ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Nattawan •  กรกฎาคม 09 , 2558

    กาลครั้ง ณ เมืองกาญ . วันที่หนึ่ง

    ให้มันเป็นบันทึกการเดินทาง.

    เขียนไว้ในwordเฉยๆมันก็ยังไงอยู่ ขอเล่าแบบเล่าให้เพื่อนฟังละกัน

    สองวันหนึ่งคืนไปแบบพอไปได้.

    เราขี้เกียจแต่งรูปด้วย ไม่สวยไม่ว่ากันเนอะ เอาบรรยากาศละกัน.

        เช้าแทบจะไม่มืดในวันเสาร์นัดเจอกับเด็กติดเกมส์ที่เซเว่นหน้าหอก่อนจะหาหมูปิ้งติดมือไปรอรถเมล์ไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปถึงคิวรถตู้ได้รอบเจ็ดโมงครึ่ง นั่งๆแต่หนักไปทางนอนซะมากกว่า ถึงเมืองกาญประมาณเก้าโมงครึ่งกว่าๆ

        รีบเอาของเข้าไปเก็บในที่พักเพราะอยู่ห่างจากบขส.ประมาณ 500 เมตร ตอนแรกนั่งวินไปคนละยี่สิบบาท แต่ขากลับมาบขส. ลงมติว่าเดินๆรอวินผ่านมาละกัน และวินก็ไม่ผ่านมาสักคันหรอก 5555555555

    วันนี้เราจะไปน้ำตกเอราวัณกัน ขึ้นรถที่บขส.เป็นรถหวานเย็น ลมโกรกตลอดทาง 

    พี่คนนี้ยืนให้เรานั่งกัน ฝรั่งเต็มรถเลยยย มาเป็นคู่บ้างเดี่ยวบ้าง เราขึ้นรถรอบสิบโมงครึ่งกัน สองข้างทางก็เห็นภูเขาที่มีหมอกบัง ตื่นเต้นๆ มีฝนปรอยลงมาบ้าง ลมนี้เย็นตลอดทาง  เรานั่งแถวหลังสุดเลย เราเป็นคนเหนือแท้ๆเรายังชอบภูเขาที่นี้เลย ในรถก็มีแต่ความเงียบไปตลอดทาง นั่งมองวิวข้างทางไปเรื่อยๆ แต่เพื่อนเรานอนแล้วจ้า ฝันดีค่ะมึง  ถึงทางเข้าอุทยาน เสียค่าเข้าปกติผู้ใหญ่ 100 บาท แสดงบัตรนิสิตลดเหลือ 50 บาท นะ รูปด้านบนนู้นเลย พอลงจากรถจะถ่ายรูปกัน มีฝรั่งที่นั่งมาด้วยกันลงมาพอดี นางทำหน้าทะเล้นใส่ค่ะ ตกใจกดถ่ายไม่ทัน เลยได้รูปนี้มา  5555555555เหมือนหมูปิ้งเมื่อเช้าของเราจะหมดฤทธิ์กันแล้ว เลยขอซัดข้าวกันก่อนเดินขึ้นน้ำตก รสชาติถือว่าดีนะหรือว่าหิว กินไม่ถึงสิบนาที 5555555มีรถบริการพาเข้าไปนะ คนละสามสิบบาท แต่เราเดิน ไม่มีข้ออ้างใดๆเกิดจากการงกนั้นเอง นี้ทางเดินไปน้ำตกสบายๆ  ตอนได้ยินเสียงน้ำตกนี้แทบวิ่งกันเลย 

    ผู้หญิงสองคนนั้น คือสิ่งที่สองคนนี้อยากเป็น  5555555555

    เห้ยยยยยยยย  ถึงล้าวววววววว  !!!

    เราปลดกระเป๋าฝากพี่ที่ร้านขายน้ำไว้ เพราะมันเหมือนจะเป็นภาระของเราต่อไปได้ เราจะดินขึ้นน้ำตกกันต่อ

