ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  ธันวาคม 04 , 2556

    NARA Korean Restaurant ต้นตำรับความอร่อยจากแดนกิมจิ

    กลิ่นหอมของซี่โครงเนื้อบนกระทะอบอวลไปทั่วทั้งร้าน พาลทำให้ต่อมน้ำลายของเราเริ่มทำงานหนักกว่าปกติ หากใครมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างกัน อาจจะไม่มากแต่รับรองว่าไม่น้อยแน่นอน...นั่นแน่! อยากรู้แล้วล่ะสิว่าเรากำลังจะพาไปกินของอร่อยกันที่ไหน คราวนี้เรามากันที่ร้าน “NARA Korean Restaurant” เห็นทางร้านบอกมาว่า อาหารของเขาเป็นสูตรต้นตำรับจากประเทศเกาหลีแท้ๆ จะแน่สักแค่ไหน ก็ต้องขอพิสูจน์กันหน่อยล่ะ

    • โพสต์-2
    theTripPacker •  ธันวาคม 04, 2556
    • โพสต์-3
    theTripPacker •  ธันวาคม 04 , 2556

    เมื่อพูดถึงอาหารเกาหลี เมนูแรกที่หลายคนมักจะนึกถึงคงหนีไม่พ้น “เนื้อย่าง” หรือไม่ก็ “หมูย่าง” นั่นเอง ซึ่งเราก็ไม่มีทางปล่อยให้เมนูหลักจานนี้หลุดลอยไปอยู่แล้ว แถมทางร้าน Nara ยังเลือกใช้ “กระทะคริสตัล” ที่สั่งข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศเกาหลีส่งตรงถึงเมืองไทยเพื่อความอร่อยของเมนูปิ้งย่างโดยเฉพาะ ด้วยความที่กระทะคริสตัลสามารถกระจายความร้อนได้ดี เนื้อที่ย่างผ่านกระทะนี้จึงได้รับความร้อนสม่ำเสมอและสุกทั่วถึงกันทั้งชิ้น แถมยังไม่มีเขม่าควันดำๆ ติดเนื้อมาทำลายสุขภาพอีกด้วย เราจึงอร่อยกับเมนูปิ้งย่างได้อย่างเต็มคำ

    • โพสต์-4
    theTripPacker •  ธันวาคม 04, 2556
    • โพสต์-5
    theTripPacker •  ธันวาคม 04 , 2556

    เมื่อพนักงานเริ่มทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟจนแน่นโต๊ะ แน่นอนว่าเราต้องเริ่มที่เมนูปิ้งย่างกันก่อนเป็นอันดับแรก เพราะฟังคำโฆษณากระทะไว้เยอะจะไม่ลองใช้เลยก็คงจะเสียโอกาส ว่าแล้วหยิบเนยทาลงบนกระทะบางๆ ก่อนจะบรรจงวางซี่โครงเนื้อและหมูสามชั้นชิ้นมโหฬารลงไป เพียงไม่นานกลิ่นของเนยและเนื้อก็เริ่มผสมปนเปกันจนกลายเป็นความหอมหวลชวนน้ำลายไหล พาให้มือขยับไปหยิบตะเกียบคีบซี่โครงเนื้อชิ้นแรกเข้าปากไปโดยอัตโนมัติ สัมผัสของเนื้อนุ่มๆ บวกกับรสชาติความหวานของตัวเนื้อ ก็แทบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มมาเพิ่มรสชาติกันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครอยากอร่อยครบรสแบบต้นตำรับเหมือนที่คนเกาหลีเขากินกันก็ไม่ยากครับ วิธีการก็คล้ายๆ กับการกินเมี่ยงของบ้านเรานี่แหละ เริ่มจากหยิบผักสดที่ชอบขึ้นมาแผ่ไว้ วางเนื้อลงไปสักชิ้น ตามด้วยข้าวสวยสักหน่อย ต่อด้วยกระเทียมสด และกิมจิ ทีนี้ก็ห่อเข้าด้วยกันแล้วกินรวมเป็นคำเดียวเลย หรือถ้าใครอยากเพิ่มรสชาติขึ้นมาอีกหน่อยก็ต้องใส่น้ำจิ้ม “เท็นจัง” น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรเกาหลี ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ชอบรสชาติแบบไทยๆ ทางร้านก็มีพริก กระเทียมซอย แถมมะนาวไว้ให้พร้อมสรรพ แค่ปรุงน้ำจิ้มด้วยน้ำมะนาวนิดตามด้วยพริกหน่อย รับรองว่าแซ่บถูกปากแน่นอน

