ทีเด็ดเมืองกรุงฯ ครั้งนี้ เราอยากนำเสนอมุมพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะเรียกว่า "มุมหยุดพักก่อนแล้วมาหย่อนใจสักครู่" ก็น่าจะได้เหมือนกัน เพราะที่นี่ถือว่าเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางทางน้ำจุดสำคัญจุดหนึ่งเลยสำหรับคนเมืองกรุงฯ ซึ่งเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรีเข้าด้วยกัน และมุมพักผ่อนสุดชิคริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เราว่านี้ก็คือ "ท่ามหาราช" นั่นเอง

ท่ามหาราช ตั้งอยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์ ริมฝั่งแม่นํ้าเจ้าพระยา บริเวณนี้นับเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวอันอุดมไปด้วยศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ไม่ว่าจะเป็นพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ รวมไปถึงอาคารเก่าแก่บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นอกจากนี้ท่ามหาราชยังเป็นท่าเรือข้ามฟากสำคัญที่เชื่อมเส้นทางกันระหว่างฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรี (ท่าวังหลัง) 

ในอดีต ถนนมหาราช เคยเป็นถนนข้างกำแพงพระราชวังหลวงด้านตะวันตก ตัดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาได้พัฒนาปรับปรุงพื้นที่กลุ่มอาคารพาณิชย์ที่มีอยู่ บางส่วนก็สร้างขึ้นใหม่ และพัฒนาเป็น Open-air Shopping & Lifestyle Market เพื่อให้เข้ากับชีวิตของคนรุ่นใหม่ในเมืองกรุงฯ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ โดยเน้นการสัญจรทางน้ำซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนกรุงในอดีต

การเดินทางมายังท่ามหาราชสามารถเดินทางได้หลากหลายวิธีทั้งรถสาธารณะ เรือ หรือแม้กระทั่งรถส่วนตัวก็สะดวกเพราะมีอาคารจอดรถให้บริการ เนื่องจากที่นี่ออกแบบมาให้เป็น Open-air Shopping & Lifestyle Market ในช่วงกลางวันอากาศจะค่อนข้างร้อนซักหน่อย เราเลยถือโอกาสพาทุกคนแว๊บไปหลบแดดแล้วหาเมนูหวานฉ่ำ เย็นชื่นใจ มาเพิ่มความสดชื่นให้กับช่วงกลางวันอันอบอุ่นมากเป็นพิเศษของประเทศไทยกันดีกว่า เราเริ่มต้นกันที่ร้านกาแฟสุดฮิปส์ อย่าง Favour Cafe' ร้านนี้ดึงดูดเราตั้งแต่แรกเห็นไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งหน้าร้าน รวมไปถึงบรรยากาศภายในร้าน แม้จะเป็นร้านขนาดเล็ก ๆ แต่การตกแต่งด้วยงานไม้แบบดิบ ๆ และงานโลหะ ก็ทำให้ร้านนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ เราเลือกสั่งเมนูที่คิดว่าน่าจะดับร้อนได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ Ice Cube Coffee อเมริกาโน่ที่มาในรูปแบบก้อนน้ำแข็ง เสิร์ฟพร้อมนมสด ที่เราเลือกเติมตามปริมาณที่ตัวเองชอบได้ ในส่วนของเค้ก และขนมหวานก็มีให้เลือกมากมาย เรียกได้ว่าน่าจะตอบโจทย์ทั้งสายเข้ม และสายหวานได้ในร้านเดียว

เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มเข้ม ๆ แล้ว เรามาต่อด้วยเมนูของหวานกันดีกว่าที่ร้าน Gram Cafe ร้านนี้เกิดมาจากความชอบของเจ้าของร้านที่ชอบทาน และลองชิมอาหารเช้าตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตัวเองได้ไปเยือน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม หรือตลาดเช้า จนได้ลองเลือกสรรวัตถุดิบต่าง ๆ และเอามาทำเป็นอาหารสูตรของตัวเอง และเปิดเป็น Cafe เล็ก ๆ ที่มี Concept เสิร์ฟแบบ All Day Breakfast โดยมีเมนูหลากหลาย ทั้ง สปาเกตตี้ เบอร์เกอร์ และแพนเค้ก ซึ่งเราได้ลองชิมแพนเค้กของทางร้านแล้วบอกเลยว่า เนื้อแพนเค้กที่นี่ทั้งนิ่ม ฟู และเด้งมาก ด้านบนมีเนย และรังผึ้งไว้ทานคู่กันด้วย ราดไซรัปเพิ่มซักหน่อยรับรองฟิน แพนเค้กเสิร์ฟมาในกระทะสีดำ มีประมาณ 3 ชิ้น เหมาะสำหรับทาน 1-2 คน

