ต้องขอเกริ่นก่อนว่าเนื่องจากมีเวลาจำกัดในการเที่ยวครั้งนี้ แต่คือ ว๊อนท์มากกก อยากไปเที่ยวกางเต๊นท์เหมือนคนอื่นเค้าหน่อยว้อยยย

แต่จะไปไหนไกลมากก็ไม่ได้อีก มีเวลาแค่คืนเดียว เลยลองดูที่ใกล้ๆกรุงเทพฯ

แล้วยิ่งถ้านั่งรถไฟไปได้จะยิ่งชิคมาก เป็นความบังเอิญพอดี ที่มีน้องที่รู้จักกันชวนไปงานกางเต๊นต์ พันธุรัต เฟส ครั้งที่ 2 ที่ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ผมดูแล้ว เอ้ย นั่งรถไฟไปได้ด้วยนี่หว่า เลยจัดกระเป๋าเลยครับ เตรียมเต๊นท์ๆล่วงหน้า 2 วัน แล้วไปลุยเลย!!!

#หมายเหตุ: รูปในทริปนี้ผมถ่ายด้วย ไอโฟน 11 ล้วนๆ ทุกรูป ไม่มีกล้องอื่นผสมเลยแม้แต่น้อย ก็ตามมีตามเกิดไปครับ

ผมเริ่มเดินทางวันเสาร์ ที่ 12 ธันวา ครับ จากการหาข้อมูลมาคือ ถ้าเราจะไปที่เขาพระนางพันธุรัต จังหวัดเพชรบุรีนั่น เราต้องไปขึ้นรถไฟสถานีหัวลำโพง (เพราะมันสะดวกผมสุด555) ซึ่งรถธรรมดาจะมีรอบ 9.20 น. ทุกวันนะครับ แล้วไปลงที่สถานีชะอำเลยครับ ตามตั๋วจะแจ้งว่า ถึงเวลา 13.44 น. ซึ่งอย่าไปเชื่อมันมากครับ เผื่อๆ ไว้หน่อย

เอาจริงแล้ว ชะอำก็ไม่ได้ไกลนะครับ ใครใคร่ขับรถไป หรือมีเวลาน้อยอยากสบายหน่อยก็ขับรถไปจอดที่เขาพระนางพันธุรัตได้เลย แต่ผมอยากชิคไง อยากคูล เลยต้องนั่งรถไฟไป 555

ผมมาถึงสถานีหัวลำโพงเวลา 7.50 น. เดินไปซื้อตั๋วหน้าเคาน์เตอร์ได้เลยครับ ตั๋วลงชะอำราคา 40 บาทไทยเท่านั้น

วันนี้คนไม่ค่อยเยอะครับออกจะโล่งๆ แต่พอเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบกเต๊นท์ให้เห็นบ้าง เดินไปกินข้าวเช้ารอเวลาครับ ก็ข้าวแถวหน้าสถานีละครับ

ได้ตั๋วมาแล้วววว ขบวน 261 ชั้น 3 ราคา 40 บาทถ้วน

ข้าวเช้าเบาๆ 40 บาท

ชานชาลา 7 เลยครับ มีบอกละเอียดไม่หลงแน่นอน

ป้ายกรุงเทพ - หัวหินนี่ละครับ แต่เราไปลงชะอำนะ

โล่งครับ ไม่มีคนเลยบนรถไฟ คนน้อยมาก เบาะนั่งสบายตูดครับ เลือกนั่งได้ตามอัธยาศัย

ออกเดินทางได้

วางกระเป๋าและเต๊นท์ด้านบนที่นั่งได้เลยครับ ว่างๆ

ผ่านสถานีปากท่อ ต้องจัดก๋วยเตี๋ยว 10 ซิกเนเจอร์อาหารบนรถไฟครับ รสชาดดี แต่ต้องยกกัดทั้งก้อนที่เห็นนี่นะครับ เส้นติดกันเป็นแพเลย

