ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ดอยผาตั้ง : เย็นใจท่ามกลางสายฝน อุ่นใจท่ามกลางสายหมอก ( Part 1) ดอยผาตั้ง (Doi Pha Tang) จ.เชียงราย
    • โพสต์-1
    Coco •  พฤศจิกายน 01 , 2558

    เดินทางครั้งที่สอง เพื่อหลงรักผาตั้ง

    เรื่องและภาพ : Cocorattankorn

    Page : http://www.facebook.com/CocofolioPhotography

     

                     หลังจากออกจากเชียงของ เราก็มุ่งหน้าสู่ดอยผาตั้ง ด้วยรถสองแถวประจำทางจากตัวเมองเชียงของ ในช่วงบ่าย 3 โมง ความรู้สึกแรกคือตื่นเต้น หัวใจข้างในพองโต ความรู้สึกคือดีใจจะได้ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศข้างบนแบบเต็มๆ เพราะครั้งแรกคือผ่านไปเฉยๆ แต่วิวสวยมาก สองข้างทางทำให้ตื่นตาตื่นใจตลอด

     

                        ช่วงที่เริ่มออกเดินทางเป็นช่วงที่นักเรียนชาวเขากำลังเลิกเรียนกัน บรรยากาศเงียบๆภายในรถก็เริ่มมีสีสันขึ้นมาทันที เสียงหัวเราะ เสียงคุยน้องๆทำให้ภายในรถไม่เงียบเหงาเลย

                        เครื่องดนตรีที่น้องๆถือกันขึ้นรถมา คือ แคน (Qeej) ซึ่งน่าจะเพิ่งเลิกเรียนฝึกซ้อมกันมาแน่ๆ "แคน" เป็นภาษาม้ง อ่านว่า เฆ่ง หรือ qeng ซึ่งแปลว่า แคน  คนม้งจะใช้แคน (เฆ่ง) ในพิธีงานศพเป็นหลัก โดยเป็นเครื่องนำทางดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่ปรโลก หรือแดนของบรรพบุรุษ ฉะนั้นในธรรมเนียมม้งจึงห้ามมิให้ฝึกเป่าแคนภายในบ้าน ส่วนใหญ่จะฝึกในที่ ๆ ห่างไกลจากหมู่บ้านซึ่งมักจะเป็นที่พักพิงตามไร่สวน

    CR : http://www.openbase.in.th/node/979

     

                    ดอยผาตั้งจะมีหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา และอากาศเย็นทั้งปี แต่น่าเสียดายที่ธรรมชาติกำลังถูกรุกรานอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

                    หลังจากน้องๆชาวเขาแยกย้ายลงบ้านใครบ้านมัน ความเงียบก็กลับเข้ามาในรถอีกครั้ง มีแต่อารมณ์สุนทรีและตื่นตาตื่นใจไปทุกสภาพบรรยากาศที่ได้มองเห็น

     

                        จุดหมายเริ่มใกล้เข้ามาละ หลังจากนั่งรถขึ้นมาสองชั่วโมงกว่า เข้าเขตหมู่บ้านที่ดอยผาตั้ง ตลอดเส้นทางความหนาวเย็นๆก็เริ่มเพิ่มขึ้น อากาศข้างบนสดชื่นหายใจได้เต้มปอดจริงๆ

     

                       ใกล้มืด อากาศเย็นมาก กว่าจะถึงที่พักนั่งนานเลย พอถึงที่พักก็ติดต่อเช็คอินเข้าพัก พักที่ผาตั้ง 2 คืนเต็มๆ ใช้ชีวิตที่นี้ให้คุ้มค่ากับการตั้งใจมาถึง

                           วัดดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ไกลลิบๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเราจะไปกัน ตอนนี้นั่งดูพระอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้ากันก่อน หมอกสวยๆค่อยๆลอยผ่านไปช้าๆ     

     

