ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ลาเมืองลุง ( พัทลุง ) – ลาเมืองคอน ( นครศรีธรรมราช ) จังหวัดพัทลุง (Phatthalung Province) จ.พัทลุง
    • โพสต์-1
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    สวัสดีเธอ…
    วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริป
    เที่ยวเมืองคอน ไปนอนเมืองลุง” แล้วเธอ
    เริ่มต้นทริปกันแต่เช้าตรู่ เลยทีเดียว
    เพราะเรานัดเรือไว้ 06.00 น.
    เพื่อไปชมทะเลน้อย
    แต่ก่อนจะไปชมทะเลน้อย

    เรามีกิจกรรมมาให้เล่น
    ซึ่งผู้โชคดี 2 ท่าน
    จะได้รับรางวัลใหญ่ท่านละ 1 รางวัล
    ( 1 รางวัลสำหรับ 2 คน)
    ไปร่วมเที่ยว นอน กิน บิน แบบฟรี ๆ กับเรา
    สนใจไปร่วมกิจกรรมได้เธอ 
    https://www.facebook.com/TaklongTongteaw/posts/828283353987162


    เอาหละ!!
    ไปชมทะเลน้อยกันต่อ
    การจองเรือไปชมทะเลน้อย
    สามารถจองกับศรีปากประ รีสอร์ท ได้เลยเธอ
    ราคาก็จะอยู่ที่ 1200 บาท เป็นเรือหางยาว
    ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์
    นั่งได้ประมาณ 4-5 คน
    โดยจะเริ่มเที่ยวจากการชมแสงแรกของวัน
    กับยอยักษ์ หน้าร้านอาหารวิวยอ
    จากนั้นก็จะไปต่อที่สะพานแห่งความสุข
    (สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา)
    ควายน้ำ ทะเลบัวแดง และปิดท้ายด้วยชมนกน้ำ
    ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
    ขอบอกว่าคุ้มมาก เธอ..
    เพราะระยะทางที่เขาพาไปไกลมากกกกก
    ดูนู้น ชมนี้ ดูนั้น เพลิดเพลินดี
    คือชื่อของมันคือ “ทะเลน้อย” ก็จริง
    แต่ลักษณะทางภูมิศาสตร์
    มันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เธอ
    ที่สำคัญที่นี่มีความหลากหลายทางชีววิทยา
    และธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์
    อันเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว
    แวะเวียนกันมาเยี่ยมชมไม่ขาด

     

     

    ชมแสงแรกของวันกับยอยักษ์
    น่าเสียดายวันนี้มีเมฆค่อนข้างเยอะ
    ทำให้เราอดเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นไข่แดง

     

     

     

    คนเรือจะพาเราวนประมาณ 10-20 นาที
    เพื่อให้เราได้ชม และได้เก็บภาพ

     

    ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็โผล่ เธอ
    คือเป็นความโชคดีของเรา
    ที่ได้เห็น แม้ว่าจะไม่ได้เห็นแบบที่เป็นไข่แดง
    ค่อยๆ โผล่ขึ้นจากทะเล
    แค่นี้เราก็ฟิน แล้วเธอ

     

     

     

    อยู่ๆ ฟ้าก็ระเบิดซะงั้น
    อันนี้ถือเป็นรางวัลพิเศษที่ฟ้าประทาน
    ให้เรากันเลยที่เดียว (เวอร์)

     

     

    • โพสต์-2
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    จากยอยักษ์ คนเรือก็จะพาเราออกสู่ทะเลน้อย
    ผ่านนู้น นี่ นั่น ชมไปเรื่อย เธอ

     

     

    จุดนี้เป็นจุดก่อนจะถึงสะพานแห่งความสุข
    เป็นจุดที่นกมาอยู่รวมกันเยอะมากกกกกก
    อยากเข้าไปถ่ายใกล้ๆ
    แต่เรือเข้าไปไม่ได้เธอ
    เพราะน้ำตื้น 
    ทำได้เพียงส่องเลนส์ที่มีให้สุดกระบอก
    แล้วก็ลั่นชัตเตอร์
    ได้มาแค่นี้หละ แลดูไม่เวอร์วังเหมือนตาเห็น