    ก่อนขึ้นชั้นสาม เจ้าหน้าที่ให้วางเงินมัดจำพวกขยะที่เราอาจน้ำขึ้นไปทิ้งข้างบนได้ คือถ้าเราเอากลับลงมาก็เอาตังคืน  ชั้นนี้เราชอบนะ อกนางผีเสื้อ เหมือนนะ คนก็มีค่อนข้างเยอะทั้งคนในพื้นที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยทั้งต่างชาติ ระหว่างทางเดินก็มีคนที่ขึ้นไปแล้วสวนลงมา สภาพแต่ละคนคือไปลุยอะไรกันมา  แค่สงสัย (ยังๆ ยังไม่รู้ชะตาตัวเองอีก) แท่นแด้ดดดดดดดดดดดดดดด ! 55555555555555555  ขำแรงมาก เหมือนฝนมันตกมาก่อนหน้านี้ทางเลยเป็นอย่างงี้อยู่หลายช่วงมากๆ เล่นสไลด์เดอร์กันสนุกเลยยยยยย แวะซักแตะแปป ตอนแรกก็ใส่รองเท้าอยู่หรอก หนักเข้าเพื่อนเลยเท้าเปล่าดีกว่า  คนมีคู่เขาก็ดูรักกันดีค่ะ ภาพตัดไปที่เพื่อนรัก โหนต้นไม้เป็นชะนีเลยทีเดียว 5555555555555555555555 รองเท้าที่เราใส่มันช่วยได้มากงานนี้ 5555555 กราบขอบพระคุณรองเท้าของเมทที่รักมากๆเลยค่ะ ชีวิตก็มีขึ้นมีลงแบบนี้แหละเธอ เหมือนน้ำหนักไง 

    มีจุดให้ชมวิวระหว่างทางเดิน วิวสวยมาค่ะ เป็นภูเขา ภูเขาและภูเขา

    สูดหายใจแรงๆ เก็บเอาไว้ใช้ยื้อชีวิตตอนกลับมาเรียน ก่อนจะเดินไปต่อ

    สภาพเพื่อนไม่ไหว เลยขอหยุดที่ชั้นห้า มองนาฬิกาบ่ายสองกว่าๆแล้ว เราขึ้นกันมาตอนเที่ยงๆเกือบบ่าย เลยตัดสินใจเล่นน้ำกันที่ชั้นนี้

    ไม่ได้ฮิปตงฮิปเตอร์ไรหรอก มันเผลอ 5555555 

    รูปบนนี้ธรรมดาๆสำหรับการไปเที่ยว ของจริงมันอยู่ตรงเน้

    กรี้ดในใจลั่นป่า  มองหน้าเพื่อนเหมือนรู้กัน  แทบจะโทรไปบอกแม่ว่าเจอเนื้อคู่แล้ว 55555555555555555555

    คนอะไรจิตใจดี้ดี งานมโนก็มาเต็มค่ะ 5555555555

    เราไม่ได้ลงไปเล่นน้ำเต็มตัวกันหรอกค่ะ เจอปลาพลวงตอดทีนี้ พ่นสัตว์ออกมาเต็มป่า เลยนั่งแช่ริมๆน้ำ

    นั่งเล่นกันได้สักพักใหญ่เราเลยเดินลงมากันค่ะ

    เจอรองเท้าถูกโยนทิ้งหลายคู่เลย ทำไมเขาถึงไม่เอาไปทิ้งที่ถังขยะดีๆ พอเสียก็แทบไม่เห็นค่าเลย ดราม่าทำไม -__-

    เอาให้เข้ากับอารมณ์ของเพื่อนในวันนี้ค่ะ 55555555555

    ตอนขากลับไปเอาเงินมัดจำเลยบอกพี่เจ้าหน้าที่ไปว่ามัดจำรองเท้าแตะด้วยก็น่าจะดีนะคะ

    เดินกลับมาถึงชั้นแรกๆค่ะ เพิ่งเห็นปลา คือมันเยอะมากกกกกกกกกกกกก 

    ถึงแม้เราจะดูรักสัตว์กันแต่สิ่งนี้จะเป็นข้อยกเว้นของเราต่อจากนี้ไปค่ะ กลับลงมาจะสี่โมงแล้วเราเลยรีบเปลี่ยนชุดไปขึ้นรถกัน 

     

    ถึงที่รถสี่โมงกว่าพี่ที่รถบอกว่าออกสี่ครึ่งเอาของขึ้นไปจองแล้วลงมาเดินเล่นก่อนก็ได้ เราเลยลงมาถ่ายรูปกัน

    แล้วเรากลัวหิวค่ะ เลยออกตามล่าหาของกิน จัดไปค่ะ จะเหลือหรอ ระหว่างทางขากลับ เรานั่งหลังคนชับเลย ชิดติดหน้าต่าง

     

    ถึงในเมืองประมาณหกโมง ลงที่หน้าที่พักเลยเพราะรถวิ่งผ่านกลางเมือง เช่าจักรยานจากที่พักร้อยนึง ตอนแรกป้าก็บอกว่านั่งวินซิ คือเราจะไปสะพานแล้วจะกลับมาที่สถานีรถไฟ ไปตลาดข้างๆสถานี คนที่นี้เรียก เจเจ เปิดทุกวัน