หากใครยังไม่อยากจัดหนัก แต่กำลังมองหา Snack สำหรับนั่งเคี้ยวรับลมชมวิวเพลิน ๆ ขอแนะนำร้าน Bite ที่จริงร้านนี้เค้ามีไก่ทอดเป็นเมนูชูโรง แต่ถ้าจะจัดไก่ทอดตอนนี้อาจไม่เหลือพื้นที่สำหรับมื้อเย็น เราเลยคั่นรายการด้วยเฟรนช์ฟราย ซึ่งทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลายรสชาติทั้งแบบออริจินัล ต้มยำ และสาหร่าย ซึ่งตัวเฟรนช์ฟรายเองก็ชิ้นขนาดกำลังดี ไม่บางไป ไม่หนาไป ทอดมาได้กำลังดี ส่วนเครื่องปรุงที่คลุกเคล้ามาก็ถือว่ารสชาติใช้ได้เลย ไว้มีโอกาสครั้งหน้า จะลองไก่ทอด กับเบอร์เกอร์ดูบ้างดีกว่า

เดินเคี้ยวเฟรนช์ฟรายพลางสอดส่ายสายตาดูร้านรวงต่าง ๆ ไปเพลิน ๆ ก็เหลือบไปเห็นร้านไอศกรีมหน้าตาน่าดึงดูด ชื่อว่า itim Lamoon (ไอติมละมุน) แต่ที่เห็นจะดึงดูดเราได้มากกว่าหน้าตาก็คือ ที่นี่มีไอศกรีมรสยาคูลย์เยลลี่ด้วย จะพลาดได้อย่างไร ว่าแล้วก็จัดมาลองเลยดีกว่า โดยเมนูของทางร้านเราสามารถเลือกออกแบบเองได้ตั้งแต่ ขนมปัง ไอศกรีม ไปจนถึงท็อปปิ้ง ถึงแม้เนื้อสัมผัสของตัวไอศกรีมจะไม่ได้เนียมนุ่มมากถึงขนาดว่าละลายในปาก แต่รสชาติของตัวยาคูลย์เยลลี่ก็เรียกความสดชื่นได้อย่างดีเลยทีเดียว

ตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ ๆ เป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่ร้านรวงต่าง ๆ ทยอยมาเปิดร้านกันมากขึ้น ผู้คนก็เริ่มจะหนาตา ร้านอาหารบางร้านเริ่มต่อคิวกันแล้ว เราเลยขอใช้เวลานี้ เดินชมบรรยากาศ ช็อปปิ้ง และถ่ายรูปชิล ๆ เพื่อรอให้เมนูจากทั้ง 4 ร้านก่อนหน้านี้ได้ย่อยซักหน่อย 

เดินเข้าร้านนู้นที ออกร้านนี้ที เผลอแป๊บเดียวก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว ในส่วนของกระเพาะอาหารเรานั้นก็มีทีท่าว่าจะส่งสัญญาณเตือนในคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับร้านอาหารในโครงการก็มีให้เลือกมากมายหลายร้านทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารนานาชาติ แต่เนื่องจากตัดสินใจยากกว่าจะไปทางไหน เราเลยเลือกแบบกลาง ๆ ผสมผสานกันไป สุดท้ายก็ลงเอยที่ร้าน Easy Ribs & Wings ร้านนี้มีเมนูเด็ดคือ ซี่โครงหมูคุโรบุตะที่หมักซอสสูตรเฉพาะของทางร้านมาแบบชุ่มฉ่ำสุด ๆ ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น ที่สำคัญนุ่มมาก แทบไม่ต้องดึง หรือทึ้งออกจากกระดูกเลย รสชาติก็ถือว่าเข้มข้นถูกปากคนไทย ในเซ็ตสามารถเลือกเครื่องเคียงได้ มีทั้งข้าวเหนียว และข้าวหอมมะลิให้เลือก ราคาก็ไม่สูงมาก สามารถเลือกจำนวนชิ้นได้ เป็นอันจบมื้อเย็นที่สวยงามไปพร้อมกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บอกเลยว่าช่วงเย็นที่ท่ามหาราชเป็นช่วงที่สวยงาม และอยากแนะนำมากที่สุด เมื่อแดดอ่อนลง ก็เริ่มมีลมเย็น ๆ พัดมาเป็นระยะ ๆ อีกทั้งที่บริเวณทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก็พร้อมใจกันเปิดไฟประดับกันอย่างสวยงาม นอกจากจะเป็นช่วงที่น่าผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นช่วงที่โรแมนติกสุดอีกด้วย

