เมื่อได้ยินคำจูงใจจากเพื่อนว่า ไปเที่ยวโกรกอิดกกันไหม มันเพิ่งเปิดฤดูเลย น้ำตกสวยมาก บลาๆ และตบท้ายด้วย แต่ต้องนอนในป่านะเว้ย !!  ในใจเริ่มคิด โกรกอิดก คืออะไร มีอะไรดี แล้วต้องนอนกลางป่าเลยหรอ ความตื่นเต้นก็เริ่มมา ความอยากผจญภัยก็เริ่มถามหา  เอ้าไปก็ไปวะ !!!!!

แต่ก่อนขึ้นโกรกอิดก ขอแว๊บนอนอ่างเก็บน้ำสักคืน

มุ่งหน้าสู่อ่างเก็บน้ำโป่งก้อนเส้าใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองสระบุรีประมาณ 40 นาที ใช้เส้นเดินทาง ถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าไป จ.นครราชสีมา กลับรถบริเวณสะพานกลับรถทับกวาง จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยไดนาสตี้มานิดหน่อย ขับรถตรงมาเรื่อยๆ เส้นทางเข้าโป่งก้อนเส้าบรรยากาศเหมาะกับการปั่นจักรยาน ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงแล้วค่ะ

ติดต่อแลกบัตรเรียบร้อย ก็มาติดต่อกางเต็นท์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าใครไม่อยากกางเต็นท์ ที่นี่มีบ้านพักให้เช่าราคาไม่แพงเลยค่ะ ตกห้องล่ะ 800 บาท แต่ขอบอกว่าบ้านพักเต็มตลอดเวลา ต้องติดต่อจองล่วงหน้า 2 เดือนเลยแหละ

ในนี้มีร้านค้าสวัสดิการ ที่มีขายแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแก๊สกระป๋อง ของใช้ต่างๆ เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร หรือใครจะทำปิ้งย่างก็มีเตาพร้อมขาตั้งให้เช่าในราคา 50 บาท ถ่านจุดไฟก็มีจำหน่ายนะ 50 บาทเช่นกันค่ะ

ติดต่อกางเต็นท์และเช่าเตาเป็นที่เรียบร้อย เราก็ไปหาที่กางเต็นท์กันเลยค่ะ เราเลือกกางเต็นท์กันริมน้ำไปเลย วิวดีสุดๆ

เปิดเต็นท์ออกมาเราจะเห็นวิวนี้อยู่ตรงหน้าเลยแหละ

วิวดีขนาดนี้ต้องกดชัตเตอร์ซักหน่อย

นอกจากพวกเรา 4 คนแล้ว ก็จะมีเต็นท์ของเพื่อนบ้าน อีก 1 เต็นท์ และบรรดาพวกพ้องกระต่ายที่วิ่งเล่นกันสนุกสนาน เป็นมิตรกับคนมาก มากเกินไปเลยด้วยซ้ำ


บริเวณห้องอาบน้ำจะอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์พอสมควร ห้องน้ำที่นี่สะอาดมากๆ ไม่เคยไปเที่ยวที่ต้องใช้ห้องน้ำส่วนกลางแล้วห้องน้ำสะอาดขนาดนี้ ที่สำคัญน้ำแรงสะใจสุดๆ แต่ห้องน้ำไฟไม่สว่างซักเท่าไหร่ พกไฟฉายไปด้วยนะ (มีตุ๊กแกตัวยใหญ่มากกก )


อาบน้ำแล้วสบายตัว ก็ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้ว วันนี้เราเตรียมบาบีคิวหมู กับซี่โครงหมูมาปิ้งย่างกันริมอ่างเลย ย่างไฟอ่อนๆ ย่างไป นั่งดูวิวไป เพลินเชียวล่ะ


กลิ่นหอมฉุยทรมานลำไส้มากคร๊า

อร่อยจนต้องร้องขอข้าวกันเลยทีเดียว จำได้ว่าก่อนเข้ามาในอ่างมีร้านอาหารตามสั่ง ไม่รอช้าย้อนลงไปซื้อข้าวมากิน ร้านป้าอมรศรี คนแถวนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะป้าดูเป็นคนพูดคุยเก่ง อัธยาสัยดี ป้าทำอาหารอร่อยและที่สำคัญให้เยอะมาก

