ดีพอกันครับ ทั้ง 2 อุทยานแห่งชาติ มีเจ้าหน้าที่ดูแลเยอะ และพยายามจัดการไม่ว่าจะเรื่องขยะ สัตว์เลี้ยง และการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว
รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การเดินชมน้ำตกก็เตรียมเส้นทางไว้ให้แล้ว
แต่จุดนี้น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นน่าจะดีกว่าอยู่บ้างเพราะว่า จุดที่เราเข้าไปพัก หรือเป็นร้านอาหารจะอยู่ระหว่างน้ำตกชั้นที่ 4 กับชั้นที่ 5 (น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น) ทำให้ระยะทางเดินถูกแบ่งครึ่ง ไม่ต้องเดินไล่จากชั้นแรกไปชั้นสุดท้ายให้เหนื่อย
อีกทั้งชั้นที่ 4 ลงไปชั้น 1 นั้นก็เป็นเส้นทางที่เดินสะดวกมาก ๆ ทำทางไว้ให้เดินได้ง่าย ไม่เละเทะ
และชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยงาม และอลังการที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นก็สามารถเดินไปถึงได้ด้วยการเดินเท้าเพียงแค่ 20 - 30 ก้าวจากลานจอดรถเท่านั้น
ส่วนน้ำตกชั้นที่ 5 ถึงชั้นที่ 7 จะต้องเดินไปอีกฝั่งซึ่งเป็นเส้นทางดิน ให้ได้รู้สึกถึงการผจญภัยเล็ก ๆ ทำให้ตรงนี้ดูจะเป็นลักษณะที่ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกได้ดีกว่าน้ำตกเอราวัณครับ
น้ำตกเอราวัณสำหรับการเดินทางนั้น จะเหนื่อยกว่าของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นพอสมควรถ้าจะเดินให้ครบ เพราะเส้นทางตั้งแต่ชั้น 4 ขั้นไปนั้นจะเป็นเส้นทางที่ชัน ต้องขึ้นบันไดบ้าง ปีนป่ายเล็กน้อย หรือเดินลุยน้ำเล็กน้อยครับ
นายแบบในภาพเป็นน้องที่ไปด้วยกัน
จะเห็นว่าเส้นทางเดินของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจากชั้น 4 ไปสู่ชั้นที่ 1 จะทำเส้นทางเดินไว้ดีมากครับ เดินสะดวก
หลังจากที่เดินสำรวจน้ำตกห้วยแม่ขมิั้นชั้น 4 - 1 แล้ว เราก็ไม่ได้ลองไปดูชั้น 5 - 7 ต่อหรอกครับ เพราะเริ่มเย็นมากแล้ว ก็ทำโน้นทำนี้ แล้วก็เข้านอน เพื่อมาพบกับภาพนี้ในตอนเช้า
วิวเหนือเขื่อนศรีนครินทร์
วิวนี้เราลงไปถ่ายใกล้ ๆ ที่ริ่มตลิ่งได้นะครับ มีทางลงไปอยู่ แต่ผมไม่ได้ลงไปสำรวจ ได้แต่เพียงสอบถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งครั้งหน้า ผมจะลงไปแน่นอนครับ