ข้าคือ... ผู้พิชิตดอยภูแว
ดอยภูแว | ถ้าไม่แคร์ไม่ต้องมาแลกัน
ทริป 2 วัน 1 คืน | 9-10 พฤศจิกายน 2562
ทริปเที่ยวดอยภูแว จ.น่าน เป็นการเที่ยวป่าแบบจอยทริปหารเฉลี่ยนะคะ
เป็นครั้งแรกในรอบปีกับการได้มีโอกาสมาสัมผัสอากาศหนาวโซนภาคเหนือ
"ดอยภูแว" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ยอดดอยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการเดินของแต่ละคน) และ ณ จุดพักแคปม์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,743 เมตร (ความสูงที่ได้วัดจากนากา)
ณ ยอดดอยภูแว
***การเดินทาง***
การเดินทางโดยรถยนต์ ตามเส้นทาง ปัว-บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ
>> จากตัวเมืองน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 (ไปอำเภอปัว) ระยะทาง 35 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว – บ่อเกลือ – เฉลิมพระเกียรติ) ถึงกิโลเมตรที่ 24 – 25 เลี้ยวซ้ายเข้าที่ทำการอุทยานฯ รวมระยะทางจากตัวเมืองน่าน 60 กิโลเมตร
>> จากที่ทำการอุทยานฯ ไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทาง 63 กิโลเมตร และเดินเท้าขึ้นยอดดอยประมาณ 6 กิโลเมตร
>> จุดเริ่มออกเดินเท้าระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ 700 เมตร เดินเท้าขึ้นจุดพักแคมป์ที่ระดับความสูงประมาณ 1,743 เมตร
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน)
- เป็นจุดรวมตัวและจุดลงทะเบียนสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนขึ้นพิชิตดอยภูแว (ก่อนมาถึงหน่วยฯ นักท่องเที่ยวต้องติดต่อกับทางอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเพื่อจ่ายค่าเข้าอุทยานฯ ก่อนมาถึงหน่วยฯ)
- มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ประมาณ 2 ท่าน (การเดินเท้าต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางเราขึ้นจุดพักแคมป์เท่านั้น)
- หน่วยฯ มีห้องน้ำให้บริการอยู่ 3 ห้อง ด้านนอก และด้านในอาคาร 1 ห้อง
***สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม***
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
โทรศัพท์ : 054-701000, 054-731362, 08-2194-1349
อีเมลล์ : phukha_np@hotmail.com
9 พฤศจิกายน 2562 | ออกเดินเท้าพิชิตดอยภูแว
>> ทริปนี้เป็นทริปที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ขึ้นดอยภูแว รวม 13 คน คือพวกเรานั้นเองจำนวน 10 คน + เจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน และลูกหาบ 2 คน อารมณ์เหมือนได้เที่ยวแบบ private มาก ด้วยระยะทางจาก อ.ปัว มาแวะอุทยานฯ และไปยังหน่วยฯ ใช้เวลาหลายชั่วโมง และเส้นทางค่อนข้างขึ้นเขา ลงเขา ทางโค้ง ทางชัน มีหมด ทำให้การออกเดินเท้าปาไป 11 โมงกว่าเกือบจะเที่ยง (ถ้ามาถึงบ่ายเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ขึ้นยอด) เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มออกเดินเท้า Go Go!
ณ จุดเริ่มออกเดินเท้า
>> จุดชมวิวแรกที่จะได้เห็นหลังจากเดินเท้าเข้าเส้นถนนของหมู่บ้าน และวิวนี้เองบอกให้รู้ว่าใกล้จะถึงหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกให้พวกเราแวะพักกินข้าวที่หมู่บ้านนี้
เป็นช่วงเวลาเที่ยงกว่าๆ อากาศค่อนข้างร้อนมากแต่วิวดี
>> เส้นทางผ่านเพื่อเดินเข้าหมู่บ้านปู่ดู่ ระหว่างเส้นทางจะพบกับหมู่บ้านและวิถีความเป็นอยู่ของคนที่นั้น
>> เราแวะกินข้าวกันเกือบจะบ่ายละที่หมู่บ้านก่อนออกเดินเท้าต่อ อาหารกลางวันคือเราเตรียมกันมาเอง และจำเป็นต้องขึ้นมากินข้าวบนยุ้งเก็บข้าวโพดของชาวบ้าน เพราะที่หมู่บ้านสุนัขเยอะมากๆ เห็นแล้วสงสารแต่ก็สงสารตัวเองด้วยเช่นกันเลยขอกินก่อนเหลือเด๋วแบ่งให้
>> เส้นทางออกจากหมู่บ้าน ณ จุดๆ นี้ จะเริ่มเดินผ่านทุ่งข้าวโพดบนสันเขา และเทือกเขา เดินจนเจอป้ายบอกทางขึ้นยอด นั้นละได้ครึ่งทางที่เดินผ่านมา
จุดพักครึ่งทางก่อนเริ่มเดินขึ้นเขาอย่างจริงจัง
>> หลังจากหมดเส้นทางทุ่งข้าวโพด ความโหดก็มาเลยค่ะ เดินไต่ระดับความชันบนสันเขาขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดพักแคมป์
เดินมาระหว่างทางก็เจอกับลูกหาบของเรากำลังนั่งพักอยู่พอดี
>> ระหว่างเดินเท้าจะพบกับ "ต้นปรงป่า" จุดไฮไลท์เลยค่ะ ต้องถ่ายรูปคู่ด้วยนะ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงงงงง
>> ณ จุดพักแคมป์ จากระดับความสูงที่วัดได้คือ 1,734 ก็นั่งรอลูกหาบกันไป หลังจากกางเต็นท์เสร็จพวกเราขึ้นยอดเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกกันตอน 5 โมงกว่าๆ อากาศเย็นสบายๆ ไม่หนาวเลย แต่ช่วงกลางคืนคือน้ำค้างแรงมาก!
>> ประมาณ 5 โมงเย็นกว่าๆ เลย ก็ขึ้นยอดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน จากจุดพักแคมป์ถึงยอดดอย ระยะทางประมาณ 100 กว่าเมตรได้ ใช้เวลาในการเดินเท้าไม่ถึง 20 นาที และเส้นทางขึ้นไม่โหดร้าย เดี๋ยวมาดูกันว่าวิวตอนเย็นระหว่างเส้นขึ้นยอดจะเป็นเช่นไร
มุมสูงครึ่งทางมองไปยังจุดพักแคมป์
>> มั่วแต่สะดุดตากับวิวระหว่างทาง ขึ้นไม่ถึงยอดสักที เพราะอาทิตย์ตกดินซะงั้น เลยรวบยอดพรุ่งนี้เลย
ยังถือว่าโชคดีที่ฟ้าไม่ปิด ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นพระอาทิตย์ตกดิน
>> ขอปิดท้ายของวันด้วยอาหารมื้อเย็นด้วยยำกระทะ กับ ชาบูหม้อไฟ บนยอดดอย