แบกเป้เที่ยวเชียงใหม่ไปกับเพื่อน
#แบกเป้เที่ยวเชียงใหม่ไปกับเพื่อน
เชียงใหม่ 3 วัน 3 คืน 4 คน กับการไปเชียงใหม่ครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ จำไม่ได้ได้ล่ะ 555 ความจำปลาทองไปหน่อย
หลังจากนัดกับเพื่อน วางแพลนเที่ยวคร่าวๆ ตอนนี้ถึงเวลาลงสนามจริงล่ะ
02.06.17
เปิดวาร์ปมาเชียงใหม่แพพนะ
ครั้งนี้เราจะไปบ้านระเบียงดาวกันก่อน ให้ไปขึ้นรถบัสที่ขนส่งช้างเผือก ตอนซื้อตั๋วถึงคนขายจะบอกว่านั่งตามเลขที่ระบุไว้บนตั๋วก็ตาม แต่ถึงเวลาจริง ใครจะนั่งตรงไหนก็ไม่สน เราโดนมาล่ะ =.,= เพราะฉะนั้นซื้อตั๋ว รถมา ขึ้นไปนั่งจองก่อนเลย
นั่งรถวนๆ ไต่เขา ขึ้นเนิน ไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ผ่านสายฝน (แน่ล่ะมาหน้าฝน มันก็ต้องเจอฝนสิ) เราก็ถึงโลตัสเชียงดาวตามที่อ่านรีวิวมา(ยังๆ ยังไม่ถึงบ้านระเบียงดาว ต้องต่อรถสองแถวขึ้นไปอีก) มาถึงก็บ่ายล่ะไง คิวรถสองแถวหมด ต้องเหมาอย่างเดียว ดีนะได้เพื่อนร่วมทางอีก 2 คน มาช่วยหารค่ารถ นั่งรถขึ้นมาอีกชั่วโมงกว่าคร้าา ทางไม่ลำบากนะ แต่ถ้าไม่ชำนาญก็น่ากลัวอยู่ ชันบ้าง โค้งหักศอกบ้าง อ่อ มันจะผ่านด้านของป่าไม้ด้วย จ่ายค่าผ่านด่านด้วยนะ
ในที่สุดหลังจากนั่งเครื่องบินจาก กทม. ต่อรถมาขนส่งช้างเผือก จากขนส่งฯมาโลตัสเชียงดาว และขึ้นมาบ้านระเบียงดาว ทรหดมากกว่าจะมาถึง แต่ไม่บ่นไงได้มาเที่ยว ถึงแล้วจ้าาาา บ้านระเบียงดาว
มุมมหาชน ใครมาก็ต้องถ่าย โอเคงั้นเราก็ถ่ายด้วย
เก็บของเข้าบ้านพักกัน ได้บ้านเอื้องทราย ห้องนำ้ในตัว มีที่นอน หมอน มุ้ง 
ที่นี่เงียบสงบเหมากับการมาพักผ่อนอย่างจริงจัง สัญญาณโทรศัพท์แทบจะหาไม่เจอ ถึงว่ากว่าจะโทรจองที่พักติด
บางทีสัญญาณก็มี แต่หายใจก็ปลิวล่ะ 5555 รูปนี้คือปลิวไปล่ะ
ยังพอมีเวลาเหลือก่อนที่จะกินมื้อเย็น เราก็เลยเดินขึ้นไปดูบ้านพักหลังอื่นๆ บ้าง จริงๆ ก็เดินไปหาสัญญาณแหละ
ถนนหลักของหมู่บ้าน ก็ไม่มีอะไรมาก อยู่กันเเบบเรียบง่าย
ที่นี่ น่าจะทุกหลังแหละคิดเป็นรายหัว รวมมื้อเย็น-เช้า
มื้อเย็นก็อาหารพื้นๆ ทั่วไป แต่ทำไม่รู้สึกว่าอร่อยกว่าปกตินะ
ผัดผักรวม ผักสด กรอบและหวานมาก กินเพลินๆหมดจานไม่รู้ตัว
ไข่เจียวดูธรรมดา แต่ขึ้นมากินถึงที่นี่ ยังไงก็ไม่ธรรมดาหรอก 
ต้นจืดแตงยัดไส้หมู หมูเต็มคำ เต้าหู้อ่อนเต็มปาก 
และสุดท้าย อันนี้เมนูแนะนำ น้ำพริกนรกแตก คือ ได้แต่กลิ่นของพริก กระเทียม แค่นั้นจริงๆ เป็นแบบคั่วแห้งๆ น่าจะปรุงรสด้วยเกลือเค็มๆ แค่นั้น เผ็ดนรกแตกจริงๆ อันนี้คอนเฟริ์ม แต่พอกินกับผักหวานๆ มันลงตัวเลยนะ ซึ่งถ้าใครชอบมีขายเป็นกระปุก กระปุกละ 100 บาท ให้เอากลับไปแซ่บต่อกันที่บ้านด้วย 
