ทริปนี้เราไป 3 วัน 2 คืน ขอแบ่งรีวิวเป็น 3 ตอน เพื่อจะได้ไม่ยาวเกินไปนะคะ

Day 1 : Changi Airport ==> Porcelain Hotel ==> ==>Sri Mariamman Temple ==> Tooth Relic Buddha Temple ==> Maxwell food center ==> Fort Canning Park ==> Helix Bridge อ่านรีวิวได้ที่นี่ค่ะ https://www.thetrippacker.com/th/review/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B5SINSingaporeChangiAirport/10981

Day 2 : Universal ==> Siloso Beach ==> Palawan Beach ===> Supertree Grove

Day 3 : Ya kun Kaya Toast ==> Hajilane ==> Garden by the bay ===> Changi Airport ===> Don Muang 

****************************************************************************

ฝากติดตามผลงานเพจ FB https://www.facebook.com/travelandoutdoors/

ขอบคุณสำหรับทุกไลค์และแชร์ค่ะ ^V^

******************************************************************************

Day : 2 (February 19, 2017)

08.00 น. วันนี้เรามีนัดกับ Universal ค่า ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสถานี China Town ไปลงสถานี Harbour Front เดินตามป้ายทางออกไป Vivo City ขึ้นไปชั้น 3 เนื่องจากเราใช้ตั๋ว Tourist pass การไปเกาะ Sentosa จึงต้องซื้อตั๋วข้ามเกาะเพิ่ม ราคา 4 เหรียญ (ซื้อครั้งเดียวใช้เดินทางรอบเกาะได้ทั้งวันค่ะ)

+++ใกล้ๆกับจุดจำหน่ายตั๋วจะมี Food court ด้วยนะคะ ใครจะมาทานมื้อเช้าที่นี่ก่อนข้ามไปที่เกาะก็ได้ค่ะ+++

ขั้นตอนการซื้อบัตร

1.กดปุ่มด้านล่างเพื่อตกลงซื้อตั๋ว

2.เลือกจำนวนตั๋วที่เราต้องการ

3.ระบบจะแจ้งจำนวนเงินที่เราต้องจ่าย กดเลือก Print Receipt จากนั้นสอดเงินให้ครบตามจำนวน เครื่องจะจ่ายตั๋ว เงินทอน(ถ้ามี) และปรินท์ใบเสร็จให้เราค่ะ

ได้ตั๋วมาแล้ว Let's goooooooooooooooooooo

08.45 น. Universal แล้วเราก็เจอกันนนนนนนน ประตูเข้าสวนสนุกจะเปิดตอน 10.00 น. อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมเรามาเช้า อุตส่าห์ตื่นแต่เช้า ตั้งใจมาถ่าย "รูปเดี่ยว"กับลูกโลกแบบนี้ เพราะถ้ามาสายกว่านี้จะได้ "รูปหมู่" แทนค่ะ^^

Lake of dream อีกแลนด์มาร์คที่หาง่าย ใครจะนัดเจอเพื่อนๆก่อนเข้า USS นัดที่นี่ก็ได้ค่ะ 

เวลาเหลือๆก็เดินสำรวจวนไป....เดินตามหางพี่เมอร์มาเลยฮ่ะ........

ด้านหน้า USS จะมีร้านของฝาก ตกแต่งน่ารักๆ หลายร้านเลยค่ะ ใครเป็นสาวก M&M ต้องไม่พลาดร้านนี้ Candylicious

โย่ว โย่ว...มาทางนี้เลยพวก

มีความน่ารัก แอนด์ น่ากิน...ขอกินได้มั๊ย ^V^

ส่วนสาวก Hershey's และ Garrett ก็ไม่น้อยหน้า ร้านจะอยู่ติดๆกันเลยค่ะ ขากลับแวะซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือไปได้นะคะ

+++ แต่อย่าลืมเทียบราคากันด้วยนะคะ ลองเทียบราคา Garrett ที่สยามกับที่นี่แล้ว ถ้าซื้อหลายถุงที่สยามถูกกว่านาจา เดี๋ยวได้หิ้วของแพงกลับบ้านน๊าาาาาา +++

ด้านหลังร้าน Candylicious จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบันไดเลื่อนสำหรับลงไปชั้นใต้ดินค่ะ ซึ่งเป็นอาณาจักรของ Mcdonald มื้อเช้าของเราเลยฝากท้องไว้ที่นี่ค่ะ

