แว๊นส์ มาใต้ครั้งแรกในชีวิต
รีวิว นี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปบรรยากาศ มาซักเท่าไร ส่วนใหญ่จะถ่ายรูปเล่นๆ กันเองซะมากกว่า โดยทริปนี้ผมจะขับไปเที่ยวทะเลใต้ โดยเพลน ตั้งจัยที่จะไปเที่ยวงาน Full Moon Party อยากจะรู้ว่ามันจะเจ๋ง จะมันส์ จะเป็นยังไง โดยในทริปนี้เที่ยวทั้งหมด 6 วัน (ก็คนมันชิว) ซึ่งจะแวะ พัก นอนที่ต่างๆ โดยไม่เน้นขับมากเกินไป เน้น Safety First ^^
เริ่มต้นออกเดินทาง จากกรุงเทพฯ ประมาณ ตี5 หนีรถติดตอนเช้าๆในเมืองเช่นเคย
ขับมาเรื่อยๆ ผ่าน สมุทรสงคราว สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบฯ จนมาถึงชุมพร ก็ต้องมาแวะจอด เพราะ ดันมาเจอ กะฝน ซ่ะงั้น 
ขับมาได้ซักระยะ ก็ต้องมา แวะพักจอดอีก โดน ฝน เล่นงานอีกแย้ววว T-T
ครั้งนี้ ตกหนัก จอดยาว จึงซื้อ ชา มากิน โอ๋โห มันแจ่มมากก สมคำร่ำลือ จริงๆ กับ เครื่องดื่ม ที่ชุมพร อร่อยมากก
กินเสร็จ ฝนก็ยังไม่หยุด เลยนอนซ่ะเลย ตื่นมาอีกที บ่าย 2 ฝนหยุดตก เริ่มเห็นแสงแดง จึงตัดสินจัย ออกเดินทางต่อ สู่จุดหมายแรกของเรา คือ อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะ ชุมพร
และแล้ว เราก็มาถึง ชุมพร ในที่สุด มาถึงก็แวะไปที่อุทยานก่อนเลย หาจุดกางเต้นท์ นอน ของคืนนี้ แต่มันไม่มีหลังคา เลย กลัวฝนจะตก จึงขอเจ้าหน้าที่ นอนที่ศาลา ได้ใหม? เจ้าหน้าที่บอกได้ แต่ต้องมา กางหลัง5โมงนะ เพราะมันเป็นที่ท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวอยู่ ต้องมากางหลัง ปิดทำการ จึงตัดสินจัย วางกล่อง แล้วขับรถเล่น ชมเมืองชุมพร กัน
ที่แรกไม่ห่างไม่ไกล จากอุทยาน มากนัก ขับ 20 นาที ถึง คือ ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มาสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคล ในการเดินทางในทริป ล่องใต้ครั้งนี้
ขับเลียบชายหาดมาเรื่อยๆ ก็จะถึง จุดชมวิว เขามัทรี ชมเมือง และทะเลชุมพร
นับว่าเป็น อีกแลนด์มาร์ค ที่มาชุมพร ก็คงต้องแวะ ขึ้นมา แต่ช่วงทางที่จะขึ้น ทางค่อนข้างชัน โปรดขับอย่างระมัดระวังด้วยนะครับ
หลังจากแวะเที่ยวเล่น ก็ได้เวลา ที่เราจะต้องมา กางเต้นท์ อาบน้ำ พักผ่อน หาไรกิน
