Day 1 : Welcome to Samui
เกาะสมุย เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยภูเขา น้ำทะเลใสสะอาด ชายหาดทอดยาวเป็นแนวเดียวกันกับต้นมะพร้าวสูง และมีชายหาดอยู่หลายหาดรอบเกาะ บนเกาะยังมีน้ำตกสวยที่ไหลเย็นเกือบทั้งปี ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายเกินกว่าจะเที่ยวได้ครบในหนึ่งทริป นอกจากนี้ที่นี่ยังคงมีวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่นที่เราสัมผัสได้ผ่าน รอยยิ้ม คำทักทาย อาหาร วัดวาอาราม และร้านรวงต่าง ๆ นับเป็นเกาะที่มีทั้งความคึกคัก ความสงบ และมากเสน่ห์ในที่เดียวกัน เพราะแบบนี้...เกาะเสมุยจึงถูกเรียกว่าเป็น "สวรรค์กลางอ่าวไทย"
ครั้งนี้เราเลือกมา เกาะสมุย และยกให้เป็นทริป 3 วัน 2 คืน สำหรับการพักผ่อนชาร์ตแบตให้กับตัวเองอย่างแท้จริง เพราะเราสามารถเดินทางมายังสมุยได้ง่ายมาก ๆ ด้วยเครื่องบิน แถมมีเที่ยวบินทั้งไปและกลับให้เลือกหลายเที่ยวบินต่อวัน จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ยังไม่ทันจะเมื่อยเราก็มาถึงสมุยกันแล้ว
หลังจากถึงสนามบินสมุย หากใครต้องการจะเดินทางไปยังที่พัก หรือจุดต่าง ๆ บนเกาะ ก็สามารถใช้บริการรถสาธารณะ รถแท็กซี่ หรือจะเช่ารถขับเองก็เลือกได้ตามสะดวก แต่ครั้งนี้เราบอกแล้วว่า "เรามาเพื่อพักผ่อน" เราจึงเลือกที่จะใช้บริการรถรับส่งของรีสอร์ทที่เราพักในทริปนี้ นั่นก็คือ Prana resort Nandana รีสอร์ทริมชายหาดบางรักที่แสนสงบ ที่เราเลือกเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนของเราในครั้งนี้
เราเลือกที่จะเดินทางมาตั้งแต่ไฟลท์เช้าเพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ รีสอร์ทอยู่ห่างจากสนามบินแค่ 10 นาที ปกติที่นี่จะให้แขก Check-in ได้ตอนบ่าย 2 แต่ในวันที่เรามาถึงเนื่องจากเป็นวันธรรมดาและห้องที่เราจะเข้าพักนั้นไม่ได้มีแขกท่านอื่นพักอยู่ ทาง Staff เลยใจดีให้เราได้เข้าห้องพักก่อนเวลา
Prana Resort Nandana จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง คือ Resort Wing และ Beach side Wing โดย Resort Wing ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือฝั่งหลักที่แขกทุกคนต้องมา Check-in และ Check-out ที่นี่ ห้องอาหารเช้า สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำใหญ่ และโซนอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จะรวมกันอยู่ที่ฝั่งนี้ ห้องพักของโซนนี้จะไม่ติดทะเลแต่ก็แลกมาซึ่งความสะดวกสบายต่าง ๆ ที่ว่ามาทั้งหมด
ห่างจากฝั่ง Resort Wing ไปแค่ไม่กี่เมตร ข้ามถนนไปก็จะเป็น Beach side Wing ซึ่งจะเป็นฝั่งติดชายหาดบางรัก ซึ่งห้องพักที่เราเลือกก็อยู่ที่ฝั่งนี้นี่เอง... เราพักห้อง Oceanfront Premium ความพิเศษของห้องพักนี้อยู่ตรงที่ห้องพักจะหันหน้ารับวิวทะเลแบบจัดเต็ม ระเบียงหน้าห้องแบ่งกั้นโซนห้องพักเป็นสัดส่วน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเพราะสามารถเดินลงจากหน้าห้องพักมายังระเบียงทางเดินด้านล่างที่เชื่อมโยงกันผ่านห้องพักทุกห้อง ไฮไลท์ของโซนนี้คือสระว่ายน้ำแบบ Infinity Pool ที่ทอดยาวเป็นแนวเดียวกับโซนห้องพักเรียกได้ว่าเห็นแล้วแทบอยากกระโดดลงน้ำตอนนั้นเลย ยิ่งถ้ามากับเพื่อน หรือมากันแบบยกก๊วน บอกเลยว่าโซนนี้คือเหมาะมาก อีกทั้งข้าง ๆ กันกับโซนห้องพัก ก็ยังมี Tropikana Beach Club and Bistro ห้องอาหารสไตล์บริสโทรแอนด์บาร์ ที่เราสามารถนั่งชิลชมวิวทะเลผ่อนคลายไปพร้อมกับเครื่องดื่มแก้วโปรดได้จนถึงค่ำ
