สวัสดีค่า วันนี้มาชวนทุกๆท่านไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดร้อนๆ กันค่ะ ก่อนอื่นต้องแจ้งก่อนว่าทริปนี้เกิดขึ้นจากการที่ส้มไปร่วมเล่นเกมส์จัดทริปท่องเที่ยวพัทยาใน 2 วัน 1 คืนกับเพจ  https://www.facebook.com/thetrippacker มาค่ะ ในเกมส์ที่เล่นให้เราสมมติทริปขึ้นมาจากตัวเลือกที่มีให้หรือให้เราจัดการทริปเอง คนชอบเที่ยวอย่างส้มก็เลยจัดไป 1 ทริป แล้วก็รอลุ้นผล ทางเพจแจ้งว่ามีแจก 2 รางวัล ทริปน่าเที่ยวตามและทริปดวงดี วันประกาศผล ส้มก็เลยกลายเป็นคนดวงดีได้เที่ยวฟรีจากเพจ รางวัลคือเข้าพักที่ Hilton Hotel Pattaya ห้อง King Hilton Deluxe และอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน แจ้งก่อนว่าทางเพจไม่ได้มีข้อตกลงว่าต้องกลับมาทำรีวิวใดๆ ส่ง voucher มาให้ก็จบ แต่เรามันคนขี้อวดก็เลยกลับมาทำรีวิวให้ทุกๆ ท่านได้ชมกันค่ะ

ได้รางวัลมาหน้าที่จัดทริปก็ตกอยู่ที่ส้มค่ะ หาที่เที่ยว หาเส้นทาง จองห้อง หน้าที่คุณสามีคือหาเงินและขับรถ  ทริปนี้วางแผนกันไว้ว่าจะแวะไหว้พระที่ฉะเชิงเทราค่ะ เพราะยังไงก็ผ่านเส้นนี้อยู่แล้ว แวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกัน ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 1 กันยา เวลาตี 4 บ้านอยู่โคราชนะคะ ส้มใช้เส้น 304 เส้นปักธงชัย วังน้ำเขียว ปราจีน ฉะเชิงเทราค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากบ้านถึงที่แรกคือวัดสมานรัตนารามค่ะ ประมาณ 3 ชม. ระยะทาง 235 กม. 
เราเดินทางถึงวัดสมานกันแต่เช้าค่ะ ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเลย จอดรถกันด้านใน มีที่จอดให้สบายค่ะ แต่ไม่รู้วัดหยุดจะแน่นแค่ไหน วันที่เดินทางมีฝนปรอยๆค่ะ ฟ้าไม่เปิด ฮ่าฮ่า ที่วัดสมานมีมุมให้ทำบุญ ไหว้พระเยอะค่ะ มีร้านอาหารให้บริการทั้งบนบกและเรือ ไปชมรูปกันค่ะ

ออกจากวัดสมาน เราก็เดินทางต่อไปกันที่วัดโสธรวรารามวรวิหารค่ะ ทริปนี้ใช้บริการพี่ sygic เหมือนเดิม ถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง ปล่อยๆ พี่แกไปค่ะ ระยะทางจากวัดสมาน ไปวัดโสธร ระยะทางประมาณ 16 กม. นะคะ  ฝั่งตรงข้ามวัดมีป้ายบอกให้จอดฟรี เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ

ชมภาพพระอุโบสถหลังใหม่กันนะคะ ปรับเปลี่ยนมุมกันไปนะคะ

ข้างหน้าพระอุโบสถใหม่จะมีกล้วยไม้ทำเป็นกำไว้ให้บูชาหลวงพ่อค่ะ ทำบุญตามศรัทธา สาวๆที่ไปไหว้หลวงพ่อ หากชุดที่ใส่ไม่สุภาพ ทางวัดมีชุดให้สวมทับเข้าไปค่ะ เสื้อกล้าม กระโปรงสั้น กางเกงยีนส์ขาดๆ จัดมาใส่เลยค่ะ 

จากวัดโสธรเราก็เดินทางต่อไปกันที่พัทยาค่ะ ระหว่างทางมีทางด่วนนะคะ จ่ายไปๆ 30 บาท ฝนที่ตกปรอยๆช่วงเช้าที่ฉะเชิงเทรา ก็เริ่มมีอาการอีกตอนเราเข้าพัทยาค่ะ 