    เราปั่นผ่านสุสานเลยแวะไปดูกับถ่ายรูปกันก่อน เพราะกลัวมาขากลับมันจะมืดเกินไปบวกกับความวังเวงด้วย

    ด้วยอะไรดลใจไม่รู้เลยอยากปั่นจักรยาน ตอนแรกเราปั่นให้นางซ้อน สักพักนางบอก ไม่มีที่ไว้ขาเกร็งขอปั่นดีกว่า

    ปั่นจักรยานนี้ไม่หนักหนาเพราะอยู่ม.ก็ปั่นกันตลอด แต่มันรู้สึกหวิวเพราะทางท่มาสะพานนี้แหละ มันเย็นละไงร้านก็เริ่มปิดกันหมดแล้ว ทางก็ไปทางออกตัวเมือง ยิ่งปั่นไปยิ่งโล่งขึ้น 5555555555

    ถึงล้าววววววววว คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่เพราะมันหกโมงกว่าๆแล้ว มีเด็กมาร้องเพลง ปั่นจักรยานเล่นกัน ดูเป็นอะไรที่ลงตัวกันดี ชอบน้องคนนี้นะ เสียงดีด้วย ร้องเพลงรักเดียว ตอนขากลับว่าจะเอาเงินใส่กล่องแต่น้องกลับไปก่อนแล้ว นี้คือความโล่งที่สัมผัสได้ ฝนเหมือนจะตกเลย เราเลยปั่นกลับทางเดิมไปที่ตลาดข้างสถานีรถไฟกัน ต่อจากนี้เป็นการรีวิวอาหาร 5555555555555555

     

    เราซื้อหมี่สีชมพูร้านนี้ไป ไม่รู้ป้าใส่น้ำตาให้เราเยอะไปรึเปล่า หวานอย่างกะเชื่อมเลย 555555

    เพื่อนเราซื้อน้ำพริกกะปิปลาทู ก็ถือว่าโอเคอยู่มั้ง 15 บาท

    สองร้านข้างล่าง เดินผ่านแต่ไม่ได้ซื้อ

    น้ำมะพร้าวหวานดี เราอยากกินเลยจัดไปถุงนึง

    ที่จริงมีมากกว่านี้ แต่มือถือของเยอะมาก เอาเป็นว่าซื้อกันเหมือนพรุ่งนี้จะไม่กินข้าวแล้ว 5555555555555

    แวะเข้าไปสถานีรถไฟถามรอบ รอบแรก หกโมงเจ็ดนาที

    จบวันแรกไป กินกันพุงกาง ดูพี่เหมที่รักแล้วล้มตัวลงนอน

    จริงๆเหมือนฝนจะตกลงมาหลายรอบมากแต่ก็เหมือนจะเห็นใจกันเลยไม่ตกลงมาสักครั้งเลย

    ของวันพรุ่งนี้เดี๋ยวไว้มาต่อ พรุ่งนี้มีสอบ U_U
    • Nattawan  ตอนไปเหมือนเขาบอกว่าน้ำยังไม่ค่อยมาก ตอนนี้คงสวยกว่ารูปละค่ะ 55555555 10 กรกฎาคม 2558 15:40:53
    • Lmm  น้ำตกสวยมากคับ ^ ^b 10 กรกฎาคม 2558 09:45:53
    • โพสต์-2
    Nattawan •  กันยายน 06 , 2558

    วันที่สอง ลองตามรอย.

    วันที่สองที่กาญจนบุรี 

    เริ่มด้วยการตื่นเช้า เพื่อไปขึ้นรถไฟตามรอยรถไฟสายมรณะปลายทางสถานีน้ำตก

    ภาพเบลอๆเหมือนคนถ่าย ตื่นเช้าจริงๆ เช้ากว่าไปเรียนซะอีก 5555555

    ภาพตอนอยู่ที่สถานีกาญจนบุรี ตอนที่ไปรถไฟเริ่มจากสถานีนี้ ตอนนั้นมีปรับปรุงทางช่วงหนองปลาดุกเลยนั่งตรงยาวมาจากกรุงเทพไม่ได้

    เรามาถึงสถานีก่อนเวลา พอตื่นมาก็หิวอีกแล้ว เดินหาอะไรกินก็มีร้านขายของเล็กๆ มีมาม่ากับโจ๊กคัพ ป้าใจดีลดราคาให้ลูกค้าสองคนแรกของวัน ระหว่างรอโจ๊กเราเลยเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆสถานี
    รถไฟออก 06.20 น. แบบไม่มีรีรอเพราะไม่มีใครขึ้น ทั้งขบวนมีผู้โดยสารสองคน 555555555555

