กิ่วแม่ปาน – ดอยอิน – แกรนแคนยอน – ท่าแพ
มาล้าว มาล้าว ภาค 2 มาล้าววว
มีแต่คนถาม ตื่นตี 3 มาทำอัลไล ตื่นตี 3 มาทำอัลไล เฮ้!!!
ปั่นกระทู้ยิ่งกว่าปั่นการบ้านส่งครูซะอิ้กกก พูดเลอ
ใครยังไม่ได้อ่านภาคแรก ไปอ่านซะ เดี๋ยวจะคุยกะเพื่อนไม่รู้เรื่อง
"ปาย" กะพี่มั้ยน้อง
ภาคนี้เราจะพาไปเที่ยวกิ่วแม่ปาน – ดอยอินทนนท์ – แกรนแคนยอนหางดง – ถนนคนเดินท่าแพ
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ภายใน 1 วัน เรียกว่าเที่ยวเกือบ 24 ชั่วโมงก้ว่าได้
ตี 3 เป้ง! มอร์นิ่งคอลมันทุกห้องเลย ตื่นว้อยตื่น!!! พามาเที่ยวไม่ได้พามานอนนนน
อากาศก้ดีเกิ้น 10 องศานิดๆ อย่าว่าแต่พวกเมิงเลยที่ขี้เกียจตื่น นี่ก้ขี้เกียจ นอนไปไม่ถึง 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
ตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว ม้วนผมลอน ตีกระบังฟาร่า หุ่ย! จะพาไปเดินป่า ไม่ได้พาไปเดินแบบ
ยังไม่ตี 4 ดี รถแดงมารับหน้าโรงแรม หนาวก้หนาว เดี๋ยวจะพานั่งรถแดงขึ้นอินทนนท์กัน!
โหดสัดรัสเซียสแกนดิเนเวียมั้ยหล่ะ ลมงี้โกรกเชียว ปิดรูโน้น เข้ารูนี้ สนุกสนานกันไป
ก่อนอื่นต้องกราบขอบพระคุณพี่เก่ง หนึ่งในคิวป้าเพ็ญรถแดง ที่พาพวกเราขึ้นดอยอิน
รอนี่เดินป่า รอนี่ถ่ายรูป รอนี่โดดน้ำ รอ รอ รอออออ โดยไม่บ่นซ้ากคำ ยิ้มหวานให้อีกแน่ะ น่ารักสุดๆเลย
รอจนล้างรถ เช็ดรถ ขัดล้อ เคลือบเงาซะรถเอี่ยมเลย ถามใจเมิงดู ว่าสงสารพี่เค้ามั้ย 55555
เลยเลี้ยงข้าวพี่แกไป คราวหน้าหนูจะใช้บริการพี่อีกนะคะ สัญญา สรุปว่าพี่เค้าคงปิดเบอร์หนีอ้ะ
พูดมาก! เค้ารอไปกิ่วแม่ปานกันอยู่ โทดๆ ลืมไปเลย นึกว่ามาพูดปาถากกระถาง
ออกจากโรงแรมประมาณตี 4 ถึงกิ่วแม่ปานยังไม่ 6 โมงเลย หนาวก้หนาว ทางก้โค้ง พี่เก่งก้ซิ่งสุดๆ
ถือว่าอยู่ในรถ แล้วปิดกระจกสินะ หึ! ลงจากรถนี่ แม่คะนิ้งแทบเกาะขอบคิ้ว
กิ่วแม่ปานจะอยู่ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์นิดนึง ไปถึงก้ไปต่อคิวข้างบนเลยค่ะ
เจ้าหน้าที่บอกยังไม่เปิดเลยนู๋ ไม่เป็นไรค่ะ ขอรอตรงนี้นะคะ เดินไปไหนไม่ไหวแล้ว หนาวเกิ้น!
อุณหภูมิเช้าวันนี้ 4 องศา มาพร้อมลม ขุ่นพระ!
