ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
:: เที่ยวเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เช่ามอไซด์หน้าฝน 4วัน3คืน งบไม่เกิน3,500บาท/คน :: Chiang mai จ.เชียงใหม่
    • โพสต์-1
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอนกับการเดินทางหน้าฝน... Journey in the rainy season

    ถ้าพูดถึงภาคเหนือ ... จังหวัดที่ใครๆนึกถึงเป็นอันดับแรก คงหนีไม่พ้นเชียงใหม่ 

       อยู่ๆแฟนก็ถามว่าอยากไปเชียงใหม่มั้ย เราตอบไปทันทีโดยไม่คิด(ว่าเงินในกระเป๋ามันเห็นด้วยมั้ย 555)..ไปดิๆ หลังจากนั้นก็หายไปสักพัก เรา:เฮ้ยยยย เธอๆๆๆ ... มีตั๋วถูกอ่ะไปป่ะ  เขา: ไปสิๆ มือเจ้ากรรมทำงานลั่นจองขากลับจากเชียงใหม่-ดอนเมืองไว้ ในราคา590บาทต่อคน ไว้ตั้งแต่4เดือนที่แล้ว ซึ่งพอถึงเวลาจริงๆเราสองคนก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปกันมั้ย ^^

    ... ก่อนหน้านี้เรามีแพลนที่จะไปเชียงใหม่หลายรอบมาก แต่ตั้งยังโสด ปกติชอบไปเที่ยวคนเดียว ต้องไปคนเดียวเกือบทุกทริป เพราะเพื่อนชอบเทเรา และเพราะเรามีเวลาว่างไม่ตรงกับชาวบ้าน 555 

    มาดูแผนที่เส้นทางที่เราสองคนวางแผนกันไว้ค่ะ ขอบคุณแผนที่จากชิลไปไหนด้วยนะคะ เราจะขี่มอไซด์เที่ยวเป็นวงกลมค่ะ ใช้เวลา 4วัน4คืน

    ...... เริ่มต้นจากตัวเมืองเชียงใหม่ เส้น108 > 1009 > ดอยอินทนนท์ > ลงมาเข้าเส้น1192 > 1088 >1263(ช่วงนี้จะเป็นเขา นานๆทีจะมีหมู่บ้านค่ะ เส้นทางยาวมาก ควรเตรียมรถ น้ำมัน และใจให้ดีค่ะ^^) > 108 > ปางอุ๋ง > 1095 > 107 > จบด้วย 108เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ค่ะ รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 595กิโลเมตร ซึ่งเป็นการขี่มอไซด์เที่ยวทริปแรกของเราเลยค่ะ 

    โปรแกรม

    23-09-2559

    - เดินทางจากกทม.(สถานีขนส่งหมอชิต) 22:05น.

    24-09-2559

    - 08:00น. ถึงเชียงใหม่ > เดินไปเช่ามอไซด์ที่ร้าน Bikky > ดอยสุเทพ > กางเต้นท์ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

    25-09-2559

    - ขึ้นดอยอินทนนท์ตอนเช้า >ผ่านจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน > แม่ฮ่องสอน > พักที่ปางอุ๋ง

    26-09-2559

    - ชมบรรยากาศปางอุ๋งยามเช้า > จุดชมวิวปางมะผ้า > จุดชมวิวดอยกิ่วลม > บ้านจ่าโบ่ > ปาย > อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง > กลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่

     

    *** จริงๆแล้วระหว่างทางมีที่เที่ยวให้แวะอีกเยอะเลยค่ะ แต่ทริปนี้เราไปกันปลายฝน เลยยังเจอฝนโดยเฉพาะในตอนเช้าของทุกวัน ทำให้การเดินทางของเราล้าช้าค่ะ เลยเก็บมาได้แค่นี้ แต่ไม่ว่าปลายทางเราจะไปได้แค่ไหน แค่ตลอดทางที่ไป เราได้ไปด้วยกัน มันก็มีความสุขแล้วค่ะ...  ^^ *** 

    ค่าใช้จ่าย

    ปล.ขอลงค่าใช้จ่ายเป็นรูปนะคะ เพราะลงเป็นตัวอักษรไม่ได้ค่ะ

    • โพสต์-2
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    เริ่มต้นการเดินทาง............

