Chanthaburi Trip | เมื่อฉันเผลอใจไป 'จันท์'
ทริป เดินเที่ยว กิน ฟิน(เวอร์) ที่จันทบุรี
โลกไม่ใหญ่ (เท่าไหร่หรอก) แค่ 'บางที่' เรายังไปไม่ถึง...
เรามักฝาก ปลายทาง ไว้กับที่ที่เราคุ้นเคย ที่ที่ใครๆ ก็ไป ที่ที่เขาเล่าว่า 'ดี' อย่างนั้นอย่างนี้ จนบางที่กลายเป็นแค่เส้นทางสัญจรผ่านไปซะอย่างนั้น วันนี้เราขอฉีกแนว ขอเปลี่ยนสถานที่ ทางผ่าน ของใครหลายๆ คน มาเป็น จุดหมาย ในการเดินทางของเรา
Traveling Season เดือนธันวาคมของทุกปี นี่เป็น 'ฤดูกาลเดินทาง' สำหรับเราเลยนะ เป็นเดือนที่อากาศ (โคตร) ดี มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอก ดอกไม้ก็งอกงาม พูดได้ว่าท่องเที่ยวได้ทุกภาคของไทย วันนี้...ย่างเข้าวันที่หนึ่งของเดือน ไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราก็เลยเริ่มต้นฤดู ด้วยการออกไปเยือนสถานที่ที่ใครหลายคนไม่ค่อยจะนึกถึง
ยัง...งงงง (ลากเสียงยาวๆ) ยังไม่ใช่คิวของการออกไปสัมผัสลมหนาวหรอก แต่เป็นที่นี่ จังหวัดจันทบุรี ที่ที่ทำให้ทริปสั้น...สั้นของเรา[โคตรฟิน] จนต้องเอามาบอกต่อ :)
"MIND Destination"
: : จังหวัดจันทบุรี (Chanthaburi Province) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของไทย ติดกับหลายจังหวัดอย่าง...ระยอง, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, สระแก้วและตราด เป็นเมืองที่มีชายฝั่งติดทะเล กับมีสภาพภูมิอากาศแบบเขตมรสุม ทั้งปีมีสามฤดู คือ ฤดูฝน เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม, ฤดูหนาว ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม และฤดูร้อน ในเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
จันทบุรีเป็นแหล่งอาหารทะเลสดๆ เป็นสวนสวรรค์ของคนรักผลไม้ นานาชนิด และมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลาย ทั้งชายหาด ทะเล น้ำตก และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือ เดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม โดยเฉพาะหน้าผลไม้ที่มาเมื่อไหร่ก็คุ้ม หลายๆ โรงแรมจะออกแพ็คเกจห้องพัก พร้อมพาเข้าสวนชิมผลไม้กันแบบบุพเฟ่ต์
เรามักเรียกจังหวัดจันทบุรี สั้นๆ ว่า เมืองจันท์ หรือ จันทบูร ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากกทม. เลย แค่สองร้อยกิโลเมตรเศษๆ เท่านั้น ที่จริงก็คล้ายๆ ขับรถไปหัวหิน ไม่ก็เขาใหญ่นั่นแหละ ตอนแรกเลย...คิดว่าจันทบุรีขึ้นชื่อแค่เรื่องผลไม้ เอิ่ม แต่นี่ไม่ใช่หน้าผลไม้นี่หว่า ไปแล้ว...เราจะเจออะไรล่ะ???