หลังจากตั้งสติ และหายตื่นเต้นกับบรรยากาศของห้องพักแล้ว ช่วงบ่าย และเย็นวันนี้เราจะไปไหว้พระใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล และแวะเดินเล่นที่ Fisherman's Village เพราะวันนี้ตรงกับวันศุกร์พอดี และที่สำคัญทางรีสอร์ทมี Shuttle Bus ให้บริการไปส่งถึงที่อีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าสะดวกมาก ตอบโจทย์ทริปพักผ่อนของเราอย่างแท้จริง
สำหรับตารางเวลา Shuttle Bus ก็ตามนี้เลยครับ
- Prana Resort Nandana - Central Festival Chaweng
มีบริการทุกวัน เวลา 10:30 - 18:00 น. ค่าบริการ 50 บาท / คน / เที่ยว - Prana Resort Nandana - Fisherman's Village
มีบริการเฉพาะวันศุกร์ เวลา 18:00 น. ไม่คิดค่าบริการ - Shuttle Bus ให้บริการเฉพาะเที่ยวไปเท่านั้น
ส่วนขากลับสามารถใช้บริการรถสาธารณะได้ตามสะดวก
หากใครเดินทางมาเที่ยวที่เกาะสมุยแล้ว ถ้าไม่ได้มาสักการะพระใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว คงต้องบอกว่าเหมือนมาไม่ถึงเกาะสมุย ซึ่ง วัดพระใหญ่ เป็นวัดชื่อดังประจำเกาะสมุย มีความโดดเด่นอยู่ที่พระพุทธโคดม หรือ พระใหญ่ ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปาก องค์พระขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาของเกาะฟาน สามารถมองเห็นได้แต่ไกล และด้านบนเขายังเป็นจุดชมวิวของเกาะสมุยในมุมสูงที่นับว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะสมุยได้เลยก็ว่าได้
หลังจากไหว้พระ ทำบุญกันจนอิ่มอกอิ่มใจ เราก็ไปหย่อนใจยามเย็นกันต่อกันที่ Fisherman's Village ซึ่งอยู่บริเวณชายหาดบ่อผุด พื้นที่ในแถบนี้เคยเป็นที่ตัั้งของชุมชนชาวประมงที่เก่าแก่ของเกาะสมุยมาก่อน ภาพของความเป็นหมู่บ้านชาวประมงในบริเวณหาดบ่อผุดนั้นยังคงพอมีหลงเหลือให้ได้เห็นบ้าง ถึงแม้หน้าบ้านจะถูดดัดแปลงให้เป็นร้านขายของที่ระลึก หรือร้านอาหารบ้างก็ตาม แต่โครงสร้างบ้านแบบเดิมๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ และที่บ่อผุดก็ยังมีชายหาดที่ค่อนข้างสงบ สะอาด และสวยงามไม่แพ้หาดอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีท่าเรือให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางข้ามไปยังเกาะเต่าด้วย รวมถึงชื่อเสียงเรื่องอาหารทะเลสดๆ ของบ่อผุดก็ขึ้นชื่อไม่แพ้ที่ไหนเช่นกัน ซึ่งร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่ติดริมหาด สามารถมองเห็นวิวทะเลและชายหาดของบ่อผุดได้สุดสายตา จึงไม่น่าแปลกใจที่บรรยากาศโรแมนติกยามค่ำคืนของหาดบ่อผุดนี้จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาอย่างไม่ขาดสาย
เรากลับถึงรีสอร์ทแต่ก็ถือว่ายังไม่ดึกเท่าไหร่ การสัญจรบนเกาะก็ยังคงคึกคัก บรรยากาศของ Prana Resort Nandana ตอนค่ำก็สวยไปอีกแบบซึ่งต่างจากช่วงกลางวันมากพอสมควร ก่อนนอนคืนนี้ขอนอนแช่น้ำอุ่นตีฟองนุ่ม ๆ ให้สบาย จิบชาหอม ๆ ให้ผ่อนคลาย แล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้านะครับ...