    มาเริ่มการเดินทางกันเลย….เรา2คนอยู่คนละจังหวัด คนละภาคกัน เลยมานัดเจอกันที่สถานีขนส่งหมอชิต

         จองรถของบริษัทสมบัติทัวร์ไว้ รอบ22:05น. เข้าไปรอรถที่ชานชลาที่กำหนดไว้ในตั๋วล่วงหน้าประมาณ15-20นาที(ไปรอรถ ดีกว่าให้รถรอเรา มีความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมทางค่ะ) รถมาตรงเวลา เอากระเป๋าไปเก็บด้านล่าง พนักงานต้อนรับจะพาไปยังที่นั่งตามที่ระบุไว้ ขึ้นไปบนรถคือตลึงมาก!! นึกว่าขึ้นรถผิด…นี่ขนาดรถธรรมดานะ ทำไมเหมือนรถVip ที่เรานั่งลงใต้กลับบ้านเลย 555 (ไม่เหมือนกันก็ แค่ที่นั่ง) นางบอกว่าถูกแล้วคันนี้แหละ ^^ โอเคถูกก็ถูก.... เบาที่นั่งจะเป็นเบาะนวดไฟฟ้า มีจอไว้สำหรับดูหนังฟังเพลง มีช่องUSBสามารถชาร์จมือถือได้ รถจะไปจอดพักที่จ.กำแพงเพชร ประมาณ20นาที เพื่อสับเปลี่ยนพนักงานขับรถ และให้ผู้โดยสารลงไปรับประทานอาหาร ถ้าใครไม่ทานก็เอาตั๋วไปแลกเป็นเครื่องดื่มได้ จากนั้นขึ้นรถหลับยาวๆจนกว่าแสงยามเช้าจะสาดเข้าตา ^^ เราไปตื่นแถวๆลำปาง ทำให้พอได้ชื่นชมบรรยากาศ2ข้างทางที่แปลกตาออกไปบ้าง

    ข้อดีของการนั่งรถทัวร์สายเหนือ เราว่าสภาพรถดีมาก สามารถหลับบนรถได้เลยแถมประหยัดค่าที่พักไปอีก1คืน ^^

         รถจะจอดที่อาเขต3 วันนั้นถึงประมาณ8โมงเช้าค่ะ(ช้ากว่าที่ระบุไว้1ชั่วโมง เนื่องจากฝนตกและมีการทำถนนเป็นช่วงๆ) ลงไปเอากระเป๋าแล้วเดินเข้าไปด้านในสถานี เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน จัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เดินออกจากอาเขต เลี้ยวซ้าย เจอสามแยกเลี้ยวขวา ไปยังร้านBikkychiangmai เพื่อเช่ารถมอไซด์ รถที่เราคิดกันไว้คือ Wave-125i แต่พอไปถึงที่สาขานี้หมดสะงั้น(สามารถจองก่อนล่วงหน้าได้ค่ะ แต่เราคิดว่าคนคงไม่เยอะ ผิดคาดเลย 55) พี่พนักงานบอกว่า งั้นไปอีกสาขานึง เดี๋ยวไปด้วยกันเลยจะไปสาขาห้วยแก้วพอดี อิอิ (มองหน้ากันแปปนึง อ่ะ...รอดค่ารถแดงไปอีก 555) และแล้วพี่เค้าก็พาเราไปถึงยังสาขาห้วยแก้ว แฟนเราก็ไปจัดการดูรถ เราก็ไปจัดการเรื่องเอกสารทำสัญญาเช่ารถ3วัน พนักงานร้านนี้บริการดีมากทุกคนเลย ^^

         ส่วนการยืม-คืน ... ควรอ่านรายละเอียดในสัญญาเช่าให้เข้าใจ  ยืมที่สาขาไหนก็คืนสาขานั้น ถ้าจะคืนที่อื่นต้องแจ้งไว้เลยตั้งแต่วันเช่ารถ เพราะมิฉะนั้นจะมีค่าบริการแพงกว่า จะคืนเวลากี่โมงแจ้งให้เรียบร้อย มีค่าบริการและยืมเกินเวลาด้วยค่ะ แต่ไม่แพง ไม่ต้องวางเงินมัดจำ แต่ใช้บัตรประชาชนแทน ได้บัตรคืนเมื่อคืนรถ

