ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    สำหรับใครที่ได้มาเยี่ยมเยือนเมืองเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่แล้วแวะไปเวียน มาอยู่ในตัวเมือง เรามีร้านนั่งเล่นชิวๆ ริมแม่น้ำปิงมาแนะนำกัน หลายๆ คนอาจเคยรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อกันมาแล้วกับ “เวียงจูมออน ทีเฮ้าส์” และก็คงอีกหลายคนที่เคยแวะเวียนไปนั่งเล่น ถ่ายรูป จิบชาอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็ขอนำทุกคนก้าวเข้าสู่ “นครสีชมพู” แห่งนี้อีกครั้งเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศที่หอมอวบอวลไปด้วยกลิ่นชานานาชนิดกันให้ชื่นใจ


    • โพสต์-2
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    “เวียงจูมออน” มาจากคำในภาษาล้านนา  2 คำ นั่นคือ “เวียง” ที่แปลว่า เมือง และ “จูมออน” ที่แปลว่า สีชมพู ดังนั้นจึงแปลได้อย่างตรงตัวเลยว่า “เมืองสีชมพู” และ เมืองแห่งนี้แหละที่เปรียบได้กับสวรรค์ของคนรักชา เพราะภายในร้านมีชากว่า 60 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลกที่คัดสรรกันมาอย่างดีเพื่อเอาใจสาวกคนรักชาโดยเฉพาะ ซึ่งชาที่มีจำหน่ายอยู่ในร้านนั้นมีทั้ง “ชาจีน” มากถึง 20 กว่าชนิด และชาจีนเหล่านี้แหละที่จัดเป็นชาแบบที่หลายคนคงคุ้นเคย ส่วนชาอีกประเภทคือ “ชาเบลนด์” ที่มีมากกว่า 30 ชนิด ซึ่งการเบลนด์ชานั้นนับเป็นศาสตร์แห่งการผสมผสานชาเข้ากับสมุนไพรและส่วนผสม ต่างๆ ให้ได้ชาที่มีรสและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และแน่นอนว่าที่เวียงจูมออนแห่งนี้ก็มีความชำนาญในการเบลนด์ชาไม่แพ้ที่ไหน ส่วนใครจะชอบจิบชาอะไร ถูกใจกลิ่นสัมผัสแบบไหนต้องลองไปค้นหาทำการทดลองดม ทดลองชิมกันดู แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนที่ไม่ค่อยถนัดในเรื่องชาก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะพนักงานในร้านทุกคนผ่านการอบรมความรู้เรื่องชามาเป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเค้าจึงสามารถแนะนำชาชนิดต่างๆ ได้อย่างดีเพียงแค่คุณบอกความต้องการของตัวเองไปเท่านั้น

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  ตุลาคม 07, 2556
    • โพสต์-4
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    สำหรับหลายคนที่เคยมานั่งจิบชาที่เวียงจูมออนแล้ว คงรู้กันดีว่าการตกแต่งของร้านนั้นน่าประทับใจมากขนาดไหน ทั้งในส่วนของห้องปรับอากาศบนชั้นสองของร้าน และในสวนกลางแจ้งด้านหลังร้านซึ่งติดกับแม่น้ำปิง ทุกที่นั่งทุกมุมล้วนชวนให้เรานั่ง ชวนให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และชวนให้เรานึกอยากบอกต่อให้ทุกคนที่เรารักได้มีโอกาสมาเห็นด้วยตาซักครั้ง แต่อย่าเพิ่งเพลินไปกับบรรยากาศของร้านจนลืมสั่งเครื่องดื่มและของว่างมา ลิ้มลองกันเสียล่ะ เนื่องจาก “ชา” คือไฮไลท์ของที่นี่ดังนั้นเราจึงขอแนะนำชาที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านนั่นก็คือ “เวียงจูมออน ที” ชาที่ได้จากการเบลนด์ชาขาว ชาดำ และสมุนไพรเข้าด้วยกันจนได้ชาที่เป็นลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ชาตัวนี้ยังนับเป็นชาตัวเดียวเท่านั้นที่มีการนำเอาชาขาวและชาดำมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ถ้าใครอยากรู้ว่ารสชาติและกลิ่นจะเป็นอย่างไรต้องลองแวะเวียนไปชิมกันเอง