แปะไว้เป็นที่ระทึกซะหน่อย เค้ามาแล้วนะ ^^
ใช้เวลา ในการนั่งเรือ ค่อนข้างนาน ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที กว่าจะถึง เกาะพะงัน ก็เกือบเที่ยงๆ พอถึงก็ขับหลงไปถึง หาดริ้น หาดที่จัดงาน full moon ซะงั้น สอบถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอก น้องมาผิดทางแล้ว หลังได้รับเส้นทางจากทางคุน ตร แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติ ธารเสด็จ พอถึงก็เข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ว่าจะมาค้างคืน 2 คืน อุทยานที่นี้ไม่เสียค่าอะไรเลยซักบาท หลังจากลงเบียนเสร็จ ก็ทำการกางเต้นท์ เก็บของเป็นอันดับแรกเลย
ติดลำธาร เลยห่ะ กางอยู่เต้นท์ เดียวทั้งอุทยาน แอบเหงานิดๆ แต่ส่วนตัวสุดๆ ห้องน้ำสะอาดมาก มีไฟเปิดอยู่ตลอด มีเจ้าหน้าที่ ค่อยเดินตรวจ ตลอดทั้งคืน
หลังจาก กางเต้นท์ เก็บของเสร็จ ก้ได้เวลา อาบน้ำ(ก็อาบตรงลำธารนี้แหละ) น้ำใส เย็นมากๆ
มีนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ เข้ามาเล่นน้ำ ไม่ขาดสายเลยย
อาบน้ำเสร็จ ก็นอนพักเอาแรง เพื่อเตรียมตัวเที่ยวงาน fullmoon party ในค่ำคืนนี้
หลับสบายย ตื่นมาอีกที 3 ทุ่ม ก็แต่งตัว ขับรถไปเที่ยวงาน โดยจะเสียค่าเข้า 100 บาทต่อท่าน เป็นค่าบำรุงสถานที่ แล้วเราจะได้ ริทแบนด์ มาอันนุง
สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ของงานเลย ก็คือ การเพ้นท์ การทาสีสะท้อนแสง ตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แขน หน้า หลัง ราคาก็แพงอยู่นะ ประมาณ 100 บาทขึ้นไป แล้วแต่ขนาด 
ที่นี้จะขาย เหล้า เป็น บักเก็ต ราคา ก็แล้วแต่ ยี่ห้อเหล้า กับมิ๊กซ์ ประมาณ 200 บาท จนถึงหลักพัน ก็มี ถ้าไปในช่วงค่ำ อาจจะแพงหน่อย เพราะคนเยอะ แต่ราคาก็อยู่ในขั้นที่ไม่แพง จนน่าเกลียด
มีโปร แถมน้ำแข็งฟรี + ทาสีฟรี เข้าห้องน้ำฟรี ด้วยนะครับ บางร้าน
เข้าไป เซอเวย์ เดินเล่น ริมหาดก่อน
รีสอร์ท ในแต่ละรีสอร์ท ก็จะจัดเวที แสงสีเสียง จัดเต็มมากก
ถือถัง ดูด ชิว กันเลยทีเดียว
ช่วงแรกๆ ไม่ยังได้กินแอนกอฮอร์ ก็เลยเต้นไม่ค่อยออกเท่าไร
มีกิจกรรม มากกาย ให้ได้เล่น ได้ชม ตลอดทั้งคืน
