#พาไปสกลที :: พาเที่ยวสกลนคร ใน 12 ชั่วโมง กับ งบประมาณ 500 บาท [บิน/กิน/เที่ยว]
สารภาพตามตรงเลยนะครับ ว่า ผม...นั้น ไม่ได้มีข้อมูลสำหรับ “จังหวัดสกลนคร” นี้เลย ตั้งแต่แรกเริ่มจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งการเดินทางในเส้นทางสู่จังหวัดสกลนครนั้น เป็นเส้นทางใหม่ของสายการบินแอร์เอเชีย ก็เลยอยากลองไปเที่ยวในเส้นทางนี้ดูบ้าง ประมาณว่า จองตั๋วไปก่อน จะไปยังไงค่อยว่ากันอีกที ซึ่งก็เกิดเป็น ทริป “สกลนคร” นี้ขึ้นมาครับ เนื่องจากมีเวลาไม่มากนัก ประกอบกับไม่แน่ใจว่าสกลนครจะมีอะไรให้เที่ยวบ้าง จึงจองตั๋วเครื่องบินแบบ ไปเช้ากลับเย็น ครับ (ตอนแรกกลัวว่าไปแล้ว จะไม่มีอะไรเที่ยว แล้วไม่มีที่ไป ต้องนั่งรอเครื่องกลับตอนเย็น อะไรประมาณนั้นครับ 55+) ทริปนี้ จึงเป็นทริปสั้นๆ วันเดียว พาไปเที่ยวเมืองสกลนครกัน ซึ่งมีเวลาในการเที่ยวทั้งหมดประมาณ 12 ชั่วโมง และ งบประมาณค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะใช้ไป ประมาณ 500 บาท ซึ่งสำหรับผมถือว่าคุ้มค่ามากที่จะลองไปเยือนจังหวัดนี้ดูสักครั้งครับ ก่อนเดินทาง 1 วัน ผมก็เลยค้นหาข้อมูลใน Google ดู ก็เก็บข้อมูลคร่าวๆ และอาศัยจำข้อมูลที่จำเป็นเอาครับ ไปถึงสกลนครยังไง เดี๋ยวค่อยคลำๆ หาทางไปอีกทีนึง 55+
ซึ่ง โปรแกรมท่องเที่ยว โดยคร่าวๆ เที่ยววันเดียวก็วางไว้ประมาณนี้ครับ
เช้า – เดินทางไปเที่ยวที่ ท่าแร่
เที่ยง – กลับมาตระเวณหาของอร่อยกินในตัวเมือง
บ่าย – เที่ยววัด ในบริเวณตัวเมือง
เย็น – เดินเล่นริมหนองหาน ก่อนเดินทางกลับ กทม.
เป็นการเที่ยว “สกลนคร” ใน 1 วัน (12 ชั่วโมง) กับ งบประมาณ 500 บาท ที่ถือว่าเป็นการแลกกับประสบการณ์ที่คุ้มค่าเลยทีเดียวล่ะ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา.. ไม่ต้องรอให้ใคร #พาไปสกลที เดี๋ยว ผม.. จะพาเพื่อนๆ ไปสกลเองครับ 55+ ออกไปเที่ยวเมืองสกลนครกัน ว่าแล้ว.. ก็ แบกเป้ ตามมาได้เลยครับ…. !!!!