    คงจะเช้าเกินไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานีนี้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมา แต่เป็นคนต่างประเทศหมดเลยคร้าาา 555555 แถมคนละโบกี้ด้วย
    วิวข้างทางหลังจากออกสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว เหมือนฝนตกไปเมื่อคืน อากาศเลยเย็นสบายสำหรับการนั่งรถไฟ  เลยทำให้เพื่อนสาวผู้น่ารักสงบเงียบไปตามระเบียบ จริงๆแล้วแค่มาเปลี่ยนที่กินที่นอนเฉยๆ 5555555555 ระหว่างที่เพื่อนหลับไปนั้น เรานั่งโบกี้สุดท้าย มีลุงเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ด้วยแกเลยชวนคุยเรื่องความเป็นมาของรถไฟสายนี้ ตั้งแต่สมัยอดีตที่เริ่มก่อสร้างทางรถไฟนี้ แล้วไปโผล่ถึงช่องเขาขาด ข้ามไปพม่า แต่ทางการรถไฟประเทศเราสร้างถึงเพียงแค่สถานีน้ำตก ลุงอยากให้เราเข้าไปดูพิพิธภัฑ์ที่ช่องเขาขาดมาก เราคุยกับลุงไปได้สักพักใหญ่ๆจนเพื่อนตื่น เพราะลุงบอกว่าใกล้ถึงสะพานมรณะแล้ว เรานั่งกันไปสุดสายที่สถานีน้ำตก ลุงติดต่อรถให้เราไปทีช่องเขาขาด โดนไปจังๆกับค่าเหมารถ ไม่ขอบอกว่าเท่าไหร่แต่รอบหน้าคิดว่า น่าจะออกไปถนนหลักแล้วโบกรถไปเพราะไปทางเดียกับสังขระบุรี  เอาเป็นว่าเสียค่าไม่รู้ไป ละกัน 55555555555 แต่ก็รู้สึกขอบคุณคุณลุงมากจริงๆ ถึงจะไม่รู้จักชื่อลุงแต่ก็พอจะรู้เรื่องราวบางส่วนของลุงที่เต็มใจเราให้เราฟัง :-) พิพิธภัณฑ์อยู่ใกล้กับลานจอดรถ แต่ถ้าจะลงไปดูช่องเขาขาดต้องเดินลงไปตามบันไดด้านหลัง จะมีทางเดินและป้ายบอกระยะทางตลอด 
    ตอนเริ่มเดินลงมาฝนแค่ปรอยๆ พอใกล้จะถึงก็ตกลงมาเหมือนแกล้งกัน แต่ดีที่ต้นไม้ช่วยเราได้เยอะเลย ฝนเริ่มหนักมากกว่าเดิม แต่เราเดินไม่สุดทาง ต้องขอยอมแพ้แล้วเดินกลับขึ้นไปพิพิธภัณฑ์ พอถึงฝนก็ตกลงมาหนักกว่าเดิม มีท่าทีว่าจะไม่หยุดเราเลยกลับกัน เรากลับมากันที่น้ำตกไทรโยคน้อยเพื่อที่จะรอรถเข้าเมือง พอมาถึงรถก็เพิ่งออกไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ลุงแถวนั้นก็บอกว่าประมาณครึ่งชั่วโมง เราเลยเดินขึ้นไปดูน้ำตกกัน พอเดินลงมา รถก็เพิ่งไปต่อหน้าต่อตาเราเลย 555555555555

    เหมือนไม่อยากให้กลับซินะ ท้องเริ่มร้องเพราะใกล้เที่ยง เลยไปนั่งกินข้าวรอ  จบทริปนี้ด้วยความมึนๆ วันที่สองเราปล่อยฟรีแบบอยากไปไหนก็ตัดสินใจเอาตรงนั้นเลย 
    .       กลับมาเขียนให้จบหลังจากทิ้งไว้นานเกิน ทริปนี้ก็เป็นทริปดดีๆอีกหนึ่งทริปในใจ  เราชอบเวลาเดินทาง เวลาที่เราเจอสถานที่ใหม่ๆ เจอเรื่องราวชีวิตของผู้คน เจอความรู้สึกระหว่างทาง

    ขอบคุณเลย คนแรกนางผู้หลวมตัวมาเดินทางด้วยกัน 55555555555 พ่อกับแม่ที่ส่งรูปให้ดูระหว่างเดินทางแต่ไม่ตอบกันเลย 55555555555 เอาเป็นว่าเดี๋ยวมาใหม่นะ กาญจนบุรี :-)