    ส่วนเมนูอื่นๆ ที่เราจะหยิบยกมานำเสนอในคราวนี้นั้นยังมี ชาเย็นสีแดงสดใสชื่อ “Lady in Red” และ “Morocco Mojito” ชารสอมเปรี้ยวหวานที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ชื่นชอบชาร้อนเราอยากแนะนำให้ลองสั่งชา “Oriental Route” ที่หอมกรุ่นกลิ่นดอกกล้วยไม้และดอกไม้นานาชนิด ยิ่งถ้านำมาจับคู่เข้ากับชุด “Vieng Joom On High Tea” ก็เข้ากันดีไม่น้อย ในชุดHigh Tea นี้จะประกอบไปด้วยชาร้อน 1 กา สำหรับ 1 หรือ 2 คนแล้วแต่เราจะเลือกซึ่งจะเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมแกล้มชาหลากชนิด เช่น มินิทาร์ต มินิเค้ก แซนวิช และฟรุ๊ตสลัดพร้อมแยมผลไม้ แต่ถ้าหากยังไม่จุใจก็ยังมี “London Cheese Cake” อีกจานมานำเสนอ เนื้อชีสเค้กนั้นทั้งนุ่มเนียนแทบจะละลายในปาก ยิ่งได้ละเลียดพร้อมกับซอสที่ราดมาด้านบนก็ยิ่งไม่ต้องบรรยายอะไรให้เสีย เวลา เพราะเพียงแค่พริบตาเค้กทั้งชิ้นก็หายลงท้องไปตามระเบียบ นอกจากรายการเครื่องดื่มร้อนเย็นและขนมที่เรานำมาฝากในคราวนี้แล้ว ทางร้านยังมีขนมอีกมากมายที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ทั้ง Blueberry Cheese Cake, Banana Caramel Crape, Scone Set, สลัด และ แซนวิชอีกมากมาย ที่สำคัญทุกเมนูเป็นเมนูมังสวิรัติ ซึ่งรับรองว่าอร่อยถูกใจคนรักสุขภาพแน่นอน


    • โพสต์-5
    theTripPacker •  ตุลาคม 07, 2556
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    เมื่ออิ่มอร่อยกับเมนูต่างๆ แล้ว บางคนอาจจะอยากนั่งเล่น อ่านหนังสือ ชมวิวริมแม่น้ำปิงกันไปเพลินๆ แต่ถ้าใครยังติดใจในรสชาอยู่ ก่อนกลับอย่าลืมลองไปเดินสำรวจหาซื้อติดไม้ติดมือกลับไปชงต่อที่บ้านบ้าง ในส่วนด้านหน้าของร้านจะมีชาทุกชนิดจัดชุดในแพ็คเกจสวยๆ ไว้เป็นของฝากหลายชุด ทั้งชุดเล็ก ชุดใหญ่ รวมไปถึงอุปกรณ์ในการชงชาอีกนับไม่ถ้วน สำหรับของฝากเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าจะสร้างความประทับใจได้ไม่น้อยเลยคงต้องยกให้ “Artistry Tea” ศิลปะการถักชาด้วยมือของชาวยูนาน ประเทศจีน ที่เพียงแค่เรานำชาลูกกลมๆ ไปแช่น้ำเราก็จะได้เห็นชาค่อยๆ บานออกมาเป็นรูปดอกไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งชาชนิดนี้เราไม่นิยมนำมาดื่มกัน แต่นิยมนำไปตั้งประดับตกแต่งบ้านซึ่งชาตัวนี้จะมีกลิ่นหอมพิเศษจริงๆ อย่าลืมมาลองเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากกันดู รับรองว่าถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับแน่นอน

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    Note

    - การชงชาที่ถูกต้องนั้น เราไม่ควรจะแช่ใบชาไว้ในกานานเกิน 3นาที เพราะจะทำให้รสของชาเสียไป

    - การดื่มชาเพื่อให้ได้รสชาที่แท้จริงนั้น เรามักจะไม่เติมน้ำตาลหรือนมลงในชา เพราะมันจะลดทอนรสชาติของชาลงไป

    - ศิลปะในการดื่มชาของคนแต่ละชาติก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น ชาวจีน นิยมดื่มชาร้อนโดยไม่ใส่อะไรลงไปในชา และมักจะแช่ใบชาทิ้งไว้ในกาเป็นเวลานานๆ ส่วนชาวอังกฤษนิยมดื่มชาในช่วงบ่าย และมักจะเติมนมและน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชา ส่วนชาวอินเดียนิยมนำใบชาไปต้มกับนมร้อนและเติมเครื่องเทศลงไป เพื่อให้ได้ชาที่มีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นเฉพาะ ฯลฯ

    • โพสต์-8
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 53 ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000

    GPS : N18.79151 E99.00279

    เบอร์ติดต่อ : 053 303 113 แฟกซ์ : 053 303 114

    E-mail : mail@vjoteahouse.com

    Website : www.vjoteahouse.com

    Facebook : เวียงจูมออนทีเฮ้าส์

    อาหารแนะนำ :

    - Vieng Joom On High Tea (280 / 495 บาท)

    - London Cheese Cake (180 บาท)

    - Lady in Red (90บาท)

    - Morocco Mojito (90บาท)

    จำนวนโต๊ะ : รองรับลูกค้าได้ 200 คน

    เวลาทำการ : 10.00-19.00 น. ทุกวัน

    วิธีชำระเงิน : เงินสด / บัตรเครดิต

    ที่จอดรถ : ที่จอดรถบริเวณหน้าร้าน

    • โพสต์-9
    theTripPacker •  ตุลาคม 07 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    จากในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อข้ามสะพานนวรัฐมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์ มุ่งหน้าสู่วัดเกตการาม ให้สังเกตอาคารสีชมพูสดใสด้านซ้ายมือไว้ ร้านเวียงจูมออน ทีเฮ้าส์ จะอยู่ก่อนถึงวัดเกตการามเล็กน้อย

    • โพสต์-10
    theTripPacker •  ตุลาคม 07, 2556
  1. โหลดเพิ่ม