รับปากกับเพื่อนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่กันสองคน เอาที่ไม่ใกล้และไม่ไกลมาก ปีก่อนไปสุโขทัยปีนี้เลยตัดสินใจไปพิษณุโลก ระยะเวลาสามวันคืนสามวัน ไม่มากและก็ไม่น้อย เริ่มต้นจากนั่งรถไฟจากหัวลำโพงเที่ยวเจ็ดโมงเช้าขบวนรถกรงเทพฯเด่นชัย ไปลงที่พิษณุโลก จองตั๋วชั้นสองพัดลม ราคาสองร้อยกว่าบาท รถออกเจ็ดโมงมาถึงตีห้าครึ่งนั่งรอกันไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดเสร็จ
![]()
บรรยากาศนั่งรถไฟ กับการหิ้วของขายบนรถเหมือนจะคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร มีสารพัดของขาย ของกินเล่น กินจริงจังและของฝาก เรียกได้ว่าเดินผ่านทุกห้านาที เอาจริงๆแค่เห็นก็อิ่มแล้วล่ะ จากกรุงเทพฯไปพิษณุโลกใช้เวลาประมาณ 7 ชม นั่งกันจนเมื่อย เราไปถึงตอนเกือบบ่ายสอง เพื่อนสาวมาถึงก่อนหน้าเรานิดเดียว พอลงจากรถก็หิวไส้กิ่ว หาอะไรรองท้องก่อนจะเดินไปยังที่พัก พวกเราจองโฮสเทลเอาไว้ จริงๆแล้วตัวเราเองก็ยังไม่เคยนอนโฮสเทลในบ้านเรา ครั้งนี้ครั้งแรกจริงๆ โฮศเทลที่จองเอาไว้เจ้าของเป็นชาวอังกฤษ มีภรรยาเป็นคนไทย ได้บรรยากาศแบบโฮสเทลต่างประเทศ อบอุ่นและเป็นกันเองดีมาก ใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟไปประมาณ 15 นาที
![]()
มีทั้งห้องแอร์และพัดลม เป็นเตียงนอนสองชั้นน่ารัก เราลืมถ่ายรูปเตียงมา แต่บอกเลยว่าสะอาด ถูกใจเราทีเดียว เก็บสัมภาระเสร็จเตรียมตัวไปเอามอเตอร์ไซด์ ร้านไม่รับจองเพราะมีงานรับปริญญา สุดท้ายก็หามอเตอร์ไซด์ไม่ได้ วางแผนเอาไว้หลายอย่างเลยคิดว่าคงไม่ได้ไปแน่ๆ เลยตะเวณไหว้พระขอพร เผื่อๆจะมีอะไรดีๆบ้าง ถ้าหาไม่ได้จริงๆก็คงจะเที่ยวในตัวเมืองแล้วกลับ งานนี้ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันทีเดียว
![]()
เริ่มต้นด้วยการไหว้พระขอพรที่วัดนางพญา บังเอิญวันไปตรงกับวันพฤหัส มีสวดมนต์เย็นที่วัดเลยเข้าไปร่วมสวดมนต์ด้วย พึ่งพระพึ่งเจ้ากันเต็มที่เลยงานนี้
![]()
จากวัดนางพญาไปสวดต่อที่วันพระศรีรัตนมหาธาตุ หลังสวดเสร็จก็นั่งฟังธรรมต่อ เป็นบุญอีกต่อ ปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำแบบนี้เท่าไหร่นัก เดินวนไปวนมาอยู่แถวๆวัด จนกระทั่งเจ้าของที่พักบอกว่าเดี๋ยวเอามอไซด์ที่ขับอยู่ให้เช่า แวะเข้ามาเอาได้เลย เรากับเพื่อนสาวมองหน้ากันงงๆ เดินกลับไปที่พักงงๆ สรุปก็ได้รถมอไซด์ขับเที่ยวตามที่วางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรก ดีใจสุดๆ พอโล่งใจท้องก็ร้องจ๊อก เลยเวลามื้อเย็นมานานแล้ว เลยแว๊นไปหาอะไรกินที่ตลาด
![]()
เดินสำรวจอยู่พักใหญ่ได้แต่ของกินเล่น เดินออกมาจากตลาดที่อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ เจอร้านข้าวต้ม มีแต่คนบอกว่าอร่อยแต่เราเฉยๆ สุดท้ายรู้สึกเหมือนไม่อิ่ม เลยขับรถตะเวณหาของกินเพิ่ม จบที่ร้านโรตี
![]()
ร้านอยู่ใกล้ๆสะพานข้ามแม่น้ำน่าน ตอนเราไปโรตีเหลือชุดสุดท้าย สั่งคนละชุดกับเพื่อนสาว แยะมากและฝอยทองอร่อยมาก คนขายบอกว่าเสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ฝอยทองเจ้านี้อร่อยกว่าที่อื่น และเราก็ว่าอร่อยจริงๆ เฮฮาทั้งคนกินคนขาย ชิวๆเบาๆ ก่อนกลับที่พัก
ฟ้าสางพวกเราตื่นกันแต่เช้าตรู่ไปใส่บาตรก่อนขับรถไปภูหินร่องกล้า ตั้งใจไปกางเต้นท์นอนบนภูสักคืน มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้านหนุ่มอินดี้ตรงตลาดใกล้ๆสถานีรถไฟ ร้านนี้เดินมาเจอโดยบังเอิญ อร่อยถูกใจมาก