กินข้าวกันเสร็จ ก็ไม่รู่จะทำไร กลับไปเม้ามอย กินขนมที่ตุนกันมา กว่าจะมืดได้ก็เกือบทุ่ม แต่พอมืดปุ๊ป ทุกอย่างเงียบสนิทมาก และอากาศก็เย็นลงทันที จะนอนดูดาวก็เสียดาย วันนี้ท้องฟ้าเมฆเยอะ ไม่ค่อยเห็นเลย เลยต้องเปลี่ยนมาลุ้นมาพรุ่งนี้จะเจอหมอกไหมนะ ป่ะ แยกย้ายนอนกันเถอะ
03.06.17
ตื่นเช้ามาก ตีห้ากว่าๆ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็นอนดึก ไม่ใช่ไรหรอก ไก่ขันทั้งหมู่บ้าน แล้วคือมีอยู่ตัวนึงมายืนขันอยู่หน้าบ้านเลยไง เออตื่นก็ได้ว่ะ 5555 สว่างเร็วมาก
เปิดประตูบ้านเช้านี้ก็เจอแบบนี้เลยจ้าา 
ถึงจะเฟลนิดหน่อยที่หมอกไม่มาเยือนถึงหน้าบ้านแบบที่พี่เขาบอกมาก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็หาบรรยากาศแบบนี้จากที่อื่นไม่ได้เหมือนกัน
เห็นแค่เมฆบนยอดเขาลิบๆ
เช้านี้กับข้าวต้มหมู ชา กาแฟ โอวัลติน กับอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว แหมต่างกับเมื่อคืนจริงๆ 
ยังพอมีเวลาออกไปเก็บบรรยากาศรอบหมู่บ้านตอนเช้าอีกสักนิดนึง 
ตอนกลับ มีรถจากทางที่พักไปส่งให้ที่ขนส่งเชียงดาว ไม่ฟรีนะ แต่ยังไงก็ถูกกว่าที่เหมาขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็นั่งรถสายเดิมเข้าเชียงใหม่ บ๊าย บาย ระเบียงดาว ไว้มีโอกาสเราจะกลับมาใหม่นะ
มาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ เราก็เข้าที่พัก เอาของไปเก็บก่อนล่ะกัน คืนนี้เราสิงสถิตย์กันที่ Fashen Poshtel อยู่ตรงวงเวียนสันติธรรม เจอมาจากเฟสบุ๊ค ดูดีมีสไตล์แบบฮิปเตอร์เป็นของตัวเอง ห้องกว้าง มีมื้อเช้า ราคาไม่แรงมากกำลังดี ถึงจะมีรีวิวไม่เยอะ เพราะฉะนั้นเราเลยจะมารีวิวให้ไง
โซนด้านหน้า และเคาเตอร์เช็คอิน ที่จริงแล้วเรามาก่อนเวลาเช็คอิน แต่มีห้องว่าง 1 ห้อง (จองไว้ 2 ห้อง) อีกห้องกำลังทำความสะอาดอยู่ เลยได้เอาของมาเก็บเร็วขึ้น ดีดี๊อ่ะ
เปิดประตูมาเจอบันไดทางขึ้น
ได้ห้อง 201 กับ 202 อยู่ชั้น 2 ห้องพักจะมีสองโทนสี ขาว กะ ดำ เตียงคิงไซค์ มีโซฟาเบดพร้อมกับโคมไฟอันโต ทีวี แอร์ และปลั๊กไฟมีแยะมาก ไม่หวงไม่กั๊ก ไม่ต้องหิ้วสามตามาต่อเอง ส่วนห้องน้ำกว้างมาก เอาหมอนเข้าไปนอนได้เลยอ่ะ 5555 แบ่งเป็นโซนห้องน้ำ อาบน้ำ(มีน้ำอุ่นด้วย) อ่างล้างหน้า
โดยรวมแล้ว เราและเพื่อนชอบที่นี่มาก ถ้ามาเชียงใหม่อีกก็จะเลือกพักที่นี่แหละ เจ้าของก็เป็นกันเอง น่ารักมาก และไฟไวแรงมากกกกกกก
หลังจากที่แอบหลับ ชาร์จโทรศัพท์เต็ม หิวแล้วไง เสริชหาร้านอาหาร ร้านขนมกันให้ควั่ก ไปลงเลยกันที่ร้าน salad concept มีความเฮลตี้