“จังหวัดสกลนคร” เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานตอนบน เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญ และมีความหลากหลายในด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่น่าสนใจ เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดนครพนม และมุกดาหาร ซึ่งเป็นกลุ่ม “สามจังหวัดสนุก” ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน อีกด้วย ถ้าดูแผนที่ ของจังหวัดสกลนครนั้น จะเห็นจุดเด่นเลยก็คือ “หนองหาน” บึงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ติดใจกลางเมือง ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์ค สำคัญของที่นี่เลยก็ว่าได้ครับ ส่วน.. สถานที่เที่ยวใกล้เคียง ก็เป็นวัดวาอารามต่างๆ ให้ได้เข้าไปไหว้พระ กัน การเดินทางครั้งนี้ เป็นการท่องเที่ยวแบบเน้นประหยัด จึงเริ่มต้นจาก การจองตั๋วเครื่องบินแบบประหยัด ของสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเส้นทางไป “สกลนคร” นั้น ถือว่าเป็นเส้นทางใหม่ ของแอร์เอเชีย ถึงแม้จะไม่ใช่เส้นทางท่องเที่ยวยอดฮิต แต่ก็เป็นเส้นทางหนึ่งที่ออกโปรฯ มาบ่อยมากๆ และเวลาก็ค่อนข้างดีด้วย โดยผมได้จองไปไฟล์ทเช้าสุด 6.55 น. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) และเที่ยวกลับ 19.30 น. ซึ่งจะใช้เวลาในทริปนี้ทั้งหมดไปประมาณ 12 ชั่วโมง จองโปรโมชั่น 0 บาทไป ค่าใช้จ่ายไป-กลับ ทั้งหมด 150 บาท..! มาถึงตรงนี้..หักงบในการซื้อตั๋วเครื่องบินไป 150 บาท ทำให้ผมเหลือตังค์ในกระเป๋าในการไปใช้จ่ายที่สกลนคร 500-150 = 350 บาท
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
เริ่มต้นออกเดินทางในเช้าวันเสาร์ที่ “สนามบินดอนเมือง” ค่อนข้างที่จะวุ่นวาย เป็นเช้าที่นักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือ ต่างประเทศกันเยอะมาก การเผื่อเวลามาสนามบิน ก็สำคัญเหมือนกัน ถึงแม้..ค่าตั๋วจะแค่ 150 บาท ถ้าตกเครื่องขึ้นมาก็เจ็บใจไม่แพ้กันนะ (เคยมาแล้วครับ 55+)
เช้าวันนี้..มีฝนตกโปรยปราย มองเห็นรุ้งซ้อนกัน 2 ชั้นเลยครับ อากาศเย็นสบาย..ดีครับ มาขึ้นที่ Gate 72 เป็น Bus Gate แน่นอน พร้อม..ออกเดินทางกันครับ..!! จะใช้เวลาเดินทางจาก ดอนเมือง – สกลนคร ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ รวดเร็ว สะดวกสบายมากๆ หนังสือ 3Sixty Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน ช่างเข้ากับทริปนี้จริงๆ นั่งหลับๆ ตื่นๆ งัวเงียๆ คอพับคออ่อน แป๊บเดียว! ก็เดินทางมาถึงแล้วครับ.. “สนามบินสกลนคร” – เป็นสนามบินเล็กๆ น่ารัก กะทัดรัดดีเหมือนกันนะ จาก “สนามบินสกลนคร” จะเข้าเมืองยังไง ? สนามบินสกลนคร จะอยู่ห่างจาก ตัวเมือง ประมาณ 8 กิโลเมตรได้ครับ มีรถบริการเข้าเมืองในราคา เที่ยวละ 80 บาท สามารถไปส่งตามจุดที่ต้องการ ในบริเวณตัวเมือง ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีที่สะดวกสบายดีเหมือนกันครับ หรือ.. จะเช่ารถขับก็ได้นะครับ มีเคาเตอร์บริการที่สนามบินเช่นกันครับ รถบริการเข้าเมือง 80 บาท“แผนที่เมืองสกลนคร”
A = สนามบินสกลนคร
B = อุทยานบัวหนองหานเฉลิมพระเกียรติ
C = ท่าแร่
D = ตัวเมืองสกลนคร