ตบท้ายมื้ออาหารด้วยข้าวโพดปิ้ง

ทานข้าวเสร็จ นั่งเล่นนอนเล่น จนได้เวลาปิดไฟของอ่างเก็บน้ำ (21.00 น.)  ฝนก็ตกลงมา เป็นอันว่าส่งเราเข้านอนเพื่อเตรียมพร้อมกับการพิชิตน้ำตกโกรกอิดกในวันพรุ่งนี้

เช้าวันที่ 2
บรรยากาศเป็นใจแต่อากาศไม่เป็นใจกับเราซะเลย มาหน้าฝนที่ฝนตกแบบไม่สุดทำให้ตอนนอนเราอบอ้าวมากๆ เช้าวันนี้พวกเราเลยรีบลุกมาซึมซับบรรยากาศยามเช้ากัน และเตรียมตัวเก็บของเพื่อไปจุดหมายต่อไป คือ ศูนย์เขาใหญ่ 18 (ขญ 18) ก่อนออกจากอ่างเก็บน้ำ เราแวะไปช่วยค่าบำรุงสถานที่กันซักหน่อย เราแต่ความสมัครใจของเราเลยนะ

อาหารมื้อเช้าไม่พ้นร้านป้าอมรศรี ร้านอาหารคู่อ่างเก็บน้ำ รสชาติอาหารคุณป้ากลมกล่อมดีนะ ก๋วยเตี๋ยวนี่ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยแหละ นอกจากจะเป็นร้านขายอาหารตามสั่งแล้ว ก็ยังเป็นร้านขายของชำที่มีทุกอย่างจริงๆ ขาดเหลืออะไรก็สามารถซื้อได้ที่นี่เลย

สำหรับการขึ้นน้ำตกโกรกอิดก เปิดให้ขึ้นไปแค่ช่วงหน้าฝน สามารถขึ้นไปนอนในป่า หรือจะเดินไปเช้าเย็นกลับ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องติดต่อล่วงหน้าให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นคนพาพวกเราขึ้นไป อ่อ ลืมบอก!!!!! ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ได้แค่เครือข่ายทรูเท่านั้นเน้อมีบ้างไม่มีบ้างด้วยนะ การติดต่อที่นี่ติดต่อผ่านวอซะส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นการติดต่อหาเจ้าหน้าที่ป้าไม้ อาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อยนะคะ
ค่าใช้จ่าย
ค่าบริการเจ้าหน้าที่อยู่ที่ 500บาท/คน/วัน
ค่ารถไปรับ – ส่ง ที่ปากทางเข้าป่า 800 บาท
เบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้  095-6324449  พี่บัวลอย

พวกเราจะไปนอนในป่า 1 คืน พี่ๆป่าไม้บอกว่า เวลาเหลือเฟือไม่ต้องรีบเข้าไปเหมือนกับพวกที่ไปเช้าเย็นกลับ ใครไปเช้าเย็นกลับต้องเริ่มออกเดินทางแต่เช้าเลยนะ ไปกลับใช้เวลา 8 ชั่วโมง เราสายชิวไม่ชอบรีบร้อน นอนซะเลย ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ บริเวณ ขญ 18 มีธารน้ำใสๆไหลผ่าน นั่งแช่ขา ถ่ายรูปรอเวลาได้เลย

จาก ขญ 18 ต้องนั่งรถเจ้าหน้าที่เข้าไปอีกซักระยะ แค่นั่งรถก็สนุกแล้วอ่ะ ทริปนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ เริ่มก็มันซะแล้ว ใครยังไม่พร้อม ขาดนู้นขาดนี้ อาหารกระป๋องยังไม่มี น้ำพริกยังไม่พร้อม เจ้าหน้าที่จะพาแวะร้านของชำ ด่านสุดท้ายท้ายสุด

ก่อนออกเดินทางไปกับเรา ขอแนะนำ พี่สามารถ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่จะอยู่กับพวกเรานับจากตอนนี้เป็นต้นไป พี่สามารถ ผู้ที่สามารถตามชื่อจริงๆ ทุกอย่างดูชิว และสบายๆสำหรับพี่สามารถมาก ได้เดินป่ากับพี่สามารถ ได้อะไรมากกว่าที่คิด การเอาตัวรอด คติสอนใจ ความอดทน  สุภาพอ่อนโยน แม้กระทั่งตอนคุยยังไม่อยากรบกวนธรรมชาติ เพราะระดับเสียงในการคุย เล่าประสบการณ์ เบากว่าเสียงนกร้องในป่าซะอีก

