ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
โป่งเดือดป่าแป๋ อาบน้ำแร่ ชมธรรมชาติรอบไกเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย น้ำพุร้อนโป่งเดือดป่าแป๋ (Pongduet Pa Pae Hotspring) จ.เชียงใหม่
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    หนาวๆ แบบนี้ใครๆ ก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปเที่ยวพักผ่อนกันแทบทั้งนั้น เหมือนกันกับเราที่ขอหนีอากาศร้อนในเมืองไปพึ่งน้ำเดือดๆ ที่เมืองเหนือ อย่าเพิ่งงงกันนะครับ เพราะเรากำลังจะพาไปเที่ยวกันที่ “โป่งเดือดป่าแป๋” แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลายคนมักจะเคยชินคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพราะมักจะแวะเที่ยวกันก่อนจะเข้าตัวเมืองปาย หรือบางคนก็ผ่านเลยไปเฉยๆ ซึ่งเราจะขอพาทุกคนไปเที่ยวโป่งเดือดป่าแป๋กันเลย


    • โพสต์-2
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    “โป่งเดือดป่าแป๋” เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังซึ่งจุดเด่นสำคัญเลยก็ตัวน้ำพุร้อนขนาดใหญ่แบบไกเซอร์ (Geyser)เนื่องจากลักษณะของน้ำที่พุ่งขึ้นจากระดับผิวดินเป็นครั้งคราวต่อเนื่องตลอดเวลา โดยที่ระยะเวลาในการพุ่งขึ้นมานั้นจะคงที่สม่ำเสมอ ซึ่งอุณหภูมิน้ำใต้ดินจะอยู่ที่ประมาณ 170-200 องศาเซลเซียส แต่เมื่อขึ้นมาถึงผิวดินแล้วอุณหภูมิน้ำจะอยู่ประมาณ 90-100 องศาเซลเซียส สำหรับโป่งเดือดป่าแป๋นี้จัดว่าเป็นน้ำพุร้อนแบบไกเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลยทีเดียว

    เมื่อเรามาถึงบริเวณโป่งเดือดแล้วสิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ ออกแรงเดินกันนิดหน่อย เพราะตัวน้ำพุร้อนนั้นตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแวดล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติก็จัดเตรียมเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้ให้เราเดินได้สะดวกๆ ถึงแม้บางช่วงของทางเดินอาจจะชำรุดไปบ้าง หรือต้องใช้ความระมัดระวังมากหน่อยก็ตาม แต่ก็ถือว่าเส้นทางนี้สามารถเดินเที่ยวชมได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ ด้วยระยะทางประมาณ 500 เมตรที่ตลอดเส้นทางเราจะได้หยุดแวะชมความสวยงามของธรรมชาติเป็นระยะๆ ทั้งขนุนดินที่เราไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเห็นบ่อยนัก แถมยังมีกลุ่มตัวหนอน แมลงสีสันแปลกตา หรือแม้กระทั่งดอกเห็ดป่าหลากสีสัน ซึ่งบางครั้งเราก็มัวแต่เพลิดเพลินหยุดชมและแวะถ่ายรูปอยู่นาน และถ้าใครชื่นชอบการชมนกชมไม้ รับรองว่าที่นี่ก็มีนกนานาชนิดให้ได้เห็นกันด้วย ยิ่งในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็จะมีนกออกมาหาอาหารกันมาหน่อย เชื่อเถอะว่าแค่ระยะทางสั้นๆ แต่ว่ามีสิ่งที่น่าสนใจให้เราได้ตื่นตามากมายเลยทีเดียว

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04, 2556
    • โพสต์-4
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    หลังจากออกแรงออกกำลังขากันมาไม่นาน เราก็มาถึงตัวน้ำพุร้อนซึ่งกำลังพวยพุ่งขึ้นมาเหนือพื้นดินอย่างต่อเนื่อง ว่ากันว่าในอดีตนั้นน้ำพุแห่งนี้เคยพุ่งตัวสูงถึง 5 เมตร แต่ในปัจจุบันความสูงของน้ำพุเหลือเพียง 1 เมตรเท่านั้น เนื่องจากปริมาณน้ำใต้ดินลดลงนั่นเอง บริเวณรอบๆ นี้จะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถันที่พุ่งขึ้นมาพร้อมๆ กับน้ำพุ และด้วยอุณหภูมิของน้ำร้อนที่สูงถึง 100 องศาเซลเซียสโดยประมาณ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าบริเวณโดยรอบนี้จะมีรั้วรอบขอบชิดและป้ายห้ามเข้าใกล้ตัวน้ำพุร้อนให้เห็นอย่างชัดเจน ส่วนใครที่เคยชินกับการมาเที่ยวน้ำพุร้อนแล้วต้องต้มไข่ คงต้องผิดหวังไปตามๆ กันเพราะที่โป่งเดือดป่าแป๋นี้ไม่อนุญาตให้ต้มไข่อย่างเด็ดขาด เมื่อหยุดแวะพักชมน้ำพุร้อนจนพอใจแล้ว ถ้าเราเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะไปถึงทางออกอีกด้าน ซึ่งจะมีบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่ตัวไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย ถ้าใครอยากแช่ตัวในน้ำแร่อุ่นๆ ก็สามารถติดต่อจ่ายค่าบริการ ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงแช่ตัวได้ตามสบาย น้ำแร่ที่อยู่ในบ่อต่างๆ นั้นก็เป็นน้ำที่ได้จากบ่อน้ำพุร้อนนั่นแหละครับ แต่อุณหภูมิความร้อนนั้นลดลงมาให้เหมาะกับการแช่ตัวแล้ว ส่วนข้อปฏิบัติในการแช่ตัวในน้ำแร่นั้น หลักๆ ก็จะมีการกำหนดระยะเวลาในการแช่แต่ละครั้งไม่ควรจะเกิน 15 นาที เพื่อป้องกันร่างกายเราเสียน้ำมากเกินไป เราควรจะขึ้นจากน้ำแร่มาพักเป็นระยะๆ ถ้าไม่อ่อนเพลียจนเกินไปก็สามารถลงไปแช่น้ำแร่ต่ออีกครั้งได้

