ขึ้นหัวก็ดูจะเป็นรีวิวการท่องเที่ยวแบบคนอวดแฟน แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวในครั้งนี้จริงๆ เราเริ่มต้นเพราะรัก... รักที่ผิดหวังของคนอื่นนนนนนนนนนน เนื่องด้วยเพื่อนสาวสุดสะดิ้งของคนข้างๆ เกิดอาการ sad เลยชักชวนกันหนีรักไปซบอกที่เชียงใหม่ กำหนดการแบบฉุกเฉินจึงเกิดขึ้น จัดการจองตั๋วเครื่องบินทันท่วงที ทริปนี้เราจะไปเชียงใหม่ในวันที่ 28 ต.ค. - 2 พ.ย. confirm วันที่แน่นอนกับเพื่อนสาว ท่ามกลางความโศกเศร้าของนาง

และ นั่น......

 คือจุดเริ่มต้น

ของงงงง

การท่องเที่ยวของเราสองคนนนนนน

เพราะเมื่อเพื่อนสาวมีสติและไปจัดการจ่ายเงินค่าตั๋วในช่วงเช้า จึงมีการเม้าท์มอยเรื่องวันที่จะไป ทำให้รู้ว่าเราจองกัน"คนละเดือน" #โพ่งงงงงงงงงงง 

โอเค ทริปนี้เหลือเราสองคนที่ต้องไปสวีทกันที่เชียงใหม่ งั้นก็ต้องวางแผนกันเลยจะไปที่ไหน ทริปนี้เลยเน้นออกต่างอำเภอ เพราะเราเคยไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่กันมาแล้วในปีที่แล้ว(เอง) #ไปอีกแล้วหราาา 

แผนของเราจึงเป็น

Day 1 ออกจากโคราชไปขึ้นเครื่องตอนเย็นๆ แล้วก็ไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่

Day 2 ไปแม่กำปอง (กำลังฮิตต้องไปเยือน)

Day 3 ไปเชียงดาว (ไปแอบอ่านรีวิวในกลุ่ม facebook มา ก็เลยลองไป)

Day 4 ในตัวเมืองเชียงใหม่

จากนั้นเราก็จัดการจองที่พัก เกณฑ์ง่ายๆ คือ ต้องไม่ถึงพัน นอนเต้นท์ได้ 

- ในตัวเมืองเราเลือก บ้านอ้ายหล้า อยู่แถวโรงเรียนโสตศึกษา เราจองผ่าน agoda เพราะราคาไม่ต่างกัน แต่ agoda จ่ายผ่านบัตรได้ ไม่ต้องเสียค่าโอน :D

- แม่กำปอง เราจองที่ บ้านสายชล ได้แบบเต้นท์ คนละ 450 บาท (รวมอาหารเช้า - เย็น)

- เชียงดาว เราพยายามที่จะจองบ้านระเบียงดาว ที่เป็นที่พักยอดนิยม แต่ติดต่อไม่ได้ เลยลองหาข้อมูลเพิ่มก็ได้เจอกับ บ้านสายหมอก ซึ่งแทบจะหารีวิวไม่ได้เลย แต่ไม่เป็นไรของแบบนี้ลองกันได้ :D

มีที่พักและจุดมุ่งหมายเราก็พร้อมที่จะเจอเธออีกครั้ง "เชียงใหม่"

เราเดินทางออกจากโคราชเพื่อไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง โดยมีคุณพ่อคุณแม่นั่งรถไปเป็นเพื่อน เพราะท่านจะขับรถกลับโคราช ไม่อยากให้จอดทิ้งไว้ เราใช้เวลาชิลๆ แวะกินข้าวที่ตลาดปากช่อง โคราช - กทม. กะเวลา 3 - 4 ชั่วโมง ชิลๆ 

และ มันก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อ

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

จากชิลๆ จะกลายเป็นต้องรีบเลย เพราะรถติดขนาดหนักมากกกกกกกก ติดชนิดรถจอดนิ่งๆ เกือบชั่วโมง ขยับได้นิดหน่อย เอาเป็นว่าต้องไปขึ้นเครื่องให้ทันก่อน 16.00 น. แต่บ่ายสองเรายังอยู่สระบุรีกันอยู่เลย โอ้ววววว เครียดกันเลยทีเดียว ในหัวตอนนั้นคิดว่าขึ้นเครื่องให้ทันก็พอ ดังนั้นเราต้องลดเวลาการ check in ลง ด้วยการ check in ผ่าน Mobile Application ของนกแอร์ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม) แต่ในที่สุดเราก็ไปทัน และก็รอเครื่องเลท เยี่ยมมมมม!!!!

เราเดินทางด้วยนกแอร์ ด้วยเหตุความชื่นชอบขนมที่แจกบนเครื่องล้วนๆ ซื้อกินเองก็ไม่อร่อยเท่า คนข้างๆ บอกมาแบบนี้ เราไปถึงเชียงใหม่ประมาณเกือบหนึ่งทุ่ม เชียงใหม่ต้อนรับเราด้วยอากาศสบายๆ ไม่หนาวแต่ก็ไม่ร้อน นายช้างน้อยมารับเราไปกินข้าวแถวตลาดโต้รุ่งช้างเผือก เป็นย่านที่เราชอบมากที่สุด อาหารอร่อย มีให้เลือกหลายร้าน ใครไปต้องห้ามพลาดกับสุกี้ ขนมรังนก ขนมบัวลอย อร่อยลืมมมม

อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลา check in ที่พักแรกของเรากับ บ้านอ้ายหล้า

บ้านอ้ายหล้าต้อนรับเราด้วย แมว!!!!!