10.00 น. ประตูเปิดให้เข้าได้แล้วคร่าาาาาา เตรียมตั๋วให้พรอมแล้วไปกันเลยยยย วันอาทิตย์เป็นวันที่คนหนาแน่นเป็นปรกติ เมื่อเข้ามาถึงด้านในแล้ว จุดแรกที่เราเจอคือสแตนใส่โบรชัวร์และตารางการแสดงของโซนต่างๆ อย่าลืมหยิบมาด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดการแสดงที่อยากดูค่ะ

น้ำพุตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเดินเข้าด้านในค่ะ เดินวนขวาจะเจอโซน New York , Sci-Fi City และ Ancient Egypt นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะเดินไปทางขวา เราเลยเริ่มจากฝั่งซ้ายก่อน เพราะไม่อยากรอนานค่ะ

Madagascar เป็นโซนแรกที่เราเจอค่ะ แค่เดินเข้ามาเราก็จะเจอ Alex, Martin, Melman และ Gloria คอยต้อนรับเราอยู่ เครื่องเล่นโซนนี้จะเหมาะกับเด็กๆ มากกว่าผู้ใหญ่ แต่เราชอบบบบบบ 5555+++ ว่าแล้วก็โดดลงเรือ A Crate Adventure ไปเที่ยวมาดากัสการ์กันค่ะ

ออกมาด้านนอกจะเจอต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ สวยดีชอบๆ ^V^

ถัดจากโซน Madagascar จะเป็นโซน Far Far Away ดินแดนของพ่อยักษ์ใหญ่ใจดีตัวสีเขียว Shrek สุดหล่อของเรานี่เอง

ดูความอลังของปราสาทพี่เค้าซะก่อน เราจะเข้าไปชม Shrek 4-D Adventure ข้างในนี้ค่ะ สนุกไปกับการผจญภัยของ Shrek และเจ้าหญิง Fiona +++ ห้ามพลาดค่ะ แนะนำเลย +++

ใกล้กับปราสาทของ Shrek จะเป็น Puss in boot's giant journey ขี่รถไฟเหาะไล่ล่าไข่ทองคำ มีความเสียว มีความมึน^^

ฝั่งตรงข้ามปราสาทจะเป็น Enhanted Airways ขี่หลังมังกรซิ่งไปตามราง ก่อนเล่นต้องเอาของวางที่ล็อคเกอร์ก่อนค่ะ เดี๋ยวร่วงกระจาย^^ เครื่องนี้ความสูงยังระดับกลางๆ แต่ก็ยังเรียกเสียงกรี๊ดได้ ซ้อมไว้ก่อนสำหรับคนที่จะไปเล่น Roller Coster ค่ะ (ขอบคุณรูปจากอินเทอร์เนต)

ถัดจากปราสาทของพี่ยักษ์จะเป็นดินแดนไดโนเสาร์ The Lost World เห็นมั๊ยพี่เค้ากำลังเฝ้าไข่อยู่ ดูท่าทางดุซะด้วย ^V^

เสื้อกันฝนอันนี้เราเตรียมมาจากแบงคอกนาจา เพื่อเอามาเล่นเครื่องนี้โดยเฉพาะ Jurassic Park Rapids Adventures

เป็นการล่องเรือผจญภัยในดินแดนจูราสสิค ถ้าไม่ได้เตรียมเสื้อกันฝนมา ด้านหน้าจะมีล็อคเกอร์สำหรับฝากของถ้ากลัวเปียก (มีค่าเช่าล็อคเกอร์ 4 เหรียญ) แต่ถ้าใครไม่กลัวเปียกและไม่อยากเสียตังค์เพิ่มก็ลุยเลยค่ะ

+++ ถ้าถามว่าเสื้อกันฝนจำเป็นไหมสำหรับเล่นเครื่องนี้ เราว่ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร คือมันไม่ได้เปียกโชกทั้งตัว แค่เปียกพอชุ่มฉ่ำให้คลายร้อน เราเล่นสงกรานต์ยังเปียกเยอะกว่านี้อีกแกรรร ยิ่งถ้ากระเป๋ากันน้ำได้ เอาของใส่กระเป๋าแล้วลุยเลยค่ะ ที่ต้องระวังคือจังหวะที่เรือชนโขดหินแล้วน้ำกระเซ็น ถ้าใส่รองเท้าผ้าใบต้องคอยยกเท้าหลบน้ำให้ดีค่ะ+++ (ขอบคุณรูปจากอินเทอร์เนต)

