นอนหนาวนับดาว ณ บ้านระเบียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ (จ่าย 5 ร้อย วิว 5 ล้าน)
บ้านระเบียงดาว.. ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันของผมเช่นกันครับ ที่จะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต หลายคนก็คงจะพอได้ทราบเรื่องราวความสวยงาม และสงบของที่นี่ มากันบ้างแล้วนะครับ ตามข้อมูลที่แชร์ตาม Internet ต่างๆ ภาพความสวยงามที่น่าอยู่ น่าไปพักผ่อน ใช้ชีวิตช้าๆ ที่ใครๆ ก็ต่างถวิลหา ชมบรรยากาศที่สวยงาม และชวนให้เก็บภาพเป็นที่ระลึกกลับบ้านไป
ผมได้มีโอกาสได้ไปเยือนที่ "บ้านระเบียงดาว" แห่งนี้ .. ในช่วงเวลาที่เริ่มจะมีกลิ่นลมหนาวมาแตะจมูกบ้าง พอให้ได้ซึมซับความฟินที่ได้มาเยือนเมืองเหนือ การออกเดินทางมาในครั้งนี้ยอมรับว่ามีข้อมูลในการเดินทางก่อนมาน้อยมาก ภาพที่วาดไว้กับแผนการเดินทางที่ละเลงอยู่บนหัว เป็นภาพที่คิดว่าสถานที่นี้..คงจะต้องเดินทางไปลำบากอย่างแน่นอน น่าจะใช้เวลาในการเดินทางไกลและนานพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าลอง!! (...แต่ เมื่อกลับมาแล้ว คิดว่าเดินทางไปง่ายมากๆ กว่าที่คิดเลยนะครับ)
ด้วยระยะเวลาที่จำกัด การไปเยือนที่ "บ้านระเบียงดาว" ครั้งนี้ ผมจึงมาขออาศัยนอนที่นี่เพียงแค่ 1 คืน ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถึงใจจะอยากอยู่นานๆ กว่านี้ก็ตาม การได้ไปสัมผัสกับลมหนาว ทิวเขา และสายหมอก ตกกลางคืน นอนหนาว นับดาว - จึงเป็นความตั้งใจ และเป็นสิ่งที่ปรารถนาจะได้พบเจอที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ ดังนั้น.. เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เก็บกระเป๋า แบกเป้ ตามผมไปเยือน "บ้านระเบียงดาว" กันเลยครับ.. !!
"บ้านระเบียงดาว" - ตั้งอยู่ อ. เชียงดาว จ. เชียงใหม่ เป็นโฮมสเตย์ไม้หลังเล็กๆ แบบเรียบง่าย มีระเบียงชมวิวดอยหลวงเชียงดาวที่มองเห็นได้จากบ้านพัก จุดเด่นอยู่ตรงที่ มีระเบียงใหญ่ส่วนกลาง ที่มองเห็นวิวทิวเขาทอดตัวยาวแบบพาโนรามา ได้อย่างชัดเจน คล้ายราวกับมีระเบียงที่ตั้งอยู่แค่เอื้อม เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งมุมที่หลายคนนั้นอยากมาถ่ายรูปอย่างแน่นอน การจะมาพักที่นี่ได้นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า..ควรติดต่อจองที่พักล่วงหน้า เนื่องจากที่พักจะเต็ม โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว หรือ วันหยุด และการติดต่ออาจจะโทรติดยากมาก เนื่องจากไม่มีสัญญาณ โทรศัพท์ ต้องหมั่นโทรซ้ำๆ ซึ่งก็ไม่เกินความพยายามครับ
การเดินทางสู่ "บ้านระเบียงดาว" - บ้านระเบียงดาว อยู่ห่างจาก ตัวเมืองเชียงใหม่ราวๆ เกือบ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าไม่ไกลเกินไปนัก สามารถแบ่งการเดินทางได้เป็น 2 ช่วง คือ
ช่วงที่ 1 จาก ตัวเมืองเชียงใหม่ - อำเภอเชียงดาว ประมาณ 72 Km. และ
