ลมหนาวเริ่มพัดโชยมาแล้ว เป็นเหตุทำให้ฉันเกิดอาการอยากหนีทะเลเก็บกระเป๋าไปเที่ยวดอย “ท้าลมหนาว” กัน ซึ่งหนาวแรกมาเยือนนี้ ในเมื่อได้เวลาที่ลงตัวก็จะออกเดินทางไปสัมผัสหนาวแรกที่ "เชียงใหม่" อีกครั้งแต่เป็นสถานที่ที่ไม่เคยไปสัมผัสมาก่อน และตั้งใจไว้ครั้งนี้ต้องไปพิชิตด้วยตัวเองก็คือ "กิ่วแม่ปาน" ดอยอินทนนท์ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เขาว่ากันว่าสวยมาก
แต่ครั้งนี้ต้องไปเที่ยวคนเดียว ขับรถก็ไม่เป็น มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับสิ่งที่เราอยากไปหา มันก็ต้องกล้าเสี่ยงกันหน่อย นั้นไปลุยพร้อมๆกันเลย
"กิ่วแม่ปาน" หน้าหนาวคงเป็นจุดหมายของใครหลายๆคน ต้องไปสัมผัสธรรมชาติบนขุนเขาที่สูง ออกไปสัมผัสหมอก รับแสงแรกของวัน ณ ที่แห่งนี้ เริ่มต้นการเดินทางของฉันในฉบับคนเดียว ก็ต้องไปหาที่พักบนดอยอินทนนท์ซึ่งใกล้กับกิ่วแม่ปาน- ได้ไปพักที่หมู่บ้านแม่กลางหลวงใจกลางดอยอินทนนท์ "บ้านพักแม่กลางหลวงวิว" โดยที่มีพี่ไกด์ที่ได้ติดรถไปจากในเมืองช่วยหาจองให้ เพราะไปช่วงเสาร์ - อาทิตย์ เกือบทุกเจ้าก็เต็มกันทั้งนั้น (ราคาห้องละ 600 บาท โซนห้องด้านล่างอาคารร้านอาหารแม่กลางหลวงวิว)
- รถที่จะไปกิ่วแม่ปานจากบ้านแม่กลางหลวง พี่ไกด์ก็แนะนำให้เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเช่นกันซึ่งสามารถเป็นไกด์ท้องถิ่นในการเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานได้ (ส่วนราคานี้ต้องคุยตกลงกันเอง)
เดินทางกว่าจะมาถึงที่พักก็ค่ำมืดเลยเพราะติดรถเขามา ระหว่างทางขับรถขึ้นมาไม่ต้องเปิดแอร์กันเลย อากาศเย็นสบายมาก ดาวก็เต็มฟ้า และนี้เปิดบรรยากาศหน้าห้องพัก เปิดประตูก็เจอบรรยากาศสุดฟินไปเลย อากาศหนาวแล้วคืนนี้ เข้าห้องเก็บของจัดแจงชาร์จแบตต่างให้พร้อม (ที่พักที่นี่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะไม่ต้องกลัวอาบน้ำหนาวๆ) จากนั้นพี่คนที่มาส่งก็บอกนัดแนะว่าต้องตื่นแต่เช้านะ เดี่ยวพี่อีกคนจะมารับตอนตี 5.30 นะ
ออกมายืนรอพี่ไกด์ที่จะมารับ ตี 5.30 ยังเห็นดาวเลย นี่ภาพตอนออกมายืนรอรถนะ
พี่ที่มารับชื่อ "พี่สมบรูณ์" ชาวบ้านแม่กลางหลวง ออกมาก็จะเจอด่านของอุทยาน ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวยืนมาเยอะเหมือนกันนะ เพราะเรามีจุดหมายที่เดียวกันมาถึงจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จอดรถก็รีบลงจากรถพี่สมบรูณ์ก็ได้นัดแนะว่า ถ้าเรียบร้อยแล้วมาเจอที่ที่เดิมนะ จะได้เริ่มเข้าไปเดินศึกษาธรรมชาติเส้นทาง"กิ่วแม่ปาน"กัน ยามเช้าวันนี้ที่อากาศหนาวประมาณ 19 องศา ถูกใจเราเป็นที่สุดเลย เพราะกลางวันตอนอยู่ในเมืองเชียงใหม่ร้อนมากเลย
จากจุดที่คนยืนชมแสงแรกกันเยอะๆ ฉันก็เล่นเลี่ยงลงมายังที่ลานจอดรถ ถึงกับร้องโอ้โห้ กับหมอกที่ออกมาโอบกอดเขาแล้ว บริเวณนี้ผู้คนจะบางตาหน่อย
เดินลงมาหน่อยก็จะเห็นวิวถนนเส้นขึ้นมาบนยอดดอย พร้อมวิวพระธาตุ
"ซาลาเปา ฮ่องเต้ ร้อนๆกับอากาศหนาว"
พี่สมบรูณ์ที่พามา เขาก็คือไกด์ท้องถิ่นที่พาเดินกิ่วแม่ปาน ก็บอกให้เราหาอะไรกินรองท้องก่อน และบอกให้เตรียมน้ำดื่มติดตัวขวดเล็กสักหนึ่งขวดนะ