เอาจริงๆ ก็ยังไม่รู้ เรารู้แค่ว่า...ปันใจให้เมือง 'ทางผ่าน' เผลอใจไปเที่ยว 'เมืองจันท์' แล้ว ไปค้นหาเอาข้างหน้าก็แล้วกัน (ตอบง้ายง่ายเนอะ) ป้ะ! กระโดดขึ้นรถไปด้วยกัน แล้วจะรู้ว่าเราไปเจออะไรที่ เมืองจันท์ :)
ออกเดินทางเช้าวันแรกของเดือนธันวาคม เก้าโมงเช้า แวะซื้อเสบียง ขนมกรุบกริบกับกาแฟคนละแก้วแล้วไปต่อ จากถนนรามคำแหงเราดิ่งขึ้น Motorway เลย สำหรับเราเป็นเส้นทางที่ใกล้และสะดวกสุด ระยะทาง 245 กิโลเมตร [ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 344 กับหมายเลข 3 ค่ะ]
ขึ้นทางด่วนปั้บ ดูป้ายไว้ไม่หลง ชัวร์! ขับผ่านด่านลาดกระบัง มาถึงด่านพานทองให้เข้าซ้ายเพื่อแยกเข้าเส้น บ้านบึง-แกลง ช่วงนี้ทำถนนเยอะหน่อย (แต่พอทน) ขับต่ออีกแป๊บๆ ไม่นานเลย จะว่าไปก็เดินทางง่ายดีนะ
คณะเราเดินทางโดยรถส่วนตัว ไปกัน 3 คนค่ะ เที่ยวครั้งนี้ลองเที่ยววันธรรมดาดูบ้าง รถติดขาออกจากกรุงเทพฯ นอกนั้นแล่นฉิว นี่ล่ะ! ข้อดีของการท่องเที่ยววันธรรมดา รถไม่ติด ไม่ต้องเบียดเสียด แย่งยื้อกับรถคันอื่น ไม่ต้องแย่งเรื่องที่พัก ที่กิน แหม...แค่เริ่มต้นก็ชิวล์จัง :)
"...สองชั่วโมงผ่าน"
แหงนหน้ามองฟ้า ณ ท่าแฉลบ วันนี้ท้องฟ้าโปร่งเป็นสีฟ้าสวย แดดเปรี้ยง อากาศแบบ...ร้อนละลาย ก็ยังดีนะ ที่ถึงจะร้อนแค่ไหน หันไปมองเรือกสวนริมทางข้างๆ ยังเผื่อแผ่ความชอุ่ม ชุ่มชื้นมาถึงคนในรถบ้าง _ _ !
ก่อนถึงตัวเมืองจันท์ มีทางแยกเข้า ท่าแฉลบ ซึ่งอยู่ติดทะเล กะจะลองชิมอาหารทะเลสดๆ ที่นี่เป็นมื้อแรก ลองเสิร์ชเส้นทางไป 'ร้านปูจ๋า' ก็ไม่ไกลจากจุดที่เราอยู่นัก ขับเพลินก็เลยเลยทางเข้าแรก แต่ความฉลาดของเฮีย Google Map นี่สิ (...หรือเปล่าหว่า?) ที่ยังพยายามพาลัดเลาะ ฝ่าเข้าไปในสวนชาวบ้านจะไปให้ถึงที่หมายให้ได้
เอิ่ม...สุดท้ายหลงจ๊ะ เพราะเข้าไปในสวนลึกเอาการ ขับย้อนออกมาตั้งต้นใหม่แล้วเข้าอีกซอยหนึ่งที่อยู่ข้างๆ พาไปทะลุถนนเส้นที่ใหญ่กว่า แล้วก็ถึงร้านโดยสวัสดิภาพ
อันที่จริง ถ้าเดินทางโดยเส้นสุขุมวิทให้แยกเข้า ท่าแฉลบ ได้เลย (ตามป้าย) ขับต่อสัก 16 กิโลเมตรได้ (ไกลกว่านั้นอาจเลยนะ) จะเห็นร้านอยู่ริมถนน สังเกตไม่ยากค่ะ
"เที่ยวนี้...สายกิน"
: : ร้านปูจ๋า ท่าแฉลบ เปิดมาหลายสิบปีแล้วล่ะ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโซเชียล ดูจากรถที่แวะร้านนี้ (ทะเบียนกรุงเทพฯ ทั้งนั้น) เรานั่งโซนเอาท์ดอร์ ข้างๆ เป็นป่าชายเลนกับลานดินเล็กๆ พร้อมเครื่องเล่นเด็ก ภายในร้านเปิดโล่ง กว้างขวาง รับลูกค้าได้จำนวนมากเลยล่ะ (ไปเห็นตอนหลัง ว่าเขามีโซนห้องแอร์ด้วย)
