จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ มันเป็นช่วงวันหยุดยาวครับ 30 ก.ค. - 2 ส.ค. 2558 และผมอยากไปที่ใหนสักที่ ที่มันไกลๆ อากาศดีๆ วิวสวยๆ แล้วผมก็นึกได้ว่ามีอยู่ที่หนึงที่ผมได้ยินบ่อยจนชินหูคือ "ดอยอ่างขาง" จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเมื่อวันหยุดมาถึงผมก็เริ่มเก็บของครับ

ผมเดินทางจากจังหวัดกำแพงเพชร ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 29 ก.ค. ครับ แวะหาเพื่อนๆที่ทำงานอยู่ที่นั่นและพักโรงแรมชาโต แถวๆคลองชล ครับ ราคาไม่แพงมาก 650 บาท/คืน และตั้งใจจะเดินทางไปอ่างขางในวันรุ่งขึ้น

จากนั้นผมออกเดินทางจากที่พัก เวลา 09.00 น. มุ่งสู่ดอยอ่างขางครับ ใช้เส้นทางแม่ริม แม่แตง ครับ ขับตรงอย่างเดียวเลยครับ จากนั้นก่อนที่จะไป อ.ฝาง จะถึงแยกไปบ้านอรุโณทัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ครับ ผมขับไม่เร็วมากครับประมาณ 100 กม./ชม รวมเวลาแวะเติมน้ำมันและจิบกาแฟด้วยนะครับ และเหตุผลที่ผมเลือกเส้นทางนี้ ได้ยินว่าเส้นทางนี้ทางไม่โหดมาก เพราะรถผมเป็นรถเก๋งขนาดเล็ก เครื่อง 1,500 ซีซี และโหลดต่ำ 

จากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ ชมวิวทิวทัศน์ หมู่บ้าน นา ไร่ ข้างทางครับ จนถึงแยกบ้านอรุโณทัย ครับ มีทหารอยู่ตรงแยกตลอดและสอบถามนักเดินทางว่าไปใหนยังไง มีการแนะนำเส้นทางด้วยครับ จากแยกนี้ก็ไปอีก 50 กม. โดยประมาณครับ

จากนั้นผมก็ขับมาเรื่อยๆครับ เส้นทางไม่ซับซ้อนมาก ทางไม่ชันมากครับ แต่ก็ต้องระมัดระวัง ใช้เวลาเกือบๆ 1 ชัวโมงครับ ถึงสถานีเกษตรดอยอ่างขาง 

จากนั้นมาถึงสถานีเกษตรดอยอ่างขางครับ มีค่าธรรมเนียมใหนการเข้าชม 100 บาทครับ จากนั้นผมรู้สึกหิวมาก เพราะไม่ได้ทานอะไรมาจากเชียงใหม่เลย ก็แวะที่สหกรณ์สถานีเกษตรครับ มีอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ ของที่ระลึก อยากบอกว่า อาหารอร่อยมากครับ ผัดผักนี่ต้องไปลองครับผม

จากนั้นกินอิ่มผมก็ขับวนแวะถ่ายรูปสวนดอกไม้ แปลงเพาะชำ แปลงบ๊วยในตำนาน จากภาพยนต์เรื่อง The Letter และTimeline ครับ ความชอบพิเศษ 

หลังจากที่เดินเล่น ถ่ายรูปชิวๆเสร็จ เวลาประมาณ 17.00 น. ผมก็ไปยังที่พักครับ ซึ่งผมได้โทรจองไว้ครับ 800 บาท/คืน ชื่อบ้านณิชารีย์ เป็นรีสอร์ทเล็กๆ น่าอยู่มากครับ มีวิวสวยๆ ให้ชมจากหน้าบ้านเลยครับ ตั้งอยู่บ้านขอบด้ง กว้างมากๆครับ ผมไปคนเดียว นอนคนเดียว รู้สึกเหงาเลยครับเจอที่พักแบบนี้ 

ผมพักที่นี่หนึ่งคืนครับ จากนั้นช่วงเช้า ประมาณ 9.00 น. ผมออกไปที่ไร่ชาแปลง 2,000 อยากบอกว่าเป็นไร่ชาที่สวยมากครับ บรรยากาศดีมากครับ แต่วันที่ผมไปหมอกลงเยอะมากไปหน่อย เพราะมีฝนตกพร่ำๆ ตลอดเวลา

พอใกล้ๆเที่ยงครับ หมอกเริ่มจางลง ก็พบว่ายิ่งสวยไปอีก อยากบอกว่าอากาศดีมากๆครับ สูดอากาศเข้าให้เต็บปอดเลย

ผมใช้เวลาที่ไร่ชานานมากครับ ไม่อยากกลับเลย อยากจะนอนที่นั้นเลยครับ แต่ผมก็ต้องตัดใจเพราะว่าต้องเผื่อเวลาเดินทางกลับครับ จากนั้นผมก็ออกจากไร่ชา กลับมาที่สถานีเกษตรอีกรอบ โดยใช้เส้นทางลัดทางบ้านขอบด้ง มาเก็บภาพต้นบ๊วยในตำนาน และจิ๊บกาแฟสักแก้ว

จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. ผมก็ต้องตัดใจเดินทางกลับ ทั้งๆที่ไม่อยากกลับเลย อยากนอนต่ออีกสักคืน และแวะถ่ายรูปข้างทางนิดหน่อยครับ

หลังจากกลับมาจากดอยอ่างขาง ผมก็กลับมาพักที่เดิมครับโรงแรมชาโต แถวๆคลองชล ในตัวเมืองเชียงใหม่ 1 คืนครับ แล้วผมก็รู้สึกว่าอยากไปเที่ยวต่ออีกสักที่ วันที่ 1 ส.ค. ผมตัดสินใจเดินทางไปต่อที่ม่อนแจ่มครับ ผมออกจากที่พักประมาณ 10.00 น. ครับ ถึงม่อนแจ่มก็เที่ยงๆ เดินเล่นชิวๆ ถ่ายรูปครับ อากาศดีมากครับ แต่นักท่องเที่ยวค่อยข้างเยอะครับ ในวันที่ผมไป

จากนั้นบ่ายๆ ประมาณ 13.00 น. ผมก็ลงจากม่อนแจ่ม พักทานข้าวที่ร้านม่อนม่วนครับ อร่อยมากครับ บรรยากาศดี และที่นี่เคยใช้เป็นกองถ่ายละครเรื่องธรณีนีนี้ใครครองด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิด ณเดชกับญาญ่า แสดง

จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. ผมก็เดินทางกลับ มายังตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ลืมแวะถนนนิมมานและในเมืองเชียงใหม่ เพื่อแวะชิมไอศครีม ร้าน iberry ,ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นิมมาน,กาแฟร้าน yellow mango และเดินซื้อของที่บ้านข้างวัด ตามประสาครับวจากนั้นเทียวจนเย็น กลับที่พักและพักที่โรงแรมชาโต อีก 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็เดินทางกลับจังหวัดกำแพงเพชรครับ 

"ขอบคุณพื้นที่เล็กๆที่ให้ผมได้มีโอกาสมาเล่าประสบการณ์การเดินทางอันเล็กน้อยของผม และทริปนี้ผมมีความสุขมาก แต่ไปคนเดียวเหงาไปหน่อย คราวหน้ามีโอกาสจะไปอีกแน่นอนครับ"