อรุณสวัสดิ์ยามเช้า บรรยากาศดีมาก
เช้านี้ไม่ต้องหวังพระอาทิตย์ นั้งริมระเบียงชมวิวแค่นนี้ก็มีีความสุขแล้ว ซึมซับบรรยากาศไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเดินลงไปไหนให้เหนื่อย นั้งเฉยๆก็ฟินน
มื้อเช้ามาแล้วปิ่นโตเหมือนเดิม
ร้องรำทำเพลไงไปเรื่อยย แฮร่ เล่นไม่เป็นหรอก
ชมหมอกกันจนถึง 9 โมงกว่า
สายหมอกยังคงมีตลอดเวลาเช้านี้
โน่นแน่ะนกเขาคู จุ๊กจุ๊กกรู นกมันเฝ้าคูหาชู้ มัน 555เพลงก็มา
ไปต่อครับจุดหมายของเราวันนี้เราจะไปนอนกันที่ป่าสนวัดจันทร์อำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งไปได้หลายเส้นทางแต่ผมอยากผจญภัยเลยเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุด แต่ว่าก็ได้สอบถามพี่ๆวิบากที่เขาอย่เชียงใหม่พอทราบว่ารถวิบากเราไปได้ แล้วจะรออะไรก็ลุยสิครับ เส้นทางสีฟ้าที่จะไป ผ่าน แม่นาจร บ้านแม่ซาแล้วเข้าตัดเขาจากบ้านแม่ซามาแม่สบแดดแล้วจึงจะออกถนนใหญ่ครับ
ขาออกเราออกกันอีกทางครับเพื่อจะไปทางที่เราว่า วิวทางนนี้ก็สวยเลย
สวยมากๆ
ทางนนี้กลับเข้าเชียงใหม่ได้เหมือนกันครับไม่ต้องลงทางเดิมก็ได้
ก่อนมาก็เช็ครถเรียบร้อยนะแต่ดันลืมตั้งโซ่ซะงั้น แบบนี้เรียกว่าไม่เรียบร้อย555 หย่อนยาน ดังแต้กๆๆๆ ตั้งแต่เมื่อวานละ เจอร้านมอไซด์เขาก็ไม่รับทำอีกบอกว่ารถใหญ่นึกว่าบิ็กไบค์ร้านนึงบอก แอฟฟริกาทวิน ทำไม่เป็นให้ไปร้านใหญ่ๆ เอ้าจะดีใจดีไหมเนี้ย 555 ไม่เป็นไรยังไม่หนักมากวิ่งต่อได้
เจอป้ายอะไรก็จอดถ่ายไว้ให้หมดเพราะกลัวหลงเหมือนกันไม่เจอรถใครเลยรถน้อยมาก
วิวสองข้างทางสวยงามสุดๆครับ
วิ่งมาเรื่อยๆเจอแยกนนี้จำได้แล้วรอบก่อนที่ไปทุ่งบัวตองวิ่งจากอินทนนก็มาเส้นนี้ แต่รอบนนี้เราจะตรงไปทางบ้านแม่ซาครับ
บ้านเยอะมาก
จอดหน่อยวิวงาม
ถนนว่างต้องเอาสะท่า
ขับกินลมชมวิวแบบชิลมาก จอดถ่ายรูปไปเรื่อย เวลาเหลือมากมาย โดยไม่รู้ว่าทางต่อไปมันจะเป็นยังไง
อากาศดีครับไม่มีฝนแดดอ่อนๆ
เส้นทางโค้งไปมา ตลอดเส้นทางช่วงนนี้ยังเป้นถนนราดยางดีมาก
จากรูปล่างนนี้เห็นสันเขาสีส้มๆแถวๆสายไฟไหมครับนั้นแหละตอนแรกก็พูดเล่นๆว่านั้นแหละที่เราจะไป 555 โดยไม่คิดว่าจะจริง แต่จริงๆแล้วคือเส้นนั้นแหละ
ถึงบ้านแม่ซาตรงไปไม่รู้ไปไหน จากแมบให้เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านเลี้ยวเข้าไปถามทางชาวบ้านแล้วบอกว่าไปได้ๆ ชี้ให้ไปเรื่อยๆ ค่อยอุ่นใจหน่อย