อากาศร้อนๆ แบบนี้ เมนูแรกที่สั่งเป็น สละลอยแก้ว ขายเป็นกระปุกๆ ละ 170 บาท แบ่งได้ 3 ถ้วยเล็ก สละหอมๆ หวานอมเปรี้ยวลอยตัวในน้ำเชื่อม เต็มน้ำแข็งเกล็ดเข้าไปหน่อย หายร้อนเลย :)
จัดเต็ม!!! งานนี้ กุ้ง หอย ปู ไข่ปลา เลยมาชุมนุมกันเพียบ รสชาติอาหารใช้ได้ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดเผ็ดกลางๆ ยังไม่จี๊ดจ๊าดเท่าไหร่นะ
ปล. เผื่อใครแวะมาแถว ถนนท่าแฉลบ อยากกินอาหารทะเลสดๆ ไซส์ใหญ่ๆ บรรยากาศร่มรื่น รสชาติสมกับราคา ร้านนี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่โอเคค่ะ
จากท่าแฉลบไปที่พัก เราค้นหาเส้นทางด้วย GPS ที่นำทางไปเข้าทาง ถนนตรีรัตน์ ทะลุตัวเมืองใกล้ๆ กับตลาดพลอยแล้วพาเข้ามาในโครงการบ้านสวนจันท์ ซึ่งเป็นทางเข้าอีกทางหนึ่งของโรงแรม ระยะทางสัก 10 กิโลเมตรได้
: : โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท (อยู่ในตัวเมืองจันท์) ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เมื่อถึงทางแยกไป อ.มะขาม ให้เลี้ยวขวา ขับตามป้ายทางไปจังหวัดตราด อยู่กิโลเมตรที่ 336 (ก่อนถึงน้ำตกพริ้วให้ยูเทิร์นกลับมา) โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือเมื่อยูเทิร์นแล้ว เลี้ยวเข้ามาจะเห็นวงเวียน หอนาฬิกาสีขาว เป็นสัญลักษณ์
ถนนภายในโครงการ ปลูกประดับไว้ด้วยต้นไม้เป็นระยะ ให้ความรู้สึกร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้า พื้นที่ของโรงแรมกว้างขวาง มีสวนเล็กๆ ด้านหน้ากับต้นไม้ ดอกไม้ที่เราไม่ค่อยมีโอกาสเห็นบ่อยนัก อย่าง...เหลืองจันทบูร ซึ่งถือเป็นดอกไม้ประจำจังหวัด
"Into Nature, Fantastic Convenient"
: : Maneechan Resort โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีโซนต้อนรับอยู่ที่ชั้นสอง ทางขึ้นเป็นบันไดแยกซ้าย-ขวา ไปบรรจบด้านบน ทางด้านซ้ายเป็นโซนรีเซบชั่น ส่วนทางขวาเป็นห้องอาหาร เดี๋ยวเจอกันตอนเช้านะ :)
ภายในโรงแรมตกแต่งไว้ได้อย่างลงตัว หรู...แต่ก็ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ตัดด้วยโทนสีเขียวกับสีครีม โคมไฟทำจากวัสดุประเภทสาน ประดับด้วยผลไม้จำลอง บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นเมืองผลไม้ นอกจากจะเป็นส่วนต้อนรับและเช็คอิน บริเวณนี้ยังเป็นเลาน์ช พร้อมชุดโซฟาสบายๆ คอยรับรองแขกด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ กับผลไม้แต่ละฤดูกาลด้วย
ห้องพักของเราอยู่ชั้น 3 (ไม่มีลิฟต์) ตัวอาคารเชื่อมจากส่วนต้อนรับด้านหน้า ห้องพักเรียงตัวทอดยาวไปตามแนวระเบียงโอบล้อมรอบสระน้ำขนาดใหญ่ ใจกลางรีสอร์ท
การเดินทางในแต่ละครั้งของเรา ส่วนใหญ่เป็นแบบ Family ห้องพักแบบ Delux Room ของ โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท ตอบโจทย์เลยเพราะเป็นห้องพักขนาด 50 ตารางเมตรแบบ Twin Bed เสริมเตียงแล้วก็ยังกว้างมากๆ มีเฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้และมุมนั่งเล่น (สบายเหมือนอยู่บ้าน)
ภายในห้องสะอาดเอี่ยม ห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง พร้อมด้วยเครื่องอาบน้ำและไดร์เป่าผม เรียกว่า 'ครบครัน' จริงๆ ค่ะ
...และแค่ชะโงกหน้าออกไปนิดเดียวก็พบวิวสวน ต้นไม้ ดอกไม้กับสระเล็กๆ จากระเบียงห้องพัก ออกไปนั่งรับลม สูดอากาศโปร่งๆ ที่ชุดเก้าอี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ สบายจนไม่อยากลุกไปไหนเลย ช่วงบ่ายๆ พนักงานมาเสิร์ฟ 'ขนมไข่' ของอร่อยเมืองจันท์ด้วยล่ะ กินกันหมุบหมับ แป๊บเดียวหมด [คือ...หิว? ไม่แน่ใจ] >///<
เราว่าที่นี่เหมาะแก่การมาพักผ่อน ไม่ว่าจะเดี่ยว เที่ยวคู่ หรือจะมากับครอบครัว ความที่ห้องพักมีความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศภายในโรงแรมเงียบสงบ ร่มรื่น หากคิดจะ 'พัก' ทิ้งเรื่องหนักหัวไว้ชั่วคราว ทำตัวสบายๆ ขับรถชิวล์ๆ มาใช้ชีวิตสโลว์ๆ ที่นี่สักวันสอง ชาร์ตพลังสักหน่อยก็น่าจะดี :)
นอกจากบรรยากาศภายในโรงแรมจะเหมาะแก่การพักผ่อน ส่วนของ สปอร์ตคลับ ซึ่งอยู่ชั้นล่างของตัวโรงแรมก็ให้บริการสปา กับส่วนของห้องฟิตเนต เราเดินไปตามแนวระเบียงเรื่อยๆ จนถึงห้องพักฝั่งสวน พบว่าเป็นอีกมุมหนึ่งที่สงบ สบาย
มันเป็นสนามหญ้าขนาดย่อมๆ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เราว่า...แค่มีหนังสือดีๆ สักเล่มกับเปลตัวหนึ่ง แค่นี้ก็เพลินสุดๆ แล้วล่ะ
...ที่เห็นไม่ขาดสายตาเลย ก็คือความร่มรื่นจากหมู่มวลดอกไม้ ต้นไม้ ทั้งต้นสูงใหญ่ให้ร่มเงา ทั้งเถากอที่เลื้อยเลาะไปตามแนวระเบียง ทอดยาวล้อมรอบสระขนาดใหญ่ บรรยากาศภายใน มณีจันท์รีสอร์ท เต็มไปด้วยสีเขียวๆ ให้ความรู้สึกสบายตา ตัดกับสีชมพูจัดๆ อมม่วงของกอเฟื่องฟ้า จะเดินไปทางไหนก็สดชื่นและได้ภาพสวยๆ ค่ะ
ที่กิน ที่เที่ยวรอบๆ เมืองจันท์เยอะไม่ใช่เล่น แล้วเราจะเริ่มตรงไหนดีหว่า? โชคดีได้แผนที่ "กิน...เที่ยว" มาแผ่นหนึ่งก็เลยหมดปัญหา บอกแล้วว่า 'เที่ยวนี้...สายกิน' เดี๋ยวจะพาไปชิมทั่วๆ เลยค่ะ
ปล. ทางโรงแรมมีบริการรถตู้รับ-ส่ง เข้าเมืองฟรีด้วยนะ ใครไม่ได้นำรถส่วนตัวมาก็เที่ยวได้สะดวก หมดปัญหา :)