ยำควินัว รสชาติดี สีสวย ให้ผ่าน
เมนูเด่น สลัดไส้อั่ว กะน้ำสลัดน้ำพริกหนุ่ม ดูแล้วไม่น่าเข้ากันเนอะ แด่เด็ดจริง หมดเป็นจานแรกเลย 
พิซซ่าสลัด ผักมาเป็นดงเลย ผักสดกรอบอร่อยดี แต่พอกินรวมๆ แล้ว ส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
อิ่มจากร้านนี้ ไปต่อที่โครงการบ้านข้างวัด ตอนแรกเจอรถแดงราคาเหมาโหดมาก เราเลยขอบาย หาคันต่อไป ได้ราคาไปกลับถูกกันกว่าครึ่งนึงได้เลย เราก็เซย์เยสสิ รออะไรนะ เนอะ
โครงการบ้านข้างวัด บรรยากาศดี ดูร่มรื่น มีกิจกรรม workshop ให้ทำหลายอย่าง สถานที่เหมาะกับการถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียล
แวะกินไอติมก่อนกลับ :)) 
ส่วนตอนเย็นไปเดินเล่นแถวประตูท่าแพ กินข้าวร้านอรุณอุไร ต่อที่ของหวานร้าน Fruiturday (ไม่มีรูปอ่ะ ลืมถ่าย หิวจัด แต่อร่อยทั้งสองร้าน)
มาสร้างแลนมาร์คที่ประตูท่าแพ
หมดวันที่สอง วันนี้มีแต่กินกับกิน กินให้ตัวแตกเบย
04.06.17
เริ่มวันสบายด้วยโจ๊ก น้ำส้ม ชา ครัวซอง แตงโม เอิ่ม จัดเต็มตั้งแต่เช้าเลย พี่เจ้าของจัดเอง เสริฟเอง อีกหนึ่งความใส่ใจของที่นี่ น่ารักอ่ะ
วันนี้มีแพลนจะไปสวนสวนพฤกษศาสตร์ ม่อนแจ่ม แกรนด์แคนย่อน(ถ้าไปทันนะ) และทางเรานั้นได้ติดต่อเช่ารถมาขับเอง ไม้ง้อรถแดงแล้ว บริษัทมาส่งรถถึงที่พัก ตรวจสภาพ จ่ายมัดจำ เก็บของ Let's go!!!!!
เริ่มที่สวนพฤกษศาสตร์ เดินชมนกชมไม้ ที่นี่แบ่งเป็นหลายโซน สวนไม้น้ำ สวนพืชทะเลทราย สวนกล้วยไม้ สวนพืชกินแมลง บลาๆๆๆ แต่ที่น่าเสียดาย คือ มาหน้าฝน ทางเดิน Canopy walkway ทางเดินลอยฟ้า ปิด!!!!! อดไปตามระเบียบ เสียดาย ไว้ต้องมาซ่อม
ขึ้นไปต่อที่ม่อนแจ่ม แล้วจับจองที่นั่ง สั่งข้าวกินกันเถอะ มาถึงก็เกือบเที่ยงล่ะ
มีผัดผักโครงการหลวง ผักอร่อย ผัดรวมมาหลากสี น่ากินไปอี๊กกก
ขาหมูม่อนแจ่ม เนื้อเปื่อยนุ่ม รสชาดกำลังดีนะ 
ไข่เจียวเห็ดถอบ (เห็ดเผาะ) 
ข้าวกล้องสีสวยๆ 
ปิดท้ายกับของหวาน เลมอนชีสเค้ก 
อิ่มท้องเรียบร้อย กำลังจะออกไปหามุมชิคๆ ถ่ายรูป ฝนก็ดันตกลงมาพอดี สรุปติดฝนอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงได้ ที่หลบก็น้อยนิด สุดท้ายก็เปียกอยู่ดี 5555 พอฝนหยุดเท่านั้นแหละ หมอกปลิวมาเลยจ้าา มัวๆ มาเลย และมาพร้อมกับความหนาว อ่ะ แต่ยอม เพื่อความสวย สุดท้ายก็ได้มาเจอหมอกที่นี่แทน 
และหลังฝนตก เขาว่าดอกไม้จะสวยเพิ่มขึ้นเสมอ ซึ่งเราว่าก็จริงนะ ดูสดชื่นดี
ปล.รูปล่างนี้แอบจิ๊กมาจากน้องที่ไปด้วยกัน สวยอ่ะ ชอบ
กว่าจะลงจากม่อนแจ่มได้ก็บ่ายกว่าไปแกรนด์แคนยอนไม่ทันเลย เลยเปลี่ยนเป็นไปหาซื้อของฝาก และกินข้าวเย็นแทน กลับมาที่นิมมานอีกครั้ง
