หากพูดถึงย่านสะพานเหล็ก ภาพของศูนย์รวมของเล่น แผ่นเกมส์ โมเดล และของสะสมนานาชนิด ก็จะปรากฏในหัวแบบแทบไม่ต้องนึกกันเลยทีเดียว แต่ต่อจากนี้ไป เชื่อว่าภาพในหัวของใครหลาย ๆ คนจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ คลองโอ่งอ่าง กำลังจะกลายมาเป็นภาพจำใหม่ของย่านสะพานเหล็กแห่งนี้
ในอดีตคลองโอ่งอ่าง ถือเป็นย่านการค้าสำคัญของชาวมอญ และชาวจีน โดยสินค้าที่ค้าขายกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นจำพวกเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของชื่อคลองโอ่งอ่างนั่นเอง ในปี พ.ศ. 2526 พื้นที่บริเวณนี้ได้เปิดสัมปทานเป็นพื้นที่ให้เช่า ซึ่งผู้ค้าจากคลองถมเดิมต่างก็ย้ายมาทำการค้าที่นี่แทน จนกลายเป็นแหล่งซื้อขายสุดคึกคักย่านสะพานเหล็กที่เราคุ้นเคยกันมากว่า 40 ปีกระทั่งในปี พ.ศ. 2558 กรุงเทพมหานครได้ทำการจัดระเบียบ คืนพื้นที่ และปรับปรุงภูมิทัศน์คลองรอบกรุง ช่วงตั้งแต่สะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็ก) ไปจนถึง สะพานโอสถานนท์ (เชิงสะพานพระปกเกล้า) รวมระยะทางทั้งสิ้น 750 เมตร จัดทำเป็นถนนคนเดินริมคลองสองฝั่งที่ร่มรื่น สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์บนพื้นที่สาธารณะแห่งนี้ และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในชุมชน เพราะนอกจากจะมีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติที่น่าสนใจอีกด้วย
ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง เปิดทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็น เรื่อยไปจนถึง 4 ทุ่ม สามารถเดินทางมาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ขึ้นที่สถานีสามยอด, เรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นท่าเรือด่วนสะพานพุทธ, รถโดยสารประจำทาง สาย 4, 5, 7, 21, 37, 40, 85 และ 529 หรือใครสะดวกนำรถยนต์ส่วนตัว มาก็มีพื้นที่ให้บริการจอดรถอยู่หลายจุดเช่น ตึกเมก้าพลาซ่า ลานจอดรถข้างสถานีรถไฟฟ้าสามยอด และลานจอดรถห้างอินเดีย เป็นต้น
ตลอดสองฝั่งคลอง ระยะทางรวม 750 เมตร เราสามารถเดินเล่นชมงานศิลปะ สตรีทอาร์ตสมัยใหม่ที่ผสมผสานไปกับศิลปะ และความงดงามแบบคลาสสิคของสถาปัตยกรรม และตึกรามบ้านช่องอายุเก่าแก่หลายสิบปี การแสดง และดนตรีที่ถูกจัดไว้ในโซนต่าง ๆ ช่วยเสริมบรรยากาศ และสร้างความเพลิดเพลินได้ไม่น้อย ในส่วนของร้านค้า ร้านอาหารเองก็มีให้เลือกช็อป เลือกชิมกันอย่างหนำใจ ใครอยากนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็น แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ จนถึงค่ำที่นี่ก็มีบาร์บนชั้น 2 ที่ทำเล และบรรยากาศนั้นช่างเหมาะเสียเหลือเกิน หรือใครเป็นสายสตรีทฟู๊ดก็ต้องถูกใจเพราะมีให้เลือกหลายร้าน หลากหลายเมนู เดินไปชิมไปได้เพลิน ๆ ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีร้านเก่าแก่หลากหลายเชื้อชาติที่อยู่คู่ชุมชนแห่งนี้มาอย่างยาวนาน ที่ได้ส่งต่อวัฒนธรรมความอร่อยกันมาหลายต่อหลายรุ่น และอยากกระซิบบอกตรงนี้ว่า ...."ที่นี่มีโฮสเทล แอนด์ คาเฟ่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ที่บรรยากาศนั้นช่างแตกต่างราวกับว่าเราหลุดเข้ามาในอีกมิติเลยทีเดียว ลองหากันให้ดี" และอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ที่ไม่ควรพลาด และไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ การพายคายัคล่องไปในคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้ใครต่อใครต่างเรียกที่นี่ว่า เวนิสเมืองไทย
ยามเย็นที่คลองโอ่งอ่าง ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อ่อนแสง และไฟดวงเล็ก ๆ นับหมื่นดวงสว่างไสวขึ้นมาแทนที่ เสียงดนตรี กิจกรรม กลิ่นหอมของอาหาร และความคึกคักของผู้คนที่เริ่มหลั่งไหลกันมายังจุดเช็คอินแห่งใหม่ใจกลางกรุงฯ ซึ่งทุกอย่างล้วนทำให้ คลองโอ่งอ่าง ถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับไหลมานานกว่า 40 ปี กลับมามีชีวิตชีวา และพร้อมที่จะเผยตัวตนอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้เห็นอีกครั้ง