                         บรรยากาศที่หมู่บ้าน หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา เด็กๆน้องๆที่นี่น่ารักหน้าตา น่าเอ็นดูมากๆ แต่น่าเสียดายเรามาถึงใกล้ค่ำแล้ว จึงไม่ได้เดินดูบรรยากาศเย็นๆที่หมู่บ้านนี้ ไว้วันรุ่งขึ้นเราจะเดินเล่นกัน

     

                    ดอกบัวตองที่ขึ้นริมทาง ซึ่งจะขึ้นส่วนมากทางภาคเหนือ ในปลายปีถึงช่วงต้นปีจะบานสะพรั่งไปทั่ว ดอกบัวตอง ป็นพืชพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก เป็นไม้ดอกมีอายุยืนยาวหลายปี

     

    ทะเลหมอกยามเย็น บริเวณร้านอาหารของที่พัก

     

    มื้อค่ำที่นี่ เป็นมื้อแรกอร่อยมากๆ กินข้าวร้อนไปหลายจานเลย

    • โพสต์-2
    Coco •  พฤศจิกายน 01 , 2558

    เช้าวันใหม่ วันแรกที่บ้านกาแฟ ดอยผาตั้ง

                    บ้านกาแฟผาตั้งคือที่พัก ที่เราเลือกพักทั้ง 2 คืนเลย เพราะเป็นจุดที่ใกล้จุดชมวิวดอยผาตั้ง แต่ต้องนั่งรถไปเพื่อความเร็ว ถ้าเดินก็ค่อนข้างไกลและเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน

                    ดวงจันทร์ในเช้าวันใหม่ ยังไม่ลาลับไปและดวงอาทิตย์ก็ยังไม่โผล่มา อากาศเช้าๆนี้น่าจะอยู่ประมาณสัก 3 องศา หนาวมากเลย เย็นจนไม่อยากจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเลย

                         เช้าวันนี้เรายังไม่ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าที่ยอดดอยผาตั้ง เพราะอยากพักเอาแรง ตื่นไม่เช้ามาก สัก 6 โมงกำลังดี มาสูดอากาศยามเช้า

     

                         สายหมอกถูกลมพัดมาฟุ้งกระจายเกือบตลอด บางทีคล้ายฝนจะตกแล้วสักพักแดดก็ออก ฟ้าใสแต่ยังมีทะเลหมอกให้ดูอยู่ทั้งวัน

     

                         ร้านบ้านกาแฟเป็นร้านของที่พัก ที่พักจะอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน อาหารที่ร้านอร่อยมาก ชอบขาหมูยูนานกับผัดเห็ดหอม ถึงกับต้องสั่งทุกมื้อเลยทีเดียว

                        ช่วงสายๆหน่อยมีแดดแล้วแต่ไม่ร้อนเลย อากาศที่นี่เย็นจนแสงแดดเป็นที่ต้องการอย่างมาก 555 บริเวณระเบียงร้านที่ยื่นไป สามารถมองเห็นวิวสวยๆได้ 180 องศา

     

                           ที่พักของเราอยู่ทางด้านขวาของภาพ หลังที่อยู่ทางด้านซ้ายน่าจะเป็นบ้านของเจ้าของที่พัก ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับร้านกาแฟพอดี

     

    บริเวณด้านหน้าที่พักและร้านกาแฟ

     

    บรรยากาศภายในร้านบ้านกาแฟ จัดไว้แบบโล่งๆโปร่งๆสบายๆ

                           อาหารเช้ามื้อแรกนี้คือข้าวต้มเห็ดหอมร้อนๆ แต่บอกเลยว่าอร่อยมากๆ กินข้าวต้มและมีบรรยากาศดีๆรอบตัว คลายหนาวลงได้บ้าง มาพร้อมกับขนมปังและกาแฟร้อนๆ ซึ่งสามารถชงทานเองได้ มีทั้งกาแฟ โอวัลตินและชา เพิ่มพลังในเช้าวันนี้

     

     