         ปล.1การเช่ารถควรดูสภาพรถให้เหมาะกับการใช้งานด้วยนะคะ ใครจะเอาไปขึ้นเขาอะไรก็สอบถามสภาพยางรถ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอะไรจากร้านให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัย และความสนุกในการเดินทางของเราเอง

         ปล.2 ไม่ได้ถ่ายรูปร้านไว้เลย สงสัยเมาโค้งไม่หาย 555 เอารูปรถไปดูแล้วกันนะคะ มันถึกและทนมาก ใครจะมาตามเส้นนี้เราแนะนำว่าสเปครถไม่ควรต่ำกว่านี้ค่ะ ^^

    • โพสต์-3
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    สวัสดีเชียงใหม่...

    จัดการเช่ารถเสร็จแล้วยังพอมีเวลา และก็ยังไม่ค่อยหิวกัน นางเสนอว่าไปดอยสุเทพกันมั้ย? ไปๆๆ..ไปไหนไปกัน ไปให้หมดเลย 555 ไม่ได้แพลนว่าจะนอนในเมืองเลยไม่มีที่ฝากกระเป๋า เลยต้องแบกมันไปทั้งยังงั้นแหละ ของเรา7กิโล ของนาง13.5กิโล น้ำหนักคนอีกรวมกันร้อยกว่าโล สงสารรถมั้ยถามใจดู 555

         สถานที่แรกที่จะผ่านก่อนถึงดอยสุเทพคือ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อยู่ทางซ้ายมือ เลยมช.ไม่ไกลมาก แวะกราบไหว้ขอพรให้เดินทางปลอดภัย

    ไม่รอช้าไปดอยสุเทพกัน

         แต่ก่อนจะถึงพระธาตุนั้น ต้องเดินขึ้นบันไดนี้ก่อน 185ขั้นเอ๊งงงงงง แค่นี้....(ขาสั่น555)

    ได้เห็นแล้วหายเหนื่อย สวยมากๆๆๆๆๆ

    พอลงมาจากดอยสุเทพแวะไปกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นิมมาน หลังจากเติมพลังกันเสร็จแล้วเราก็ตรงดิ่งไปยังดอยอินทนนท์เลย แต่ๆๆๆ..... ก่อนถึงอ.จอมทอง รถตายค่ะ ตายกันเฉยๆไม่บอกไม่กล่าว ตายอยู่ข้างทาง T_T ดูอาการแล้วให้ซ่อมกันเองคงไม่ไหว เราสบตากัน ป่ะ....โบกรถ 5555 โชคดีที่โบกแล้วก็มีคนจอดเลย ชื่อลุงหมูค่ะ เค้าก็ช่วยอยู๋พักนึง เราเห็นว่าไม่ไหวล่ะ มันจะเสียเวลาเปล่าๆเลยขอให้คุณลุงช่วยพาไปร้านซ่อมที่ใกล้ที่สุด บังเอิญมาเจอร้านนี้ค่ะ 

    ให้ช่างดูอาการ ปรากฎว่าหัวเทียนดำมากขึ้นสนิท และน้ำมันเครื่องแห้ง เราก็เปลี่ยนทั้งสองอย่างนี้ แต่....รถก็ยังไม่ติด ใกล้จะเย็นแล้วด้วย เราเลยตัดสินใจโทรหาร้านค่ะ ทางร้านเลยเอารถคันใหม่มาเปลี่ยนให้ และให้เราเอาบิลนี้ไปเบิกเงินคืนได้อีก น่ารักมากๆ ... ร้านBikky บริการดีมากๆค่ะ

    หลังจากได้รถบัดดี้คันใหม่แล้วลุยเลยค่ะ ........ อีก47กิโล เอ๊งงงงงงงงง ตอนนั้น4โมงเย็น 555

    ทางผ่าน บ้านแม่กลางหลวง

    วิถีแว๊นซ์บอย สก๊อยเกิร์ล ^_^ แต่เราไม่ได้ขับเร็วนะคะ เร็วไม่ได้ค่ะรถหนัก 555

    ไม่นาน1ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึงแล้วที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ รีบเข้าไปติดต่อพื้นที่กางเต้นท์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยค่ะ ขับรถเข้าไปได้เลย บรรยากาศดีมากๆ

