“กาญจนบุรี” จัดว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแบบ หลากหลายแนวให้เราได้เลือกค้นหา ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัดวาอาราม เป็นต้น และครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่ “ถ้ำละว้า” หนึ่งในถ้ำหินงอกหินย้อยที่มีความงดงามน่าทึ่งของไทย
หลายคนอาจจะนึกสงสัยว่า ถ้ำละว้าแห่งนี้มีอะไรดี ทำไมเราจะต้องมาชวนเที่ยวถ้ำ ทั้งๆ ที่เมืองกาญจน์ยังมีทั้งน้ำตก ป่าเขา และธรรมชาติสวยๆ อีกมาก ถ้าบอกว่า ถ้ำละว้าเป็นถ้ำแรกๆ ที่ถูกค้นพบของกาญจนบุรีโดยนายผิน ดอกเข็ม เมื่อราวๆ ปีพ.ศ. 2496 หรือเมื่อเกือบ 60 ปีมาแล้ว แถมตอนค้นพบยังพบพร้อมกับโครงกระดูกมนุษย์โบราณอีกด้วย จึงทำให้สันนิษฐานได้ว่าที่แห่งนี้อาจจะเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็เป็นได้ นอกจากนี้ด้วยที่ตั้งของถ้ำละว้าที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคซึ่งห่างจากอำเภอเมืองไม่มากนัก การเดินทางมาท่องเที่ยวถ้ำละว้าจึงถือว่าสะดวกมากพอควรเลยทีเดียว
เมื่อเรามาถึงบริเวณด้านหน้า จอดรถพร้อมชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้วก็เตรียมพร้อมตะลุยถ้ำกันเลย เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติถ้ำละว้าเป็นบันไดทอดตัวยาวขึ้นไปสู่บริเวณทางเข้าถ้ำ เดินกันเรื่อยๆ พอได้หอบกันเล็กๆ เราก็มาถึงปากทางเข้าขนาดเกือบพอดีตัว เราหยุดพักเหนื่อยและเตรียมตัวกันนิดหน่อยค่อยเริ่มสำรวจถ้ำละว้า เส้นทางเดินชมภายในถ้ำถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ตลอดทางเดินมีไฟเปิดให้ความสว่างตลอดทาง ภายในถ้ำแบ่งออกเป็นห้องๆ รวมทั้งหมด 5 ห้อง แต่ละห้องใหญ่โตกว้างขวาง ระยะทางจากปากถ้ำไปถึงห้องสุดท้ายประมาณ 450 เมตร ด้วยเส้นทางเดินเป็นเส้นตรงมีทางเข้าออกทางเดียว เราจึงค่อยๆ เดินชมความงามไปเรื่อยจนถึงห้องสุดท้าย แล้วค่อยเดินย้อนชมความงามโดยละเอียดอีกทีตอนขากลับออกมา ไล่เรียงกันตั้งแต่ห้องแรก “ห้องหนุมาน” “ห้องจระเข้” ที่มีหินย้อยขนาดใหญ่คล้ายจระเข้เกาะอยู่บนเพดาน“ห้องดนตรี” “ห้องค้างคาว” ห้องโถงขนาดกว้างมากและมีค้างคาวอาศัยอยู่ในบริเวณนี้นับพันตัว และ “ห้องม่านบรรทม” เป็นห้องสุดท้ายซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของถ้ำ มีลักษณะเด่นเป็นหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายม่านในห้องนอน รวมถึงภาพของสายน้ำที่กำลังไหลลงมาตามซอกหิน เมื่อต้องแสงจึงดูเหมือนหินงอกเหล่านี้มีประกายระยิบระยับราวกับเพชรอย่างไรอย่างนั้น นอกจากนี้ภายในส่วนต่างๆ ของถ้ำละว้ายังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น“ทำนบน้ำหินปูน” ที่เกิดจากตะกอนหินปูนที่ไหลปนมากับน้ำแล้วมาพอกพูนกันจนกลายเป็นทบนบน้ำ “น้ำตกหินปูน” ลักษณะของน้ำที่ไหลมาตามผนังถ้ำจนเกิดการสะสมของหินปูนเคลือบผนังถ้ำ จนดูคล้ายกันน้ำตกนั่นเอง
ตลอดการเดินชมภายในถ้ำละว้าด้วยเวลากว่า 1 ชั่วโมง เราอดที่จะตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นในแต่ละห้องไม่ได้ เพราะความงดงามที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาตามธรรมชาตินั้น ยากที่เราจะคาดเดาได้ ทั้งหินงอก หินย้อย ที่ค่อยๆ สะสมตัวผ่านกาลเวลาทำให้รูปร่างหน้าตาของหินแต่ละก้อนค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย และเกิดเป็นรูปทรงต่างๆ ตามแต่ใครจะจินตนาการ ถึงแม้ว่าอากาศภายในถ้ำจะค่อนข้างร้อนและอบอ้าว แต่เมื่อเดินไปซักพักร่างกายเราก็จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมภายในได้ไม่ยาก แต่เมื่อเรากลับออกมาที่ด้านนอกอีกครั้ง สัมผัสแรกที่เรารู้สึกก็คือ อากาศภายนอกถ้ำนั้นช่างสดชื่นเสียนี่กระไร จะเราอดที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ หลายๆ ครั้งไม่ได้ก่อนกลับเข้าที่พัก แล้วภาพความสวยงามภายในถ้ำละว้าก็ถูกบันทึกไว้เป็นอีกหนึ่งในความทรงจำที่ประทับใจของทริปการเดินทางสู่จังหวัดกาญจนบุรีของเราในครั้งนี้
- อากาศภายในถ้ำค่อนข้างร้อน นักท่องเที่ยวควรสำรวจความพร้อมของร่างกายก่อนเข้าชม
- ควรเตรียมไฟฉายสำรองติดตัวไปด้วย เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน
- การเดินชมภายในถ้ำ ไม่ควรเดินออกนอกเส้นทาง ควรเดินตามเส้นทางที่จัดเตรียมไว้เท่านั้น
- ไม่ควรจับ สัมผัสหินงอก หินย้อยโดยตรง และไม่ควรหักทำลาย หรือขีดเขียนผนังถ้ำด้วย
- ภายในถ้ำมีสัตว์อาศัยอยู่ เช่น ค้างคาว จิ้งหรีดถ้ำ แมงป่อง นักท่องเที่ยวควรช่วยกันอนุรักษ์และไม่ไปรบกวนสัตว์เหล่านี้
ที่อยู่ : อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
GPS : 14.299777, 98.982893
เวลาทำการ : 8.00-16.30 น.
ค่าธรรมเนียม :
- คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก นักศึกษา 20 บาท
- ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- รถจักรยานยนต์ 20 บาท
- รถยนต์ 30 บาท
ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี
ไฮไลท์ : ถ้ำหินงอกหินย้อย ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละห้องก็มีจุดเด่นและความสวยงามแตกต่างกันออกไป
กิจกรรม : เดินเที่ยวชมถ่ายภาพหินงอกหินย้อยภายในถ้ำละว้า
จากอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี มาตามทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งหน้าสู่อำเภอไทรโยคและผ่านน้ำตกไทรโยคน้อยไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปถ้ำละว้า ขับตามไปป้ายจะถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม
