อยุธยา พาสุขใจ

     มาเที่ยวอยุธยาบ่อยมาก จนเพื่อนที่ทำงานซึ่งเป็นคนอยุธยาบอกว่า “มาอยุธยามากกว่าคนอยุธยาแล้ว” เริ่มต้นการเดินทางที่ศรีราชาตั้งแต่เช้า นั่งรถตู้มาลงที่อนุสาวรีย์ ต่อด้วยรถเมล์ไปลงที่หัวลำโพง เราเป็น FC รถไฟไทย ถ้าได้เดินทางไปที่ไหน ถ้าไปด้วยรถไฟได้จะไป 

บ้านนอกศรีราชามาถึงหัวลำโพงแล้ว

     ถึงหัวลำโพงเดินดุ๊กดิ๊กไปซื้อตั๋วและได้รับสิทธิพิเศษในความเป็นคนไทย “รถไฟฟรี” (แสดงตนด้วยบัตรประชาชน) ขึ้นรถไฟปู๊น ปู๊น ฉึกฉัก มุ่งหน้าสู่สถานีอยุธยา 

ที่ออกตั๋ว ได้ตั๋วฟรีด้วย

สถานีกรุงเทพ

ขึ้นรถไฟไปอยุธยาในขบวนนี้ค่ะ

     รถไฟชั้น 3 แอร์ธรรมชาติ วันนี้อากาศดีไม่ร้อน นั่งชิดกับคนแปลกหน้า ที่ทุกคนต่างก็ไม่อยากมองหน้ากัน หลับตาได้ขอหลับ มองไปนอกหน้าต่างได้ก็ขอมอง เรานั่งมองผู้คนบนรถไฟแอบถ่ายรูปไปยิ้มไปเหมือนเป็นคนบ้าอยู่คนเดียว

คุณลุงนั่งประจันหน้ากัน ถ่ายรูปไม่ว่า ยิ้มให้ก็ไม่ว่า หน้าเดียวอารมณ์เดียวตลอด

หนุ่มขายไอติมคลายร้อน

          ถึงสถานีอยุธยาเกือบเที่ยง ตั้งแต่เช้า น้ำ ข้าว ยังไม่ตกถึงท้อง หิวมาก แต่ขอเถอะ ขอเข้าบ้านก่อน รถตุ๊กตุ๊กกบมีให้บริการหน้าสถานี แต่เราไม่ขึ้นเพราะแพง ไม่มีราคามาตรฐานโชว์ เดินข้ามถนนจากสถานีมีวินมอเตอร์ไซค์ ราคาสถานที่ที่จะไปต่างๆ ที่วินมีโชว์ไว้ให้เห็น ไม่ต้องต่อรองกันให้เสียเวลา ค่ารถไปที่พัก “อโยธยา ริเวอร์ ไซด์เฮ้าส์” 70 บาท เรามาพักที่นี่เป็นครั้งที่ 5 ได้แล้ว พักจนได้รู้จักพี่ปรัชญาเจ้าของเกสเฮ้าส์ที่น่ารัก และลุงป้าที่ดูแลบ้าน ที่ดูแลเราจนเหมือนญาติ

สถานีอยุธยา

รถตุ๊กตุ๊กกบมีบริการหน้าสถานีสีสันสดใส แต่ไม่ขึ้น แพงเกิ้น

อโยธยา ริเวอร์ ไซด์เฮ้าส์ มองจากแม่น้ำเจ้าพระยา

อโยธยา ริเวอร์ ไซด์เฮ้าส์ ห้องพักบนเรือมีสองห้องเป็นห้องแอร์

รถจักรยานไว้บริการ เสียค่าบริการเป็นรายวันค่ะ ค่าเช่าจักรยานเป็นรายได้ของคุณลุงคุณป้าที่ดูแลที่พักค่ะ

