ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
อีสาน + ลาวใต้...ในสายฝนพรำ (ປາກເຊ - ຈໍາປາສັກ) จำปาสัก
    • โพสต์-1
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

         ลาวใต้...ดินแดนอารยธรรมโบราณ ชนเผ่าหลากเชื้อชาติ ธรรมชาติ และกาแฟลาว

         อีสานใต้...ดินแดนปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟเก่า พรมแดนสามประเทศ

         เมื่อนำมาจับคู่กัน กลายเป็นคู่หูที่ลงตัว ไหนจะเป็นตอนใต้เหมือนกัน อยู่ติดกัน และเดินทางก็ต้องผ่านซึ่งกันและกัน

         ...

         ต้นเดือนตุลาคม พายุ มู จี แก ส่งผลให้ลาวใต้ และอีสานใต้ เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝนที่ตกทั้งวัน ทั้งคืน จนแผนเที่ยวผิดพลาด เป็นอันล้มเลิกก็มี

         แต่เราก็ขัดธรรมชาติไม่ได้ สายฝน คู่กับฤดูฝนเป็นธรรมดา และสายฝนนี้แหละ ที่จะทำให้ ป่าไม้ และทุ่งนาแปรเป็นสีเขียวชอุ่ม น้ำในลำธารก็เต็มเปี่ยม พัดภาพความแห้งแล้งออกไป

         ...

         นั่นคือที่มาของชื่อ ทริป "อีสาน + ลาวใต้...ในสายฝนพรำ" ที่ทุกท่านกำลังจะได้อ่านในลำดับต่อไป

         

     

    • โพสต์-2
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

    วันที่ 1 : สวัสดี...อีสานใต้

         มุ่งหน้าจากมหานครตั้งแต่เช้าตรู่ แวะพักเรี่ยร่ายรายทาง มาถึง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน ศุภชัยโภชนา ร้านอาหารตามสั่งในนางรอง อาหารง่ายๆ อย่างข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด เกาเหลา ธรรมดาๆ แต่น้ำจิ้มรสชาติอร่อยไม่ธรรมดา

         นางรองเป็นอำเภอค่อนข้างใหญ่ มีร้านอาหาร ร้านขนมเยอะแยะหลายร้าน อย่าง ร้านกาแฟพันธุ์ไทย สาขานางรอง มีชากาแฟ เค้ก วาฟเฟิล ฯลฯ ไปช่วงนี้ก็มีโปรโมชั่นอยู่ด้วย

         แล่นยาวไกลจากนางรอง ผ่านสุรินทร์ เข้าศรีสะเกษ ระหว่างทางก็สะดุดตากับ ความกว้างของ อ่างเก็บน้ำห้วยตามาย ถนนสายหลักตัดผ่าอ่างเก็บน้ำ เหมือนเรากำลังแล่นอยู่กลางน้ำอย่างไรอย่างนั้นเลย

         ในถึงสุดก็ถึงอุบลราชธานีแล้ว มุ่งหน้าไปยัง บ้านชีทวน อ.เขื่องใน

         หมู่บ้านกลางท้องทุ่งอย่างนี้...มีของดีอะไรซ่อนอยู่

    • โพสต์-3
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

    UNSEEN บ้านชีทวน

         1. ธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบก เคยเห็นไหม...ธรรมาสน์ตั้งอยู่บนหลังสิงห์ ! รูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่ เทินธรรมาสน์ทรงบุษบกไว้บนหลัง ด้านล่างล้อมด้วยรูปปั้นตัวละครในมหาเวสสันดรชาดก ประดับลวดลายเขียนสี ฝีมือสกุลช่างญวน

         ยังไม่พอ เงยหน้าขึ้นไปบนเพดาน จะพบภาพจิตรกรรมรูปเทวดา พรรณพฤกษาสีสันสดใส ทั้งหมดอยู่ในหอแจก หรือศาลาการเปรียญ วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์

         2. วัดทุ่งศรีวิไล ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ  3 องค์ ได้แก่ พระพุทธวิเศษ พระชัยสิทธิ์ และพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตั้งอยู่ในอุโบสถหลังเก่า ในวัดยังมีพระบรมสารีริกธาตุให้สักการะ และธรรมาสน์โบราณให้ชม

         3. ขัวน้อยบ้านชีทวน แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของอุบลฯ ที่เริ่มดัง สังเกตจากนักท่องเที่ยวหลายเพศหลายวัยจากหลายถิ่นมาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย ขัวน้อยบ้านชีทวน เป็นสะพานผ่ากลางทุ่งหน้า เชื่อมระหว่างสองหมู่บ้านเข้าด้วยกัน แนะนำให้มาตอนเย็น เพราะคนไม่เยอะ แดดไม่แรง และอาจได้เห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหนือท้องนาสีเขียวก็ได้