    • โพสต์-3
    Coco •  พฤศจิกายน 01 , 2558

    เดินเก็บบรรยากาศใกล้ๆที่พัก

                      หลังจากทานข้าวเช้าอิ่มแล้ว คิดอยู่ว่าเดินขึ้นไปเที่ยวที่ยอดดอยผาตั้งเลย หรือจะเที่ยวใกล้ๆที่พักก่อน สำรวจถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆจนหมดวัน แล้วไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยผาตั้ง คิดไว้คร่าวๆประมาณนี้

                      เราจึงเดินย้อนลงไปยังทางที่เราขึ้นมาจากเวียงของ จะมีที่พักอยู่มากมาย ห่างจากที่พักของเราไม่มากนัก อาศัยความเป็นนักสำรวจจำเป็น เดินไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปตามทาง

     

                         ตอนที่ไปลาพักร้อนเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวยังน้อยอยู่ บรรยากาศช่วงสายๆเลยเงียบสงบมาก มีเรากับเพื่อนอีก 2 คนเหมือนจะเป็นแค่ไม่กี่คนที่พักอยู่บนนี้

     

                         ภูเขาใหญ่น้อยสุดลูกหูลูกตา พาใจเบิกบานมากมาย อยากตะโกนเหมือนกันดังๆ ว่าดีใจที่ได้มา แต่กลัวจะเป็นการรบกวนทั้งคนและเจ้าป่าเจ้าเขา ฮ้าๆ แอบดีใจเงียบๆคนเดียวดีกว่าเนาะ

     

    ไม่แน่ใจว่าเขาปลูกอะไรกัน น่าจะเป็นกระเทียมหรือเปล่า ( เดาเอาน่ะ )

     

    ดอกไม้ริมทางแต่สวยไม่เป็นรองใคร

     

    แมวขโมย ฮ้าๆๆ เก็บตกอริยาบทเจ้าแมวเมี้ยววผู้น่ารัก

     

    เราสองสามคน

     

    • โพสต์-4
    Coco •  พฤศจิกายน 08 , 2558

    เดิน..เดิน 6 กิโลแม้ว วัดใจ ไปยอดดอยผาตั้ง

                   ใจจริงแล้วกะจะยังไม่เที่ยวที่ดอยผาตั้ง แต่รู้สึกว่าแค่รึ่งวันก็เดินเที่ยวรอบหมู่บ้านเกือบหมดแล้ว จึงเปลี่ยนแผนเดินเล่นไปให้ถึงจุดยอดดอยผาตั้งเลยดีมั้ย ??

                    ถามคนแถวนั้นเรื่องเส้นทาง เราต้องเดินเท้าไปถึง 6 กิโลแม้ว!!! ไม่ใช่เดินทางเรียบแต่ขึ้นลงเนินเขา บวกกับอากาศหนาวและแปรปรวนทั้งวัน เอาไงเอากันสิ ไม่มีอะไรจะหยุดเราได้ 555

     

                             เริ่มต้นเดิน สูดหายใจเอาหมอกอันสดชื่อเข้าปอด ก็ต้องเซลฟี่ตั้งกล้องวางที่พื้นสักหน่อย สมัยนั้นยังไม่มีไม้เซลฟี่เลย แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังตั้งกล้องถ่ายเองเหมือนเดิม ซื้อไม้เซลฟี่มาก็ใช้ไม่ถนัดอยู่ดี

     

                         การเดินเที่ยวนี่ก็มีข้อดีหลายอย่างเลยนะ ทั้งออกกำลังกาย ออกกำลังขาไปในตัวแถมวัดใจว่าจะไหวมั้ย ไม่ไหวจะโบกรถขึ้นไปดีกว่าหรือเปล่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราได้มองเห็นธรรมชาติรอบตัว  ความสวยงามระหว่างทางมากกว่าจะมุ่งไปยังจุดหมายอย่างเดียว อีกอย่างที่ชอบคือได้ชาวบ้านได้หยิบยื่นรอยยิ้มระหว่างทางให้เราตลอด การเดินทางจะมีความหมายเสมอ ต่อให้เราไปคนเดียวเราก็ไม่เคยเหงาเลยสักนิด  

      

