ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
วันเดียว...เที่ยวนครนายก ทริปเริงร่า ท้าแดด ท้าฝน ปะปนกันทั้งความมันส์ และความชิค จังหวัดนครนายก (Nakhon Nayok Province) จ.นครนายก
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  ตุลาคม 28 , 2559

    สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวแบบไม่ต้องเดินทางไกล ไม่ต้องค้างคืน ไม่ต้องลางานหลายวัน และที่สำคัญต้องเป็นสถานที่ที่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ไว้อัพรูปอวดเพื่อนลง Social ละก็ ทริปนี้จะตอบโจทย์สุด ๆ เลย นั่นก็คือ "วัน เดย์ ทริป อิน นครนายก" ทริปนี้ของเรานั่นเอง

    เช้าตรู่เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ขับรถมุ่งหน้าสู่นครนายก สถานที่แรกที่เราแวะพัก และถือโอกาสถ่ายรูปสวย ๆ คือ "ทุ่งนาบัว"  อ.บ้านนา มาช่วงเช้า ๆ แบบนี้เราจะเห็นดอกบัวแดงบานรับแสงทั่วทั้งทุ่ง บนพื้นที่กว่า 8 ไร่ แต่เดิมเคยเป็นพื้นที่ปลูกข้าว แต่ประสบปัญหาน้ำท่วมทำนาไม่ได้ผล จึงหันมาปลูกบัวแดงไว้ขาย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่ใครผ่านไปผ่านมาก็อดที่จะแวะลงไปชมความงามไม่ได้จริง ๆ

    ถ่ายรูปเล่นสักพัก ก็ได้ยินเสียงจากชาวบ้านว่า "วันนี้มีขนมที่ทำจากสายบัวมาขายด้วยนะจ้ะ" เรื่องของกินไม่มีพลาด จัดมาสักกล่อง แถมอุดหนุนบัวแดงที่ชาวบ้านเก็บ และมัดเป็นกำ มาไว้เป็นพร็อพสำหรับถ่ายรูปอีกซักหน่อย

    **แนะนำว่า ควรมาช่วงเช้า เวลา 7.00-10.00 น. นะครับ ถ้าหลังช่วงเวลานี้ไป นอกจากจะร้อนแล้ว บัวแดงก็จะหุบไม่บานสวยเหมือนช่วงเช้าอีกด้วย
    • โพสต์-2
    theTripPacker •  ตุลาคม 28 , 2559

    จากทุ่งบัวแดง เราขับรถต่อมาอีก 20 นาที ก็จะถึง "วัดจุฬาภรณ์วนาราม" วัดที่โด่งดังเรื่องอุโมงค์ไผ่เขียว ฟีลลิ่งเดียวกับป่าไผ่อาราชิยาม่า ประเทศญี่ปุ่นเลย แต่ที่นี่เป็นซุ้มที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นทางทอดยาว และใช้เป็นทางเข้าไปยังตัววัด หลังจากถ่ายรูปมุมสวย ๆ ของที่นี่เสร็จ ก็ขอตัวแวะเข้าไปไหว้พระทำบุญในศาลากันหน่อยเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต...รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวไปเทียวกันต่อ

    ถึงเวลาของมื้อกลางวัน มานครนายกหันไปทางไหนก็มีแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือ หรือไม่ก็ส้มตำ แต่ความที่อากาศร้อนแดดแรงเราเลยขอบายส้มตำ มาจัดที่ก๋วยเตี๋ยวแทน และด้วยความหิวของเรานี่แหละทำให้ลืมถ่ายรูปก่อนกินไป พออิ่มแล้วเพิ่งนึกได้ ขอแก้ตัวเป็นพาไปกินขนมที่คาเฟ่สุดชิคเปิดใหม่ "Tree House Cafe"  ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ เดอะฟอเรสโฮม รีสอร์ทแทนละกันนะครับ บรรยากาศภายนอกร้านร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวเห็นแล้วสบายตา พอเปิดประตูเข้าไปในร้านยังเจอมุมน่ารัก ๆ เหมาะกับคนรักคาเฟ่ มีมุมแคตตัสให้ถ่ายรูปเพลิน ๆ แถมมีเมนูขนมหวานแสนอร่อยไว้คอยบริการ ไม่รู้ว่าโชคดีไหมที่พอเข้าร้านปุ๊บฝนก็ตกปั้บ ที่นี่จึงกลายเป็นที่หลบฝนอันแสนสบายของเราไปเลย
    • โพสต์-3
    theTripPacker •  ตุลาคม 28 , 2559

    พอฝนหยุดตกแดดก็กลับมาเปรี้ยงอีกรอบ แพลนต่อไปก็คือ "น้ำตกสาริกา"  หนึ่งในน้ำตกของเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  น้ำตกนี้มีขนาดใหญ่ สายน้ำจะไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ซึ่งมีทั้งหมด 9 ชั้น แต่เราสามารถเดินเที่ยวได้ถึงแค่ชั้นที่ 5  แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำซึ่งไม่ลึกมาก สามารถลงเล่นน้ำได้แบบสบาย ๆ และปลอดภัย แถมยังสามารถเช่าห่วงยางมานอนลอยไปลอยมาได้อีกด้วย 

    อัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน

    • นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท    เด็ก 20 บาท
    • นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท   เด็ก 100 บาท
    ใกล้เย็นก็จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเด็ก ชาวต่างชาติ และกลุ่มวัยรุ่น ทำให้การแช่น้ำของเราไม่สะดวกซักเท่าไหร่ เราเลยหากิจกรรมสุดท้ายเป็นการปิดท้ายทริปให้ลงตัว เพิ่มความตื่นเต้น และทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นั่นคือการขี่ ATV ขึ้น เขาหล่น โดยปกติแล้วส่วนใหญ่จะขี่กันรอบ ๆ ด้านล่างไม่แอดเวนเจอร์มาก แต่เราเลือกที่จะขี่ขึ้นไปด้านบนเพื่อไปยังจุดชมวิวที่สวยงามบนเขาหล่น ระยะทางรวมทั้งสิ้น 7 กิโลเมตร ทั้งขี่ขึ้นเขา ลงห้วย ปีนหิน เรียกว่าความลุยมาครบ ขับมาครึ่งทางก็ถึงจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวเมืองนครนายกได้แบบ 360 องศา เป็นอีกจุดที่เรามารอดูพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามของเมืองนี้  และทริปนี้จะสมบูรณ์ที่สุดก็ต้องมีมื้อเย็นปิดท้าย ด้วยความที่ใกล้กับเขื่อนขุนด่านปราการชล ที่ขึ้นชื่อว่าปลาเขื่อนทั้งสด และอร่อย ก็ต้องลองแวะสักหน่อย จัดเมนูปลามาเน้น ๆ ทั้งผัดฉ่า ปลาทอด เรียกว่าเป็นการเติมพลังก่อนขับรถกลับกรุงเทพก็แล้วกันครับ  หากวันหยุดใครไม้รู้จะไปไหน ลองมาเที่ยวจังหวัดใกล้ ๆ อย่าง นครนายก ดู แล้วจะรู้ว่าคุ้มค่ากับการพักผ่อนจริง ๆ