สวนยาหลวง@บ้านสันเจริญ อ.ท่าวังผา จ.น่าน
ในภาวะปัจจุบัน ที่หลายคนเริ่มเบื่อหน่ายกับสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ต้องไปเผชิญกับนักท่องเที่ยวเยอะๆ ทำให้ต้องเสาะแสวงหาที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย
ผมเองได้ยินชื่อ “สวนยาหลวง” และเห็นรีวิวเกี่ยวกับที่นี่มาสักพักแล้ว และตั้งใจว่าจะหาเวลาไป แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสได้ไปซักที เพราะยังติดขัดปัญหาหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องเวลา และโดยเฉพาะที่สำคัญยิ่งคือค่าใช้จ่าย ซึ่งปกติแล้วผมมักจะชอบไปไหนมาไหนกันสองคนกับแฟน แต่สำหรับทริปนี้ ถ้าไปกันแค่สองคนค่าใช้จ่ายก็เอาเรื่องอยู่ ดูแล้วไม่คุ้มค่า จึงจำเป็นจะต้องหาเพื่อนร่วมทริป เพื่อไปหารค่าใช้จ่ายกัน
เวลาก็ล่วงเลยไปจนกระทั่ง ผมหาสมาชิกมาร่วมทริปฯ ได้เพิ่มเติม รวมเป็น 6 คน ซึ่งก็เป็นน้องๆ ที่รู้จักกันนี่แหล่ะครับ ประจวบเหมาะกับมีวันหยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา (8 -10 ก.ค.60) พอดี จึงได้เวลาอันเหมาะสมที่เราจะไป “สวนยาหลวง” กัน
หมายเหตุ : การเดินทางกลุ่มเรา ใช้รถยนต์ส่วนตัว (ล้อหมุนจากบางนา ช่วง 5 ทุ่ม – ถึงน่าน ประมาณสายๆ ของวันรุ่งขึ้น )
ดอยสวนยาหลวง ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ.สันเจริญ อ.ท่าวังผา จ.น่าน
- พื้นที่นี้ในอดีต เคยเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวเขาเผ่าเมี่ยน หรือ เย้า ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน ไปแล้ว
- การเดินทางจากตัวเมืองน่านมายังหมู่บ้านสันเจริญฯ รถทุกชนิดมาได้แบบสบายๆ ระยะทางจากตัวเมืองน่าน – บ.สันเจริญฯ ประมาณ 77 กม. ใครที่วางแผนจะมาเที่ยว สวนยาหลวง สามารถแวะเที่ยวในตัวเมืองน่าน ช่วงเช้าๆ ก่อน และเข้าพื้นที่ บ.สันเจริญฯ ตอนบ่ายๆ เหมือนกลุ่มผมก็ได้ครับ
วัดศรีพันต้น อ.เมือง จ.น่าน
วัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน
ซุ้มต้นลีลาวดี พิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน
เมื่อมาถึงบ้านสันเจริญฯ แล้ว การเดินทางจากหมู่บ้าน เพื่อขึ้นไปบนสวนยาหลวงนั้น จะต้องใช้รถ แบบ 4 X 4 เท่านั้น เพราะเส้นทางมีความชันและลื่น ถ้าให้ดีควรใช้บริการรถเจ้าถิ่น ซึ่งมีความชำนาญพื้นที่มากกว่า
- ก่อนขึ้นดอยฯ จะมีร้านกาแฟเล็กๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยียนสวนยาหลวง ผลิตภัณฑ์ของร้านก็ใช้วัตถุดิบในพื้นที่นี่แหล่ะครับ คอกาแฟไม่ควรพลาด
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่อุทยานแห่งชาติฯ การบริหารจัดการพื้นที่ ดำเนินไปในแบบวิถีชุมชน การท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง จะมีบริการรถจ้างเหมาพาขึ้นดอย และมีโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน-ค่าจ้างเหมารถ (กระบะ 4 X 4) ราคา 2,000 บาท/คัน
-ที่พัก + อาหาร 2 มื้อ (เย็น – เช้า) ราคา 300 บาท/คน
รายละเอียดสอบถามโดยตรงกับ พี่กริช เบอร์โทร 086-3907737
หมายเหตุ : พี่กริช เป็นผู้ดูแล/ประสานงานกับนักท่องเที่ยว และเป็นเจ้าของร้านกาแฟฯ มีอะไรสงสัยสอบถามข้อมูลกับแกได้เลยครับ
ใครมาที่นี่ ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ต้องไปลองนอนค้างกับโฮมสเตย์ บนไร่กาแฟ จะได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตติดดินที่ไร้ซึ่งไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวก ได้กินอาหารแบบบ้านๆ
ที่เจ้าถิ่นทำมาต้อนรับ
สำหรับสายลุย อยากอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องไปลองกางเต็นท์นอนบนยอดดอยสวนยาหลวง
แต่ว่าจะไม่สะดวกเรื่องการเข้าห้องน้ำ ต้องหาพื้นที่ทำธุระส่วนตัวเอาเองในภูมิประเทศ
ความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ ขอบอกว่าต้องสุดแล้วแต่ดวงจริงๆ เพราะสภาพอากาศบางช่วง
ก็จะมีหมอกลอยขาวฟุ้งจนมองอะไรแทบไม่เห็น แต่บางครั้งฟ้าก็เปิดให้ได้เห็นทะเลหมอกสลับกับเนินเขาและทิวหญ้า
วันแรก ไปถึง ตอนบ่าย ฟ้าเปิด พอมีหมอกให้เราได้เห็นบ้าง
วันที่สอง เจอฝนถล่มทั้งคืน ถนนเละ ถึงขั้นต้องพันโซ่ล้อรถ ก่อนขึ้นไปยังจุดชมวิว
สภาพอากาศเปิดเป็นบางช่วง แต่บนยอดดอยอากาศปิด หมอกฟุ้งขาวโพลน มองไม่เห็นอะไรเลย
นี่แหล่ะครับที่เค้าบอกกันว่า มาที่นี่ ต้องพกดวงมาด้วย
เตือนไว้ก่อนว่า ใครที่ได้มาสัมผัส “สวนยาหลวง” แล้ว อาจหลงรักความเรียบง่าย และธรรมชาติอันสวยงามของที่นี่เข้า เหมือนกับกลุ่มเรานะครับ
ท้ายนี้ ขอฝากพื้นที่ส่วนตัวที่ผมกับแฟนทำไว้เก็บภาพความประทับใจในการท่องเที่ยวไว้ด้วยนะครับ หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวเหมือนเรา แวะเข้าไปเยี่ยมชม/ติดตาม ให้กำลังใจที่เพจ
เมื่อฉันออกเที่ยว http://www.facebook.com/TheTripTraveller/ ได้นะครับ