![]()
หลังจากหม่ำเสร็จเก็บของ ของบางส่วนฝากไว้ที่พัก เพราะเราจะกลับมาค้างอีกคืนวันกลับ กลัวตีรถลงภูมาจะมืดกลับรถไฟไม่ทัน ออกจากที่พักขับรถไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก ไม่รีบร้อน แต่แดดร้อนเอาเรื่อง วางแผนการเดินทางเอาไว้คร่าวๆ มื้อเที่ยงไปแวะระห่างทาง ถนนค่อนข้างโล่งเลยขับรถแบบสบายๆ
![]()
แวะกินมื้อเที่ยงที่บ้านบัว รีสอร์ทที่อยู่ระหว่างทาง ตัวรีสอร์ทยังไม่เสร็จ แต่สามารถเข้าไปพักได้ มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปพอสมควรทีเดียว พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่พอสมควรก่อนจะเดินทางต่อไปภู แวะเติมน้ำมันที่อำเภอนครไทยก่อนขึ้นภูมิ ไปถึงก็บ่ายสองแล้ว จ่ายค่าเข้าค่าที่พัก เสร็จตะเวณเก็บรูปก่อนตะวันจะลับฟ้า
![]()
![]()
![]()
เมื่อวานค่ำซะก่อน กว่าจะกางเต้นท์หาไรกินหมดสภาพ เช้านี้เลยตื่นตั้งแต่ไก่โห่ ต้มน้ำจิบกาแฟ กินมาม่า
![]()
พกพาเครื่องครัวจิ๋วๆไปเพื่องานนี้โดยเฉพาะ กินเสร็จโยนๆไว้ก่อน เที่ยวให้หนำแล้วค่อยมาเก็บ เมื่อวานนั่งมอไซด์มาหลายชม วันนี้เลยเมื่อยทั้งคู่กว่าจะเยื้อย่างได้เสียเวลาไปพอสมควรเลย
![]()
กลับไปถ่ายป้ายก่อน เดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึง
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
มาดูเมเปิ้ลแดง เจ้าหน้าที่บอกว่ามันคงไม่แดงไปกว่านี้แระ เอาเป็นว่ามาถึงแล้วก็แล้วกัน เดินลงไปดูกังหันน้ำ ขับมอไซด์กินลมชมวิวไปเรื่อยเปื่อย
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
เดินขาลาก ร้อนด้วย กว่าจะไปถึงลานหินปุ่ม เล่นเอาหอบแฮ่ก ร้อนมาก อยากกินน้ำอัดลมเย็นๆ ระหว่างนั้นมีทัวร์จีนไลฟ์สดเสียงดังมาก พวกเราเลยเดินกลับ เอาแค่หอมปากหอมคอก็พอ เต้นท์ยังไม่ได้เก็บอีกตังหาก กะค้างคืนเดียวแล้วกลับเลยเพราะเวลาจำกัด บ่ายแก่ๆขับมอไซด์กลับเข้าเมืองพิษณุโลก คิดว่าจะถึงเกือบๆเย็นไม่รีบ สรุปแว๊นลงมาอีกยี่สิบกว่าโลถึงตัวเมือง ยางรั่ว เศษแก้วหินเข้าไปติดในยางรถสิบกว่าที่ ได้น้องขาแว๊นท้องถิ่นดูให้และแนะนำร้านให้ไปทำยาง ไปตอนร้านกำลังจะปิด อ้อนอยู่แป๊บนึงพี่เจ้าของร้านก็ยอมทำให้ ใช้เวลาเกือบชม เพราะพี่เขาดึงเอาเศษแก้วกับหินออกให้ เปลี่ยนยางในใหม่ ออกจากร้านตะวันก็คล้อยต่ำแล้ว
![]()
ลุ้นให้ถึงตัวเมืองก่อนค่ำ และก็ถึงตอนค่ำพอดี มื้อค่ำเป็นอาหารจากร้านสะดวกซื้อ อยากอาบน้ำมาก เหงื่อตกมาทั้งวัน ก่อนคืนรถแว๊นไปนั่งดูลิเกที่ริมน้ำน่าน รับลมเย็นๆ![]()
![]()
เปลี่ยนบรรยากาศ น้องๆสืบสานศิลปะการแสดงได้เป็นอย่างดี เป็นหนึ่งในกำลังใจให้ผู้ที่ตั้งใจสืบทอดการแสดงให้ยังคงอยู่ต่อไป ลิเกยังไม่จบเรากลับกันก่อนเพราะง่วงมาก คืนมอไซด์เสร็จก็นอนกันทันที คืนนี้นอนห้องแอร์ มีสาวๆสแกนดิเนเวียร่วมห้องอีกสองเตียง ห้องนี้มีสี่เตียง หลับกันยันเช้า ก่อนจะเก็บของกลับกรุงเทพฯ ส่วนเพื่อนสาวอยู่ต่ออีกหนึ่งคืน
ขากลับเรากลับรถไฟชั้นสองแอร์ นั่งสบายๆ ไม่ค่อยมีคนมาขายของเท่าไหร่ สงบดี มองดูวิวข้างทางเพลินๆ ถึงหัวลำโพงตอนสองทุ่มกว่าๆ เหนื่อยแต่สนุก ได้ชาร์ตแบตก่อนจะทำงาน ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ
ค่าใช้จ่าย
ค่ารถไฟชั้นสองพัดลม/แอร์ ไปกลับกรุงเทพฯ พิษณุโลก เจ็ดร้อยกว่าบาท
ค่าห้องพักพัดลม 200 /แอร์ 250
ค่าเช่ารถ 250
ค่าเข้าอุทยาน/กางเต้นท์ 120
อื่นๆ 500