อาหารมื้อกลางวันของเราวันนี้ เลือกที่ Sketch Book Art Cafe ค่ะ ร้านอยู่ติดถนนเลยค่ะ ที่จอดรถริมถนนหน้าร้าน ที่จอดตรงอื่นมีหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ โชคดีที่เราไปถึงมีที่จอดหน้าร้านพอดี

เข้ามาในตัวร้านก็ชอบค่ะ บรรยากาศดี คนไม่พลุกพล่าน มีแขกอยู่แค่ 2 โต๊ะ ร้านน่ารัก ไฟสวย ถูกใจทั้งส้มและคุณสามีค่ะ เมนูอาหารมีหลากหลายดีค่ะ ราคาก็รับได้ เข้าใจว่าเป็นที่ท่องเที่ยวค่ะ และอาหารถูกปากเรา 2 คน ก็โอเคค่ะ ชมบรรยากาศของร้านกันนะคะ จริงๆ มีมุมที่อยากถ่ายอีก แต่มีแขกอีก 2 โต๊ะ ไม่อยากรบกวนคนอื่นค่ะ 

เมนูโปรดของเราค่ะ จานนี้ถ้าจำไม่ผิด ราคา 195 บาทค่ะ อร่อย

เมนูของคุณสามี มาพัทยา กินกะเพราหมูสับ เค้าให้เหตุผลว่าอยากรู้ว่าร้านไหนอร่อย ต้องสั่งเมนูธรรมดาๆ 

อ่อ ลืมบอกไป ระยะทางจากวัดโสธรมาที่ร้าน Sketch Book Art Cafe ประมาณ 103 กม. นะคะ

เมื่อตุนเสบียงเข้าท้องกันแล้ว เราก็ตกลงกันจะไปที่พักของเราวันนี้เลยค่ะ เวลาตอนนั้นประมาณเที่ยงค่ะ จาก Sketch Book มาที่ Hilton ระยะทางประมาณ 4.7 กม. นะคะ ที่พักของเราคืนนี้ตามที่ส้มได้กล่าวไปข้างต้นแล้วคือ Hilton Pattaya Hotel ค่ะ 

Hilton Pattaya Hotel ตั้งอยู่ชั้นบนของห้างเซนทรัล เฟสติวัล หาไม่ยากค่ะ ติดหาดเลยด้วยเนาะ แต่วันมาถึงส้มไม่ได้วิ่งเส้นเลียบหาดค่ะ ไปเข้าอีกซอยนึง ตามที่ sygic แกไป ไปเข้าทางเข้าของห้างปกติค่ะ จอดรถที่ชั้น 2 ตามที่หาข้อมูลมา หลังจากจอดรถก็ยังไม่ได้เอาของลงมากค่ะ เพราะกะว่าทางโรงแรมคงยังไม่ให้ check in เพราะเรามาถึงก่อนเวลาคือ 14.00 น. กะว่าจะมาเดินถ่ายรูปโรงแรมพลางๆก่อน เพราะเหนื่อยแล้ว ขี้เกียจไปที่อื่น จากที่จอดรถก็เดินมาแบบงงๆ ว่าใช่มั้ยน้า อ่ะ เข้ามาตามทางตรงนี้แหละ 

ลิฟต์เปิดมาเป็น lobby ค่ะ มีแขกไม่เยอะมาก เดินใส่บิกินี่กันบ้างบางคน  เดินงงๆไปที่เคาน์เตอร์ แจ้งว่ามาเข้าพัก ยื่น voucher ให้พนักงาน กะว่ามาแสดงตัวก่อน พนักงานตรวจสอบ voucher แจ้งมีเงินมัดจำ สะดวกเป็นบัตรเครดิตหรือเงินสด จ่ายเงินสดค่า จน ไม่มีบัตรเครดิต ที่นี่ให้มัดจำ 2,000 บาทนะคะ มีใบเสร็จให้ นำมารับวันที่ check out คืนเงินตามปกติค่ะ ถ้าไม่มีเหตุขัดข้องอะไร ตอนรอ check in ได้เป็น welcome drink 2 แก้ว น้ำสีม่วงๆ ไม่รู้น้ำอะไร แต่ร้อนๆมา ก็ชื่นใจดีค่ะ พนักงานแจ้งให้เข้าห้องได้เลย โอ้วว..ชื่นใจ กำลังอยากพัก พนักงานถามหาบัตรกระเป๋า อ่อ เราไม่ได้จอดรถที่ชั้น 1 ของโรงแรมนะคะ เลยไม่มีบัตรอะไรให้ แจ้งพนักงานว่ากระเป๋าอยู่ในรถ เดี๋ยวไปขนเองค่ะ 