ขับเข้ามาสักพักเป็นทางปูนขึ้นเขามาเรื่อยๆ สักพักก็หมดทางปูน แต่ยังมีเสาไฟ เริ่มแล้วสินะคิดในมจจอดดู GPS แปบ สัญญาณยังเต็มเปี่ยม ลุยย
แล้วเส้นทางก็จะเป็นแบบนนี้ไปตลอดระยะทางแค่ประมาณ 30 กว่าโลได้ แต่เป็นดินแดง บางช่วงก็ชันครับมาคันเดียวเพื่อความชัวก็ขับช้าๆ
ลุยดุ้งๆๆๆ มาเรื่อยๆ วิวสองข้างทางสวยมากครับแต่ก็ไม่ได้จอดเท่าไหร่ ตอนนี้ไม่มีเสาไฟไม่เจอชาวบ้านเลย
ยิ่งเข้ายิ่งลึก เส้นทางหรรษา แอดเวนเจ้อเบาๆ
บางช่วงเป็นเนินชันดินหนังหมูเพื่อความปลอดภัยเราก็ปล่อยให้เธอลงเดิน
ขับมาเกือบชั่วโมงเราก็มาเจอป้ายนนี้ โอ้ว ค่อยยังชัวเข้ามาลึกมากเจอชาวบ้านนานๆจะเจอสักคน มีเจอป้ายหมู่บ้านนนี้สแดงว่ามีคนอยู่ป้ายใหม่สะด้วย
ตรงนี้ชันใช้ได้แต่ถ่ายมาดูไม่ชัน
ถึงตรงนนี้สัญญาณโทรศัพท์ไม่มีแล้วครับ แต่ GPS ยังคงนำทางอยู่ยังอยู่ในเส้นทางเดิมมันบอกให้เลี้ยวขวา เอ้าจัดไป
หลังจาดลี้ยวมาทางก็หรรษาขึ้นเรื่อยๆ
ดินสไลด์ตลอดทาง ต้นไม้ล้มเรื่อยๆ เส้นทางนนี้กระบะคงไม่ควรมา น่าจะเพราะฝนตกพายุเข้าดินสไลด์เยอะมาก
แล้วก็มาถึงตรงนนี้ ว้าววว
เจอต้นไม้ล้ม แต่ดูแล้วคงล้มมาสักพักชาวบ้านที่ใช้ทางเลยพากเพื่อให้มอไซด์ผ่านได้ ถ้ากะบะมาหมดสิทธิ์เลยต้นใหญ่มาก
อย่าว่าแต่กระบะเลย ถ้าเป็นบิ้กไบท์คันใหญ่ๆหลงเข้ามาคันเดียวแบบนี้ ก็มีลำบากเหมือนกัน
รอดไปได้อีกด่าน ตั้งแต่เข้าเส้นนี้มาโคตรตื่นเต้นตลอดทาง เหมือนเล่มเกมลุ้นๆว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง
ตรงนนี้ยิ่งชัยร่องลึกกด้วย
โอ้ววิวสวยจอดพักแปบนึง เหนื่อยเหมือนกัน พ้นโค้งต้นไม้ดีได้ปุ้บผมสองคน ร้องเย้ๆๆ เจอถนนปูนครับ ดีใจใกล้ถึงทางออกแล้วแน่นอน
หลังจากทางปูนได้แค่ประมาณ 300 เมตร แล้วเราก็ต้อง อุทานว่าเฮ้ยย
ถนนขาดด มันไม่ใช่ขาดแบบทุกครั้งที่เจอตามไหล่ทางนี้มันขาดไปทั้งเส้นเลย โอ้วตายย ตอนนั้นวิ่งเข้ามาได้เกือบ2ชั่วโมงละ ทำใจอยู่พักนึง ตอนนี้ไร้ซึ่งทุกอย่าง สัญญาณ GPS ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ตำแหน่งมันไม่ตรงก็เส้นทางละ ไม่รู้หลุดไปตอนไหน แต่ทางที่มาไม่ยากมีแยกเดียวเมื่อกี้ ตัดสินใจ เวลานั้นพึ่งเที่ยงกว่าๆ ตอนแรกเดินสำรวจรอบๆเห็นมีทางลงไปที่ลำธารน้ำไม่รู้ว่าข้ามไปได้อีกฝั้งได้ไหมนะแต่ว่าไม่มีคนเลย เลยตัดสินใจเอาวะย้อนกลับทางเดิมมันไปไม่ได้แล้วนิ