ช่วงที่ 2 จาก อำเภอเชียงดาว - บ้านระเบียงดาว ประมาณ 20 Km. ซึ่งการเดินทางในช่วงแรกค่อนข้างสบาย เพราะ(สำหรับคนไม่มีรถส่วนตัว) จะมีรถโดยสารไปที่อำเภอเชียงดาว และรถโดยสารที่ผ่านอำเภอเชียงดาว ก็สามารถขึ้นไปได้ ในราคาที่ประหยัด
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
DAY 1 : 11.40 AM
(ผมขอตัดภาพมาที่การเริ่มต้นออกเดินทาง) - โดยจะเริ่มต้นออกเดินทางกันที่ สถานีขนส่งช้างเผือก ในตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถนั่งรถเชียงใหม่-เชียงดาว (หรือสายที่จะผ่านอำเภอเชียงดาวก็ได้ เช่น เชียงใหม่-ท่าตอน) ค่ารถ 40 บาท (ระยะทาง 72 km) มีรถออกทุกชั่วโมง ผมมาขึ้นที่นี่ได้รอบรถเที่ยว 11.40 น. ซึ่งนับว่าออกเดินทางไปช้าพอสมควร สภาพรถเป็นรถหวานเย็น ตั๋วที่ซื้อระบุที่นั่ง แต่ขึ้นรถไปแล้วก็นั่งตามสะดวกกันเหมือนเดิม
รถมุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงดาว ระหว่างทางก็รับผู้โดยสารเพิ่มเรื่อยๆ ตามรายทาง ทำให้การเดินทางค่อนข้างที่จะแออัดพอสมควร แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ช่วงเกือบถึงอำเภอเชียงดาว ถนนจะคดเคี้ยวเล็กน้อย และสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นลง รวมแล้วนั่งกินลมชมวิวกันมาเป็นเวลา เกือบ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงอำเภอเชียงดาว และ ผมก็ลงรถที่ โลตัสเชียงดาว
DAY 1 : 01.30 PM
หลังจากลงรถมาชวนให้เกิดอาการหลงทิศกันเล็กน้อย .. ตามประสาของคนมาครั้งแรก จึงยึดโลตัสเชียงดาวเป็นหลัก บริเวณ ใกล้ๆ นั้นก็จะมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน และน่าจะเป็นแหล่งตุนเสบียงอย่างดี ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่บ้านระเบียงดาว และถ้าเกิดท้องหิวแบบผมในขณะนี้แล้ว..ก็สามารถแวะทานข้าวที่อำเภอเชียงดาวนี้ก่อนได้ มี ร้านข้าวขาหมู ขึ้นชื่อ อร่อยๆ ให้ลอง ซึ่งผมก็ให้คะแนนความอร่อยไม่น้อยเลยล่ะ
ในเวลาประมาณ บ่าย 2 กว่าๆ หลังจากส่งข้าวขาหมูลงท้องเรียบร้อย ออกเดินทางกันต่อ จากเชียงดาวเดินไปรอขึ้นสองแถว เชียงดาว- เมืองคอง 50 บาท เพื่อความแน่ใจ สามารถถามคนแถวนั้นก็ได้นะ ว่าวินรถอยู่ตรงไหน? (แต่รถมีอยู่แค่ 1-2 เที่ยวต่อวัน รอบรถไม่แน่นอน ไประเบียงดาวต้องเข้าไปอีกประมาณ 20 km แนะนำให้ไปถึงเชียงดาวช่วงเช้าๆ จะดีกว่า จะมีชาวบ้านลงมาซื้อของ) ก็เป็นที่แน่นอนว่ามาซะช่วงบ่ายแบบนี้ รถสองแถวไม่มีวิ่งแล้ว... แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่นๆ ให้เดินทาง เช่น
- ถ้ารถหมด จะเหมา รถสองแถว ขึ้นไปก็ได้ ราคาก็ 500-600 บาท (ตามตกลง)
- มี วินมอเตอร์ไซค์ เหมาไปเหมือนกัน แต่ราคาก็สูงพอตัว สมกับสภาพเส้นทางที่ไป ถ้าไปกันเยอะ เหมาสองแถวดีที่สุด
- สำหรับขาลุย การโบกรถ ขึ้นไป น่าจะเป็นคำตอบที่ดี! การขึ้นไปเส้นทางบ้านระเบียงดาว
- หรือ การโบกรถขึ้นไป ค่อนข้างที่จะง่ายเหมือนกันนะ บางทีรถที่ผ่านมาจะจอดถามเองว่า.. จะไปไหน?