    • โพสต์-4
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

         ที่พักสำหรับเราคืนนี้อยู่แถบๆ ชานเมือง ฉัตรสุรีย์ บูติค รีสอร์ท สวย สะอาดใช้ได้ ถึงจะมีเสียงรถบ้าง เพราะติดถนน

         เบาๆ สำหรับมื้อเย็น ข้าวต้มซวงสวัสดิ์ ร้านข้าวต้มในเมืองอุบล ที่คนอุบล และคนต่างถิ่นเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย...

         และแล้วก็หลับไป...ในขณะที่สายฝนตกกระหน่ำในขณะที่ไม่รู้ตัว

    • โพสต์-5
    Jerdja •  ตุลาคม 13, 2558
    • โพสต์-6
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

    วันที่ 2 : จากไทย...ไปลาว

         ตื่นขึ้นมากับภาพและเสียงฝนตกหนัก ถนนหน้าที่พักน้ำท่วมจนน่าตกใจ ถึงอย่างงั้น เราก็ฝ่าสายฝนไปร้าน จิง จู ไฉ่ ได้โจ๊กและไข่กระทะร้อนๆ คลายหนาวยามฝนตก

         เสร็จแล้วมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุบลฯ ไปทำความรู้จักอุบลราชธานี ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี อาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่าที่ดัดแปลงมาเป็นแหล่งเรียนรู้ และรวบรวมโบราณวัตถุทั่วทั้งอุบลราชธานี แม้การจัดแสดงจะเป็นแบบเก่า ไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากนัก แต่แทนกันด้วยอายุ และความงามของโบราณวัตถุแต่ละชิ้น ยิ่งถ้าเปิดไฟส่อง ก็ยิ่งสวย เดินดูได้ไม่เบื่อเลย ค่าเข้าชมก็แค่คนละ 20 บาทเอง

    • โพสต์-7
    Jerdja •  ตุลาคม 13, 2558
    • โพสต์-8
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

         ได้เวลาโบกมือลา อ.เมืองอุบลฯ มุ่งหน้าผ่าน อ.วารินชำราบ แวะดูตึกเก่าย่านสถานีรถไฟ โดยเฉพาะตึกไม้ 3 ชั้น อดีตที่ตั้งของโรงแรมรถไฟ ที่ได้ปิดไปแล้ว...

         ตัดไปที่ อ.สิรินธร สถานที่ท่องเที่ยวที่ในอำเภอนี้ นอกจากเขื่อนสิรินธรที่กว้างใหญ่แล้ว ยังมีอีกที่ที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน คือ วัดสิรินธรวนาราม หรือวัดภูพร้าว ที่นี่มีอุโบสถหลังใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขา มีลวดลายรูปต้นโพธิ์ด้านหลัง ซึ่งจะเรืองแสงในเวลาค่ำคืน รอบๆ มองเห็นทิวทัศน์รอบด้าน ทั้งเขื่อนสิรินธร ด่านฯ ช่องเม็ก ไปจนถึงเทือกเขาในลาว แต่ถึงจะมีของสวย แต่ทว่าต้นไม้ใหญ่มีค่อนข้างน้อย แดดร้อน(มาก) ถึงว่า ทำไมเขามากันตอนเย็นๆ ทั้งแดดร่ม และได้เห็นต้นโพธิ์เรืองแสงด้วย

         เลยมาไม่ไกล ก็จะถึง ด่านชายแดนช่องเม็ก ก่อนจะข้ามไปอีกประเทศ ขอทานข้าวกลางวันในประเทศ ที่เพลินทัวร์ ร้านอาหารตามสั่งในบริษัททัวร์ ลูกค้าที่เห็นเลยเป็นคณะทัวร์ ก่อนข้ามแดนมาเตรียมความพร้อมเรื่องเอกสารที่นี่ก็ได้ 

         ทีนี้ก็ถึงเวลาข้ามแดน ถ้าทำบัตรผ่านชั่วคราว จะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน และต้ององยู่ในแขวงที่ตั้งของด่านเท่านั้น ถ้าอยากเที่ยวหลายวัน หลายที่ เอาพาสปอร์ตไปด้วยจะดีกว่า

          ถ้าจะขับรถเข้าไป ต้องทำพาสปอร์ตรถ หรือหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศด้วย 