ใต้ถุนบ้าน โล่งโปร่งสบาย

บนบ้านมีลานโล่งๆ เอาอาหารมารับประทานได้ค่ะ ที่เกสเฮ้าส์ไม่มีบริการอาหาร

ที่นอนของเราเอง ห้องเล็กอยู่บนบ้าน

ใต้ถุนบ้านอีกมุม

     เก็บข้าวเก็บของเข้าห้องเสร็จแล้วนั่งคุยกับพี่ปรัชญาสักครู่ถามสารทุกข์สุขดิบกันเสร็จแล้วก็ขอตัวปั่นจักรยานไปหาของกินก่อน มาอยุธยาต้องกินก๋วยเตี๋ยวเรือ  จัดไป 2 ชาม ต่อด้วยผัดไทย ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือคลองสระบัว ปั่นจักรยานลั๊ลล้าได้สักพัก ฟ้าเริ่มเปิด แดดมาเลย จากอารมณ์ปั่นจักรยานแบบแฟนฉันเริ่มจะไม่ไหวแสบผิวไปหมด คงต้องหาที่หลบแดด ที่เดิม Wiwa House ร้านกาแฟที่เคยมา

     เนื่องจากนั่งรอหลบแดดอยู่นานในร้านกาแฟร่วม 2 ชั่วโมงได้ และเป็นช่วงของวันหยุด คราวนี้คับคั่งด้วยแก๊งส์จักรยาน และแก๊งบิ๊กไบค์ ที่เวียนไปเวียนมา เรานั่งมองไปมองมาด้วยความเพลิดเพลิน จักรยานบ้านๆ จากเกสเฮ้าส์เราจอดอยู่หน้าร้านล๊อคกุญแจอย่างดีตามคำสั่งของลุงป้าที่กลัวจักรยานหาย แต่บรรดาแก๊งส์จักรยานที่ราคาสูงๆ มาถึงจอดจักรยาน เข้าไปนั่งในร้านไม่มีใครล๊อคจักรยานสักคัน

ก๋วยเตี๋ยวเรือคลองสระบัว

สมใจ ในความหิว ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา

ผัดไทจานน้อย

ร้านกาแฟวีว่า

ตกแต่งน่ารัก น่านั่ง แอร์เย็นดี

อีกมุมของร้านกาแฟ

ควักกินได้ ได้อารมณ์เด็กๆ ดีค่ะ

จักรยานบ้านๆ ปั่นได้ทุกที่

 

     พอแดดร่ม เราก็ปั่นจักรยานกลับเกสเฮ้าส์ที่พัก ร้านกาแฟอยู่ห่างจากที่พักไม่มาก ปั่นจักรยานประมาณ 10 นาทีก็ถงแล้ว พอมาถึงบ้าน พี่ปรัชญาถามว่า “ไปไหนมาบ้าง” เราบอกว่า “ไปไม่ไกลค่ะพี่ แดดออกซ่ะก่อน ร้อนปั่นไม่ไหว นั่งร้านกาแฟเลย” พี่ปรัชญาตอบว่า “ทำถูกต้องแล้ว จำไว้ว่า อะไรที่ทำแล้วไม่มีความสุขให้หยุดทำ”

     เรายิ้มตอบ แต่ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ตอบในใจว่า “อะไรที่ไม่มีความสุขบางครั้งก็ต้องทำ เพราะบางครั้งเราต้องทำเพื่อคนอื่น เอาไว้หนูมีทรัพย์พอเลี้ยงตัว(รวย)อย่างพี่ อะไรที่ไม่มีความสุขหนูจะไม่ทำเลยค่ะ” 

     จากนั้นเตรียมตัวปั่นจักรยานไปวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งไม่ไกลจากที่พักที่เราพักมากนัก ปั่นจักรยานไป 5 นาทีก็ถึงแล้ว ทุกครั้งที่ไปอยุธยา ไม่เคยพลาดที่จะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตก พระอาทิตย์ตกที่วัดไชยวัฒนารามสวยที่สุด เหมือนไปหลวงพระบางต้องไปชมพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุพูสี อะไรประมาณนั้น เราได้ภาพถ่ายที่น่าพอใจอยู่ 2-3 รูป ฟ้าสวย พระอาทิตย์ดวงกลมโต ความสุขวันนี้เสพได้ที่ดวงตาค่ะ

 