เจ้าหน้าที่พร้อม เสบียงพร้อม ใจพร้อม กายพร้อม ก็แบกเป้ขึ้นหลังพร้อมลุยพิชิตน้ำตกโกรกอิดกกันเล๊ยยย แค่ทางเริ่มต้นก็เปียกซะล่ะ

สำหรับการเดินป่าครั้งแรก กลัวการเดินไม่ไหวมาก กลัวจะเป็นภาระกับสมาชิกภายในทริป จึงต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี อันดับแรก การเดิน เท้าต้องสำคัญ ไม่มีแรงยังพอพักให้ได้แรง แต่เท้าเจ็บนี่ทุกอย่างจบเลยนะ !!!! ขอยกเครดิตให้กับเพื่อนเกียง จาก Naviatoo ผู้ทีแนะนำทุกอย่างเกี่ยวกับการเดินป่า รองเท้าที่เพื่อนเกียงแนะนำ  คือ รองเท้าสตั๊ดดอย  ไม่ limited แต่หายากกว่ารองเท้า limited ด้วยซ้ำ ต้องไปหาซื้อตามตลาดต่างจังหวัด ราคาหลักสิบแต่คุณภาพนี่หลักหมื่น เดินไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่น เรื่องลื่นไม่ต้องกังวลอย่าไปเหยียบหินที่เป็นตะไคร่เป็นพอ ตลอดการเดินป่าจะต้องผ่านน้ำตลอดเวลา การระบายน้ำสุดยอดมากไม่ต้องกลัวอับชื้นเพราะรองเท้าเป็นยางทั้งคู่

กางเกงเดินป่าก็ได้ร้านแนะนำมาจากเพื่อนเกียงอีกเช่นกัน กางเกงใส่แล้วยืดตามตัว เคลื่อนไหวง่าย และที่สำคัญแห้งไวมาก ไม่เป็นปัญหาสำหรับการลุยน้ำเลย กางเกงเราได้มาจากร้าน OJBackpack กางเกงตัวเดียวใช้ทั้งเดินป่าและเล่นน้ำกันไปเลย

กระเป๋าเป้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กับรองเท้า เลือกกระเป๋าเป้ดีของหนักแค่ไหนก็แบกได้หายห่วง เลือกกระเป๋าที่มีตัวล็อกหลัง และบริเวณสายสะพายให้มีฟองน้ำในการช่วยแชว์น้ำหนักด้วยนะ

เดินกันไปเรื่อยๆ พี่สามารถก็ชี้นู้นชี้นี่ให้เราดู เพลินกันไปเลย

ระหว่างทางเดินเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้ดีทีเดียว

สัตว์ที่พบเห็นบ่อยที่สุดในการเดินป่าครั้งนี้คือเจ้าหนอนบุ้งตัวนี้เลยค่ะ

สิ่งมีชีวิตที่อยู่คู่เส้นทางน้ำตกโกรกอิดก นอกจากบรรดาต้นไม้นานาชนิด ก็ต้องเป็น “เห็ดแชมเปญ” สีสันสดใส มีให้เราเห็นได้ตลอดทาง ลักษณะเหมือนแก้วแชมเปญเลย ดูแต่ตามืออย่าต้องอย่าไปเคลื่อนย้ายธรรมชาติของเค้านะ

เดินไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน เหนื่อยก็พัก เรียกความสดชื่นด้วยน้ำเย็นๆจากธรรมชาติ ล้างหน้ากันหน่อย น้ำใสมากกกกก

ใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงลานกางเต็นท์ของพวกเราแล้วค่ะ แต่วันนี้เราคงขึ้นมาช้าไป มีกลุ่มอื่นมาจับจองที่บริเวณนี้ซะล่ะ ไม่เป็นไร พี่สามารถจัดหาที่ใหม่ให้เราได้อย่างสบายมาก เลือกบริเวณได้แล้วก็รีบกางเต็นท์กันเลยค่ะ

เอาแป้งโรยรอบเต็นท์กันแมลงกันหน่อย

ส่วนที่พักของพี่สามารถ ผูกเปลอยู่ใกล้ๆกับที่เราพักเลยค่ะ คอยดูแลและตรวจตราให้เราตลอด