บริเวณ Lobby ค่ะ มองเห็น Drift อยู่ไกลๆ เสียดายไม่ได้เข้าไปค่ะ ลืม !! ภาพนี้ถ่ายตอนเช้าของอีกวันนะคะ ตอนมา check in มีแขก ไม่อยากรบกวนคนอื่นค่ะ 

วันนี้ได้เข้าพักที่ชั้น 29 ห้อง 2923 ดีนะหวยไม่ออก เสียดายแย่ ฮ่าฮ่า

เข้าห้องกันค่า  ถ่ายมาจากในห้องไปที่ประตูจ้ะ 

มินิบาร์ที่เราไม่กล้าแตะ ที่นี่มีน้ำดื่มให้ฟรี 2 ขวดค่ะ แต่ไม่ได้แช่ในตู้นะจ๊ะ 

แวะห้องน้ำกันก่อนค่ะ 

อ่างของคุณสามีเราค่ะ เตรียม bubble bath มาพร้อมค่ะ 

มาต่อที่ส่วนพักผ่อนกันค่ะ เตียงนอนสบายค่ะ มีทีวีทางด้านขวา ปลายเตียงมีโซฟาที่ส้มอยากได้กลับบ้าน ฮ่าฮ่า นอนสบายมากกว่าเตียง 

วิวหาดพัทยาจากห้องของเราค่ะ 

อ่านมาว่าตอนกลางคืนอาจจะมีเสียงดังมาจากร้านเหล้าข้างล่าง ส้มทดลองปิดประตูที่ระเบียงไม่ได้ยินค่ะ แต่ไปนั่งที่ระเบียง เสียงก็ชัดเจนอยู่เหมือนกัน 

จากที่ส้มได้เล่าไปข้างต้นว่ารางวัลที่ได้มีอาหารเช้าให้ด้วย แต่ตอน check in พนักงานไม่ได้แจ้งอะไร ก็เลยไปถามที่เคาน์เตอร์ค่ะ ได้ความว่าอาหารเช้าที่ EDGE อยู่ชั้น 15 ค่ะ เริ่มตั้งแต่ 6.00 - 11.00 น. ค่ะ เข้านอนแล้วรีบตื่นแต่เช้า กะจะไปเดินเล่นที่หน้าหาดแต่เช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ด้วย ไม่ทันจ้ะ ตื่น 6.30 รีบจัดการธุระลงไปที่ห้องอาหารเช้ากันค่ะ อยากรีบไปถ่ายรูปก่อน กลัวคนเยอะ เกรงใจคนอื่น ทางลงไปที่ EDGE จะลงลิฟต์หรือบันไดก็ได้ค่ะ ลงบันได้แล้วเดินตรงไปจะเห็นห้องอาหารไทย Flare ให้เลี้ยวซ้ายลงบันไดเลื่อนไปที่ EDGE ค่ะ ซับซ้อนดีจริงๆ ลงบันไดเลื่อนไปแล้ว จะมีพนักงานต้อนรับอยู่ค่ะ ถามว่าพักห้องไหน แจ้งเลขห้องไปค่ะ ห้องอาหารจะมีที่นั่งทั้งข้างในและข้างนอกค่ะ พนักงานใส่ใจดีค่ะ เห็นเดินมองนั่นนี่ ก็จะถามว่าอยากได้อะไรมั้ย ส้มถามเรื่องทางลงไปหาดเพราะตอนมาไม่ได้มาเส้นเลียบหาด เลยถามก่อนเพื่อความแน่ใจ ให้คำตอบแล้วก็ชวนคุยต่อ ถือว่าโอเคค่ะ  ไม่ได้อยากได้บริการที่เลิศเลอ แค่ยิ้มแย้มบ้างก็โอเคแล้วค่ะ 