ล่องเรือเสร็จ เรามาต่อกันที่ Canopy Flyer เป็นรถไฟเหาะแบบนั่งห้อยขา ความสูงใช้ได้เลยค่ะ ขึ้นไปชมวิวใน USS เพลินเลย

13.00 น. ใกล้ถึงเวลาการแสดง WaterWorld นักท่องเที่ยวก็เริ่มทยอยมากันแบบนี้

เมื่อประตูเปิดก็เข้าไปเลือกที่นั่งได้ตามชอบ ใครอยากใกล้ชิดนักแสดงหรืออยากเปียก แนะนำให้นั่งแถวล่างด้านหน้าเลยค่ะ ก่อนเริ่มการแสดง นักแสดงจะเดินมาทักทายผู้ชมแบบใกล้ชิดถึงที่นั่งเลย ตอนนี้แหละค่ะที่งานเปียกจะเริ่มมา (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ มัวแต่นั่งหัวเราะจนลืม)

การแสดงลุ้นระทึกดีมาก เอฟเฟคจัดเต็ม ช่วยลุ้นพระเอกจนตัวโก่งเลย ^V^  +++เป็นอีกการแสดงที่อยากแนะนำค่ะ+++

หลังจบการแสดง ใครอยากถ่ายรูปกับนักแสดงให้อยู่รอก่อนนะคะ จะได้ถ่ายรูปใกล้ชิดแบบนี้เลยค่ะ 

14.30 น. มื้อเที่ยงของเราฝากท้องไว้ที่ USS Food court จะอยู่ใกล้ๆกับ Water world เลยค่ะ คูปองส่วนลดที่แถมมาตอนซื้อบัตรเครื่องเล่นก็ได้เอามาใช้ตอนนี้แหละค่ะ ข้างในศูนย์อาหารตัวเลือกค่อนข้างน้อย

มื้อนี้เราทาน Hainanese Chicken Rice กับ Roasted Chicken Rice หน้าตาอาจจะดูไม่ค่อยดี แต่รสชาด.....แย่ยิ่งกว่าหน้าตาอีกค่ะ T___T

+++ใครไม่อยากทานที่นี่ สามารถออกไปทานด้านหน้า USS ได้นะคะ มีรานอาหารหลายร้าน และมีศูนย์อาหารมาเลเซียด้วยค่ะ +++

อิ่มท้องไปแล้ว เราไปต่อกันที่โซน Ancient Egypt แค่ทางเข้าก็ทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมแบบอียิปต์โบราณ เครื่องเล่นในโซนนี้ที่น่าลองคือรถไฟกระชากวิญญาณ Revenge of the mummy ใครเล่นเครื่องนี้ต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อคเกอร์ด้วยนะคะ (ฝากฟรี 45 นาที) 

และมาถึงโซนที่ popular มากที่สุด Sci-Fi City เราเลือกเล่น Transformers the ride : The Ultimate 3D Battle ก่อนเป็นเครื่องแรกค่ะ

ดูฉากจำลองซะก่อน สมจริงมาก

และนี่คืออุปกรณ์ที่เราต้องใช้ค่ะ แว่นตา 3 มิติ

เฮ๊ย...แกร เราจะบอกว่ามันตื่นเต้นมาก เหมือนเราได้ร่วมต่อสู้กับพวก Decepticons จริงๆ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนเป็นฮีโร่ได้ปกป้องโลกยังไงยังงั้นเลย แต่พอเล่นเสร็จเราโคตรมึนหัวเลย T____T สุดท้าย Roller Coster รางคู่เลยต้องอดไป ขืนเล่นต่อเราว่าเราพุ่งข้าวมันไก่มื้อกลางวันออกมาแน่ๆ

และมาจบที่โซนสุดท้าย New York โซนนี้จะมี Street show รถไฟเหาะน่ารักๆสำหรับเด็กๆ Sesame Street Spaghetti Space Chase