ถึงเวลาที่รอคอยแล้วที่จะเริ่มเดินป่ากัน และเรายังได้เพื่อนใหม่รวมเดินกลุ่มนี้อีกสี่คน ด้านหน้าทางเข้าไปเดินป่าก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มารอคิว จัดกลุ่มกับไกด์ท้องถิ่นเป็นคนนำเข้าไปเดิน แต่ซึ่งทางฉันมากับพี่สมบรูณ์ก็เป็นไกด์ชาวบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องรอคิวพี่เขาจัดการให้เรียบร้อย
เริ่มเดินเข้ามาจุดเริ่มต้นก็จะเป็นโซนป่าดิบชื้นที่มีต้นไม้สูงใหญ่ ทำให้ชุ่มชื่นตลอดทาง
"กิ่ว"คือเล็กหรือคอดที่เราเดินอยู่ตอนนี้กว้างแค่สองเมตรทั้งสองข้างเป็นหน้าผา"
แม่ปาน" เป็นชื่อหมู่บ้านข้างล่างรวมกันเป็น "กิ่วแม่ปาน" ครับคำบอกเล่าของคุณพี่ไกด์นำทาง :)
ไกด์ชาวบ้านที่ก็จะเป็นชนเผ่าชาวเขา ก็จะแนะนำและห้ามทำอะไรในขณะเดินป่าที่นี่
ระหว่างทางจะมีแผ่นป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับผื่นป่ากิ่วแม่ปานทั้งหมด 21 จุด
เมื่อเดินเข้ามาระยะหนึ่งก็จะได้ยินเสียงน้ำตก "น้ำตกลานเสด็จ" เป็นน้ำตกเล็กๆ กลางป่าดิบเขาภายในพื้นที่เที่ยวของกิ่วแม่ปานที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม โดยรอบจะมีมอสสีเขียวปกคลุมโขดหินและต้นไม้ที่ขึ้นอยู่รอบๆ น้ำตก ซึ่งมีน้ำไหลตลอดช่วงฤดูหนาว
ก็เดินไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานที่พาดผ่านน้ำตกหันหลังกลับไป นักท่องเที่ยวในวันนี้เยอะเหมือนกันนะ
พันธุ์พืชที่จะพบเห็นในระหว่างเดินทาง ก็จะเดินผ่านผืนป่าดิบเขา ผ่านบรรยากาศร่มครึ้ม ผ่านผืนป่าที่ชุ่มชื่นมากกกก ในป่าเต็มไปด้วยมอสสีเขียวขึ้นคลุมโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยเต็มไปหมด.....ที่นี้ธรรมชาติสมบูรณ์มาก
เดินมาถึงสุดทางป่าดิบชื้นโซนแรกก็จะเจอ ทุ่งหญ้าโล่งกว้างของ สันกิ่วแม่ปานซึ่งมีแสงแดดจ้า อากาศจะอุ่นๆ กว่าเดินในป่าดิบเขา
อากาศร่มรื่น สดชื่น ที่จุดชมวิวสวยสมคำร่ำลือ ทางเดินมองไกลๆเหมือนเดินบน เดินไปถ่ายรูปไป ออกมาเห็นภาพแบบนี้แล้วก็หายเหนื่อยกันเลยจริงๆ
ลองซูมภาพเข้าไปที่สันเขาเห็นจากไกลๆ ก็จะเห็นนักท่องเที่ยงเดินกันตามไหล่เขาเพื่อมาสัมผัสบรรยากาศที่นี่
นี้ฉันยังอยู่แต่จุดโซนทุ่งหญ้าเลย ยังคงยืนมองชื่นชมธรรมชาติไปอย่างช้าๆ หันกลับไปโห้นักท่องเที่ยวตามหลังกันมาแน่นเลย
( หนาดเขา )
( ดอก ม้าแหลบ )
"กิ่วแม่ปาน" จุดชมวิวอีกแห่งบนดอยอินทนนท์ ก่อนจะถึงยอดดอย เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร 1 กิโเมตรแรกเป็นการเดินเข้าป่า อีก 2 กิโลเมตร มีทั้งขึ้นเนินและลงเนิน และพื้นราบผ่านป่า ตามทิวเขาบอกเลยสวยมากๆๆๆๆๆ วันนั้นอากาศกำลังเย็นสบายมาก ใช้เวลาในการเดิน 1.5 - 3 ชั่วโมง ไกด์ 200 บาทต่อกลุ่ม ก็ประมาณ 10 ต่อ ไกด์ 1 คน
( ดอก บัวทอง หรือ บัวคำ )
มาถึงแล้วมุมมหาชนที่ใครๆก้ต้องมาถ่ายกัน กับ landmark "กิ่วแม่ปาน" มาคนเดียวก็ให้พี่ไกด์ถ่ายรูปให้
ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือเป็นคู่ จุดตรงนี้มันต้องมีกันทุกคน
เมื่อเก็บภาพที่จุด landmark กันจุใจแล้วก็เดินกลับลงมาอีกทาง ก็จะเป็นช่วงสันเขา พี่สมบรูณ์ก็เรียกบอกว่านี้ๆ "หินคู่รัก" ตรงกลางหินจะมีก้อนหินรูปหัวใจนะ จุดเด่นของกิ่วแม่ปาน นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว หินสองแท่งนี้ ยังเป็นจุดขายของที่นี่ด้วย เราเรียกหินสองแท่งนี้ว่า ผาแง่มน้อย