ไม่ได้ถ่ายเมนูอาหารมาทุกมุมนะคะ เกรงใจลูกค้าท่านอื่นๆ ค่ะ 

ทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ก็แวะไปนั่งเล่น ชมบรรยากาศที่สระว่ายน้ำของโรงแรมค่ะ ยังไม่มีแขกมาเล่นมากเท่าไหร่ อยากเล่นแต่ไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมา สระไม่ใหญ่มากแต่ก็น่าจะว่ายได้สบายๆค่ะ คนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเรา ก็น่าจะลงไปเล่นได้ สระลึก 1.20 เมตรค่ะ มีจากุซซี่ 3 อ่างริมสระค่ะ 

นั่งดูคนอื่นเค้าว่ายน้ำกันแล้ว เราก็ขึ้นไปเก็บข้าวของเตรียม check out ค่ะ ยังไม่อยากกลับเลย แต่เวลามันบังคับ เพราะยังมีที่ต้องไปอีก 1 ที่ มาครั้งที่แล้ว ไม่ได้ไป check out แจ้งพนักงาน คืนเงินให้ 2,000 ถามว่าได้ใช้มินิบาร์มั้ย ตอบว่าไม่ เป็นอันเสร็จค่ะ 

โบกมือบ้าย บาย ฮิลตันค่ะ 

ออกจาก Hilton แล้ว อีกที่นึงที่เราจะไปกันคือ Teddy Bear Museum Pattaya ค่ะ ที่นี่ตั้งอยู่ติดกับโรงแรมมาร์คแลนด์ อยู่ๆไม่ไกลจาก Hilton ค่ะ ใช้ที่จอดรถของโรงแรมได้ตั้งแต่ชั้นที่ 5 -9 ค่ะ ขับขึ้นไปก็ระวังๆ กันหน่อยนะคะ ทางขึ้น - ลง ทางเดียวกัน ทางเลี้ยวก็ค่อนข้างแคบมากค่ะ จอดรถแล้วจะมีป้ายบอกให้ไปลงลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้นล่างของโรงแรม แล้วเดินไปกันต่อที่ Teddy Bear Museum Pattaya ค่ะ อยู่ติดกันเลย ที่นี่เปิด 09.00 - 22.00 ค่ะ ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 150 บาท แต่ถ้าสูงไม่เกิน 90 ซม. เข้าฟรีค่ะ 

ขึ้นบันไดเลื่อนมา จะเจอวิวนี้ เป็นทางเข้าของ Teddy Bear Museum Pattaya ค่ะ 

ไปถึงเกือบๆ 9.00 โมงค่ะ ยังไม่เปิด น้องพนักงานแจ้งขอเวลาเปิดแอร์แปบนึง เลยเดินถ่ายรูปด้านหน้าเล่นรอไปก่อนค่ะ

น้องๆ พร้อมแล้ว ก็ซื้อตั๋วค่ะ มากัน 2 คน ผู้ใหญ่แล้วทั้งคู่ 500 บาทจัดไปค่ะ 

เดินถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ก็ต้องร่ำลาพัทยาอย่างเป็นทางการค่ะ ได้เวลากลับไปทำงาน หาเงิน เป็นมนุษย์เงินเดือนกันต่อไป การได้มาเห็นโลกกว้างๆ มากกว่าหน้าจอคอมที่ทำงาน มันสุดๆจริงๆค่ะ สบายใจ ไร้กังวล เจออากาศ เจอผู้คน ชื่นนนใจ ทริปนี้จบเรียบร้อยสมบูรณ์ค่ะ วันกลับใช้เส้นทางเดิม ชลบุรี - ฉะเชิงเทรา - ปราจีนบุรี - วังน้ำเขียว - ปักธงชัย - เมืองโคราช พร้อมของฝากคนที่เรารัก หวังว่าทริปของส้มครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักเดินทางทุกๆ ท่านนะคะ ... หากกระทู้นี้มีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