ประกอบราวตากผ้ากันค่ะ ประกอบไปงั้นแหละ สุดท้ายผ้าที่ตากก็ไม่ได้แห้งเพราะฝนชโลม

กางเต็นท์เสร็จ ท้องก็ร้องพอดี วันนี้ห้องอาหารของเรายิ่งกว่าภัตตาคารอาหาร 5 ดาว เมนูของเราก็ไม่มีอะไรมาก เสริฟข้าวเหนียว พร้อมหมูสวรรค์ จิ้มกับน้ำพริก แค่นี้ก็ฟินระดับเต็ม 10 แล้วค่า วิวดี อาหารก็อร่อยไปโดยอัตโนมัติ

น้ำใสๆดึงดูดให้ทิ้งตัวลงน้ำ อดใจไม่ไหวแล้วค่า เดินมาเหนื่อยๆ ลงเล่นน้ำแล้วความเหนื่อยก็หายไปกับสายน้ำเลย ธรรมชาติเป็นสิ่งฟื้นฟูร่างกายได้ดีจริงๆ


น้ำก็ใสเกินไปนะ

เล่นน้ำกันเพลินจนลืมดูเวลา หนึ่งในสมาชิกบอกให้อาบน้ำกันได้แล้ว จะได้มาทำอาหารเย็นกินกัน รีบกินก่อนที่ฝนจะตก  ห้องอาบน้ำของเราก็ยิ่งกว่าห้องอาบน้ำในโรงแรม 5 ดาวอีกเช่นกัน นี่มันอ่างจากุซซี่กลางแจ้วชัดๆ มีมุมนวดตัวด้วยนะ ผ่อนคลายไปอี๊ก

เวลาดินเนอร์ของเรา พี่สามารถกำลังหุงข้าวให้เราเมื่อข้าวพร้อมแล้ว ก็เตรียมปรุงอาหารกันเลยค่ะ

ผัดปลากระป๋องหน้าตาแม้จะไม่ค่อยน่ากิน แต่มันก็อร่อยสำหรับนั่งกินกันกลางป่านะ

คำพูดของพี่สามารถแม่นอะไรขนาดนี้ กินข้าวเสร็จฝนเทลงมาเทลงมา พี่สามารถกางฟรายชีทไว้รอล่ะหล่ะ ใครจะเปียกแต่กรุ๊ปเราไม่เปียกแน่นอน วันนี้เราเล่นรอบกองไฟกันท่ามกลางสายฝน กิจกรรมรอบกองไฟคงไม่พ้นประสบการณ์ที่เราเคยออกค่ายสมัยยังวัยเยาว์  เพลงรอบกองไฟที่เคยร้องถูกนำกลับมาร้องกันในคืนนี้ เฮ้ยยยยย อารมมันเหมือน 14 อีกครั้ง คิดถึงเหมือนกันนะ นั่งคุยนั่งร้องเพลงกันจนได้เวลาโบกมือลาค่ำคืนนี้แล้วซิ พรุ่งนี้ศึกหนักรอเราอยู่ แล้วเราจะได้พบกัน “น้ำตกโกรกอิดก”

“เช้าวันพิชิตน้ำตกโกรกอิดก”
เสียงนกปลุกให้เราตื่นจากการนอนที่ไม่ค่อยสบายนัก เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกหนัก น้ำซึมเข้าเต็นท์ ให้ความรู้สึกเหมือนนอนเตียงน้ำ ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเติมพลังกับกาแฟร้อนและขนมปังทาเนยถั่ว พร้อมพิชิตน้ำตกโกรกอิดกกันแล้วค่ะ

ระยะเวลาในการเดินไปถึงน้ำตก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่สำหรับพวกเรามันใช้เวลาไปมากกว่านั้น ไม่ใช่ว่าเดินช้านะ แต่ระหว่างทางเดินไปน้ำตกธรรมชาติมันชวนให้เราหยุดเพื่อซึมซับบรรยากาศตลอดทาง  เอาเป็นว่าตัวเปียกน้ำเพราะดำผุดดำว่ายที่น้ำตกที่ไหลตามทางตั้งแต่เดินมา 200 เมตรแรกจนถึงน้ำตกโกรกอิดกเลย





เดินไปเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำ เราพามากินน้ำซับกันค่ะ น้ำซับเป็นน้ำที่ไหลตามซอกหิน สะอาด สามารถทานได้ ความเย็นของน้ำนี่เหมือนเทน้ำจากตู้เย็นเลย