กลุ่มนึงไม่เกิน 10 คน จะมีจนทดูแล 1 คน ราคา 200 บาทค่ะ ลงชื่อให้เรียบร้อย ญ กี่คน ช กี่คน กระเลยกี่คน
วันนี้กลุ่มเรามากัน 8 คน เลยออกเดินทางได้เลย ไม่ต้องรอคนอื่นค่ะ
วันนี้คุณลุงสมบูรณ์จะมารับหน้าที่ดูแลพวกเรา
ก่อนเริ่มเดินทางเค้าก้จะมาบรรยายว่าความสูงเขาลูกนี้เท่าไหร่ เดินกี่กิโล ผ่านจุดไหนบ้าง สภาพป่าเป็นยังไง
หาสาระไม่ได้ในกระทู้นี้นะ ไปถามอากู๋เอา เยอะแยะ 555555555
เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน จะมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กม.
คนปกติเค้าใช้เวลาเดินกันประมาณ 2-3 ชม.
แต่ถ้าอิบ้าแบบนี่เดินไป ถ่ายรูปไป ชิวไปก้จะใช้เวลาประมาณ 4 ชม.ค่ะ
เราเริ่มเดินตอน 6 โมงเช้า ฟ้ายังมืดอยู่เลย ไม่ได้มืดธรรมดานะ มื๊ดดดมืด ทั้งกลุ่มมีไฟฉาย 2 อัน ดีงาม!
ใครจะไปเดินเช้าๆ รอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นแบบเรา แนะนำควรพกไฟฉายไปด้วยนะคะ มันมืดจิงๆ
เดินอยู่ในป่า มองไม่เห็นอะไร ได้ยินเสียงนก เสียงน้ำตกข้างๆด้วยแฮะ
แรกๆเดินก้หนาวอยู่หรอก เดินไปเดินมาค่อยๆถอดกันทีละชิ้น สองชิ้น เหงื่อเริ่มออก เดินมืดๆกันอยู่ครึ่งชม.
ออกมาแล้วจะเจอทุ่งหญ้าสีทองก่อน แล้วเดินผ่านไปก้จะถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
เราตกลงกันว่าจะไปรอรับคุณพระอาทิตย์กันก่อน แล้วพอแดดออก เราค่อยเดินกลับมาตรงจุดทุ่งหญ้าสีทองกัน
6 โมงครึ่งถึงจุดหมาย กล้องพร้อม ขาตั้งพร้อม คนไม่พร้อม!
คือหนาว ลมโกรกมากกก หัวหูกระเซอะกระเซิงเป็นคนบ้า เอ้า ปกติเมิงก้บ้าอยู่แล้วหนิ ไม่แปลก!
รอซักพักคุณพระอาทิตย์ก้มา
มันสวยจนเกินที่จะบรรยายเป็นคำพูดใดๆ เอาเป็นว่าลองเสพดูเอาเองละกัน
เอาจิง ชอบรูปนี้สุด มองแล้วสดชื่นซะยิ่งกว่ากินน้ำอุทัยใส่ขันเงินซะอีก
มุมมหาชนที่ใครๆก้ต้องมาถ่ายกัน
หิวจัง นั่งทอดอารมณ์ดีกว่า เดี๋ยวสุกแล้วจะได้กิน แฮร่!!!
แดดออกแล้ว เห็นต้นกุหลาบพันปีกันมั้ยพวกเทอ เดินกลับไปตรงทุ่งหญ้ากันดีกว่า
ว้าวว ทุ่งหญ้าสีทอง และแล้วบรึ้มมม กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ ครั้นช์หน้า! เล่นอัลไลแถวนี้ เกะกะ!
สวยม้ะ ของจิงสวยกว่าในรูปล้านเท่า
จะให้กุถ่ายรูปให้ ไม่ถง ไม่ถามซ้ากคำ พวกเมิงหนิ เดี๋ยวหมั่นไส้ถีบตกเขาซะเลย ใบละสองร้อยว้อย
เดินกลับมาเจอคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งอีก ณ จุดนี้ หนาวก้หนาว แต่เหงามากกว่า แฮร่!!!
ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ นับถือเจ้าสาวคนสวยจิงๆ เดินใส่ชุดมาถึงจุดนี้ได้
ถ้าถึงงานชั้นบ้างนะ ชั้นจะลากชุดเจ้าสาวหางยาว 8 เมตร มาพรีตรงนี้บ้าง คอยดู๊!!! ไหนแฟน ไม่มโนสิค้ะ
ละก้เดินไปเรื่อยๆ สองข้างทางก้จะประมาณนี้
จุดนี้เรียกว่าผาแง่มน้อยค่ะ
เดินไปเรื่อยๆ มีวิวสวยๆ 2 ข้างทาง ทำให้เราลืมความเหนื่อยไปเลยค่ะ
ถ่ายดอกไม้ใบหญ้าไปเรื่อย
อันนี้เรียกว่าบลูเบอร์รี่ป่า ห้ามเก็บนะคะ เดี๋ยวตีเลย! ไปเที่ยวป่าก้ควรอนุรักษ์ธรรมชาติกันด้วยนะคะ
เอาไว้ให้รุ่นหลังๆเค้าได้ชมกันบ้าง
เห็นอะไรมั้ย กุหลาบพันปีค่ะพวกเทอ ดูสิ เต็มต้นเลย
คุณลุงเค้าบอกว่าช่วงนี้กำลังออกดอก แต่ถ้าจะให้เยอะจริงๆประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีเต็มเลย
โอ้ยยย ตื่นเต้น ไม่เคยเห็นใกล้แบบนี้มาก่อน ปกติโน้นน ขึ้นอยู่ตามเหว ไกลลิบๆโน้นน
บางทีการลองมองอะไรกว้างๆ บางทีมันก้ทำให้เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันแฮะ
เรียบง่าย แข็งแรง อดทน นี่แหล่ะ “ ด อ ก ห ญ้ า ” ของฉัน
ระวังสิ้นสุดเขตทางโล่ง
เดินไปเดินมา เข้ามาในป่าซะแล้วเรา
ต้นไม้ใหญ่มากกก เห็นแล้วรู้สึกดีมากก
คุณลุงบอกว่าป่าผืนนี้พวกเค้าให้เป็นของขวัญในหลวง ฉะนั้นพวกเค้าจะรักษาป่าผืนนี้เท่าชีวิตของพวกเค้า
โอ้ยยย ฟังแล้วน้ำตาจะไหล ดีจังเลยค่ะคุณลุง
เราลงมาถึงจุดเริ่มต้นประมาณ 10 โมงนิดๆ ต้องขอบคุณคุณลุงสมบูรณ์มา ณ ที่นี้ค่ะ
คุณลุงอธิบายอย่างใส่ใจในทุกจุด ยืนยิ้มรอเราถ่ายรูป
มันเป็นรอยยิ้มที่คุณลุงภูมิใจในผืนป่าของเค้า มันทำให้เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก :) ขอบคุณนะคะ
หลังจากกินข้าวใกล้ๆกิ่วแม่ปานเสร็จ Next station สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
จะบอกว่าสตรอเบอร์รี่ด้านหน้าเกษตรหลวงนี่มันสุดในทริปนี้จิงๆ คือรสชาติเหมือนเกาหลีเลยเว้ย
นี่พูดจิงๆนะ ไม่ได้หลอก ลูกโต อร่อย นุ่ม หวาน หอม ละมุนลิ้น ขนาดลูกสีขาวยังหวานเลยอ้ะ
ว่าแล้วก้ซื้อมากินเล่นซัก 3 กล่อง เสียดาย ถ้าพรุ่งนี้กลับกรุงเทพเลยนะ แม่จะเหมาหมดนี่เลย
หลังจากเดินชิว อิ่มหนำกับสตรอเบอร์รี่ไปแล้ว ไปกันต่อ! หนาวๆแบบนี้ไปน้ำตกกัน
สวัสดีน้ำตกวชิรธาร ลงมาจากรถปุ๊บ เดินอีก 2 ก้าว ถึงละ ห้ะ!!!