ขับออกมาจนถึงต้นไม้ที่ล้มใหญ่รอดออกมาได้จอดพัก ตอนนั้นรู้สึกหดหู่เบาๆทำไมต้องเจอแบบนนี้ด้วย555 เข้ามาตั้งลึกมาก ได้ยินเสียงมอไซด์สองจังหวะ แป็ดๆๆๆๆๆ มาแต่ไกลเหมือนกำลังเร่งขึ้นเนินมา ชีวิวเหมือนเริ่มมีความหวัง รอดูว่าจะเป็นใคร แล้วสวรรค์ก็เห็นใจ ส่งพี่ชายชาวบ้าน ขี่มอไซด์ตลุงๆๆ มาถึงเรา ถามพี่ว่าพี่มาจากไหน เขาก็บอกว่า มาจากฝั่งนู้นข้ามน้ำมา เราเลยเฮ้ยพี่ข้ามน้ำได้หรอ ต้องเป็นทางลงที่เห็นแน่ๆ พี่บอกว่า ได้ข้ามลำธารแล้วขี่ขึ้นเข้าไร่ข้าวโพดไปโผล่อีกฝั้ง อีกไม่ไกลก็ถนนใหญ่แล้ว เลยบอกพี่ว่ารบกวนไปช่วยผมหน่อยเพราะรถผมหนักกลัวขึ้นอีกฝั่งไม่ไหว พี่ก็ยินดีเต็มใจมาช่วยเรา
จากตรงนี้ย้อนไปดูลิปตรงกลางๆจะเห้นว่าพอข้ามน้ำมาโชคดีน้ำไม่สูง พอข้ามน้ำมาจะเป้นทางขึ้นไร่ข้าวโพดเลยซึ่ง ดินตรงนั้น เละมากเนื่องจากโดนน้ำตลอดเวลา รถปั่นไม่ขึ้น
และแล้วก็ล้ม สงสัยจะหนักเลยยกรถขึ้นเอาของท้ายออกแล้วตั้งลำใหม่
รถใหญ่หนักเหลือเกิน
ทางตรงนนี้เหมือนไม่ใช่ทางรถนะที่จริงแต่พอถนนขาดเขาเลยใช้ทางนนี้กัน ไม่ไกลแค่นิดเดียวแต่มันชัน
และแล้วก็เอาขึ้นกันมาจนได้ช่วยกันดันสองคน นี่ถ้าไม่ได้พี่นี่อาจไม่รอดแรงผู้หญิงอาจดันไม่ไหวอาจจะปั้มอยู่นานกว่าจะขึ้นได้ เลยขอถ่ายรูปกับพี่เขาและก็ ให้สินน้ำใจพี่เขาไปเล็กน้อย ต้องขอบคุณพี่มากๆครับ
ออกมานิดเดียวนี้ทางออก
หันไปมองค้อนแรงๆสักที จะไม่มาอีกแล้วทางนนี้ 555 สอบถามพี่เขาบอกว่ามันพึ่งขาดได้เกือบเดือนแล้วยังไม่มีคนมาทำเขาเลยใช้ทางข้ามน้ำกันก่อนถ้าพวกรถเล็กๆก็ดันกันไหวอยู่แล้ว แต่ว่าตอนขาออกมาเราเจอรถ10ล้อขนรถแท็กเตอร์เข้ามาด้วยผมคิดว่าน่าจะเข้ามาซ่อมถนนนี่แหละ ใครผ่านไปก็ลองดูน่าจะซ่อมแล้ว
แต่ก็ยังดีดีใจไม่ได้ ต้องตรงไปเรื่อยๆอีกตอนนี้ไม่มีสัญญาณไม่รู้อีกไกลไหมแต่พี่บอกว่าไม่ไกล และก็พอมีบ้านชาวบ้านบ้าง ตอนนี้ต้องใช้ถามทางจากชาวบ้าน ถามทุกคนที่เจอ ช่วงนนี้จะเจอชาวบ้านเรื่อยๆ ค่อยอุ่นใจหน่อย
ปั่นตรงนนี้อยู่นิดนึงเล่นเอาเลอะเทอะกันไปหมด
แล้วก็ผ่านบ้านสบแม่แดด ตอนนี้ฝนตกลงมาแล้ว โชคดีตอนช่วงแรกไม่เจอฝน ช่วงนนี้น่าจะใกล้ออกแล้ว
ขับออกมาเจอแยกอีกแล้วตอนนี้มีเสาไฟแล้ว ใจชื่นได้ออกแน่นอน แต่เป็นแยกซ้ายขวามีสายไฟทั้งสองทาง กดดูแผนที่ ยังเงียบกริ้บดูไม่ได้
เลยตัดสินใจขับไปทางซ้าย
