1 ปีที่เราได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก จากภัทริน (ลมซ่อนรัก) มาถึง คำแก้ว (นาคี) และการตามรอยละครเมื่อปีก่อน สู่ความประทับใจที่ต้องกลับมาเยือน
จิมทอมสันฟาร์ม กับคอนเซ็ปในปีนี้ “คักแท้แพรอีโป้” (มหัศจรรย์ผ้าขาวม้า) เบิ่งปากคำแก้วเด้อจ้า ภาษาอีสานเอิ้น “แพรอีโป้” แปลว่า “ผ้าข้าวม้า” จ้า ไม่ว่าจะผ่านไปยังจุดไหน ก็จะได้เห็นผ้าขาวม้าหลากหลายสีสันประดับตกแต่งไว้มากมาย เข้ากับแนวความคิดปีนี้ “คักแท้แพรอีโป้” ซึ่งแนวคิด (คอนเซ็ป) จะเปลี่ยนไปทุกปี ส่วนระยะเวลาเปิดให้เข้าชมปีนี้ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ไปจนถึง 8 ม.ค. 2560 ปีหน้าเลยล่ะ
วันที่ 21 ธ.ค. 2559 ออกเดินทางเกือบ 7.00 น. กับแก๊งเดิม 4 สาว เพาเวอร์พัฟเกิร์ล (พูดไปเรื่อย นั่นมัน 3 สาว) จาก อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางโดยรถส่วนตัวไปเส้นทางมอเตอร์เวย์ ตรงไปสุดทางที่อยุธยา และขับต่อไปเรื่อยๆ ออกทางเลี่ยงเมืองก่อนถึงตัวเมืองสระบุรี และตรงไปสักพักจะพบป้ายแจ้งไป จ.นครราชสีมา หากไม่ชินเส้นทางแนะนำให้เปิด GPS หลังจากผ่านฟาร์มโชคชัยไปแล้ว หากใช้ GPS จะได้รับคำแนะนำเส้นทางลัดซึ่งระยะทางใกล้กว่า สังเกตป้าย ตรงไปจะเป็นนครราชสีมา และกลับรถไปเส้นทางลัดป้ายวังน้ำเขียว เส้นทางลัดนี้หากรถท่านไม่แกร่งพอ ไม่ใช่กระบะ หรือ 4WD แนะนำว่าตรงไปจะดีกว่าจ้า สงสารรถ สงสารตัวเองด้วย TT เลือกมาเส้นทางนี้เพราะอยากลองเส้นทาง จากที่เคยไปทางตรงเมื่อปีที่แล้ว ก็จัดไป (ทางลัด แต่ไม่ลัดจะดีกว่า) ช่วงแรกจะพบว่าเส้นทางก็ดีนี่ ทำไมไม่มีใครแนะนำเส้นทางนี้นะ ผ่านไปได้สักพักจะพบกับความจริงที่ว่า “เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด” ไปตามที่คนอื่นเขาไปกันเถอะจ๊ะ เพราะกว่า 10 กิโลเมตร ที่เส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ แทบจะหาผิวทางจราจรไม่ได้เลย แถมมันดูเปลี่ยวมาก ไม่ค่อยมีรถผ่านมา ต้นไม้สูงหนาถึบอยู่ (เก๊ากลัว) หลุดออกมาได้ น้ำตาแทบจิไหล TT เอาเป็นว่าตรงไปตามเส้นถนนมิตรภาพ สังเกตด้านซ้ายจะเห็นสวนท้าวสุรนารีและวิวเขื่อนลำตะคอง ขับตรงต่อไปจะพบร้านอาหารตอไม้ ให้เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถ มุ่งหน้าสู่จิมทอมสันฟาร์มได้เลยจ้า
ถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 10.30 น. ลานจอดรถกว้างทีเดียวเชียว มีเจ้าหน้าทีคอยแจ้งจุดจอด ยิ่งไปวันธรรมดาเลือกเลยตามสบาย ทริปนี้แอบเคืองอากาศเล็กน้อย เนื่องจากคอยติดตามอัปเดตอยู่ตลอดและสอบถามเพื่อนๆ ที่ได้มาก่อนหน้าแล้วว่าอากาศเย็น แต่ก่อนเดินทางเหมือนจะสัมผัสได้นิดๆ ว่าสองวันนี้ทำไมอากาศร้อนขึ้นน้อ แต่ก็ปลอบใจตัวเองและเพื่อนๆ ว่าต่างจังหวัดต้องเย็นกว่าแถบกรุงเทพฯ และปริมณฑลแน่นอน แต่จนแล้วจนถึงเปิดกระจกสัมผัสอากาศมาตลอดทางก็มิอาจสัมผัสความเย็นได้เลย หวังว่าเพื่อนๆ เดินทางไปหลังจากนี้ ขอให้โชคดีพบกับลมหนาวนะจ๊ะ
จุดแรกที่ต้องแวะแชะๆ ก็ต้องนี้เลย ฟักทองยักษ์ ใหญ่กว่าหน้าข้านิดเดียว (เพราะหน้าข้าใหญ่ 555) เนื่องจากอากาศไม่ค่อยเป็นใจ แดดแรงและไม่มีลมหนาวมาทักทายแม้แต่น้อย ทริปนี้เลยได้ลูกหมูน้อยคนเดียวที่มาเป็นนางแบบในเฟรมให้ สาวๆ คนอื่นแอบหลบแดด ลัดเลาะไปตามต้นไม้ มุมที่ให้ร่มเงาและเสาบัง (แอบเม้าท์เพื่อนเล็กน้อย) ^____^
มองเห็นไกลๆ ที่ใครๆ พูดถึงและต้องแวะเวียนมา “บ้านคำแก้ว” ในละครเรื่อง นาคี 
แวะเดินเล่นภายในหมู่บ้านอีสาน มีวิถีชีวิตและหลากหลายกิจกรรมให้ได้ศึกษาและได้เรียนรู้
ด้วยอากาศไม่ค่อยเป็นใจขอแวะกินก่อนไปต่อ โดยภายในหมู่บ้านอีกสานจะมีจุดบริการอาหารเช่นกัน แลกบัตรกันก่อน สามารถใช้ได้กับทุกจุดบริการอาหารและน้ำดื่ม หรือแลกมาจากจุดอื่นก็มาใช้ต่อตรงนี้ได้จ้า 
กว่าจะมาเป็นผ้าไหม ต้องผ่านอะไรมาบ้างน้า.....
อีกมุมตรงเรือนริมน้ำ