- ถ้าโบกที่แถวปากซอยไม่ได้ ก็หารถ(วิน) ไปส่งหน้าด่านที่ทำการป่าไม้ ที่นั่นเจ้าหน้าที่เขาจะช่วยโบกรถให้เลย (พร้อมกับเสียค่าเข้า 20 บาท)
รู้ใช่มั้ย? ผมเลือกวิธีไหน.. ผมเลือก การโบกรถ ครับ หลังจากสอบถามข้อมูลคร่าวๆ กับคนแถวนั้น.. ผมแบกเป้ออกจากร้านข้าวขาหมู เดินไปไม่ไกล ก็ถึงปากซอยมีป้ายเขียนว่า 'ไปถ้ำเชียงดาว' ผมจะมาโบกรถตรงนี้ เพื่อต่อไปถึงบ้านระเบียงดาว แต่ทว่า... หลังจากเดินเลี้ยวเข้าซอยมา ไม่ทันได้จะเตรียมโบกรถ ก็เห็นมีรถกระบะจอดอยู่หน้าปากซอยแล้ว และพี่คนขับก็เปิดกระจกถามว่า จะไปไหนกัน? ซึ่งเมื่อได้ทราบคำตอบจากปากผมไปแล้ว พี่คนขับก็บอกจะอาสาไปส่งที่ หน้าด่านที่ทำการป่าไม้ เพราะจะผ่านไปทางนั้นพอดี .. ผมจึงได้ติดรถไปลงที่ทำการป่าไม้ แม้ระยะทางจะไม่ไกล แต่ก็ถือเป็นน้ำใจ เป็นความประทับใจที่ได้รับครับนั่งกระบะท้าย ให้ลมเย็นปะทะใบหน้าเล่นๆ จนรู้สึกชาไปครึ่งซีก เพียงไม่นานก็มาถึงหน้าด่านที่ทำการป่าไม้ ผมกระโดดลง ณ จุดตรงนี้ พร้อมกับไหว้กล่าวขอบคุณ พี่คนขับ ที่ใจดีให้ติดรถมาด้วย ก่อนจะเข้าไปข้างใน ก็ต้องเสียค่าเข้าอุทยานเสียก่อน ในราคา คนละ 20 บาท พร้อมกับลงชื่อเข้า
และ.. ตรงจุดนี้นี่เอง ที่การโบกรถจะค่อนข้างง่ายมากๆ เพราะเจ้าหน้าที่ จะเป็นคนโบกรถให้เอง โดยจะถามรถที่ผ่านเข้ามาว่าจะไปถึงบ้านระเบียงดาวมั้ย? และ พอจะรับให้ติดรถไปด้วยได้มั้ย?
ซึ่งเพียงแค่การโบกรถ คันแรกที่ผ่านเข้ามา .. ก็ได้ติดรถไปด้วยเลยครับ เป็นรถกระบะ ที่จะพาผมไปต่อ ตามเส้นทางต่อจากนี้ ที่ถือว่าค่อนข้างชันและคดเคี้ยว แต่บรรยากาศ และสภาพอากาศสดชื่นดีมาก ยิ่งลึกเข้าไป ยิ่งมีหมอกปกคลุม แทบจะมองทัศนวิสัยไม่เห็น ป่าสองข้างทางล้วนถูกปกคลุมไปด้วย ม่านหมอกหนาทึบ คลุมปกปิดเอาไว้ แต่ก็สัมผัสได้ถึง ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ จะได้พบเจอต่อจากนี้ไป..