ตอนนี้เราเดินออกมาเจอท้องฟ้าแล้ว เป็นการบอกว่า เราคงจะใกล้ถึงจุดหมายของเราแล้วซินะ ทางก็ชันเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เราขอรวบรวมแรงเฮือกใหญ่เพื่อขึ้นไปถึงน้ำตกด้วยการถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบนยอดเขา มองสลับยอดเนินเขาไป นั่นเราเดินมาไกลขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

เร็วๆเพื่อนๆ เรากำลังจะถึงน้ำตกเป้าหมายของเรากันแล้ว หายใจเข้าลึกๆ อดทนไว้ เราจะได้เป็นผู้พิชิตน้ำตกโกรกอิดกกันแล้วค่ะ

น้ำตกโกรกอิดกอยู่ข้างหน้าเราแล้วค่ะ มันคุ้มกับการเดินขึ้นมาที่นี่มากๆ ความเหนื่อย ความล้ากับการเดิน ตอนนี้มันหายเป็นปลิดทิ้ง ธรรมชาติสร้างมาสวยจริงๆ เพื่อนร่วมเดินทางพูดกับเราว่า “ธรรมชาติต้องใช้เวลา” ใช่เลย อยากใกล้ชิดธรรมชาติมันต้องใช้เวลาในการเดินเพื่อมาหาธรรมชาติ ต้องรอฤดูกาลเพื่อให้ธรรมชาติสวยตามเวลา

ไปดูความยิ่งใหญ่ของ “น้ำตกโกรกอิดก” กันเลยค่ะ

4ผู้พิชิตน้ำตกโกรกอิดก

ถ้ามัวแต่นั่งดูรูปผ่านภาพถ่าย คงไม่ได้สัมผัสละอองน้ำ และกลิ่นสดชื่นของธรรมชาติซินะ ( พี่สามารถบอกว่า นี่น้ำยังไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเยอะทางฝั่งด้านซ้ายจะมีน้ำไหลมาพอๆกับด้านขวาเลย คิดดูมันจะสวยขนาดไหน )

ทานข้าวกลางวันกันบนน้ำตกโกรกอิดกกันเลย ไม่ใช่ข้าวซิ วันนี้เรามี new menu มื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายที่เราจะทานกันในป่า เพราะฉะนั้นอะไรที่เหลืออยู่จับมาผสมกันให้หมด ขอบอกว่ารสชาติเข้ากันมากๆ ขอตั้งชื่อเมนูนี้ว่า มาม่ากรอบ 3 รส ติดใจเมนูนี้จนต้องกลับมาทำกินต่อที่บ้านเลยค่ะ

เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่าย ถึงเวลาต้องโบกมือลาน้ำตกโกรกอิดก ไว้มีโอกาสจะกลับมาใหม่แน่นอน ระยะเวลาช่วงขาลงจะใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว แต่ด้วยความที่ขาอ่อนแรงจากการเดินขึ้นเขา ทำให้เรี่ยวแรงขากลับมีเหลือน้อยนิดเหลือเกิน  และความชันทำให้ต้องระวังมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าเป็นจุดวัดใจเลย ก่อนลงมาถึงเต็นท์ที่พัก ขอแวะเล่นน้ำตกสไลเดอร์เพื่อเป็นการส่งท้าย  ^^

“ โกรกอิดก ” เป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับจิตประทับใจสุดๆ  อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัส จากคนที่ไม่ชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขา แต่วันนี้ได้ลองมา ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลใดๆก็ตาม มันทำให้ความคิดเราเปลี่ยนไปทันที

สุดท้าย
ขอบคุณธรรมชาติ ที่สร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามขนาดนี้มาให้
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ทำให้รู้ว่าเวลาลำบาก เราก็ไม่ทิ้งกัน
ขอบคุณพี่สามารถ ที่คอยดูแลพวกเราอย่างดี ขอบคุณที่ให้ข้อคิดดีดีกับพวกเรา
ขอบคุณใครๆก็ตาม ที่คอยดูแลรักษาธรรมชาติ และไม่คิดที่จะทำลายมัน

-มาเที่ยวธรรมชาติ อย่าเอาความทุกข์ ความเศร้าโศกเสียใจมาทิ้ง แต่จงมา เพื่อมาเอาความสบายใจกลับไป –  พี่สามารถกล่าว

ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก Navigatoo เพื่อนร่วมเดินทางของเรา

กล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพ Fuji xm1 , Gopro black

 

ฝากติดตาม https://www.facebook.com/getalongwell.net/  ด้วยนะคะ ^^

 

แล้วพบกันกับทริปหน้าค่า