สิ่งที่เราชอบใน USS นอกจากเครืองเล่นก็คือ

+++การจัดวางแผนผังอย่างเป็นระบบ ทางเข้าทางออกที่แยกกันอย่างชัดเจน และทุกๆทางออกมักจะมีร้านขายของที่ระลึกให้เราได้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไป

+++ก็อกน้ำดื่มที่มีกระจายทั่วพื้นที่ (ในเมืองที่น้ำราคาแพงแบบนี้ ก็อกน้ำฟรีช่วยประหยัดได้เยอะค่ะ)

+++รถขายของที่ตกแต่งได้น่ารักมาก ชอบๆ

16.00 น. สนุกจากเครื่องเล่นจนหนำใจแล้ว เราย้ายไปเที่ยวชายหาดบ้านเค้าบ้างดีกว่าค่ะ ให้นั่ง Monorail จาก USS มาลงสถานี Beach station การเดินทางภายในเกาะจะมีทั้งรถMonorail/ รถ Bus/ รถ Tram ไว้บริการฟรีนะคะ ออกจากสถานีให้มองหาจุดที่รถบัสจอด สถานีรถ Tram จะเดินเลยไปอีกนิดนึงค่ะ

หน้าตารถ Tram เป็นแบบนี้ค่ะ เดี๋ยวเราจะนั่งไปเที่ยวกัน

เรานั่งรถ Tram มาลงที่ Siloso beach ก่อนค่ะ เป็นหาดจำลองที่ให้ความรู้สึกคล้ายของจริงมาก ยิ่งอากาศร้อนๆแบบนี้ ยิ่งเหมือนจริงเข้าไปใหญ่ หาดนี้จะเป็นแหล่งรวมในการทำกิจกรรม เช่น ว่ายน้ำ บานาน่าโบ๊ท วอลเล่ย์บอลชายหาด พายเรือ ฯลฯ ช่วงกลางวันคนจะคึกคักมากกว่าหาดอื่นค่ะ

กีฬาอย่างอื่นที่ต้องเสียเงินเพิ่มก็มีเช่นกันค่ะ บรรยากาศชายหาดที่นี่จะแตกต่างจากบ้านเราอย่างชัดเจน ที่เมืองไทยเราจะเน้นพักผ่อน เล่นน้ำแบบชิลล์ๆ แต่ที่นี่เน้นออกกำลังกายแบบจริงจัง บนถนนจะเห็นคนปั่นจักรยานเยอะมาก เพราะถนนบ้านเค้ามีแค่รถ tram ที่วิ่ง ถนนโล่ง ปั่นสบาย ไม่อันตราย ^V^

เดินสำรวจไปเรื่อยๆจนสุดหาด เราจะเจอป้ายนี้ ซึี่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของหาดนี้ค่ะ 

17.00 น. ออกจาก Siloso เรานั่งรถ Tram ย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อมา Palawan Beach

เห็น หอคอย 2 หลังลิบๆนั่นม้ายยยยย เราจะเดินไปชมวิวบนนั้นกันค่ะ

ทางเดินก่อนถึงสะพานแขวนจะเป็นป่ารกๆแบบนี้ค่ะ สะพานแขวนขนาดไม่กว้างมาก สามารถเดินสวนกันได้

มาถึงแล้ววววววววว จุดที่เรายืนอยู่ตอนนี้เรียกว่า "Palawan Island" ถือว่าเป็นจุดที่อยู่ "ใต้สุดของทวีปเอเชีย" นาจา .......สาระมานิดนึง ^^.......

จุดชมวิวนี้ถือว่าเป็นจุดพีคอีกจุดในการชมวิวบนเกาะ Sentosa วิวทะเลด้านหลังตอนพระอาทิตย์กำลังตก

ส่วนวิวด้านหน้ามาเต็มแบบนี้ เราสามารถเดินเที่ยวบนหอคอยได้ทั้ง 2 หลังเลยค่ะ จะมีสะพานเชื่อมหากันอยู่ โดยรวมแล้วเราว่าหาดนี้เหมาะกับสายดริงค์แอนด์แดนซ์ เพราะรวมร้านอาหาร บาร์เบียร์ เพียบบบบบ ยามค่ำคืนคงคึกคักน่าดูเลยค่ะ

ถ่ายวิวจนหนำใจแล้วก็นั่งรถ Tram กลับมายัง Siloso beach เพื่อนั่ง Monorail กลับค่ะ