สำหรับใครที่อยากหามุมทำงานแบบส่วนตัว สงบ ๆ วิวสวย ๆ ที่นี่ก็มี Private & Co-working Space ให้บริการด้วยเช่นกันครับ 

ก่อนกลับก็ยังไม่วาย ได้กลิ่นหอม ๆ ลอยมาเตะจมูก หันซ้าย หันขวา ก็เจอกับร้าน Hotto Bun ที่เหมือนเป็นปราการด่านสุดท้าย ที่เราถึงกับต้องยอมพ่ายแพ้ ร้านนี้มี Snack มากมาย ทั้งไก่ทอด เบอร์เกอร์ แต่เมนูที่เราอยากลองมาก ๆ คือ เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ซึ่งเราเลือกสั่งเป็น Chicken Bun แต่บอกก่อนว่าทานตอนนี้ไม่ไหวจริง ๆ ครับ เลยสั่งใส่กล่องกลับบ้านแทน ส่วนรสชาติทางเราให้เต็มสิบไปเลย ขนาดไม่ได้ทานตอนร้อน ๆ นะ ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน ขนมปังก็นุ่มเด้ง ซอสก็กลมกล่อม ทานรวมกันแล้วเข้ากันมาก ๆ ไม่มีอะไรจะติครับ ให้สามผ่าน ร้านนี้ต้องไปลองให้ได้นะ 

หากเหนื่อยกับการทำงาน หรืออยากหาจุดพักกายจากการเดินทางในช่วงเวลาที่การจราจรทุกทางหนาแน่น หรือเบื่อกับวันหยุดแบบเดิม ๆ ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินห้างสรรพสินค้า มาปล่อยเวลาให้เดินช้า ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปลี่ยนการนั่งชมวิวรถติดจากตึกสูง มาเป็นการนั่งชมเรือน้อยใหญ่แล่นไปมา พร้อมซึมซาบบรรยากาศเก่า ๆ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และประวัติศาสตร์ เช่นที่นี่ "ท่ามหาราช" 

ที่อยู่ : 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

GPS : 13.754794, 100.489197

เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 - 22:00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 02 024 1393

Facebook : https://web.facebook.com/ThaMaharaj

Website : http://www.thamaharaj.com

ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม

ที่จอดรถ : มีที่จอดรถให้บริการ ค่าจอดชั่วโมงละ 40 บาท สามารถนำบิล 400 บาท มาแสตมป์ที่จอดรถได้ โดย 2 ชั่วโมงแรก เหลือชั่วโมงละ 20 บาท หลังจากนั้นราคาปกติ

เรือด่วนเจ้าพระยา
ธงเขียว ส้ม แดง เหลือง มาลงท่าพรานนก/วังหลัง (N10) แล้วนั่งเรือข้ามฟากจากท่าวังหลัง มาท่าวัดมหาธาตุ หรือเรือด่วนเจ้าพระยา ธงเขียว หรือส้ม ลงที่ท่าช้าง (N9) แล้วเดินมาท่ามหาราช หรือนั่ง Chao Praya Tourist Boat (CTB) ธงฟ้า มาลงท่ามหาราช 

รถไฟฟ้า
BTS ลงที่สถานีตากสิน (S6) ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือสาทร (ธงแดง เหลือง เขียว ส้ม) ลงท่าพรานนก/วังหลัง (N10) หรือ ท่าช้าง (N9) และ เรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา (CTB) มาลงท่ามหาราช

รถโดยสารประจำทาง
ลงหน้าท่ามหาราช สาย 32, 53, 124, 203, 201, ปอ.32, ปอ.524