เมื่อพูดถึงของว่าง ขนม หรือของทานเล่นหลายคนอาจจะนึกถึงแต่บรรดาเบเกอรี่หวานมันละมุนลิ้น หรืออื่นๆ อีกสารพัด แต่จะมีซักกี่คนที่นึกถึงของว่างแบบบ้านๆ หาทานง่ายอย่างข้าวเหนียวย่างบ้างหละ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับร้านดังเจ้าอร่อยกันที่นครปฐม แม้จะเป็นร้านเล็กๆ ธรรมดาซึ่งลงมือทำกันเองภายในครอบครัว แต่ว่าเรื่องรสชาติไม่ได้ธรรมดาไปตามขนาดของร้านเลย กระทั่งรายการทีวีหลายช่องต่างยกทีมมาพิสูจน์กันนักต่อนักแล้ว เราจึงอยากจะแนะนำและตอกย้ำกันอีกครั้งว่า ข้าวเหนียวย่างร้านนี้เค้าเด็ดสะระตี่กันมากน้อยแค่ไหน

โดยจุดเด่นของร้านข้าวเหนียวแห่งนี้อยู่ตรงที่มีไส้ให้ลูกค้าเลือกทานมากจนจุใจถึง 12 ไส้ ใช่แล้วครับไม่ได้ฟังผิดไปแน่นอน ซึ่งแม่อารีย์นั่นเองคือผู้ที่คอยสร้างสรรค์และคิดค้นไส้ที่มีอยู่ทั้งหมด ตั้งเตาย่างกันหน้าร้านส่งกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลายกันไม่น้อย แล้วอย่างที่บอกไปว่าข้าวเหนียวย่างที่นี่มีไส้ให้เลือกชิมมากมาย อยากรู้แล้วล่ะซิว่ามีไส้อะไรกันบ้าง เริ่มต้นตั้งแต่ ไส้เผือก ไส้กล้วย ไส้กุ้ง ไส้ถั่วทองผสมแห้ว ไส้มันผสมฟักทอง ไส้ถั่วดำ ไส้ฝอยทอง ยังไม่หมดนะครับ แค่จะขอเว้นช่วงหายใจเล็กน้อยแล้วก็ต่อกันเลยกับ ไส้หมูหยอง ไส้มะพร้าว ไส้ถั่วแดง ไส้มันผสมกับงาดำ และไส้ทุกเรียนผสมมัน ซึ่งแต่ละไส้นั้นก็จะถูกห่อด้วยข้าวเหนียวหลากหลายสีสันที่ล้วนเป็นสีที่ได้จากธรรมชาติ ทั้งใบเตย ขมิ้น อัญชัน และแครอท ย่างจนส่งกลิ่นหอม พร้อมให้ได้หม่ำกันฉ่ำใจไปเลย

ทีนี่ก็ถึงเวลาชิมกันแล้ว แต่ทว่าไส้ถั่วทองผสมแห้วกับไส้ทุเรียนผสมมันที่เราเล็งไว้ตั้งแต่แรกนั้น ทำเราสับสนว่าตกลงมันอันไหนกันแน่ เพราะเมื่อข้าวเหนียวถูกห่อด้วยใบตองหน้าตาก็ดูคล้ายกันไปเสียหมด จนเราได้คำเฉลยจากแม่อารีย์ว่า เวลาจะเลือกหยิบข้าวเหนียวที่มีไส้ตรงใจเราทานนั้นง่ายนิดเดียว ว่าแล้วนักคิดค้นเจ้าของรหัสลับก็ยื่นกระดาษเล็กๆ มาให้หนึ่งแผ่น เราจึงได้กระจ่างแจ้งเพราะกระดาษแผ่นนั้นบอกรหัสของไม้กลัดเพื่อให้สามารถแยกแยะได้ง่ายๆ เพราะวิธีการกลัดไม้ของแต่ละไส้นั้นจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งพอได้ชิมแล้วเรื่องรสชาตินะหรือ บอกได้คำเดียวว่า อร่อย!หวานมันกำลังดีแถมได้กลิ่นหอมๆ ของใบตองอีกด้วย และถึงแม้จะมีไส้ให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่ไส้ที่ขายดีเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ1 เลยก็คือไส้เผือก ตามมาติดๆ ด้วยไส้กล้วย แล้วเป็นไส้กุ้งที่เบียดแทรกตามมาเป็นอันดับ 3