    • โพสต์-5
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04, 2556
    • Ming  ขอซื้อภาพบ้านพัก 1 ภาพ ไปใช้ในบทความเกี่ยวกับการแช่น้ำพุร้อน ในเพจสุขภาพของพีพีทีวีได้มั๊ยคะ ? 07 มีนาคม 2561 15:20:28
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    ส่วนนักท่องเที่ยวที่รู้สึกว่าการมาเดินเที่ยวชมเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้นยังไม่จุใจ ทางอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังก็มีพื้นที่กางเต้นท์ และบ้านพักไว้ให้บริการด้วย ใครชอบอิงแอบแนบชิดธรรมชาติหน่อยก็สามารถเลือกกางเต้นท์ในบริเวณด้านหน้าได้ มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำสะอาดไว้พร้อม หรือถ้าจะเลือกพักในบ้านพักก็สะดวกดีไม่น้อย แถมอยู่ใกล้บ่อแช่น้ำแร่อีกด้วย พอเที่ยวจนจุใจแล้วเราก็เดินกลับตามเส้นทางเดิม ซึ่งเราก็ยังคงเดินๆ หยุดๆ อีกตามเคย เพราะบางสิ่งบางอย่างที่ตอนขาเดินเข้ามาก็เกิดได้เห็นได้สะดุดตาตอนระหว่างเดินกลับนั่นแหละ เรียกว่าชมเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อจริงๆ

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    Note

    - บ่อแช่น้ำร้อนมีบ่อแช่แยกชาย-หญิง มีอัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท

    - รวมถึงมีบริการให้เช่าผ้าเช็ดตัว ผ้าถุง ผ้าขาวม้า หรือกางเกงขาสั้น ราคาชิ้นละ 20 บาท ส่วนผ้าเช็ดหน้าราคา 10บาท

    - การแช่น้ำแร่ในแต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน 15 นาที เพื่อป้องกันอาการหน้ามืด อ่อนเพลีย จากการที่ร่างกายเสียน้ำมากเกินไป

    - โป่งเดือดป่าแป๋ เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 8.00 – 18.00 น.

    • โพสต์-8
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04, 2556

    Editor's Comment

    • จุดเด่น:
    • น้ำพุร้อนที่โป่งเดือดป่าแป๋ เป็นน้ำพุร้อนแบบไกเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งอุณหภูมิของน้ำที่พุ่งขึ้นมาสู่ผิวดินนั้นมีความร้อนถึง 90-100 องศาเซลเซียสโดยประมาณ จัดว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดจากอิทธิพลของเปลือกโลกในบริเวณนี้ นอกจากนี้ที่โป่งเดือนป่าแป๋ยังมีบ่อแช่น้ำร้อนไว้ให้บริการอย่างเป็นสัดส่วน รวมถึงห้องอาบน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมสรรพ
    • จุดด้อย:
    • เส้นทางศึกษาธรรมชาติบางช่วงอาจชำรุดบ้าง ซึ่งนักท่องเที่ยวควรเดินด้วยความระมัดระวัง รวมถึงห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบางส่วนอาจจะไม่ค่อยสะอาดเท่าที่ควร
    • ข้อสรุป:
    • สำหรับโป่งเดือดป่าแป๋นั้น จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีธรรมชาติแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์มากๆ รวมถึงอากาศที่ค่อนข้างเย็น จึงทำให้เราสามารถเดินเที่ยวไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้สบายๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบ้านพักที่สะดวกสบายไว้คอยบริการพร้อมด้วย
    คะแนน
    • โพสต์-9
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมู่ที่ 5 ตำบลกี้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50150

    GPS : 19.24201, 98.68414

    เบอร์ติดต่อ : 0 5331 5209, 0 5324 8491

    E-mail : nationalpark@fca16.com

    Website : http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=150&lg=1

    เวลาทำการ : 8.00-18-00 น.

    ค่าธรรมเนียม :

    - คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

    - ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

    ไฮไลท์ : บ่อน้ำพุร้อน แบบไกเซอร์ที่พุ่งขึ้นมาเหนือผิวดินด้วยอุณหภูมิ 170-200 องศาเซลเซียส

    กิจกรรม : เดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมขนุนดิน บ่อน้ำพุร้อน และแช่น้ำแร่

    • โพสต์-10
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 04 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    จากเชียงใหม่ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ประมาณ 38 กิโลเมตรจากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนนแม่มาลัย-ปาย อีกประมาณ 44 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ บริเวณโป่งเดือดป่าแป๋ จากนั้นเราต้องเดินเท้าเข้าไปยังน้ำพุร้อนอีกประมาณ 500 เมตร


  1. โหลดเพิ่ม