และแล้วก็ได้เวลาของเรา ซื้อมา 1 บัคเก็ต แถม ทาสีฟรี
ไม่จำกัดเลย จะทาขนาดใหน ก็แล้วแต่คุนเลย
ระวังๆ ด้วยนะครับ เกือบหยิบไปโดน เหมือนกัน
อ๊ากก เรียบร้อย เตรียมตัวแด๊นซ์ ได้เลย
เต็มหน้า เต็มมือ 55 
ข้างในมีของกิน มากมาย เต้นเหนื่อย หิวๆ แวะมาซื้อ นั่งกินริมหาดได้เลย
ราคาไม่แรง ไม่แพง อย่างที่คิด
เต้นๆ ได้ซักพัก หันไปดูนาฬิกา อีกที เกือบจะตี 2 เลย กลับไปนอนดีกว่า เริ่ม มาวววว เด๋วจะขับไม่ไหว
หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมชุด เตรียมของ ขับรถเล่น ถ่ายรูปเล่น ตามหาดต่างๆ
หาดโหลกหลำ เงียบสงบ แต่ไม่ค่อยมีอะไรบังแดดเลย ร้อนไม่ไหว ไปหาดอื่นดีก่าา
หลังขับไปมาอยู่หลายหาด หาดนี้สวยที่สุด "หาดสลัด" เงียบสงบ มีร่มให้หลบแดด น้ำใสมากๆ ประทับจัย
มาเที่ยว อย่าลืม มาแวะหาดนี้นะครับ
นั่งจิบ เครื่องดื่มเย็นๆ ชมบรรยากาศ รอบๆ ชิวๆ
เล่นน้ำดีกว่าาาาา
ติดจัยหาดนี้มาก อยู่นานเลย ช่วงเย็นๆ ก้ได้เวลากลับ ขับรถเล่น ทั่วเกาะดีกว่าา
ขับไป ขับมา จนถึงหาดริ้น หาดที่จัดงาน Full moon party เมื่อคืน กำลังเก็บ เวทีเลย
น้ำไม่ค่อยใส แต่คลื่นแรงมากกก
ใช้เวลาเที่ยวเล่น อยู่บนเกาะพะงัน ทั้งวัน กลับมา อาบน้ำลำธาร เหมือนเดิมมม นอนพัก ราตรีสวัสดิ์ วันหยุดวันที่ 3
ตี5 ครึ่ง พระอาทิตย์ กำลังจะโผล่ขึ้นมา
ชอบบรรยากาศ แบบนี้จัง ก้อนเมฆ ก้อนใหญ่ๆ พระอาทิตย์ขึ้น นั่งอยู่บนเรือริมทะเล ยังกะภาพวาด
และแล้วก็มาถึง ท่าเรือดอนสัก แล้วก็มาซื้อตั๋วข้ามไปสมุยต่อ ทริปนี้ไม่แพงไรนะ แพงค่าตั๋วเรือนี้แหละ เที่ยวล่ะ 500 กว่าบาท จากสุราษฯไปพะงัน จากพะงันไปสุราษฯ และก็จากสุราษฯไปสมุย สุดท้าสมุย มาสุราษฯ หมดไป 2000 กว่าบาท กับค่าเรือ
แล้วเรือ เราก็ออกประมาณ 9 โมงกว่าๆ จากท่าเรือดอนสัก มาสมุยไม่ค่อยไกลมาก ประมาณ ชั่วโมง นิดๆ 10 โมงครึ่งก็ถึงสมุยแล้ววว
สมุยจากที่ หาข้อมูล ไม่มีที่ให้กางเต้นท์ เสียดายมากๆ จะมีก็ต้อง ข้ามเรือไป หมู่เกาะอ่างทอง ก็ต้องใช้เวลาไปอีก เลยตัดสินจัยหา ห้องถูกๆ นอน ดีกว่า ..ขับหาอยุ่นาน จนมาเจอ ที่นี่ Green Park ค่าห้อง 800 โอเคเลยครับ ถือว่าไม่แพงมาก นานๆ จะเสียค่าห้องที ปกติ เที่ยวกางเต้นท์ ตลอด ..