เมื่อมาถึง “สนามบินสกลนคร” แล้ว ผมอยากจะไปเที่ยวทางเส้นท่าแร่ก่อน ซึ่งเมื่อดูจากแผนที่ด้านบนแล้ว เมื่อออกจาก สนามบิน(A) จะเลี้ยวไปทางขวามือ เพื่อไปที่ ท่าแร่(C) และ เลี้ยวซ้ายเพื่อที่จะ เข้าเมือง(D) ตอนแรกมีความคิดว่าจะนั่งรถเข้าเมืองไปก่อน มันก็ดูวกไปวนมาไปหน่อย ก็เลยจะลองเดินออกไปรอรถที่ถนนเส้น สกลนคร-นครพนม หน้าสนามบิน ซึ่งต้องเดินออกมาประมาณ 1.5 กม. ก็ดูไกลพอเหนื่อยเหมือนครับ ใครอยากจะลองเดินดูก็ได้นะครับ 55+ (แนะนำให้นั่งรถเข้าเมืองก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยต่อสองแถวสกลนคร-ท่าแร่ วกกลับมาอีกทีก็ได้ครับ จะได้ไม่เหนื่อย พอดีผมอยากลองเดินกันดูครับ 55+ ) แต่..เดินออกมาแป๊บนึง ก็มีรถกระบะใจดีให้ติดไปลงปากทางสนามบินข้างหน้าครับ มาลงปากทาง ซึ่งทางขวาจะไปนครพนม (ผ่านท่าแร่ที่ผมจะไป) ส่วนทางซ้ายเข้าเมืองสกลนคร
จากนั้น ข้ามถนนมาอีกฝั่งครับ เพื่อมารอรถสองแถวสาย สกล-ท่าแร่ เป็นรถสองแถว สีแดงๆ แบบนี้ครับ สังเกตได้ง่าย รถผ่านมาบ่อยวิ่งทุก 10 นาทีเลยครับ บรรยากาศการเดินทาง นั่งรถโดยสารไปท่าแร่อีกประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง ซึ่งก่อนถึง “ท่าแร่”ประมาณ 3 กม. จะมี “อุทยานบัวหนองหารเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร” ที่ถือว่าเป็นอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสายพันธ์บัวหลากหลายสายพันธุ์รวบรวมมาให้ได้ชมกันครับ ผมก็แวะลงที่นี่ทันที จ่ายค่าโดยสารรถสองแถวไป 15 บาท อุทยานบัวหนองหารเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร สามารถเข้ามาชมได้ฟรีนะครับ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถเดินชม หรือ จะเช่าจักยานปั่นเล่นก็ได้ ชั่วโมงละ 10 บาท มีเส้นทางจักรยานให้ได้ปั่นเล่นครับ “อุทยานบัวหนองหารเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2553 เป็นแหล่งรวบรวมบัวพันธุ์ต่างๆ จากทั่วโลกมาจัดแสดงไว้สำหรับให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้าไปชมและเรียนรู้ และเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดสกลนครภายในอุทยาน แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน
ส่วนแรก รวบรวมพันธุ์บัวไว้ในสระ มีบัวทั้งในและต่างประเทศ สามารถเดินตามสะพานไม้เข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิดเลยครับ ส่วนที่สอง เป็นที่จัดแสดงพันธุ์บัวที่หาดูได้ยาก แปลกๆ มากมายหลายสายพันธุ์ ส่วนสุดท้าย ได้จัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ และความเป็นมาของบัวพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งมีบัวพันธุ์ต่างๆ ไว้จำหน่ายให้ผู้ที่สนใจด้วย
สะพานไม้ทอดตัวเป็นทางเดิน ไว้เดินชมดอกบัว มีศาลาเล็กๆ กลางสระ ไว้พักหลบแดด หรือ นั่งเล่น ก็ได้ครับ ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสายๆ ดอกบัวเพิ่งโดนแสงแดดได้ไม่นาน กำลังค่อยๆ พากันบานโชว์สีสันที่สวยงาม มาเดินเล่นที่สะพานช่วงเช้าๆ หรือ เย็นๆ แดดไม่ร้อน คงจะชิลล์ และ บรรยากาศดีมากๆ นะครับ ศาลาเล็กๆ มีอยู่ทั่วสระ ไว้พักหลบแดด และนั่งเล่น ชมบรรยากาศได้ทั่วสระกันเลย บางจุดก็มีบัวขึ้นอยู่หนาแน่น บางจุดบัวก็โผล่พ้นน้ำมาอย่างโดดเดี่ยว