         พอผ่านด่านก็จะต้องทำการประทับตรา และจ่ายค่าธรรมเนียม มากพอสมควร อย่าลืมเตรียมเงินให้พร้อม เท่านี้ ก็ได้เวลาตะลุยลาวใต้แล้ว

    • โพสต์-9
    Jerdja •  ตุลาคม 13 , 2558

         หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เราก็มาถึง ขัวลาว – ญี่ปุ่น หรือสะพานมิตรภาพลาว – ญี่ปุ่น ข้ามแม่น้ำโขงไปยังเมืองเอกของแขวงจำปาศักดิ์ “ปากเซ

         เช็คอินกันที่ โรงแรมสีสุก นอนในตึกเก่าสุดคลาสสิค สูดกลิ่นอายสมัยอาณานิคม ห้องพักมีสองแบบ ขนาดเล็กและใหญ่ ในห้องตกแต่งด้วยภาพลายเส้นยุคสำรวจอาณานิคม สร้างบรรยากาศโบราณขึ้นไปอีก

         ด้านล่างมีร้านกาแฟสีหนุก อีกหนึ่งยี่ห้อกาแฟดังของลาว (แพงหน่อยนะ) แต่ก็อร่อยทั้งกาแฟ และโกโก้

         มุ่งหน้าสู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นั่น มีน้ำตกสวยๆ ที่เกิดจากการพัฒนาโดยคนไทย น้ำตกตาดผาส้วม คำว่าส้วม อย่าเพิ่งคิดไปถึงสิ่งนั้น แต่หมายถึงห้องหอต่างหาก มาจากตำนานที่ว่า ชายคนหนึ่งสร้างห้องหอรอหญิงที่รัก แต่เธอกลับหนีไปกับชายคนอื่น เขาจึงตัดสินใจจบชีวิตลง ทิ้งห้องหอไว้อย่างนั้น

         สภาพรอบๆ ร่มรื่น โชคดีที่วันนี้น้ำใส ฝนไม่ตกหนัก น้ำตกจึงสีขาวสวย ไม่เป็นสีแดงน่ากลัวเหมือนที่เคยเห็นในเว๊ป น้ำตกหน้าตาเหมือนไนแองการ่าอย่างไรอย่างงั้นเลย

         เดินข้ามสะพานแขวนตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับอีกน้ำตกหนึ่งคือ น้ำตกตาดมะแงว หรือน้ำตกสองสี ตอนเราไปก็พอมองเห็นว่า ฝั่งหนึ่งเป็นสีน้ำตาล อีกฝั่งเป็นสีขาว แต่เดินเข้าไปใกล้ๆ ยาก แถมมีท่ออะไรวางเกะกะไปหมด ว้า...

         ระหว่างทางเข้าน้ำตกสองสี จะมีบ้านต้นไม้ เป็นที่พักของอุทยานบาเจียง นอนกลางไพรก็น่าสนใจนะ

         อีกสิ่งที่ห้ามพลาดคือการเยี่ยมเยียนชนพื้นเมืองบริเวณน้ำตก เผ่ากะตู้ ที่ยังคงวิถีชีวิตและการสร้างบ้านเรือนแบบโบราณ เราไปช่วงเย็น เห็นผู้คนกำลังกลับบ้าน แว่วเสียงเครื่องดนตรีพื้นเมืองที่บรรเลงโดยคนพื้นถิ่น อาคารบ้านเรือนที่สร้างอย่างง่ายๆ แต่แฝงรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญ อย่าลืมซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

         ค่าเข้าชมทั้งหมด ชาวต่างชาติ คนละ 10,000 กีบ หรือประมาณ 40 บาท

     

         สายน้ำที่ไหลไปลงน้าตกตาดผาส้วม คือ ห้วยจำปี น้ำใสไหลเย็น ชาวบ้านมักจะมาซักผ้า อาบน้ำกันที่ลำธาร เป็นภาพวิถีชีวิตที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน

         กลับเข้าเมืองปากเซ แวะร้านเกตมณี ริมถนนหมายเลข 16 ขายอาหารนานาชาติ อาหารตามสั่ง ส่วนตัวว่าปอเปี๊ยะทอดอร่อยดี

         ก่อนนอนเติมของว่างเข้าท้องสักหน่อย Parisien Café เค้กและกาแฟ ในไสตล์ ฝรั่ง + เกาหลี (บิลเป็นภาษาเกาหลี...) ก่อนเข้านอนในคืนที่ฟ้าอากาศเป็นใจ

     

     

    • โพสต์-10
    Jerdja •  ตุลาคม 13, 2558
  1. โหลดเพิ่ม