    ชิมเนื้อกันไปแล้ว ทีนี้ลองชิมเนื้อหมูสามชั้นบ้างดีกว่า เนื้อหมูชิ้นโตๆ มีมันเป็นชั้นแบบพอดีๆ เคี้ยวมันสนุกปาก รสชาติหวานกำลังดี อร่อยไม่แพ้เนื้อวัวเลย ยิ่งได้กินพร้อมกับเครื่องเคียงมากมายที่ทางร้านจัดมาให้ ทั้งไข่ตุ๋นแบบเกาหลี, พิซซ่าเกาหลี, กิมจิ และผักสดนานาชนิด ก็ยิ่งอร่อยเพลินจนเกือบลืมเมนูอื่น ส่วนใครที่อยากลิ้มรสซอสสูตรลับของทางร้านให้ลองสั่ง “ซี่โครงหมูหมักซอส” เมนูนี้ทางร้านปรุงออกมาให้เสร็จสรรพ รสชาติจะหนักไปทางเค็มหน่อยแต่ก็ไม่มากจนเกินไป เพราะชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสสูตรพิเศษ นับว่าเป็นจานเด็ดอีกจานที่ไม่ควรพลาด

    • โพสต์-6
    theTripPacker •  ธันวาคม 04, 2556
    • โพสต์-7
    theTripPacker •  ธันวาคม 04 , 2556

    พอกินเมนูปิ้งย่างกันจนหนำใจแล้ว ก็ลองหันมาชิมอาหารจานเดี่ยวกันเสียหน่อย เริ่มจาก “ข้าวยำ” หรือ “บิบิมบับ” ข้าวยำสไตล์เกาหลีที่อัดแน่นด้วยเครื่องสารพัดชนิด คลุกเคล้าด้วยซอสมะเขือเทศจากเกาหลีหรือที่เรียกกันว่า “โกซูจัง” ใครที่ชอบรสจัดเป็นพิเศษก็คงต้องใส่ซอสกันเยอะหน่อยล่ะ เพราะตัวซอสมีรสชาติกลางๆ ไม่เปรี้ยว ไม่เค็ม และไม่หวานเกินไป จึงจัดเป็นเมนูกินง่ายเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย กินแต่ข้าวกับเนื้อก็กลัวจะติดคอ จึงตั้งมีซุปร้อนๆ มากลั้วคอเสียหน่อย ซึ่งทางร้านก็มีให้เลือกซดกันได้ตามสไตล์ เช่น “ซุปกิมจิ” ที่เอาใจคนชอบรสเปรี้ยว เพราะจะได้จี๊ดสมใจ แค่ซุปคำแรกแตะที่ปลายลิ้น ความเปรี้ยวก็ปรี่นำขบวนเข้ามาทักทายในทันที ซุปชามนี้ยังมีหมูสามชั้นมาเพิ่มความมัน รวมถึงเต้าหู้ที่มาตัดรสเปรี้ยวของกิมจิได้อย่างลงตัว  ส่วนซุปอีกชามที่เสิร์ฟตามกันมาติดๆ ก็คือ “ซุปเต้าหู้อ่อนใส่ซีฟู้ด” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน ดูเผินๆ หน้าตาอาจดูคล้ายกับซุปกิมจิ แต่รสชาติแตกต่างกันไม่น้อยเลย เพราะซุปชามนี้ไม่มีรสเปรี้ยวของกิมจิ รสชาติจึงอ่อนละมุนและกลมกล่อมกว่า ถึงจะไม่จี๊ดจ๊าดจัดจ้าน แต่ก็ซดได้คล่องคอเหมือนกัน

    • โพสต์-8
    theTripPacker •  ธันวาคม 04, 2556
    • โพสต์-9
    theTripPacker •  ธันวาคม 04 , 2556

    เมนูที่สั่งมาชิมไปแล้วก็เยอะ ที่ยังไม่ได้ชิมก็ยังเหลืออีกแยะ ตอนนี้ความอิ่มจึงเข้ามาทักทายเป็นที่เรียบร้อย ถ้าจะให้กินอีกตอนนี้ก็คงไม่ไหวแล้ว สำหรับเมนูอื่นๆ คงต้องขอติดไว้ก่อน แต่ถ้าใครอดใจรอไม่ไหว เพราะต่อมน้ำลายเริ่มทำงานอย่างหนัก คงต้องรีบแวะมาชิมเองแล้วล่ะครับ บางทีคุณอาจจะติดใจความอร่อยจนต้องยกให้เป็นร้านประจำอีกร้านเลยก็ได้

    • โพสต์-10
    theTripPacker •  ธันวาคม 04 , 2556

    Note

    - ร้าน NARA Korean Restaurant เปิดเวลา 11.30 – 22.30 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ และปิดทุกวันที่ 15 ของเดือน

    - สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ทางร้านมีห้องส่วนตัวไว้ให้บริการอยู่ที่ชั้น 3 จำนวน 2 ห้อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    - ชุดเครื่องเคียงที่นำมาเสิร์ฟ เช่น กิมจิ, พิซซ่าเกาหลี, ไข่ตุ๋น, ผักสด ฯลฯ ทางร้านให้บริการฟรี รวมถึงน้ำขิงเย็นที่จะเสิร์ฟให้หลังจากกินอิ่มแล้วด้วย

  1. โหลดเพิ่ม