เจอป้ายหมู่บ้านเต็มเลย เอ้อ เข้าไปถามทางดีกว่า
ใครจะรู้เล่าหมู่บ้านลึกๆแบบนนี้ข้างในมีนาขั้นบันไดเล็กๆสวยงามอยู่ด้วยแต่ตอนนั้นฝนตกเริ่มแรงละถ่ายได้รูปเดียว ขี่เข้ามาบ้านห้วยปูถามเขาสรุปเอ้าผิดทาง ตรงนนี้มีแต่หมู่บ้านออกไม่ได้ ต้องย้อนไปตรงแยกบ้านแม่สบแดดใหม่แล้วตรงไป
ในที่สุดเราก็ออกสู้ถนนดำจนได้ ใช้เวลาจากบ้านแม่ซา 3 ชั่วโมงกว่า
หลักกิโลตรงข้ามซอยที่ออกมาคือหลักกิโลนี่ครับ เลขสวยจพไว้ให้ดีใครอยากลองหรรษาเชิญเลย เส้นนี้ที่จริงถ้ามีเพื่อนมาด้วยสักสองสามคันมันจะสนุกมากครับไม่ตื่นเต้นขนาดนนี้ รอดมาได้แล้วเย้
โชคดีครับที่ตั้งแต่ออกมอไซด์มาผมจะพาแฟนไปด้วยทุกที่ไม่ว่าจะที่ไหนจะทริปลุยๆเอนดูโร่เลยผมก็พาเขาซ้อนไปทำให้เขาเคยเจอทางที่มันยากกว่านี้มาก ตอนที่เข้ามาเขาเลยไม่ได้ร้องกลัวอะไรมากเพราะเคยเจอทางโหดกว่านี้มามาก แต่ว่าทุกครั้งมันไปกันเยอะไงเลยไม่น่ากลัว รอบนี้มาคันเดียวมันก็จะหวั่นๆหน่อย 555
ขับมาต่อแล้วก็ถึงวัดจันทร์แวะกินข้าวก่อนตอนนั้นบ่าย3กว่าแล้ว
สภาพดูไม่จืด
จากนั้นแวะถ่ายรูปที่วัดจันทร์
แล้วเราก็มาถึงโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ หรือป่าสนวัดจันทร์หรือมีหลายชื่อเรียกนั้นแหละ
ตอนแรกว่าจะกางเต็นเตรียมมาอย่างดีพึ่งซื้อมาใหม่แบบกันฝนเลย แต่ไปดูที่กางเต็นแล้วอยู่ไกลเจ้าหน้าที่พอควร แล้วก็วันนี้ไม่มีใครเลย นักท่องเที่ยวไม่มีเลยสักกะคน เลยลองถามราคาที่พัก เป้นคืนละ800 แต่ว่าหน้าฝนเลยขอเขาลดให้ 600 บาท ก็เลย ยอมเสียตังก็ได้ ยังไม่เคยกางเต็นคนเดียวเลยดูจะวังเวงไปหน่อย555 ได้อาบน้ำแบบสบายๆก็ดีเหมือนกันวันนี้สุดจริงๆ
ที่พักเป้นหลังสวยงาม
เราได้ห้องแรกเลยเพราะไม่มีใครเลย แต่ว่าตอนมืดๆพึ่งมีรถเข้ามาอีกคัน สรุปคืนนี้มีแค่ผม และกระบะอีกคันทั้งโครงการ
เก็บของหายเหนื่อยเปลี่ยนชุดก็ไปขี่รถเล่นรอบๆโครงการ
อากาศดีมากๆ
ตรงสันอ่างสันเขื่อนหรือเรียกว่าไรกันแน่ตรงนี้วิวสวยมากครับป่าสนเต็มไปหมด
มีแค่เราสองวันนี้
สบัดบ็อบไปสักที
แล้วคืนนั้นก็นอนหลับอย่างสบายใจ ที่นอนสบายมากอากาศเย็นๆไม่หนาวกำลังดี แหมแต่พอจะให้ฝนตกก็ดันไม่ตกนะเมื่อคืน
เช้านนี้เลยไม่มีหมอกเพราะอากาศเย็นๆธรรมดา รูปนนี้ตอนเช้าแล้วเราขับมาที่เดิม
เก็บบรรยากาศรอบๆก่อนไปต่อ
งานคู่ต้องมา
หลังจากถ่ายรูปแล้วก็เตรียมลุยต่อ
ไปละป่าสนวัดจันทร์