18.00 น. ออกจาก Sentosa มานั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสถานี Harbour Front มาลงสถานี Dhoby Ghaut เพื่อเปลี่ยนสายสีเหลืองมาลงสถานี Bayfront แค่ทางเดินตรงสถานีก็ทำให้เราเสียเวลาไปหลายนาทีแล้วค่ะ....แวะถ่ายรูป อิอิ ^V^

คืนนี้เราตั้งใจมาถ่าย Supertree grove ค่ะ ระหว่างทางก่อนจะไปถึงก็เก็บวิวไปเรื่อยๆ

Supertree grove มีทั้งหมด 18ต้น ความสูงขนาดเทียบเท่าตึก 16 ชั้น เลนส์ไวด์ขนาดไหนก็ยังเก็บภาพไม่หมด คราวหน้าคงต้องพกโดรนมาแล้วค่ะ ^V^

เรามาทันการแสดงแสงสี รอบ 19.45 น. พอดี เค้าจะรวบรวมเพลงจากหลายๆชาติมาประกอบการแสดง ของไทยก็มี "เพลงลอยกระทง" ค่ะ

20.30 น. ถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็ได้เวลากลับโรงแรมไปพักผ่อน มื้อดึกของเราคืนนี้คือ ท๊ามม ทามมมมมม......บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากเมืองไทยจ้า หลังจากชีวิตโดนทำร้ายจากมื้อเที่ยงที่ USS มาแล้ว เราเลยไม่ขอเสี่ยงกับมื้อดึกอีก ดีที่พกมาม่าคัพมาด้วยช่วยได้เยอะเลย ไปสอยไข่กับใส้กรอกในเซเว่นมาใส่เพิ่ม ทำให้รอดตายไปได้ 1 มื้อ (ไข่ที่เห็นดำๆนี่คือไข่พะโล้นาจา)

ขนมอร่อย ไม่รู้ว่าเพราะหิวหรือเปล่า แต่เกลี้ยงค่ะ^V^

23.00 น. Sleep tight ค่ะทุกคน ตามไปอ่านรีวิววันสุดท้ายได้ด้านล่างนี้ค่ะ

******************************************************************************

• ตั๋ว Monorail ไม่จำกัดเที่ยว สามารถเดินทางไปได้ทั้ง 4 สถานีในเกาะ Sentosa ภายในวันนั้นค่ะ
• การเดินทางไป Sentosa มี 3 วิธี อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากเวปไซด์นี้ได้ค่ะ http://www.talontiew.com/transportation-in-sentosa/
• เสื้อกันฝนใน universal มีขายตรงข้างหน้าเครื่องเล่นแต่ราคาสูง หรือถ้าใครไม่อยากใส่ จะยอมตัวเปียกแล้วออกมาใช้เครื่องเป่าลมให้ตัวแห้งหลังจากเล่นเสร็จก็ได้ค่ะ (เสียเงินเพิ่ม)
• เกาะ Sentosa มีชายหาดที่สำคัญอยู่ 3 ชายหาด

1) Siloso Beach ชายหาดจำลองที่ทำขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์ มีกิจกรรมทั้งทางบกและน้ำมากมายค่ะ แล้วก็เป็นที่จัดแสดง Song of the Sea ช่วงกลางคืนด้วย 
2) Palawan Beach มีจุดชมวิวสวยๆค่ะซึ่งจุดนี้คือจุดที่อยู่ใต้สุดของแผ่นดินทวีปเอเชีย ไฮไลท์คือการที่ต้องข้ามสะพานเชือกไป ขึ้นไปชมวิวที่หอคอยค่ะ หาดแห่งนี้ก็มีร้านอาหาร บาร์เบียร์ต่างๆให้นั่งดริ๊งก์ยามค่ำคืนด้วย 
3) Tanjong Beach อยู่ไกลกว่าหาดอื่นและค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็จะมาอาบแดดหรือพาครอบครัวมาพักผ่อนมากกว่าค่ะ

• เราว่าพระอาทิตย์ที่สิงคโปร์ตกช้ากว่าบ้านเราเหมือนกลางวันจะนานกว่า (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า)
• อากาศที่นี่คล้ายๆบ้านเราค่ะ ร้อนชื้น มีฝนปรอยๆเป็นระยะ แต่ตกแค่แปร๊บเดียวก็หยุด