เมื่อลมหนาวแห่งฤดูกาลเริ่มพัดผ่าน ก็ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ถึงเวลาเก็บกระเป๋าสะพายกล้องไปเที่ยวท่องทุ่งบัวตองกันซะที และจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ซึ่งใครๆ ต่างก็ขนานนามให้เป็นดินแดนแห่ง “ทุ่งบัวตอง” เพราะ ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ บนยอดดอยจะถูกระบายไปด้วยสีเหลืองอร่ามของดอกบัวตองที่แข่งกันชูช่ออวดดอก บานสะพรั่ง แถมยังถือว่าเป็นทุ่งบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแบบนี้ อย่ารีรอกันอยู่เลย กระโดดขึ้นรถไปกันเลยดีกว่า

ถ้าจะบอกว่า “เทศกาลดอกบัวตองบาน” เป็นงานใหญ่ประจำปีของจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ใครๆ ต่างก็อยากแห่แหนกันมาชมความงามของดอกบัวตองกันทั้งนั้น เหมือนกันกับเราที่ตั้งตานับวันรอดอกบัวตองบาน จนต้องรีบขับรถผ่านโค้งนับพันเพื่อให้สองเท้าเหยียบย่าง ณ ถิ่นบัวตองให้จงได้ ยังไม่ทันจะถึงจุดหมายปลายทางดี ยอดดอยสีเหลืองๆ ก็เริ่มปรากฏให้เห็นตรงหน้า อีกแค่อึดใจเดียวเราก็จะได้เริงร่ากลางทุ่งบัวตองกันแล้ว ขณะที่กำลังค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปบนยอดดอย เรามาทำความรู้จักกับดอกบัวตองกันซะหน่อยดีกว่า

เจ้าดอกเหลืองๆ ที่เราเรียกกันว่า “ดอกบัวตอง” นี้ จัดว่าเป็นญาติกับดอกทานตะวัน เพราะชื่อสามัญของมันก็คือ “Mexican Sunflower” มีถิ่นกำเนิดไกลถึงทวีปแถบอเมริกากลาง อย่างประเทศเม็กซิโก จะออกดอกได้ดีบนความสูงระดับ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนสาเหตุที่ดอกบัวตองต้องระหกระเหินพลัดถิ่นมาอยู่บนยอดดอยนี้ก็ยังไม่มี ใครยืนยันได้แน่ชัด แต่เคยได้ยินมาว่า อาจเป็นเพราะกลุ่มมิชันนารีที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนานำติดมาด้วย แถมยังบอกว่า ดอกบัวตองที่มี 13 กลีบ ก็เปรียบได้กับพระเยซูและสาวกเอกทั้ง 12 คน ซึ่งเชื่อกันว่าศาสนาจะเบ่งบานดังเช่นดอกบัวตอง แต่ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่มีใครเคยยืนยันว่าเรื่องที่ว่ามานี้จริงหรือ ไม่แต่อย่างใด ที่แน่ๆ ความสวยงามของทุ่งบัวตองนี้ทำเอาหลายๆ คนทึ่งจนเกือบลืมหายใจกันมานักต่อนักแล้ว

พอรถจอด เราก็รีบจับกล้องให้มั่นแล้วเดินเข้าสู่ดงดอกบัวตองทันที จากทุ่งสีเหลืองที่เห็นอยู่ไกลๆ ตอนนี้ต้นดอกบัวตองสูงชะลูดท่วมหัวเป็นแนวยาวเหมือนกำแพงไม่มีผิด เดินๆ หยุดๆ ถ่ายรูปกันอยู่นานกว่าเราจะมาถึงบนยอดดอย จุดชมวิวที่สูงที่สุดในบริเวณนี้ ซึ่งเราจะได้รับลมเย็นๆ ไปพร้อมกับวิวเทือกเขาที่ไกลสุดลูกหูลูกตา แถมด้านล่างยังเหลืองอร่ามไปด้วยดอกบัวตองนับล้าน ถ้าใครได้มาเห็นด้วยตามตัวเองแล้วล่ะก็ จะรู้ว่ามันอิ่มเอมใจแค่ไหน นอกจากจุดชมวิวบนยอดดอยแล้ว ที่อีกฟากถนนด้านล่างยังมีจุดชมวิวอีกจุดที่เราจะได้เห็นทะเลดอกบัวตองให้ อีกมุม ถ้ายืนถ่ายรูปจากจุดนี้เราจะได้ภูเขาสีเหลืองๆ ทั้งลูกเป็นฉากหลังไปเลยเต็มๆ พอถ่ายรูปจนหน่ำใจกันแล้ว ก่อนกลับอย่าลืมแวะรับประกาศนียบัตรสำหรับผู้พิชิตดอยแม่อูคอที่หน้ากอง อำนวยการกันด้วย จะได้เก็บกลับไปอวดใครต่อใครว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยได้มาเยือนถึงถิ่นบัวตองแล้ว

แต่สำหรับใครที่คิดว่าแค่แวะเวียนมาเที่ยวเดี๋ยวเดียวคงยังไม่จุใจ อยากจะนอนค้างท่ามกลางดอกไม้ก็ลองติดต่อสอบถามกับหน่วยทำการบนทุ่งบัวตองได้ เลย เค้ามีให้บริการเช่าเต้นท์พร้อมเครื่องนอนเรียบร้อย หนาวนี้อย่าพลาดโอกาส รีบไปชวนเพื่อน แพ็คกระเป๋าไปลั้นลากันได้แล้ว

- ดอกบัวตองจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคมก็จะเริ่มโรย

- เส้นทางขึ้นสู่ดอยแม่อูคอ มีความคดเคี้ยวและลาดชัน ควรใช้เกียร์ต่ำ และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

- ใครอยากได้ประกาศนียบัตรผู้พิชิตดอยแม่อูคอ สามารถติดต่อขอรับได้ที่กองอำนวยการ ณ จุดชมวิว โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียง 20 บาทเท่านั้น

- ใครอยากกางเต้นท์บนดอยแม่อูคอ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่หน่วยทำการบนทุ่งบัวตอง โทร. 0 5369 1108

ที่อยู่ : หมู่ที่ 6 ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

GPS : 18.895058, 98.089878

เบอร์ติดต่อ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน 0 532 0692, 0 5361 1808

ค่าธรรมเนียม : ไม่มีค่าธรรมเนียม

ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม ของทุกปี

ไฮไลท์ : ทุ่งดอกบัวตองที่บานสะพรั่ง เหลืออร่ามไปทั่วทั้งดอย

กิจกรรม : ชมความสวยงามของทุ่งดอกบัวตอง / ตื่นเช้ามาสูดอากาศเย็นๆ และชมพระอาทิตย์ขึ้น และชื่นชมสายหมอก

จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งหน้าสู่อำเภอขุนยวมโดยทางหลวงหมายเลข 108 เป็นระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1263 และขับรถขึ้นเขาไปตามทางอีกประมาณ 26 กิโลเมตร จะถึงทุ่งดอกบัวตอง