     

     

    • โพสต์-3
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    จอดดูนกไม่นาน
    คนเรือก็พาเราลอดสะพานแห่งความสุข
    และจอดอีกครั้งตรงจุดชมควายน้ำ
    จริงๆ มันก็ควายทั่วๆ ไปนี่หละ เธอ
    เพียงแค่ว่า ควายที่นี่มันชอบลงมาลอยคอ
    ในน้ำเพื่อกินหญ้า กินบัว ที่อยู่ในน้ำ 
    มีทั้งควายดำ ควายเผือกหรือความชมพู
    (ที่บ้านเรียกควายด่อน) เธอ
    น่าเสียดายวันนี้มีควายไม่เยอะ
    และแต่ละตัวลอยอยู่ห่างกัน แลดูไม่เป็นฝูง
    เหมือนภาพที่เคยเห็น

     

     

    แก๊งค์นี้เป็นควายดำ เธอ
    มองไกล แอบตกใจ นึกว่าไอ้เคี่ยม

     

     

    • โพสต์-4
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    ออกจากจุดควายน้ำก็มาต่อกันที่ทะเลบัวแดง
    น่าอเนจอนาถใจ เธอ
    พอคนเรือบอกว่านี้เป็นทะเลบัวแดง
    น้ำตาเราแทบร่วง
    ที่คิดไว้ คือทะเลสีชมพู สุดลูกหูลูกตา
    เหมือนกับที่หนองหานอะไรเบอร์นั้น
    แต่…
    ต้องใจสลาย ความฝันพังทลาย
    เพราะมีบัวเพียงไม่กี่ดอกให้เชยชม มันน่าเศร้ายิ่งนัก
    จริงๆ มันเป็นผลมาจากการที่น้ำท่วมภาคใต้ครั้งที่แล้ว เธอ
    ทำให้บัวเกิดช้ากว่าที่ควรจะเป็น
    ประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน
    บัวน่าจะบานเต็มที่
    ไว้เรากลับไปแก้มือกันใหม่ เธอ
    ตรงกับช่วงที่เราจะพาแฟนเพจ
    มาเที่ยวตามรอยทริปนี้พอดี
    เดี๋ยวผลเป็นอย่างไร จะเวอร์วัง อลังการ
    เหมือนหนองหานไหม
    เราจะรายงานให้ทราบอีกที

     

     

    มีให้ชมแค่นี้แหละ กับระยะทางหลายสิบโล
    กว่าจะมาถึง

     

     

    บางต้นมีแค่ใบ บางต้นกำลังโผล่น้ำ
    ค่อนข้างเยอะเหมือนกันเธอ
    แค่ยังไม่มีดอกให้เห็น ….เท่านั้น

     

    • โพสต์-5
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    ไปจุดสุดท้ายกันต่อ เธอ
    คนเรือบอกจะพาไปดูนก กว่าจะถึงจุดชมนก
    ระหว่างทางมีอะไร ๆ หลายอย่าง
    ให้ชื่นชมเยอะแยะมากมาย เธอ
    เสพความสุข ให้เต็มที่
    สายมาแดดเริ่มแรง ใครจะมาตามรอย
    แนะนำให้เตรียมหมวก เตรียมร่ม
    ทากันแดดมาเยอะๆ นะเธอ
    จะได้ไม่ร้อน จะได้ไม่ดำ กัน

     

     

    ผ่านดงหญ้า ดงไม้ ใช้เวลานานพอควร
    กว่าจะมาถึงจุดชมนก
    ไอ้เราก็มโนว่า น่าจะมีนกให้ชมเยอะ
    เพราะแค่ทางผ่านอย่างจุดก่อนถึงสะพานแห่งความสุข
    นกยังเยอะขนาดนั้น 
    นี่เป็นจุดชมนกแท้ๆ คงไม่ต้องบอกว่านกจะเยอะขนาดไหน
    แต่สิ่งที่เห็น…
    สลายมโนทันที เธอ
    จริงๆ มันก็มีนกค่อนข้างเยอะนะ
    เพียงแค่ว่ามันไม่อยู่ร่วมกันเป็นฝูง ๆ
    ต่างก็หากินใคร หากินมัน
    ทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปออกมาให้เห็นเยอะ ๆได้