วัดไชยวัฒนาราม

วัดไชยวัฒนาราม

ภาพสวยสมใจ วัดไชยวัฒนาราม

เป็นการรอคอยที่คุ้มค่า

วัดไชยวัฒนาราม

          ตื่นเช้ามาเจอฝรั่งเต็มใต้ถุนบ้าน ฝรั่งชวนคุย เราก็พูดไปเรื่อย ผิดไวยกรณ์ซ่ะส่วนใหญ่ แขกที่มาพักส่วนใหญ่เป็นฝรั่งจากยุโรปที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เราเลยพูดกันรู้เรื่อง 555 จากที่คุยกับชาวต่างชาติที่มาเที่ยว เราพบว่าเขาพร้อมที่จะฟัง ไม่ว่าเราจะสื่อสารด้วยภาษาอะไร ลุงป้าที่ดูแลบ้านพูดเป็นคำๆ พูดไทยบ้าง อังกฤษบ้าง แต่ก็สื่อสารกันเข้าใจ มันให้ข้อคิดกับเราอย่างหนึ่งว่า “ถ้าเราพร้อมจะเปิดรับฟัง เราจะเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ง่ายๆ และชีวิตมันก็ไม่ซับซ้อนอย่างที่เราคิด” ที่เกสเฮ้าส์ มีชากาแฟและขนมปังบริการให้แขกตอนเช้า เราเป็นแขกพิเศษและลุงป้าก็รักเราเป็นพิเศษ เลยมีโจ๊กแถมมาด้วย เราขึ้นไปเก็บข้าวเก็บของอาบน้ำ ยังค่ะ เรายังไม่กลับ ต้องไปเที่ยวก่อน แต่เก็บของเอามาไว้ด้านล่างเพื่อให้ลุงป้าเก็บห้องเตรียมตัวรับแขกคนต่อไป 

มีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ บริการค่ะ

เพราะเป็นแขกที่ลุงป้าเอ็นดูเป็นพิเศษ เลยมีโจ๊กแถม

เจ้าบ้านสุดเฟี้ยว เด็กแนวเล่นกีตาร์ให้ฟังแต่เช้า

     วันนี้ปั่นจักรยานไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ ค่าเข้า 50 บาท ชอบมาก เพราะของเล่นละลานตา ดูไปยิ้มไป น่ารักดี อยู่ที่นี่นานเลยค่ะ เป็นคนเที่ยวแบบไม่รีบ ชอบตรงไหนอยู่ตรงนั้นนานๆ

ถนนมีต้นก้ามปูสองข้างทางร่มรื่นดี

พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ 

พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ 

ภายใน พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ (พี่ม่อน)

ปลุกอารมณ์ความเป็นเด็กมากๆ

พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ ถ่ายรูปได้ตามสบายค่ะ

ของเก่าก็มีให้ดูเยอะเลยค่ะ

     ได้เวลาพอสมควรก็ปั่นกลับที่พัก อาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวกลับบ้าน ร่ำลาพี่ปรัชญาพี่ชายสุดเฟี้ยวเจ้าของเกสเฮ้าส์ที่แสนดี ลุงป้าที่ดูแลบ้านที่น่ารักกับเราสม่ำเสมอ แล้วจะกลับมาอีกค่ะ ไม่ได้มาเที่ยว แต่กลับบ้านมาพักใจ คราวหน้าจะอยู่ให้นานกว่านี้ พี่ปรัชญาเรียกตุ๊กตุ๊กกบให้ไปส่งที่สถานีรถไฟ เราลงที่ดอนเมือง ไปเข้าห้องน้ำที่สนามบินก่อน แล้วขึ้นรถเมล์เที่ยวพิเศษที่สนามบินไปลงหมอชิต เพื่อต่อรถกลับบ้านเราที่ศรีราชา จบการเดินทางหวังว่าคงอ่านเพลินๆ สนุกกันนะคะ 

กลับแล้ว แล้วจะกลับมาใหม่

รอยยิ้มเล็กๆ นานๆ เจอทีบนรถไฟค่ะ

แอบถ่ายหนุ่มน้อย

รองเท้าที่ซื้อจากย่างกุ้งมาเยือนถิ่นอยุธยาค่ะ