ร้านข้าวซอยนิมมาน รสชาดดี แต่แอบแพงไปนิสนึงนะ
ร้านนี้เพื่อนรีเควสตั้งแต่เมื่อวานล่ะ ต้องได้กินก่อนกลับ กู โรตีและชาชัก โรตีกรอบบวกวิปครีมบวกฝอยทอง กับโรตีข้าวโพด กินกันขนาดนี้ น่าจะได้กลิ้งกลับบ้านแทนล่ะ กินจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ
กินเสร็จ ก็รีบไปสถานีรถไฟ ก่อนที่จะตกรถไฟ จนต้องอยู่ต่อ อิอิ
จองตั๋วรถไฟขบวนใหม่ไว้ อุตราวิถี มีโอกาสได้นั่งสักที รอมานานล่ะ
รถออกตรงเวลาเป๊ะ 18.00 น. เพลงชาติจบ ล้อหมุนทันที ไม่มีคอย ไม่มีเลทจ้า
ขบวนใหม่ไฉไลมาก เบาะที่นั่งสีแดง ประตูระหว่างคันเป็นระบบสัมผัส ห้องน้ำถือว่าสะอาด ชักโครกแบบสูญญากาศ มีอ่างล้างหน้า ทิชชู่พร้อม มีจอแสดงผลว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน สถานีอะไรของประเทศไทย มีตู้เสบียง(ร้านค้าเคลื่อนที่ได้) ประมาณสองทุ่มพนักงานก็จะมากางเตียงให้ แต่ถ้ายังไม่อยากกางก็บอกพี่เขาได้ ที่นอนสะอาด หมอนโอเค มีปลั๊กไฟทั้งเตียงบ เตียงล่าง มีน้ำฟรีให้ 1 ขวด
รถออกมาได้สักพัก รูปนี้น่าจะเลยสะพานทาชมภูมานิดนึง แล้วหลังจากนี้ก็มืดสนิทจนมองไม่เห็นข้างทางละ
พอกางเตียง ปิดม่านนอนกันหมดแล้ว
สำหรับคนที่เมารถ กินยากันไว้ก่อนก็ดี มีมึนๆเหวี่ยงบ้าง เตียงล่างกว้างกว่าเตียงบน นอนสบาย และพอปิดม่านมืดกว่า เตียงบนปิดม่านให้ตาย ไฟก็ลอดเข้ามาสว่างไป๊ และยิ่งดึกแอร์ยิ่งหนาว ผ้าห่มที่ให้มานั้นแทบไม่ช่วยอะไรเลย ใครเป็นคนขี้หนาว แนะนำพกเสื้อแขนยาวไปด้วยจะดี
แล้วเราก็คงต้องขอตัวไปนอนก่อน กับโรงแรมเคลื่อนที่ :)) ในคืนนี้
ปล.รถไฟถึงจุดหมายตรงเวลานาจาในเช้าวันถัดมา
- Once a year,Go someplace you never been before. -
สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
1. ค่าเครื่องบิน ดอนเมือง-เชียงใหม่ คนละ 790 บาท
2. ค่าตั๋วรถไฟ เชียงใหม่-ดอนเมือง (2 เตียงบน- 2 เตียงล่าง หารกับเพื่อน) คนละ 828 บาท
3. บ้านระเบียงดาว คนละ 500 บาท
4. ที่พัก Fashen Poshtel (ได้ราคาโปรโมชั่นมา ห้องล่ะ 890 จาก 1200 บาท) หารเฉลี่ย คนละ 445 บาท
5. ค่าเช่ารถวันที่สาม 900 บาท/คัน
6. ค่ารถบัส เชียงใหม่-ท่าตอน คนละ 80 บาท (รวมไป-กลับ)
7. ค่ารถเหมาขึ้นบ้านระเบียงดาว 600 บาท/คัน (ถ้ามาเช้ามันจะเป็นคิวรถสองแถว อยู่ที่คนละ 50 บาท)
8. ค่ารถจากบ้านระเบียงดาว-ขนส่งช้างเผือก 50 บาท
9. ค่าผ่านด่านก่อนที่จะขึ้นเชียงดาว คนละ 20 บาท
10. ค่าเข้าสวนพฤกศาสตร์ คนละ 40 บาท
11. ค่าอาหาร ขนม ของหวาน เเล้วแต่คนอ่ะ ส่วนเราทะลุงบที่ตั้งไว้ไปล่ะ 5555
