ประเพณีเจี๊ยะฉ่าย วัฒนธรรมภูเก็ต ลูกผสมจีนฮกเกี้ยน
หากเอ่ยถึงเกาะภูเก็ตหลายคนมักมองว่าเป็นเมืองแห่งมายา บ้างก็ว่าสวรรค์เมืองใต้ของนักท่องเที่ยว หากภูเก็ตเปรียบดั่งเมืองมายาแล้ว นักแสดงหลักหรือตัวเอกของเรื่องที่สามารถเรียกเรตติ้งคนดูตลอดทั้งปีคงหนีไม่พ้นท้องทะเลอันงดงาม และชายหาดอันเลอค่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูเก็ต เว้นเสียแต่ปลายปีช่วงเดือนตุลาคมเท่านั้นที่ประเพณี “เจี๊ยะฉ่าย” หมุนเวียนกำหนดครบวาระมาขโมยซีน ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวหลั่งไหลมารวมตัวกันใจกลางเมืองไว้ได้อย่างอยู่หมัด ปล่อยให้พระเอกของเมืองต้องเหงาหงอยไปโดยปริยาย
แน่นอนที่สุดว่าตัวเมืองภูเก็ตและถนนสายสำคัญในช่วงเทศกาลเจี๊ยะฉ่ายต้องเกลื่อนกลาดไปด้วยประทัดแดงฉาน บ้านเรือนตลอดทั้งสองฟากฝั่งถนนประดับประดาไปด้วยธงสีเหลืองสีแดงสะบัดพลิ้วปลิวไสวอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ผู้ถือศีลกินผักในชุดขาวห่มขาวบริสุทธิ์อย่างกลมกลืน เจี๊ยะฉ่าย เป็นคำพูดที่ชาวภูเก็ตเชื้อสายจีนส่วนใหญ่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี ซึ่งมีความหมายว่า “กินผัก” จึงกลายเป็นชื่อเรียกประเพณีกินเจของคนเชื้อสายจีนในภูเก็ตไปโดยดุษณี
ประเพณีถือศีลกินผักมีตำนานเล่าขานกันมาว่า พระยาถลางได้เข้ามาตั้งเมืองภูเก็ตที่ “หมู่บ้านเก็ตโฮ่” อันอุดมไปด้วยเหมืองและแร่ดีบุกพร้อมด้วยคนงานชาวจีน ซึ่งดีบุกเป็นแร่ที่กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลกต้องการ ต่อมามีคณะงิ้วหรือเปะหยี่หี่จากเมืองจีนมาเปิดทำการแสดง ครั้นชาวคณะหลายคนล้มป่วยลงทำให้นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาไม่ได้ประกอบพิธีกินผักซึ่งเคยปฏิบัติกันมาประจำทุกปี จึงตกลงใจกันประกอบพิธีกินผักกันที่โรงงิ้วเพื่อบูชา “กิ้วอ๋องไต่เต่” (องค์เก้าราชัน) เพื่อขอขมาโทษต่างๆ ต่อมาโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นทั้งหลายก็หายไปหมดสิ้นส่งผลให้ชาวบ้านเกิดความประหลาดใจจนเกิดเป็นความเลื่อมใสศรัทธา นับแต่นั้นมาชาวบ้านเก็ตโฮ่ (กะทู้) จึงประกอบพิธีกินผักขึ้นในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำเดือน 9 ตามปฎิทินจีนเป็นเวลา 9 วัน 9 คืนสืบต่อกันมานับร้อยกว่าปีจนถึงปัจจุบัน
มาปีนี้งานเฉลิมฉลององค์เก้าราชันของภูเก็ตหมุนมาบรรจบอีกหน เราเลยถือโอกาสถ่ายทอดบรรยากาศจากประสบการณ์ท่องเที่ยวโดยตรง ผ่านทางภาพถ่ายและตัวอักษร โดยการพาไปแนะนำศาลเจ้าขนาดใหญ่ในตัวเมืองภูเก็ต 2 แห่งด้วยกันเริ่มกันที่ “ศาลเจ้าจุ๊ยตุ่ย” ศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด ตั้งอยู่กลางเมืองในซอยภูธร ปัจจุบันศาลเจ้าจุ๊ยตุ่ยได้รับการปรับปรุงและพัฒนาจนเป็นศาลเจ้าที่สวยงามแห่งหนึ่งของชาวภูเก็ต ไม่เฉพาะช่วงเทศกาลกินผักเท่านั้นที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คน เพราะปกติก็มีทั้งชาวไทยและต่างชาติไม่น้อยที่เคารพศรัทธาหมุนเวียนกันมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพร บ้างก็พากันมาแก้บนสะเดาะเคราะห์ และมีให้เห็นไม่น้อยที่มาเที่ยวชมและเก็บภาพความสวยงามของสถานที่กลับไป
ศาลเจ้าต่อมาตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนักคือ “ศาลเจ้าบางเหนียว” หรือศาลเจ้ามูลนิธิเทพราศี เป็นศาลเจ้าที่มีผู้คนศรัทธาและให้ความเคาพบูชากันมากอีกแห่งหนึ่งในตัวเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนในภูเก็ต ในแต่ละปีเมื่อถึงเทศกาลกินผักทางศาลเจ้าจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ ทั้งยังมีพิธีการสำคัญๆ ให้ผู้ถือศีลกินผักได้ประกอบพิธีกรรมกันแทบทุกวันก็ว่าได้