัดงบประหยัดเวลาในการเดินทาง ซึ่งวันนี้ผมก็มีเวลาเพียง 1 วัน(ไม่กี่ชั่วโมง) เท่านั้น ในการไปเยือนกระบี่ในครั้งนี้ ...ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเถอะ สอยตั๋วโปรฯ รวมค่าโดยสารบินไป-กลับ 160 บาท เอง!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
13.15 น. สนามบินกระบี่
ความรู้สึกส่วนตัวนั้นชอบวิวเวลาเดินทางไปเส้นทางทางภาคใต้ของประเทศไทยมาก บรรยากาศวิวทิวทัศน์ที่ได้เห็น มันสวยงามดีนะ ทั้งท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บรรดาเกาะแก่งน้อยใหญ่ ที่กระจายตัวอยู่กลางทะเล นั่งชมวิวเพลินๆ ไม่นานก็มาถึงปลายทาง มีวิวปากน้ำกระบี่คอยต้อนรับอยู่เบื้องล่าง..
สนามบินกระบี่ เป็นสนามบินที่ปรับปรุงใหม่ ดูทันสมัยขึ้นมาเยอะกว่าเมื่อก่อน การเดินทางเข้าเมืองนั้นก็แสนจะง่ายดาย เพราะมี Shuttle Bus รับ-ส่ง เข้าเมือง สามารถซื้อตั๋วรถเข้าเมืองได้ที่เคาเตอร์ในสนามบิน ในราคา เข้าตัวเมืองกระบี่ 90 บาท หรือ จะไปสิ้นสุดลงที่อ่าวนางก็ 150 บาท แต่..ก็มีวิธีเข้าเมืองที่ประหยัดกว่านั้น และก็ใช้วิธีนี้ประจำ นั่นก็คือ รถสองแถวโดยสารประจำทาง โดยเดินออกมาจากสนามบินแล้วไปที่ถนนใหญ่หน้าสนามบิน เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จะมีศาลาเล็กๆ สามารถมานั่งรอรถได้ที่นี่ จะมีรถสองแถวผ่าน โบกแล้วโดดขึ้นรถเข้าเมืองได้เลย ราคา 20 บาทเท่านั้น!
13.45 น. อนุสาวรีย์ปูดำ-เขาขนาบน้ำ
อย่างที่บอกไป ว่าผมเคยมาเยือนกระบี่แล้วหลายครั้ง ก็เลยพอจะทราบว่า อะไรอยู่ตรงไหน และไม่มีอาการหลงทิศเหมือนที่ตอนมาครั้งแรกๆ แล้ว สำหรับคนที่มาครั้งแรก ถ้าจะลงในเมือง บางที “อนุสาวรีย์ปูดำ” ก็เป็นคำตอบที่ดี นั่งรถรับ-ส่ง หรือ รถสองแถวมาลงที่ตรงนี้ก่อนก็ได้ และ บริเวณนี้ก็ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกระบี่จุดหนึ่งเหมือนกัน หลัง “อนุสาวรีย์ปูดำ” ก็จะมองเห็น “เขาขนาบน้ำ” เป็นฉากหลังด้วย หลังจากลงรถก็ได้ทำการติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์เพื่อที่จะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางในวันนี้ โดยติดต่อกับ “ร้านนายหัวรถเช่า” ซึ่งผมก็ได้เบอร์มาจาก Internet แต่ทว่า..ไม่ได้จำมาว่าร้านอยู่ตรงไหน รู้เพียงว่าอยู่ในตัวเมืองกระบี่นี่แหละ หาไม่ยาก จึงได้กดเบอร์โทรสอบถามกับทางร้านไป ซึ่งทางร้านก็ใจดีแว๊นซ์มอไซค์ออกมารับที่ “อนุสาวรีย์ปูดำ” กลับไปที่ร้านเลย