ออฟฟิตของที่นี่เป็น cat cafe' ด้วย นี่มันสวรรค์ของคนรักแมวชัดๆ โชคดีจุงงงง :D พี่อ๊อฟ ผู้ดูแลที่พักน่ารักมากกกก เอาแผนที่มากางบอก landmark ของเชียงใหม่ แต่เราก็เน้นชัดๆ เลย ขอร้านอร่อยๆ แบบชาวเมืองใหม่กินกัน ไม่เอาแบบนักท่องเที่ยว

ไปดูห้องพักกัน เราเลือกห้องพัดลม ในราคา 450 บาท/คืน เป็นห้องเตียงเดี่ยวมีมุ้งแขวนเพื่อป้องกันยุง ดูคลาสสิคอีกแบบ ภายในห้องมีทีวี, ชั้นแขวนเสื้อผ้า, โต๊ะวางเครื่องสำอางค์ , น้ำดื่ม, ผ้าเช็ดตัว เตรียมไว้ให้ ห้องน้ำจะอยู่บริเวณหลังห้อง มีน้ำอุ่นและชักโครกตามมาตรฐานปกติ

ข้อดี 

- ราคาไม่แพง ห้องสะอาด

- เดินทางมาง่าย ใกล้แหล่งของกิน , ที่เช่ามอเตอร์ไซค์, ร้านเสริมสวย

- service ดีงาม ทั้งจากคนและแมว

- กาแฟรสชาติโอเคนะ ไม่ต้องไปหากินไกลด้วย

- มีฟรี wifi

ข้อเสีย

- ปลั๊กไฟมีน้อยมากกกก ไม่เพียงพอต่อความต้องการ (มือถือสองเครื่อง ก็ต้องผลัดกันชาร์จ)

หลังจาก check in เรียบร้อยแล้วก็ออกหาแหล่งเที่ยวกลางคืนของเชียงใหม่สักหน่อย เราเลือกที่นั่งชิลๆ นายช้างน้อย น้องชายของเราก็แนะนำร้านท่าช้าง ร้านนี้ชัดเจนเรื่องอายุผู้เข้าร้านดี ตรวจกันตั้งแต่เข้าร้านเลย คนตรวจก็หน้าโหดซะ ใครจะกล้าเข้ามามีเรื่องในร้าน ภายในร้านแบ่งหน้าที่ชัดเจน ผู้ชายขายเหล้า ผู้หญิงขายกับแกล้ม สั่งของปุ๊บ เก็บเงินก่อน ส่งของทีหลัง #โหดสัส เมนูที่ร้านแนะนำคือ สตอเบอแหล เป็นบัคเกต รสชาติหวานแปลกๆ คล้ายยาแก้ไอ แต่เมาเร็วดี ฮ่าๆ

แล้วเจอกัน "แม่กำปอง" :D

เป้าหมายของวันนี้คือการไปแม่กำปอง เราตัดสินใจที่จะเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ไปเอง เพราะดูระยะน่าจะพอขี่ไปได้ และก็อยากที่จะแวะเที่ยวระหว่างทางไปด้วย

ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์อยู่ข้างๆ กับบ้านอ้ายหล้าที่พักของเราเลย เหลือเจ้า grand filano สีแดงคันเดียวให้เรา ในราคา 250 บาท/วัน ซึ่งมันเหมาะมาก เพราะรุ่นนี้มันจะพิเศษตรงที่ใต้เบาะรถมันจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้เราสามารถใส่เป้เก็บไว้ใต้เบาะได้สบาย

คนพร้อม รถพร้อมเราก็ลุย!! การขี่ไม่ยากเท่าไหร่ถนนจัดว่าดีเลยทีเดียว ขี่ไปได้เรื่อยๆ อากาศดีสดชื่น 

ระหว่างทางเราเห็นป้ายบอกทางไปเขื่อนแม่กวงอุดมธารา เราเลยตัดสินใจขี่ออกนอกเส้นทางสักนิด ไหนๆ ก็มาเที่ยวแล้ว เก็บความทรงจำระหว่างทางให้มากที่สุดแล้วกัน

ลำน้ำกวงเป็นลำน้ำสาขาใหญ่สาขาหนึ่งของแม่น้ำปิง มีต้นน้ำอยู่บริเวณเทือกเขาในท้องที่อ.ดอยสะเก็ด ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเชียงใหม่ เขตติดต่อกับเชียงราย ลำน้ำนี้ไหลผ่านท้องที่ อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และอ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน โดยไหลลงสู่แม่น้ำปิงที่บ้านสบทา อ.ป่าซาง จ.ลำพูน แต่ด้วยปัญหาเรื่องน้ำแล้งในหน้าแล้ง และน้ำท่วมในหน้าฝน จึงได้มีการก่อสร้างเขื่อนแม่กวงขึ้นมา (รายละเอียดเพิ่มเติม)

ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ฝนเริ่มทิ้งช่วงแล้ว แต่น้ำในเขื่อนยังมีไม่เต็มเลย เพราะด้วยจำนวนฝนที่ตกน้อยในปีนี้ แอบสงสารชาวบ้านเลย จะอยู่กันอย่างไงเนี่ย ยังไงก็ประหยัดน้ำกันหน่อยนะจ๊ะ 

พักถ่ายรูป ชื่นชมบรรยากาศแล้ว เราก็มุ่งหน้าเพื่อจะไปบ้านแม่กำปอง แหล่งฮิตของ Hipster ในตอนนี้ เราขับตาม gps และป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