DAY 1 : 03.15 PM
นั่งฟิน...เคลิ้มกับบรรยากาศรอบด้าน อยู่สักพัก รถก็มาจอดชะงักข้างทาง ความรู้สึกแรก ก็งุนงงว่า พี่เขาจะจอดทำไม? ด้วยความที่หมอกหนาจัดทำให้ไม่รู้ว่า ผมได้เดินทางมาถึง(ปากซอย) ทางเข้า บ้านระเบียงดาว แล้ว พี่คนขับรถ เปิดกระจก พร้อมตะโกนมาย้ำ ว่าถึงบ้านระเบียงดาวแล้วนะ .. ไม่รอช้าที่จะรีบลง และเสียเวลางุนงงไปมากกว่านี้ ลงรถ พร้อมกับไปกล่าว ขอบคุณสำหรับน้ำใจ ที่ใจดีให้ติดรถมาถึงที่นี่ ครับ ..ในเวลา บ่ายสามกว่าๆ
จากถนนเส้นหลัก ต้องเดินเข้าซอยไปอีก 200เมตรก็ถึง บ้านระเบียงดาว แต่ทัศนวิสัยในตอนนี้..มองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความขาวทึบแสง ของม่านหมอกรอบตัว 360 องศา
แม้แต่ทิวเขาดอยหลวงเชียงดาวทอดตัวยาวยิ่งใหญ่ ณ ปัจจุบันเวลานี้ ก็ถูกหมอกหนาทึบปกปิดเอาไว้ ไม่ให้เห็น.. รับรู้ได้เพียงแค่อากาศเย็นๆ และ ความชื้นที่ถูกลมพัดมาปะทะผิวกายเท่านั้น
จัดการเช็คอินเข้าพัก และเก็บสัมภาระต่างๆ เวลา เช็คอิน 13:00 น. เช็คเอาท์ 11:00 น. (งดใช้เสียงรบกวนตั้งแต่ 22:00 น. เป็นต้นไป) บริเวณพื้นที่ส่วนกลางสำหรับติดต่อสอบถามข้อมูล และบริการอาหารต่างๆ สำหรับค่าบริการนั้น - บ้านระเบียงดาว จะคิดรวม ค่าที่พัก+อาหาร 2 มื้อ มื้อเย็นและเช้า คิดเป็นคน คนละ 500 บาทที่พัก "บ้านระเบียงดาว" จะเป็นกระท่อมแบบง่ายๆ มีตั้งแต่หลังเล็กๆ จนหลังใหญ่นอนได้หลายคน ภายในที่พักมีเครื่องนอน ฟูก ผ้าห่ม มุ้ง ให้ แต่ช่วงหนาวๆ ยังไม่เจอยุงรบกวนเลย มีห้องน้ำรวม (น้ำไหลใช้ได้ตลอดเวลา)
ด้านหน้าแต่ละหลังจะมีระเบียงเล็กๆ ยื่นออกไป ได้วิวสวยๆ เช่นกัน ส่วนระเบียงใหญ่ๆ ที่เห็นนั้น เป็นระเบียงของส่วนกลาง สามารถมานั่งเล่น ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ทานไป ชมวิวไปก็ได้
ที่สำคัญที่ควรทราบคือ .. ที่นี่มีไฟฟ้าใช้เฉพาะช่วงเวลากลางวัน โดยทีจุดบริการเติมไฟที่ส่วนกลาง
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และ Internet ทำให้ได้มาพักผ่อนกับธรรมชาติ อย่างแท้จริงเลยล่ะ !! (ถ้าอยากโทรฯ หรือติดต่อธุระสำคัญ ต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อย ตรงทางเข้ามา ตรงนั้นจะมีสัญญาณอ่อนๆ อยู่ พอใช้ติดต่อโทรได้อยู่ครับ)
ถ้าไม่สามารถจองมาพักที่ระเบียงดาวนี้ได้ ยังมีอีก 2 โฮมสเตย์ ที่อยู่ติดๆ กัน วิวสวยเหมือนๆ กัน เผื่อเป็นอีกทางเลือก
บ้านระเบียงดาว : 089-998-0712 , 089-903-0083
บ้านวิวดอยหลวง : 089-559-8272
บ้านสายหมอก : 090-760-8819