    หลังจากติดต่อพื้นที่กางเต้นท์ เช่าถุงนอนแล้ว  ก็ขับรถมาอีกที่นึงค่ะ จะเป็นลานกางเต้นท์และบ้านพัก

    รีบเก็บของเข้าเต้นท์ให้อาบน้ำให้เรียบร้อย รีบไปหาข้าวกินกันเลยค่ะ เราเห็นมีร้านหมูกะทะแต่เสียดาย สงสัยยังไม่ใช่ช่วงเทศกาลร้านเลยปิด แถวๆนั้นมีร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ อขงชาวบ้านค่ะ รสชาติอร่อยดี ไม่แพงด้วย 40-50บาท ฝนจะมาอีกแล้ว นอนหลับพักผ่อน พรุ่งนี้เดินทางไกล(มากกกกกก)

     

    • โพสต์-4
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    จาก ดอยอินทนน์ สู่ ปางอุ๋ง 232กิโลเมตร 5ชั่วโมงกว่าๆ...

    วันที่ 25 กันยายน 

    เราตื่นแต่เช้าจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เก็บของใส่เป้ พอกำลังจะเก็บเต้นท์เท่านั้นแหละ ฝนตกโครม!!!!! ตกแบบไม่ปรึกษาใครเลย ฮ่าๆๆ กว่าจะได้ออกจากลานกางเต้นท์ก็เกือบๆ10โมงแล้วค่ะ พอฝนหยุดตก เรารีบเก็บของ เอาถุงนอนไปคืนที่เดิม และทานอาหารเช้าที่ร้านสวัสดิการข้างๆ อุทยาน

    ร้านสวัสดิการ ข้าวผัดกันไปคนละจาน

    ระหว่างทางอากาศดีมาก ยิ่งสูงอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ 

    เปลี่ยนจากวิวต้นยางที่บ้าน มาดูป่าสนหน่อยก็ดีเหมือนกัน

    ระหว่างทางจะผ่านจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน แต่ตอนเราไปเค้ายังไม่เปิดให้เดินค่ะ แอบเสียดายT_T ปีหน้าจะไม่พลาด

    อีก 5กิโลเอง ไปต่อค่ะ

    ในที่สุดก็ถึงแล้ววววววว ความฝันของเด็กใต้ตาดำๆ 555 ได้มายืน ณ จุดสูงสุดแดนสยาม อากาศ13องศาเซลเซียส เวลาบ่ายโมงตรง

    เขียวไปหมด สดชื่นมากๆๆๆๆๆๆๆ

    ออกเดินทางกันต่อ คราวนี้เราจะต้องไปเส้นทางที่มีแต่เขา นาขั้นบันได ไร่ข้าวโพด นานๆทีจะผ่านหมู่บ้านและสัญญาณโทรศัพท์มีเป็นช่วงๆ ฉะนั้นควรเตรียมของที่จำเป็นให้พร้อมค่ะ

    ขณะที่รถกำลังไต่ระดับความชัน เตล๊กก...แล้วรถก็หยุดอยู่กลางเนิน เธอ..ลงๆๆ  เราก็รีบลงแล้วก็ช่วยกันเข็นรถเข้าข้างทาง โซ่หลุดค่ะ 555 แต่ในความซวยยังมีความโชคดี ที่ใต้เบาะรถยังพอมีอุปกรณ์ที่ใช้ได้บ้าง อันนี้ก็เป็นหน้าที่คุณผู้ชายไปนะคะ เรายืนให้กำลังใจ ^^

    ในที่สุดเราก็พากันมาถึง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเวลา5โมงเย็น แต่นี้ไม่ถึงจุดหมายของเรา เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปชมพระธาตุดอยกองมูค่ะ กลับบ้านมาหาดู เฮ้ยยยสวยมาก ต้องกลับไปซ่อมทริปนี้แน่ๆ 555