ทว่าความอร่อยยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ ร้านนี้ยังมีขนมเกลียวทองตำรับเฉพาะไม่มีใครเหมือนให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย อย่าเพิ่งรีบอิ่มกับข้าวเหนียวย่างกันไปก่อนหละ ส่วนใครที่กำลังจะแกะข้าวเหนียวย่างห่อใหม่อยู่ขอให้หยุดไว้ก่อน แล้วเขยิบจานขนมเกลียวทองมาลองชิมกันดูบ้าง แม้ว่ามองเผินๆ อาจพาให้นึกถึงขนมโตเกียว แต่เมื่อได้ลองชิมแล้วจะรู้เลยว่ามันไม่เหมือนกันเลย สำหรับไส้ของขนมเกลียวทองนั้นมีให้เลือกอยู่ 5 ไส้ ได้แก่ ฝอยทอง มันผสมฟักทอง สังขยา เผือกและกล้วยหอม พร้อมกับข้าวเหนียว ซึ่งเวลาเคี้ยวในปากช่างให้ความรู้สึกแตกต่างออกไป เนื้อแป้งนุ่มๆ ตัวไส้หวาน หอม มัน ผสานความหนึบจากข้าวเหนียวด้วยแล้ว อืม...อร่อย โดยเฉพาะไส้กล้วยหอมนี่ยกนิ้วให้เลยจริงๆ

เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีโอกาสมาเยือนเมืองส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงามแห่งนี้ ก็ไม่ควรพลาดเป็นอันขาดกับข้าวเหนียวย่างแม่อารีย์สุดอร่อยเช่นนี้ หรือถ้าใครใจร้อนก็บึ่งรถมาตอนนี้ได้เลย เพราะของอร่อยๆ ต้องทานตอนร้อนๆ ไม่ใช่หรือ

- ร้านข้าวเหนียวย่างแม่อารีย์เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-20.00 น.

- ส่วนขนมเกลียวทองจะเริ่มขายกันตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป

- รับบริการจัดทำนอกสถานที่ ติดต่อ 034-254619 หรือ083-855-2233

- ข้าวเหนียวย่างหากไม่นำเข้าตู้เย็นสามารถเก็บไว้ได้ 2 วัน แต่ถ้านำเข้าตู้เย็นจะไว้ได้ 1 สัปดาห์ เวลาจะทานให้นำมาอุ่นในไมโครเวฟก่อน

ที่อยู่ : เลขที่34 ถ.ทรงพล ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม 73000

GPS : 13.812933,100.036533

เบอร์ติดต่อ : 034-254-619 , 083-855-2233 , 081-880-9234

Website : http://mae-aree.blogspot.com/2009/01/blog-post.html

Facebook : http://www.facebook.com/MaeAree1991?sk=wall

อาหารแนะนำ : ข้าวเหนียวปิ้งอันละ 7 บาท และขนมเกลียวทองกล่องละ 50 บาท มี 8 ชิ้น 

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 08.00 น. – 20.30 น. แต่ขนมเกลียวทองเริ่มเปิดตั้งแต่ 10.00 น.

วิธีชำระเงิน : เงินสด

ที่จอดรถ : บริเวณริมถนนหน้าร้าน

ถ้ามาจากกรุงเทพฯสามารถใช้เส้นทาง ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม เมื่อถึงนครปฐมไม่ต้องขึ้นสะพานเข้าเมือง ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลสนามจันทร์แล้ว จะเห็นสามแยก มีป้ายบอกทางไป จ.สุพรรณบุรี / อ.กำแพงแสน ให้เลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปอีกเล็กน้อย จะเห็นร้านข้าวเหนียวย่างอารีย์ อยู่ด้านซ้ายมือติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวเครื่องในหมู เชลล์ไม่เคยชิม