15.10 น. เย้! ถึงแล้วววว เลทไปชั่วโมงกว่าเท่านั้น T^T ช่วงนี้รถไฟเส้นลงใต้ทำทางตลอดทางครับ รถไฟเลยขับช้ามาก ชิวๆ ฮะ 6 ชั่วโมง

ด้านหน้าสถานีรถไฟมีบริการรถมอไซด์รับจ้างนะครับ ผมให้ลุงเค้ามาส่งที่วนอุธยานเขาพระนางพันธุรัต สนนราคาอยู่ที่ 100 บาท ครับ ไม่ควรต่อนะครับ เพราะระยะทางค่อนข้างไกลทีเดียว

ลุงมาส่งผิดทางเข้าครับ มาส่งทางที่เค้าปิด เลยต้องเดินเข้าไปเองต่อ ก็เดินกันเข้าไปครับ

ถึงแล้ววว เกือบ 4 โมง สถานที่จัดงานและกางเต๊นท์วนอุธยานเขาพระนางพันธุรัต ผมจ่ายค่าเข้าไปแล้ว 450 บาท ต่อคน ผ่านทางน้องที่จะมาเจอกันที่นี่ครับ

ซึ่งน้องเค้าก็มาถึงแล้ว จองที่กางไว้ให้เรียบร้อย

จิบน้ำให้หายเหนื่อยยยย

บริเวณเต๊นท์ของผมครับ สีส้มๆ นั่นเอง มาถึงก็เริ่มกางได้เลย

พี่ๆ ที่เค้ามาถึงก่อนก็กางเต๊นท์ไปก่อนแล้ว กำลังเตรียมทำอาหารสำหรับแค้มปิ้ง คืนนี้

ช่วยกันเตรียมของ ก็เริ่มปิ้งย่างกันฮะ

ทางวนอุธยานเค้ามีรถมารับไปดูค้างคาวด้วยนะครับ ถ้ำใกล้ๆ นี่ละ เค้าเคลมว่า ค้างคาว ล้านตัวออกจากถ้ำตอนเย็น

นี่รถที่จะรับไปดูค้างคาวครับ

ปายยย ไปดูค้างคาวกินกล้วยกันนนน

นี่คือจุดบริเวณสำหรับดูค้างคาวล้านตัวบินออกจากถ้ำครับ บรรยากาศดีทีเดียว คนรอดูก็เยอะเลยทีเดียว

ประมาณ 18.30 น. ฝูงค้างคาวเริ่มแผ่แหนบินกันออกมาครับ ผู้คนก็ร้องวี๊ดว้ายดีใจกันใหญ่

(ที่เห็นค้างคาวบิน?)

แต่ค้างคาวที่นี่เยอะมากจริงๆ ตามที่เค้าเคลมไว้นะครับ เหมือนรวมค้างคาวทั้งโลกมาไว้ที่นี่ที่เดียวเลย ซักพักก็นั่งรถเดิมกลับแค้มป์ครับ

กลับมาถึงประมาณ ทุ่มนึงพอดีครับ บรรยากาศบริเวณลานกางเต๊นท์ก็เริ่มมึดเปิดไฟสวยงามใช้ได้

มาที่เต๊นท์ก็นั่งจิบน้ำเย็นๆ พร้อมอาหารที่ปิ้งย่างกันครับ

น้อนนนนนนน จุ้งงงงงงงงงง

ดึกๆ เดินออกมาหน้าเทีที่เค้าเล่นดนตรีซะหน่อยครับ คนเริ่มมานั่งแถวนี้กันเยอะ ส่วนใหญ่จะดื่มกันนี่ละฮะ อากาศตรงนี้จะเย็นๆ กว่าที่เต๊นท์

สังเกตุดูมีคนแบคแพคมา ก็เยอะ มาคนเดียวก็มีนะครับ ที่นี่ดูค่อนข้างปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลาครับ

ตอนดึกๆ มีกิจกรรมดูดาวด้วยนะครับ คือบริเวณกางเต๊นท์และรอบๆ จะปิดไฟกันหมดให้มึดสนิท