                       บรรยากาศและสภาพอากาศเหมือนไม่ใช่หน้าหนาวเล้ยย ถ้าใครดูแต่ภาพและไม่ได้อ่านเรื่องราวที่รีวิวคงคิดว่าเราแบ้คแพ็คมาเที่ยวหน้าฝน จริงๆแล้วอากาศข้างบนนี้แปรปรวนมีหลายๆฤดูใน 1 วันตลอดเกือบทั้งปีเลย

     

                       นานๆทีจะมีคนเดินผ่านมา เดินไปสามคนกับเพื่อน เพื่อนเดินนำหน้าไปลิบๆ ส่วนเรารั้งถ่ายอยู่ไกล เพราะชอบถ่ายรูป และสำเริงสำราญกับสิ่งรอบตัว ช่วยให้ลืมความเหนื่อยไปได้มาก

     

                     ที่อยูอาศัยปลูกอยู่กันง่ายๆ แต่ทว่าอาจจะอบอุ่น พอมี พอกินตามอัตภาพ กันแดด ฝน ลมหนาว  มีที่นอนให้ฝันดีแค่นี้ก็พอใจแล้ว ใจจริงอยากหันหลังให้ชีวิตอันวุ่นวายในเมืองกรุง เบื่อการตื่นเช้ามาทำงานแข่งกับรถติด อยากตื่นเช้ามาทำสวนทำไร่มากกว่า ถ้าเลือกได้ก็คงดี...

     

                      ในที่สุดวันนี้เราก็พิชิต  6 กิโลแม้ว แบบสบายชิวๆได้สำเร็จ  ไม่เสียดายเวลาที่เดิน ไม่เสียดายเรี่ยวแรงสองขาที่เหนื่อยเมื่อยล้าเลยสักนิด เห็นเป้าหมายแล้วถอยหายใจแรงๆ นี่เราก็เดินมาถึงจนได้เนาะ ^^
    • โพสต์-5
    Coco •  พฤศจิกายน 08 , 2558

    ตลาดขายของที่ดอยผาตั้ง

                      มาถึงทางขึ้นดอยผาตั้ง แต่ขอพักเหนื่อย เที่ยวตลาดก่อนแล้วกัน ของกินเย่อะแยะเลย มีของที่ระลึกวางขายมากมาย ที่ขายดีและขายกันมากคงจะเป็น ไวด์ผลไม้รสชาติต่างๆ ขนาดเราไม่ดื่มของมึนเมามานานแล้ว ยังอดตะบะแตกซื้อไปขวดนึงเลย บอกเลยว่าอร่อยมากกก...

                           บริเวณด้านข้างของทางขึ้นดอยผาตั้ง จะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ และต่อมาก็เป็นห้องน้ำ จะเห็นนักเรียนเป็นกลุ่มอาจจะเป็นลูกพ่อค้าแม่ค้า จับกลุ่มทำการบ้านกัน นักเรียนบนดอยไม่มีเครื่องแบบเหมือนเด็กในพื้นที่เมือง

    สินค้าที่ระลึก มีทั้งของกิน ของใช้ เครื่องนุ่งห่มกันหนาว

     

    โรตี ชาชัก อร่อยๆ

     

    เด็กดอยใจดี แถมเด็กดอยก็น่ารักจัง

     

    ดอยผาตั้งมีพรมแดนติดกับประเทศลาว

    • โพสต์-6
    Coco •  พฤศจิกายน 11 , 2558

    ช่องเนินผาขาด

                      หลังจากเดินเล่นอยู่ด้านล่างนั่งพัก นั่งดื่มน้ำจนหายเหนื่อยแล้ว จึงเริ่มเดินขึ้นไปสู้ยังจุดต่างๆของดอยผาตั้งกันสักที ตั้งหน้าตั้งตาเดินมาแต่ต้นแล้ว ก็จะไม่มีทางทิ้งความตั้งใจเด็ดขาด (พูดสะดูดีเชียว ฮ้าๆๆ)

     