ห้องแอร์ เย็นๆ มี TV ตู้เย็น โต๊ะกินข้าว ระเบียงหน้า-หลัง ถือว่าคุ้มค่ากับราคา ครับ
หลังจากเก็บของเสร็จ ก็นั่งพักกันซักครู่ แล้วก็ออกมาหาไรกิน ขับรถเล่น ชิวๆ ตามสไตย์อินดี้
ขับรถมาดู หินตา หินยาย
หินตา มองเห็นมาแต่ไกล แต่หินยายก็ใช่ย่อย ยิ่งใหญ่อลังการ มาก
พักกินติมซ่ะหน่อย ร้อนม๊ากมากก
เดินทางกลับที่พักไม่ไหว ร้อนจริงๆ ระหว่างที่ไปเที่ยวก็ เอาเสื้อผ้าไป ปั่นซักด้วย ใส่มาจนจะครบแล้ว มามอไซต ต้องทำจัยนิดนุง พอซักเสร็จ ก็เอามาตากหน้าห้องนี้แหละ ช่วงนี้ยังไม่ค่อยมี นักท่องเที่ยว ^^
ตกเย็น ก็ขับรถเล่น ตามหาดต่างๆ แถวตัวเมือง
จำชื่อหาดไม่ได้ล่ะ 555
น้ำใส สู้ที่ พะงันไม่ได้
ผู้คน ก็มากมาย แต่ความทันสมัยนี้ ต้องยกให้เลย มีทุกอย่างเลยที่ สมุย ทั้งสนามบิน โรงหนัง ห้างดังต่างๆ ธนาคารใหญ่ โรงพยาบาลหรู มึดค่ำขากลับก็แวะเที่ยว หาไรกิน ที่ถนน คนเดิน แล้วก็กลับที่พัก นอนนนนน หมดไปอีกวันหยุดวันที่4
ของเยอะมาก แบกทุกอย่างที่แบกมาได้ แบกยัน ผ้านวม 55
อ่าาาา ลาแล้วสมุย
เหมือนเป็นสัญญาลักษณ์ คายนั่งเรือไปมา สมุย ต้องถ่าย ทุกที เห็นเพื่อนๆ ที่ไปมาก็ถ่าย 55
ถึงท่าเรือ ดอนสักสุราษฯ ประมาณ 11 โมง เราก็เดินทางกลับ โดยจะยิง ยาวเลยจนถึงกรุงเทพ คงไม่ไหว(เหนื่อยเกิ๊น)
ออกเดินทางกันมาได้ ซักพักใหญ่ๆ จนจะเลยตัวชุมพร ก็เจอเจ้าฝน อีกแล้ววว มาหนักเลย แวะพัก จอดดีกว่าา
ช่วงที่จอดรอ อยู่นั่น อยู่ดีๆ เหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตั้งรถไว้ดี ก็เกิดล้ม ขึ้นมา เป็นเพราะไปจอดรถในพื้นที่เป็นดิน โดนน้ำฝนมากๆ เลยจม ล้มเลย เล่นซ่ะชิวหน้าแตก ต้องงัดออก
จอดรอ ฝนหยุดอยู่นาน แต่มันก็ไม่หยุดซักที จนไกล้จะค่ำ เลยตัดสินจัย ขับไปเลยดีกว่า ไม่รอมันแล้วว กว่าจะมาถึง หาดวนกร เล่นซะมึด เกือบ 2 ทุ่มกว่าๆ ร่างกายเพลีย คนนึงกางเต้นท์ อีกคนไปซื้อ อาหาร แบ่งหน้าที่กันทำ หลังจากนั้นก็อาบน้ำ นอนนนนนนน หมดไปอีกวัน วันหยุดที่ 5
ตื่นมาดู พระอาทิตย์ขึ้น
หันไปดู ซ้าย-ขวา คนมากางเต้นท์เยอะ มาก
ชอบดูพระอาทิตย์ โผล่พ้น ขอบฟ้ามาก ไม่รู้เป็นไร (สงสัยจะเป็นญาติ กะอุนตร้าแมน ได้รับแสงพระอาทิตย์ แล้วมีพลัง)
ชิวไปๆ เพราะจาก หาดวนกร ไปกรุงเทพฯ ระยะทางไม่ไกลมาก 
บรรยากาศดี ช่วงที่ไป ตกดึก หนาวๆ มีไอหมอกเล็กน้อย
สายๆ หลังจากกิน ข้าวกันเสร็จ ก็ ออกเดินทางกลับ สู่ ก.ท.ม.
มีแวะมาเที่ยว อุทยานราชภักดิ์ ด้วย เห็นช่วงนั้น เค้าฮิตมาเที่ยวนี่้กัน เลยแวะมาสักการะ พร้อมชม ความยิ่งใหญ่
สวยงาม ยิ่งใหญ่ จริงๆฃ
ขับรถ ร้อนๆ เพลียๆ เหมือนร่างกายต้องการน้ำตาล จึงตัดสินจัยแวะ หาไรกินเล่น ที่ ร้านแม่กิ้นไล้
ไอติม กะ วุ้นกะปิ อร่อยมาก อร่อยจริงๆนะ แนะนำให้ลอง ร้านอยู่แถวๆ เพชรบุรี