ผมถ่ายจากกล้องมือถือ ก็ได้เท่านี้ละฮะ 55555 ของจริงสวยและเยอะกว่านี้เยอะนะครับ

ซักพักแยกย้ายเข้านอนครับ

จบวันแรก

6.30 น. ตื่นเช้ามาอากาศสดใสสดชื่น ตอนกลางดึกจะเย็นมากครับ

ล้างหน้าล้างตาตื่นมาใส่บาตรครับ ทางวนอุธยานนิมนต์พระท่านมาให้ศีลให้พรแล้วก็เริ่มใส่บาตรกันเพิ่มความเป็นศิริมงคลกับทริปนี้

ของใส่บาตรทางสถานที่เตรียมให้นะครับ

แล้วก็มีข้าวต้มหมูกับ ซาลาเปาไว้ให้ด้วย

ส่วนพี่ที่ก๊วนเดียวกันเริ่มทำกับข้าวเช้าครับ เค้าบอกไม่อยากแบกของกลับ เอามาเยอะมาก

ข้าวเช้าอีกครั้ง (ผมทอดไข่เองนะเนี้ยะะะ)

รับประทานอาหารเช้าเสร็จก็อาบน้ำครับ ห้องน้ำที่ให้บริการที่นี้ค่อนข้างโอเคนะครับ ท่าเทียบกับอุธยานที่อื่นๆ ถือว่า ใช้ได้ สะอาดสว่าง(ก็ต้องสว่างสิวะ ตอนเช้านี่หว่า)

เสร็จแล้วก็เก็บเต๊นท์ เด๋วเราจะไปเดินขึ้นเขาของทางวนอุธยานกัน เขาพระนางพันธุรัต นี่ละครับ เป็นทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งหมด 3 กิโล

เห็นที่เป็นเหมือนนั่งร้านข้างบนเขานั่นไหมครับ เด่วเราจะไปจุดนั้นกัน

เริ่ม!!!10.20 น.

ทางเดินชันใช้ได้

ขึ้นมาซักพักจะเจอทางแยกครับ แยกไปบ่อชุบตัวพระสังกับแยกไปทุ่งเศรษฐี ผมไปทางบ่อชุบตัวก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาทางเดิม ซึ่งทางไปทุ่งเศรษฐีจะเป็นทางลงเขาไปด้านล่างด้วย

โอ้ ทางโหดมาก เหงื่อแตกครับชันใช้ได้ บางช่วง 45 องศา ต้องเกาะขึ้นไป

วิวตรงบ่อชุบตัวเป็นหน้าผาสูงชันครับ เสียวดี มีป้ายเตือนระวังตก

เป็นเขาที่เหมือนจะเล็กแต่ไม่เล็กนะครับ ต้องฟิตพอสมควร กับใส่รองเท้าผ้าใบมาดีๆ

ไปต่อ ทางเดินไปคอกช้าง อ้อมเขาครับ แต่ทางไม่ยาก วิวสวยงามดีมาก

จุดสุดท้ายเป็นทุ่งเศรษฐี ทางเดินโหดทีเดียว เจ็บแข้งเจ็บเข่า แต่วิวสวยครับ มองลงไปเห็นจุดกางเต๊นท์ของเราเมื่อคืนด้วยยยย

เดินลงเขามาถึงข้างล่างเกือบๆ บ่ายโมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเต็มในการเดิน เหนื่อยครับ 555ลงมาก็หาน้ำหาท่าดื่ม อาบน้ำ เตรียมตัวกลับบ้านกัน

ขากลับผมติดรถที่ที่ไปร่วมก๊วนกางเต๊นท์ด้วยกันกลับครับ พี่เค้าใจดีมาส่งถึงแถวบ้านเลย ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพประมาณ 6 โมงกว่าๆ

จบทริปอย่างสวยงามครับ

หวังว่ารีวิวนี้ จะทำให้เพื่อนๆหลายคนที่มีเวลาไม่มาก และไม่อยากเดินทางไปไกลมาก กางเต๊นท์ง่ายๆ แต่สวยงาม มีแรงบันดาลใจและใช้รีวิวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนึงสำหรับการเดินทางของคุณนะครับ เจอกันทริปหน้านะครับ