    จากเมืองแม่ฮ่องสอน ห่างออกไปประมาณ8กิโลเมตร จะผ่านสะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เกิดจากความศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านกุงไม้สักที่ต่างก็ช่วยกันลงแรงสานพื้นสะพานด้วยไม้ไผ่ทอดยาว ไปบนที่นาของเจ้าของที่อุทิศผืนนาถวาย  โดยสร้างเพื่อเชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะและหมู่บ้านกุงไม้สัก ข้ามผ่านทุ่งนา และแม่น้ำสายเล็กๆ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งได้ใช้สัญจรไป มาระหว่างหมู่บ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น

         เนื่องจากที่ปางอุ๋งเราไม่ได้จองที่พักกันไว้ก่อน ก่อนออกจากสะพานเค้าบอกว่าให้เราเสิร์ชดูที่พักไว้ ถ้าชอบอันไหนลองโทรไปถามเลย เผื่อระหว่างทางไม่มีสัญญาณ พอได้ปุ๊ปเราโทรไปเลยที่แรก ลุงนะโฮมสเตย์ เฮ้ยยยมีคนรับสาย แต่พอสอบถามปรากฎว่าช่วงนี้ยังปิดปรับปรุงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยง1ตุลา อ่าววว...ทำไงล่ะทีนี้ 555 พี่ปลายสายเค้าบอกว่างั้นน้องมาให้ถึงปางอุ๋งก่อน เดี๋ยวจะพาไปเลือกมที่พักเข้าไปดูได้เลยชอบที่ไหนก็ค่อยเลือกที่นั้น จากสะพานไปปางอุ๋งระยะทางประมาณ30กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทาง1ชั่วโมงกว่าๆ ไปถึงหมู่บ้านแรกเฮ้ยย..ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ยังไม่ถึงขับขั้นไปอีก ขึ้นแล้วก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีรถ ไม่มีไฟข้างทาง มีแสงสว่างจากไฟรถเท่านั้น เหอๆๆ นางหันมาถามเราว่าจะไปต่อมั้ย?? เราบอกว่าถ้าเธอเราก็ไป ^__^

         ในที่สุดเราก็เจอหมู่บ้านรวมไทย เวลา19:00น. พอดี ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะต้องเข้าปางอุ๋ง พอถึงหมู่บ้านเราก็โทรไปหาพี่คนนั้น เรารอที่ร้านกาแฟซึ่งเป็นหลังแรกและหลังเดียวที่เปิดไฟอยู่ พอพี่เค้ามาเค้าบอกว่าดูที่นี่ก่อนก็ได้นะน้อง สอบถามราคาจากลุงปาละ คืนละ300บาท งั้นเอาที่นี้เลยค่ะไม่ต้องคิดมาก 555 .... ที่พักจะเป็นหลังๆ มีห้องน้ำในตัว ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม (ซึ่งก็ไม่ต้องใช้เลยอากาศดีมาก ) จากนั้นลาพี่เค้า แล้วก็เอาของไปเก็บในห้องพัก ระหว่างนั้นก็สั่งอาหารลุงไว้ โชคดีที่ยังมีแม่ครัวทำกับข้าวให้อยู่ไม่งั้นคงได้กินมาม่า 555 

    • โพสต์-5
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    วันที่3 ปางอุ๋ง....

    วันที่ 26 กันยายน

    เช้านี้ก็หนี้ไม่พ้นสายฝน ที่ตกลงมาให้ชุ่มช่ำ พอตอนเช้า เราเพิ่งเห็นว่าหมู่บ้านที่เราพัก เฮ้ยยย..นี่มันทางเข้าเลยนิ 555 ขับรถไปแปปเดียวก็ถึง

    อาหาศดีมากๆ แม้ตอนเรามาจะไม่เจอหมอกเลยเหนือผืนน้ำ แต่เจอมันลอยอยู่บนยอดเขาก็สวยงามไปอีกแบบ