     

     

    นกที่นี่ มีหลากหลายสายพันธุ์มาก เธอ
    สีสันก็สวยงาม แตกต่างกันไป
    ระยะทางของจุดชมนกค่อนข้างไกล
    นอกจากนกแล้ว
    เรายังได้เห็นวิวสวยๆ งามๆ 
    และความหลากหลายของชีววิทยาอีกด้วย
    อีกอย่างคือ เราไม่เคยนั่งเรือไกลๆ แบบนี้
    แถมที่บ้านไม่มีหนองน้ำใหญ่ให้เห็น
    นกก็หาดูยาก เธอ
    หรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้
    เพราะโดนจับมาทำเมนูอาหารกันจนสูญพันธุ์
    ฉะนั้น ทะเลน้อย ทำให้เรารู้สึกอะเมซิ่งมาก
    มีความตื่นเต้น มีความน่าสนใจ มีความเพลิดเพลิน
    และมีความสุขสุด ๆ ที่ได้มาเยือน

     

     

     

    ฝูงควายระหว่างทางกลับขากลับ
    ชวนให้คิดถึงบ้าน อะเธอ
    เมื่อก่อนบ้านเราก็มีควาย
    พ่อเราเลี้ยงไว้หลายสิบตัว
    ก่อนจะขายยกครัว
    ปัจจุบันบ้านเราทั้งหมู่บ้าน
    ไม่เหลือควายสักตัว อะเธอ

     

     

    • โพสต์-6
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    กว่าจะถึงที่พักก็สาย ๆ

     

     

    ชาวบ้านเริ่มออกมายกยอ ให้เห็น

     

     

     

    พอถึงที่พัก
    รีบจัดมื้อเลย เธอ หิวโหยมาก
    มื้อเช้าเราขอเป็นข้าวบวกกับดีกว่า
    เพราะไม่ชอบขนมปังและข้าวต้ม

     

     

    อิ่มมื้อเช้าเราก็กลับเข้าห้อง
    อาบน้ำ เก็บกระเป๋า
    อำลาศรีปากประ รีสอร์ท
    และไปต่อที่สะพานแห่งความสุข
    อันเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาด
    เมื่อเช้าเราแค่ผ่าน 
    แต่ครั้งนี้เราจะไปเดินบนสะพานกัน


    สะพานแห่งความสุข
    (สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา)
    เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
    เชื่อมเมืองพัทลุง กับเมืองสงขลา
    อยู่ที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
    อยู่ไม่ไกลจากศรีปากประ รีสอร์ท เธอ
    แป๊บเดียวถึง

     

     

    บ้านน้อยสองหลัง ในตำนาน
    เรามีภาพมายืนยัน ว่าเรามาถึงแล้วนะเออ

     

     

    เจ่เจ้ขอ…สักภาพบนสะพาน

     

    • โพสต์-7
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    จากสะพานแห่งความสุข
    เราก็กลับไปแก้มือที่ “ร้านขนมหวาน ป้ากี้” อีกครั้ง
    เรามาถึงก่อน 10 โมง เธอ
    วันนี้ขนมหวานป้ากี้ เพียบบบบ!!

     

     

    ของโปรดเรา ครั้งก่อนได้กินไปนิดเดียว
    วันนี้เราจะจัดหนัก ๆ เธอ

     

     

    มันเชื่อม ตักใส่ถ้วย
    ราดด้วยกะทิสด แซบมากกก

     

     

    หนัก ไม่หนักดูเอาเองหละกัน เธอ
    สองคน คนละ 3 ถ้วย อีกถ้วยแบ่งกัน
    ราคาถ้วยละ 10 บาท
    ย้ำ!!! ถ้วยละ 10 บาทเท่านั้น
    แต่ความอร่อยเราให้เกิน 10 อะเธอ

     