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปเที่ยวน้ำตก แบบใหญ่ๆ แล้วเดินใกล้แบบนี้มาก่อน ปกติถ้าใกล้ๆจะเป็นลำธารเล็กๆ
คือใกล้มาก ใหญ่ด้วย ยืนเฉยๆ ฟังเสียงน้ำกระทบหินด้านล่าง ให้น้ำกระเซ็นใส่หน้า ผมปลิวเบาๆ คือดีย์
บ่ายแก่ๆ แก่เท่าหน้าตูเลย 55555 ลงจากอินทนนท์ละ หิวข้าว
ไปหาข้าวกินกัน จังหวะนี้ไม่เกี่ยง ข้างทางโล้ดค่าพี่เก่ง
แวะกินข้าวเรียบร้อย อิ่มละ ไปหาอะไรเสียวๆทำกันดีกว่า เห้ย! อย่าเพิ่งคิดกันไปไหน
นี่จะชวนไปโดดน้ำ เอ้า โดด โดด โดดดด สองขา โดด โดด โดดดด
เฮนโหล๊วววแกรนด์แคนยอนหางดง
มันคือบ่อดินเก่า กินพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ แต่เธอกินใจเราไปหมดเลย ง่อววว!!!
มีที่ให้กระโดดหลายจุด ชอบเสียวมาก หรือชอบเสียวน้อย เลือกเอาตามระดับความเสียว เอ้ย ความสูง
หรือใครไม่อยากโดด อยากปีนก้มา รับประกันความเสียวเหมือนกัน
มาที่นี่ใจสั่นชริงชริงเบย ไม่ใช่เสียวนะ ซิคแพคฝรั่งเกลื่อนเลย อิบ้าเอ้ย อยากจะสอยกลับไปกินที่บ้าน
หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ไปนอนดูซิคแพค เอ้ย! นอนดูบรรยากาศชิวๆบนแพกันดีกว่า
ไม่มีใครว่ายตามมาเลย ชูชีพก้ใส่กันหมด นั่งเล่นน้ำกันอยู่ริมตลิ่ง ความลึกระดับหน้าแข้ง ช้างฟาด!!!
นั่งชิวคนเดียวก้ได้ เหลือพื้นที่ข้างๆไว้ เผื่อฝรั่งว่ายน้ำเหนื่อย จะได้ให้นางขึ้นมาพัก 5555
ตอนเช้าก้หนาวจนสุดกู่ พอตกเย็นก้มาโดดน้ำ บางทีก้สงสารร่างกายตัวเอง อยู่กับพี่ต้องอดทนนะจ๊ะ
มานั่งคิดๆ ทำไมเป็นคนเที่ยวเยอะขนาดนี้ รักชีวิตอิสระของตัวเองจังเลย
นั่งไปนั่งมาเย็นละ กลับไปอาบน้ำกันเหอะ คืนนี้จะได้ออกหากินต่อ ห้ะ! ไม่พัก? ไม่เหนื่อย? ไม่!!!!!ถึงโรงแรม อาบน้ำ อาบท่า ปะแป้ง แต่งตัว วันนี้วันอาทิตย์ ไปเดินท่าแพกัน ชีวิตเรา เอาให้สุด
เราจะพาไปไหว้พระก่อน แล้วค่อยไปไหว้พ่อกะแม่เรา 5555555555555
วัดพระสิงห์ เคยมาออกทริปถ่ายแสงเช้าที่นี่ มาถึงวัดตั้งแต่ตี 4 จำได้ ง่วงมากกกกก
เจอกันอีกแล้วท่าแพ เดินไป กินไป ช้อปไป อากาศกำลังดีเลย
ร้านขายยำ ขอเรียกว่ายำนั่งยองละกัน คนเยอะมาก ไม่ไหวจะรอ ดูแล้วท่าทางจะแซ่บอยู่
ร้านขายน้ำผลไม้ ยิ้มให้ซะขนาดนี้ ไม่ซื้อก้จะดูใจร้ายไปหน่อย
แม่ค้าผ้าพันคอร้านนี้น่ารักสุดแล้ว พูดจริง
ร้านอาหารเก๋ๆก้มีเพียบ
วัดอะไร ใครรู้บอกที
สิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดของถนนสายนี้คือศิลปะ ชอบจัง
5 ทุ่มละ กลับโรงแรมนอนเหอะ ตื่นมาจะครบ 24 ชม.ละ สงสารร่างบ้าง พรุ่งนี้ต้องไปต่ออีกนะ
เมื่อตอนเย็นตกลงกับพี่เก่งไว้เสร็จสรรพ วันพรุ่งนี้เราจะใช้บริการพี่เก่งอีก กับเส้นทางที่โหดกว่าเดิม...