                    เดินขึ้นมาสิ่งแรกที่เจอคือ ศาลาอนุสรณ์สถานของนายพลหลี่เหวินฮ้วน (หลีไซ่หยาน) ที่มาประวัติคร่าวก็คือ นายพลหลี่เหวินฮ้วนได้ส่งทหารในบังคับบัญชาร่วมกับรัฐบาลไทยยึดคืนดอยผาหม่นและดอยยาว และยึดคืนจากผู้ก่อการร้ายได้สำเร็จ และได้ถวายหินจากดอยผาตั้งให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อแสดงว่าพื้น แสดงว่าพื้นที่ดังกล่าวได้กลับคืนสู่ประเทศไทยโดยสมบูรณ์

     

                           ภาพถ่ายมุมมองศาลาของนายพลหลี่เหวินฮ้วนจากมุมที่สูงที่เดินขึ้นมาเรื่อยๆ จะเห็นตลาดขายของที่ระลึกอยู่ทางด้านล่าง ตอนนี้หมอกกำลังพัดมาเรื่อยๆ

     

    ป่าหินยูนนาน

                             ทางเดินขึ้นขึ้นถือว่าไม่ลำบากมาก เดินสบายๆไม่ต้องรีบร้อน ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยตลอดทาง มีทั้งสวนหิน หากเดินมาอีกนิดจะมีลานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้ไหว้สักการะบูชา

     

    เป้าหมายลิบๆด้านขวามือ ยอดดอยผาตั้งด่านสุดท้ายที่จะไปพิชิต

     

    ทางเดินที่จะไปสู่เนิน 102 เนิน 103 และยอดดอยผาตั้ง จะมีป่าหินยูนานทางด้านซ้ายมือ

     

                           " ช่องผาขาด " ประตูสยามสู่พรมแดนที่มีอณาเขตติดกับประเทศลาว เดินผ่ายป่าหินยูนานเข้าไปเห็นเป็นช่องโขดหิน มองออกไปจะเห็นภูเขาฝั่งประเทศลาว ซึ่งพรมแดนธรรมชาติที่กั้นเขตเอาไว้คือแม่น้ำโขง แต่ถ่ายมาก็ไม่เห็นเพราะหมอกหนามาก พัดปกคลุมตลอดเวลา

     

    มองผ่านช่องเขาดูประเทศเพื่อนบ้าน

     

    หันหลังกลับ เตรียมตัวเดินทางต่อสู่เนิน  102 และ เนิน 103

    จุดหมายไม่ไกลเกินกว่าใจจะไปถึง โอ้ เย้!!

    • โพสต์-7
    Coco •  พฤศจิกายน 13 , 2558

    ดอยผาตั้ง สู่เนิน 102 103

                    เนิน 102 เป็นเนินแรกที่เราเดินขึ้น มีความสูงชันพอควรแต่เดินสบาย เพราะมีบันไดและราวบันไดสำหรับเกาะขึ้นไปจะถึงแยกไปอีกทางกับเนิน 103 ซึ่งจะอยู่ทางแยกไปยังเส้นทางขวามือของเรา

     

    มุมถ่ายจากด้านบนระหว่างเดินขึ้นบันไดมา

    จะมองเห็นวิวถนนหลักที่เราเดินมาจากจุดที่พัก

     

                     ขึ้นมาถึงเนิน 102 จะเห็นระฆังสีเหลืองตั้งอยู่ คนที่มาถึงเนินนี้ทุกคนต้องมาสั่นระฆังกันทุกคน 555 ไม่น่าจะมีความเชื่ออะไร แต่ว่าระฆังนี้ถ้าเคาะดังๆสามารถดังกังวาลไปถึงฝั่งลาวได้เหมือนกัน

     

                      บนเนิน 102 สามารถมองเห็นวิวรอบตัวแบบ 360 องศา รวมทั้งประเทศราวที่มีแม่น้ำโขงกั้นพรมแดนอยู่ระหง่างไทย -ลาว