    • โพสต์-8
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    อิ่มขนมหวาน
    ก็วิ่งยาวเข้าเมืองลุงกันต่อ
    แต่ก่อนถึงเมืองลุง
    จะผ่านร้านกาแฟ เก๋ๆ ซิคๆ คูลๆ
    วิวดีฝุดๆ คือร้าน “ขนำ คอฟฟี่”
    ทำให้เราต้องแวะเติมความหวาน อีกครั้ง…
    แม้ว่าขนมหวานจะยังไม่ทันได้ย่อย…ก็ตาม

     

     

    สำหรับร้าน “ขนำ คอฟฟี่”
    จะบริการเครื่องดื่ม ขนม นมเนย
    เหมือนกับร้านกาแฟทั่ว ๆ ไป
    แต่ที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์
    ทำให้นักเดินทางหลายๆ คนต้องแวะเยือนคือ
    การตกแต่งร้านที่โดดเด่นด้วยไม้
    และวิวหลักล้าน
    ซึ่งเราสามารถ นั่งตากแอร์ในบ้าน
    ที่ร้านเตรียมไว้ให้ ถึงสองหลัง
    ไปพร้อม ๆกับการชมวิว
    หรือจะออกไปนั่งชิล ๆ รับลมเย็นๆ
    ตามระเบียง ซุ้ม ที่ร้านเตรียมไว้ก็ได้
    พิกัดร้าน ถนนมโนราห์ (บายพาส)
    ต. ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
    ถ้าจะมาเราแนะนำให้ใช้ google map
    ตำแหน่งเป๊ะ อะเธอ ไม่หลงแน่นอน

     

     

     

     

    จัดมาแค่นี้พอ
    ขนมหวานป้ากี้ ยังไม่ย่อย อะเธอ.

     

    • โพสต์-9
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    เรานั่งรับลม ชมวิวที่ “ขนำ คอฟฟี่” สักพัก
    ก็ไปกันต่อที่ “วัดถ้ำคูหาสวรรค์”
    อันเป็น “พระอารามหลวง” แห่งแรกในจังหวัดพัทลุง
    มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา
    ที่สำคัญคือมีพระมหากษัตริย์เสด็จมาเยือน
    อย่างน้อย 3 พระองค์ โดยมีอักษรปรมาภิไธย
    จปร ,ปปร , ภปร และ สก บริเวณหน้าผาเชิงถ้ำ
    ซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยัน

     

     

     

    พระปรมาภิไธย บริเวณหน้าผาเชิงถ้ำ

     

     

    • โพสต์-10
    ตากล้อง •  เมษายน 19 , 2560

    กว่าจะไหว้พระ ขอพรเสร็จ
    ก็เลยเวลาของมื้อเที่ยงไปพอสมควร
    เราจึงไปทานมื้อเที่ยงกัน
    จริงๆ ร้านที่เรากำหนดไว้ในโปรแกรมทริป
    คือร้าน “ครัวสังข์หยด” 
    แต่พอไปถึง…ร้านดันปิด เพราะไฟดับ
    เลยหาร้านใหม่กิน และตกลงกันว่าจะไปกินสเต็ก
    ที่ร้าน “หลานตาซู”
    บังเอิญระหว่างทางเราเจอ “ROUTE 41”
    ตกแต่งแนวๆ คาวบอย แลดูเก๋ดี
    มีที่ให้ถ่ายรูปเยอะด้วย
    จึงเปลี่ยนใจ เลือกที่นี่

     

     

    แดดร้อนจัดมาก เราเดินถ่ายภาพด้านนอกไม่กี่ภาพ
    ก็รีบเข้าไปตากแอร์ในร้าน

     

     

     

    ร้าน COFFEE SALOON “ROUTE 41”

     

     

     

    มื้อเที่ยงของเรา ไอ้กุ้งแช่น้ำปลานะ
    เรารู้ว่ามันไม่เข้าพวก
    แต่เราชอบกินไง เธอ
    เห็นเมนูที่ไหน เป็นต้องสั่ง ไรงี้

     

     

    สเต็กแซลมอน จานนี้ของเจ่เจ้

     

     

    สเต็กเนื้อ จานนี้ของเรา

     

  1. โหลดเพิ่ม