ไม่ถึง 2 นาที ก็มาถึง “ร้านนายหัวรถเช่า” ซึ่งที่จริงเดินมาก็ได้ ก็จัดการทำการเช่ารถไป โดยเช่าใน ราคาวันละ 250 บาท(เติมน้ำมัน 50 บาท) มีหมวกกันน็อค และแผนที่เที่ยวมาให้พร้อม ทางร้านก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกระบี่ ซึ่งส่วนตัวก็เบื่อทะเล ขี้เกียจนั่งเรือไปตามเกาะต่างๆ แล้ว อยากเช่ามอเตอร์ไซค์แว๊นซ์เที่ยวบนบกนี้บ้าง “เขาหงอนนาค” สถานที่เที่ยวใหม่ของกระบี่ที่ได้รับความนิยมมาได้สักพัก เหมือนจะเป็นจุดหมายหลักที่จะไป แต่ก็มีเผื่อใจว่า..จะไม่ได้ขึ้นนั่นก็เพราะเวลาที่จำกัด ต้องใช้เวลาเดินขึ้น-ลง พอสมควร ให้กลับลงมาทันก่อนค่ำ และต้องรีบกลับมาให้ทันไฟล์ทบินขากลับในช่วงหัวค่ำด้วย จากสาเหตุนี้จึงทำให้อาจต้องพับโครงการนี้ลงไปก่อน แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ทริปนี้ชิลล์ไปได้เรื่อยๆ แว๊นซ์มอไซค์เล่นๆ เที่ยวกระบี่กันไปตามประสาก่อนล่ะกัน
ออกจากตัวเมืองกระบี่ แว๊นซ์ไปตามถนน เส้น 4034 มุ่งหน้าไปทาง หนองทะเล ด้วยความหวังลึกๆ ในใจว่า “อาจจะขึ้นเขาหงอนนาคได้ทัน” จากระยะทางในเมืองไปเขาหงอนนาคนั้นประมาณ 30 กิโลเมตรได้ พอผ่านมาได้สักครึ่งทาง ก็ผ่าน บ้านหนองทะเล และตรงนี้แหละคือ อีกจุดที่อยากมาชม และจะวกกลับมาตอนขากลับ ช่วงเย็นๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ “หนองทะเล” บรรยากาศดี
15.00 น. หาดคลองม่วง
ผ่านจาก บ้านหนองทะเล ไม่นานก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเส้นทาง หาดคลองม่วง ซึ่งเมื่อทะลุผ่านหาดคลองม่วงไปแล้วก็จะถึงจุดที่จะขึ้น เขาหงอนนาค แต่ด้วยเวลาที่มาถึง ณ ตรงนี้ ก็ค่อยๆ เริ่มทำใจ เพราะคงไม่ได้ขึ้นแน่
แว๊นซ์ผ่านเส้นทางริม หาดคลองม่วง จึงเปลี่ยนแผนมานั่งเล่นริมหาดแถวนี้ดีกว่า หาดที่นี่ค่อนข้างสงบดีเหมือนกัน พักเหนื่อย หลบร้อน ด้วยการหาเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งจิบริมหาดชมบรรยากาศ
“หาดคลองม่วง” เป็นอีกหาดหนึ่ง ที่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างที่ดูสงบเงียบเหมือนกัน
ชายหาดที่ทรายไม่ได้สวยมากมาย น้ำทะเลไม่ได้ใส เท่ากับที่อื่นๆ แต่ก็ได้บรรยากาศความสงบมาทดแทน
“เรือหัวโทง” พบเห็นได้ทั่วไปที่ทะเลกระบี่ และท้องทะเลฝั่งอันดามัน
ด้วยบรรยากาศในขณะนี้ ที่ชวนให้เอนตัวลงไปนอนขี้เกียจ หูฟังเสียงคลื่น ลมตีหน้า ตาเหม่อมองไปยังท้องทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา ยามบ่ายอย่างนี้ ลมพัดเย็นสบาย อยากพักสายตา นอนงีบสักหน่อยก็คงจะดี ตอนนี้ตั้งใจว่าจะรอเวลาให้แดดมันลดความร้อน รอให้แดดร่มลมตกสักหน่อยแล้วจะเข้าไป เดินเล่นที่ “หนองทะเล” ช่วงเย็นๆ
16.30 น. หาดนพรัตน์ธารา
ได้เวลาพอสมควร ออกจาก หาดคลองม่วง จะไปต่อกันที่ หนองทะเล แว๊นซ์ออกมาจากหาดคลองม่วงได้สักพัก รู้สึกว่าแดดมันยังค่อนข้างแรงอยู่แฮะ น่าจะหาที่เที่ยว ที่เดินเล่น พอให้แดดมันดูร่มกว่านี้ก่อน เพราะ ไป หนองทะเล ให้ได้บรรยากาศมันก็ต้องเป็นช่วงเย็นๆ สิเนอะ.. ก็เลยแวะมาที่ หาดนพรัตน์ธารา ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
หาดนพรัตน์ธารา หาดนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะเหมือนกัน ยิ่งตอนช่วงเย็นๆ แบบนี้ บริเวณหาดมีคนมาพักผ่อน นั่งเล่น เดินเล่น รอชมพระอาทิตย์ตก บรรยากาศดี