    คุณลุงปาละ โชว์ชงกาแฟค่ะ เป็นกาแฟสูตรคุณลุงด้วยนะคะ

    เรากลับมาทานอาหารเช้าที่โฮมสเตย์ค่ะ ผักสดมาก อาหารอร่อย  ทั้งค่าอาหารเมื่อคืน ตอนเช้า และค่าที่พักรวมแล้ว 800บาทเองค่ะ (ค่าที่พัก300 ค่ากิน500 ไม่ต้องบอกนะคะว่าเป็นสายไหน..... 555) บรรยากาศรอบๆ วิวด้านหลังที่พักค่ะ ลาคุณลุงเสร็จแล้ว เราก็เก็บของค่ะเตรียมตัวเดินทางกันต่อ  ออกจากปางอุ๋งจะลงมาเจอหมู่บ้านค่ะ เลยแวะให้พี่เค้าช่วยเลื่อนโซ่ให้ค่ะ ค่าเสียหาย 10บาท ^^ ชาวเขาที่นี้น่ารักมากๆ
    • โพสต์-6
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    วันที่3 จากปางอุ๋ง สู่เชียงใหม่

    ทางที่ไปปาย เราเชื่อแล้วว่า โค้งมากจริงๆ ทั้งทริปนี้ก็ปาเข้าไปหลายพันโค้ง ฮ่าๆๆ เด็กทะเลมาเที่ยวเขา เมาโค้งสะงั้น ^^ 

    ระหว่างทางจะผ่านจุดชมวิวปางมะผ้าค่ะ ได้พักทั้งรถทั้งคน ยืดเส้นยืดสาย

        เหลือบไปดูนาฬิกา เฮ้ยย..จะเที่ยงแล้ว กระเพาะเริ่มทำงาน ดูในแผนที่เดี๋ยวจะผ่านบ้านจ่าโบ่ งั้นเราไปกินก๋วยเตี๋ยววิวหลักล้านกันเนอะ ไปด้วยความหวังอย่างเต็มที่ 1ปี มี365วัน เราไปเพียงแค่เสี้ยววัน1ในนั้นที่ร้านปิด 5555(เศร้าหนักมาก) โอเค๊...ปิดใช่มั้ย ปีหน้าค่อยมาใหม่ก็ได้ สะบัดผม1ที แล้วไปถ่ายรูปเล่น

    ไปวันร้านปิด เสียใจหนักมากกกกก

         นอกจากจะหิว และไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแล้ว ตอนออกจากหมู่บ้าน ยกให้เนินนี้เป็นเดอะเบสของทริปนี้เลย รถขึ้นไม่ไหว ยังมาทำถนนอีก ลงเดินจ่ะ แล้วแบกกระเป๋าหนัก13กิโลกว่าๆด้วย ไม่เป็นไร ผู้หญิงอย่างเราทำได้ 555

    บ้านจ่าโบ่-ปาย ระยะทาง63กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน จุดชมวิวดอยกิ่วลม

    ถึงปายแล้วไม่ต้องคิดอะไร หาของกินเลยค่ะ 555 เราแวะกินส้มตำกันที่ ร้านข้าวหม้อแกงหม้อ อยู่ตรงถนนคนเดินเลย อาหารอร่อยมากค่ะ ราคาปกติไม่แพงมาก

    อิ่มแล้วไปกันต่อ มีอะไรข้างทาง เราแวะให้หมด ^_^

    สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย


        ขับขึ้นเขาลงเข้าไปเรื่อยๆสัก10ลูก จะมีป้าย ให้เลี้ยวเข้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังค่ะ ทางเข้าก็ชำระค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย ตอนแรกตั้งใจว่าคืนสุดท้ายจะมากางเต้นท์นอนที่นี่ แต่พอสอบถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่ายังไม่เปิดลานให้กางเต้นท์ค่ะ จะเปิดวันที่1ตุลา ที่อุทยานฯอากาศเย็นมาก หายใจได้เต็มปอด ทางขึ้นก็ร่มรื่น แต่ทางแคบมากโค้งก็อันตราย ควรระมัดระวังกันด้วยค่ะ ขึ้นไปถึงด้านบนตอน4โมงเย็น โอ้โห......ฟินมากกกกกกกกกกกกก อากาศ20องศา จุดสุดท้ายของวันนี้เต็มที่ไปเลยค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปเล่น สูดอากาศมันเข้าไปให้เต็มๆปอด ^___^

         เราออกจากจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังประมาณ5โมงเย็น ขับไปตามถนนหมายเลข 1095 ไปเรื่อย จนถึงแยกที่จะไปอ.เชียงดาว ให้เลี้ยวขวาถนน107เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ถึงเชียงใหม่เวลา1ทุ่มกว่าๆ 