    • โพสต์-8
    Coco •  พฤศจิกายน 13 , 2558

    ข้าคือผู้พิชิตดอยผาตั้ง เนิน 103 แห่งดอยผาตั้ง

                   เดินเล่นอยู่บนเนิน 102 ไม่นานเท่าไร ก็ตัดสินใจไปเที่ยว เนิน103 ต่อ เพราะที่เนิน 102 ตั้งใจไว้ว่าจะแวะมาอีกทีตอนขาเดินกลับ เพื่อมาชมพระอาทิตย์ตก รอแสงสุดท้ายของวัน

     

                       ทางที่เดินไปยังเนิน 103 ค่อนข้างลื่น เพราะหมอกลงจัดตลอดเวลาบางเวลาก็มีฝนตกปรอยๆลงมา จึงต้องระวังการเดินนิดหน่อย ไม่เช่นนั้นอาจลื่นได้

     

                     สวนหินป่ายูนานบน เนิน103 เป็นด่านแรกที่เราเดินขึ้นมาเจอ พร้อมวิว 360 องศา ที่สาวยมากกกกก !!! มีทั้งหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ ซึ่งหินก้อยใหญ่นั้นสูงขนาดต้องปีนขึ้นไปหลายขึ้นเลยทีเดียว

     

                        ดอยผาตั้ง เนิน 103 มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,653 เมตร  มีป้ายผู้พิชิตดอยผาตั้ง ตัั้งไว้ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนด้านหลังป้ายนั้น มีพื้นที่ให้ยืนถ่ายไม่มากนัก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเป็นเหว ก็แอบเสียวๆกลัวไถลลื่นตกไปเหมือนกันนะ

                        นักท้องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้บริการน้องม้าพาเดินขึ้นมา เห็นแล้วก็แอบสงสารม้า แต่ละคนตัวใหญ่ๆทั้งนั้น เดินขึ้นมาทีแต่ละตัวขาสั่นกันเลย ถ้าจะจำไม่ผิดคิดพาเดินไป - กลับ 500 บาทมั้งนะ ตอนนี้เรทราคาที่เท่าไหร่ไม่รู้

     

    บ้าย บายเนิน 103 จะกลับมาหาใหม่น่ะ

    • โพสต์-9
    Coco •  พฤศจิกายน 13 , 2558

    ลัลล้า!!! ที่เนิน 102 ดอยผาตั้ง

                       แอบแวะมาเก็บบรรยากาศแสงเย็นที่เนิน 102 บรรยากาศรอบตัวเวลานี้ หมอกเริ่มหายไป มีแต่งแสงของพระอาทิตย์ส่งลงมาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง เห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าตัวเองเริ่งร่า 555 วิ่งไปมา กระโดดเล่น  ถ่ายรูปสนุกสนานบนเนิน 102 เวลานี้เหมือนจะไม่ค่อยมีคนขึันมาแล้ว ใกล้ค่ำเต็มที เหมือนภูเขาทั้งลูกเป็นของเรา เย้ !!!

     

    ท้องฟ้า สีครามเริ่มมีมาให้เห็นบ้างแล้ว แอบยิ้มดีใจ

     

    สายหมอกยังคงพัดไปพัดมา

     

                        ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เหนื่อยเมื่อล้า ก็นั่งกินลม ชมบรรยากาศ  อากาศก็เริ่มเย็นลงๆทุกที พกตุ็กตาแกะมาด้วย เห็นมันน่ารักดีมันน่าจะมีความสุขเหมือนๆกันกับเราน่ะ ฮ้าๆ (จินตนาการ งานมโนนั้นแจ่มไปนะ)

     

                          เมื่อบรรยากาศรอบตัวเหมือนจะมีแต่หมอก คิดว่าคงออดดูพระอาทิตย์ตก เลยเดินลงถ่ายรูปไปเรื่อยๆดีกว่า แต่ก็ยังวนเวียนอยู่บนเขาลูกเดิมไม่ไปไหน เผื่อจะโชคดี ระหว่างลงก็เจอคนกับบม้า เดินสวนขึ้นมา ก็เลยถ่ายสักหน่อย

     

    ช่องผาขาด

    มองเห็นฝั่งลาว หมอกเริ่มจางเห็นแม่น้ำโขงลิบๆ

     