         เราเลือกพักที่ Batterry Park midtown villa ประตูท่าแพ มี4ชั้น ไม่มีลิฟต์ ที่พักยังใหม่มาก ห้องที่เราได้อยู่ชั้นบนสุด ตอนฝนตกมันจะเสียงดังมาก คืนนั้นวางแผนว่าจะขับรถเล่นออกไปหาอะไรกินกัน แต่ฝนตกสะงั้น4ทุ่มก็ยังไม่หยุด เลยลงไปขอน้ำร้อนใส่มาม่าที่ซื้อไว้ตั้งแต่วันแรก 555 ไหนๆก็มาถึงเชียงใหม่แล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้คือ อาหารเหนือ เสิร์ชหาร้านขนมจีนน้ำเงี้ยวและข้าวซอยตั้งแต่หัวค่ำ ได้พิกัดร้านนึงใกล้ๆ พรุ่งนี้ต้องโดนกินให้ได้ แล้วก็สลบชัตดาวน์ตัวเอง

     

    • โพสต์-7
    Journey's •  พฤศจิกายน 02 , 2559

    วันสุดท้าย........... ถึงเวลาบอกลา เชียงใหม่

    วันที่27 กันยายน

         ตื่นเช้ามาวันนี้ฝนก็ตกอีก ฮ่าๆๆๆ ตกยันวันกลับ จากที่หาข้อมูลคือ เลือกร้านนี้เพราะอยู่ใกล้ๆที่พัก เป็นร้านเล็กๆเก่าๆ อยู่ในซอยช้างม่อย2 เปิดมายาวนานมาก ในร้านยังใช้เตาถ่านอยู่เลย มีขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวเงี้ยว(ข้าวกั๊นจิ๊น) ราคาก็5-25บาท อยากเบิ้ล2จานมากแต่ต้องเก็บพื้นที่ในกระเพาะไปกินข้าวซอยอีก อิอิ

    ขนมจีนน้ำเงี้ยวอร่อยมากกกกกกกกก.......... ^_^

         ต่อจากร้านนี้ แฟนชวนไปกินไอติมiberryค่ะ แต่พอไปถึงร้านยังไม่เปิด ฮ่าๆๆๆ ขับผ่านร้านข้าวซอยพอดี อยู่นิมมานซอยไหนจำไม่ได้แล้ว รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศมาก รสชาติจะออกหวานๆหน่อย แต่ไก่นุ่มละมุนลิ้น ^_^ เอาเป็นว่าแค่นี้ก็คุ้มแล้วกับอาหารเหนือ อร่อยมากๆๆๆ

     

         จากนั้นก็ไปเช็คเอ้าท์จากที่พัก โทรไปบอกที่ร้านเช่ารถก่อนเวลานัดสักครึ่งชั่วโมงค่ะ เค้าจะได้เตรียมเอกสารไว้ให้ เรานัดคืนรถที่สนามบิน การคืนรถไม่ต้องเข้าประตูที่เข้าสนามบินนะคะ ให้เลยไปอีก1ประตูจะเป็นลานจอดรถเช่าทั้งหมด ตรงโซนF ได้บัตรประชาชนคืนเรียบร้อย 

         ถึงดอนเมืองประมาณบ่ายสอง จากนั้นก็แยกย้ายเราไปส่งนางที่ Airport bus เพื่อไปยังสถานีขนส่งหมอชิต สามารถนั่ง Airport bus สายA1 ไปได้เลยนะราคา30บาทตลอดสาย เราชอบไปขึ้นที่อาคารผู้โดยสาร1เพราะต้นทางมันอยู่ตรงนั้น  ถ้ามารอขึ้นฝั่งในประเทศไม่มีที่นั่งแน่นอน ยอมเดินดีกว่า ^^ พอส่งนางเสร็จแล้ว เราก็ไปเช็คอินต่อ รอบินกลับนครศรีฯ รอบ6โมงเย็น ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าค่าาาาา.... 

     

    • โพสต์-8
    Journey's •  พฤศจิกายน 03, 2559
    • โพสต์-9
    Manoon •  มิถุนายน 21, 2560
    • จุดเด่น:
    • จุดด้อย:
    • ข้อสรุป:
    คะแนน