    ดอกไม้ในสายหมอก

    • โพสต์-10
    Coco •  พฤศจิกายน 13 , 2558

    รอแสงสุดท้ายที่ดอยผาตั้ง

                     เดินลงจากเนิน 102 เพราะว่ามีแสงแดดได้ไม่นาน หมอกก็จู่โจมมาเต็ม ใกล้ค่ำแล้วกลัวจะมองไม่เห็นทาง กะว่าถอดใจดีกว่า พรุ่งนี้น่าจะมีแสงเช้าให้พอชื่นใจบ้าง

     

                           เมื่อหันหลังกลับมา ก็ได้เห็นพลังบางอย่างจากฟากฟ้า นั่นคือพลังจากแสงดวงตะวัน ดีใจสุดๆ ได้เห็นแค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว เดินมาหลายกิโล เพื่อสิ่งนี้ มารอและรอสงสุดท้ายของวันบนยอดเขาอันเหน็บหนาว ฮ้าๆๆๆ

     

                             ช่างคุ้มค่ากับการรอคอยเป็นยิ่งนัก ไม่ได้เดินกลับขึ้นมาที่เนิน 102 แต่มายังเนินอีกด้านที่อยู่ระหว่างทางออกใกล้ๆเขาช่องขาด นั่งอาบแสงสุดท้ายจนวินาทีสุดท้ายเลยดีกว่า 

     

                         ช่วงเวลาที่มีความสุขได้แต่เก็บภาพแสงสวยๆ เวลาที่เราเห็นอะไรดีๆ มีเรื่องราวดีๆอยากเล่าอยากแบ่งปัน ให้ใครสักคนได้ฟังและได้รู้สึกเหมือนๆกับเรา แต่มาดูที่ความเป็นจริงแล้วกลับมีแค่ตัวเราและรอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนหน้าเพียงลำพัง เท่านั้น

     

                       นานๆจะมีเวลานั่งมอง นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ที่มีเพียงแค่เรากับธรรมชาติ สหายข้าหายไปไหนแล้วไม่รู้ ความมืดเริ่มมาเยือน แต่เราก็ยังยืนยันจะนั่งรอส่งเจ้าดวงอาทิตย์แสนงามลาลับขอบฟ้าไปก่อน

     

                     เมื่อถึงเวลาก็ต้องโบกมือลาบ้าย บาย เจ้าดวงอาทิตย์กลมโตแล้ว เสียดายกว่าจะได้เจอกันก็เกือบจะกลับที่พักไปนอนแล้ว ยิ้มๆให้โลกใบใหญ่ของตัวเองเบาๆ

                     นั่งจนความมืดเข้าครอบงำ เดินลงไปยังตลาดอย่างทุลักทุเล 555 ลืมพกไฟฉายมาสะด้วยสิ พอดีเพื่อนเดินมาตามก็เลยมีคนทุลักทุเลเป็นเพื่อนกันไปด้วย 555

                     ลงมาถึงด้านล่าง จะเดินกลับตอนนี้ก็ไม่ไหว เลยถามคนแถวนั้นเพื่อขอติดรถลงไปที่พักด้วย พี่คนขายไน์ใจดีมาก แกบอกว่าญาติแกกำลังขับรถกลับจะให้ติดรถไปลงที่พักด้วยเลย ขอบคุณพี่เขาไปหลายทีเลย คิดเล่นๆถ้าเดินกลับไปนี่นึกสภาพไม่ออกเลยจริง ฮ้าๆ

                     พอกลับมาถึงที่พักเราก็สั่งอาหารแบบเต็มที่ หิวมากๆ เดินหลายกิโลวันนี้ กินอิ่มนอนหลับไวหน่อย แสงของวันใหม่ยังรอคอยเราอยู่

     

    มาลุ้นกันว่าเราจะได้เห็นแสงของวันใหม่ ใน PART 2 หรือเปล่า

    • Saravuth  6 ก.ม. ใช้เวลาเดินเท่าไหร่ครับ 26 กุมภาพันธ์ 2559 17:11:14
  1. โหลดเพิ่ม