ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
สมุยอีกกี่ครั้ง ก็ยังมีเธอ @ Amari Koh Samui Amari Koh Samui
    • โพสต์-1
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    คุณยังจำได้ไหม?
    สถานที่แห่งแรกที่คุณได้จูงมือคนรักออกเดินทางร่วมกันคือที่ไหน?

    เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นจากความโชคดี ได้รับรางวัลจากการส่งใบเสร็จค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางท่องเที่ยว
    ผ่านทาง www.thailandhero.com ได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับจาก Bangkok Airways
    โดยสามารถเลือกได้ 1 ใน 5 เส้นทางในประเทศไทย
    ซึ่งเราไม่ลังเลที่จะเลือกเส้นทางสู่”เกาะสมุย”
    ถึงแม้ว่าช่วงเดินทางที่กำหนดไว้ จะเป็นช่วง Low Season ของทางฝั่งอ่าวไทย

    ++ ได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินมาจากกิจกรรมนี้ โดยททท.ค่ะ ++

    นั่นก็เพราะว่า
    "เกาะสมุยคือสถานที่แห่งความทรงจำของการเดินทางครั้งแรกกับคนรัก เมื่อปี 2544"
    และถึงแม้วันนี้จะผ่านมาเกิน 15 ปีแล้ว
    เขาก็ยังคงคอยเดินเคียงข้าง จูงมือร่วมทางด้วยกันเหมือนในวันเก่าๆ

    ++ จุดชมวิวลาดเกาะ เกาะสมุย เมื่อปี 2544 สมัยยังเป็นกล้องฟิล์ม ++

    ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้ไปเกาะสมุย ก็อยากต่อไปเกาะเต่าสักครั้ง
    แต่ด้วยสภาพอากาศทางฝั่งอ่าวไทยช่วงปลายปีสภาพคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การออกเรือเท่าไรนัก
    ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนปักหลักอยู่แต่ที่เกาะสมุย
    ซึ่งที่พักบนเกาะสมุยจะไม่เหมือนทางแถบพัทยาหรือหัวหิน
    ที่มีความต้องการสูงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้ราคาห้องพักสูงกว่าวันธรรมดา

    แต่ที่พักเกาะสมุยราคาจะขึ้น-ลงตามช่วง high season และ low season
    ซึ่งช่วง high season ของเกาะสมุย(ฝั่งอ่าวไทย)จะตรงข้ามกับฝั่งอันดามัน อย่างเกาะภูเก็ต พังงาหรือกระบี

    สรุปง่ายๆว่าทะเลไทยเที่ยวได้ทั้งปี
    ช่วงปลายปีนับตั้งแต่พฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    จะเป็นช่วง high season สำหรับฝั่งอันดามัน

    แต่พอถึงช่วงกลางปี ตั้งแต่กรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมแล้ว
    เป็นช่วงที่ดีที่สุดของทางฝั่งอ่าวไทย เป็นช่วงที่น้ำทะเลใส คลื่นลมสงบ ไม่มีขยะลอยมาติดหน้าหาด
    หลังจากนั้นจะเริ่มมีฝนตกช่วงเดือนตุลาคมและหนักที่สุดในเดือนธันวาคม
    (แต่ต้นปี 2560 นี้ เดือนมกราคมยังตกหนักมาก)

    ++ ถึงแม้จะได้รางวัลตั๋วบินฟรี แต่ก็ต้องจ่ายค่าภาษีรางวัล ณ ที่จ่าย, ค่าธรรมเนียม และภาษีสนามบินนะ ++


    อารัมภบทมาซะยืดเยื้อ เข้าเรื่องกันสักทีดีกว่าค่ะ
    เพราะ”เกาะสมุย”ในช่วงที่เรียกว่า low season นั้น ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
    อาจจะเจอฟ้าครึ้ม ฝนตกเปาะแปะบ้าง
    แต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่ฟ้าใสเป็นใจ ให้เก็บภาพความประทับใจแทนความทรงจำ

    เห็นมั๊ย?? ฟ้าใสๆแบบนี้ก็ยังมีให้เจอนะ
    v
    v
    ++ จุดชมวิวลาดเกาะ เกาะสมุย ปี 2559 ++


    “เกาะสมุย”เป็นเกาะใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย
    แนวฝั่งชายหาดด้านตะวันออกของเกาะ เต็มไปด้วยแนวหาดสวยงามและที่พักมากมาย
    จุดหมายปลายทางที่พำนักของเราสำหรับการเดินทางในครั้งนี้
    อยู่ขนาบเคียงข้างผืนทรายของแนวชายฝั่งตะวันออกของเกาะสมุย ที่”หาดเฉวง”นี่เอง



    ขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณ”อมารี เกาะสมุย”เป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาสนับสนุนที่พัก 3 วัน 2 คืน
    ทั้งนี้เนื่องจากปี 2558 เราผ่านการสมัครคัดเลือกเป็น 1 ใน 3 นักรีวิว
    ของโครงการ Discover Hua Hin The Amari Way
    พอทางอมารีทราบว่าเราจะเดินทางไปเกาะสมุย จึงได้สนับสนุนที่พักให้อีกครั้งค่ะ

    รีวิวอมารี หัวหิน >> https://goo.gl/zyOyXS

    ตอนร่วมงานกับทางอมารีครั้งก่อนที่หัวหิน
    ก็พอทราบมาคร่าวๆว่า”อมารี เกาะสมุย”อยู่ระหว่างปิดปรับปรุง
    ซึ่งไม่ได้ปิดแค่บางส่วนด้วยค่ะ แต่เป็นการปิดทั้งโรงแรมเป็นเวลา 1 ปีเต็ม เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ต่างๆให้ดีขึ้น
    จนกระทั่งพร้อมเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อต้นเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา
    จึงนับเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปยลโฉมอมารี เกาะสมุย ในรูปลักษณ์ใหม่

    รีวิวนี้จึงขอเน้นที่พักเป็นหลักนะคะ ด้วยจุดประสงค์ต้องการให้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ของอมารี เกาะสมุย
    ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงแปลงโฉม หลังจากเปิดให้บริการมายาวนานมากว่า 25 ปี

    • โพสต์-2
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    :+: Amari Koh Samui :+:
    https://www.facebook.com/AmariKohSamui
    http://www.amari.com/koh-samui

    เข้าพัก : ปลายเดือนพฤศจิกายน 2559



    เดิมทีโรงแรมนี้ใช้ชื่อว่า“Amari Palm Reef”
    แต่ภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น “Amari Koh Samui”
    เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ คือใช้ชื่ออมารีตามด้วยสถานที่ตั้ง

    พิกัดทำเลที่ตั้งไม่ไกลจากสนามบินสมุยเลยค่ะ เพียงแค่ 2.6 กม.เท่านั้น
    อยู่ตอนต้นของหาดเฉวง แต่มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร
    ตอนกลางคืนไม่ได้อึกทึกเหมือนทางใจกลางหาดเฉวงมากนัก
    เรียกว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความสงบเป็นส่วนตัวบ้าง
    แต่ก็ไม่ห่างหายจากความสนุกสนานหรือความบันเทิงยามค่ำคืน ซึ่งสามารถเดินไปได้



    โซนที่พักแบ่งออกเป็น 3 โซน
    * Garden Wing
    - เป็นที่พักแบบอาคารสไตล์ล้านนา โซนแรกของอมารี เกาะสมุย มีอายุประมาณ 25 ปี
    หากแต่มีการปรับปรุงโดยคงโครงสร้างเดิมไว้
    * Thai Village Wing
    - โซนที่พักแบบบ้านทรงไทยเป็นหลังๆสไตล์ล้านนา ล้อมรอบด้วยสวนสวยร่มรื่นย์
    จนบางครั้งหลงนึกว่ากำลังพักผ่อนอยู่ทางภาคเหนือ
    มากกว่าจะเป็นการพักผ่อนบนเกาะกลางทะเลอ่าวไทย
    * Beach Wing
    - เป็นโซนใหม่สุด ติดทะเลหาดเฉวง
    มีเพียงถนนเล็กๆกั้นระหว่างโซนนี้กับอีก 2 โซนที่เอ่ยถึงข้างต้น

    ++ Thai Village Wing ++

    สำหรับการเข้าพักครั้งนี้ เราพักในโซน Thai Village Wing ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงเช่นกันค่ะ
    โดยคงโครงสร้างหลักภายนอกไว้ แต่ทำให้ภายในห้องพักดูทันสมัยมากขึ้น เน้นการตกแต่งด้วยสี earth tone

    ส่วนภายนอกได้ทำการปูกระเบื้องใหม่ ปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้น ร่มรื่นย์แบบเรือนไทยในสวนไม้งาม
    ให้ความรู้สึกของการเข้าพักแบบรีสอร์ทมากกว่าความเป็นตัวอาคารโรงแรม



    ห้องพักครั้งนี้ เป็นแบบ “Deluxe Thai Village (Pool View)”
    ภายนอกเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยจากเรือนไทยสไตล์ล้านนา
    หากแต่เมื่อเหยียบย่างเข้าไปในห้องพัก กลับให้ความรู้สึกของความทันสมัย การตกแต่งที่มีลูกเล่น
    แต่ยังไม่ทิ้งจุดเล็กๆน้อยๆของความเป็นไทย อย่างผลไม้แกะสลัก

    นับว่าเป็นความประทับใจอย่างยิ่งค่ะ สำหรับสิ่งที่ทางอมารีเตรียมไว้ต้อนรับ
    เล่นเอายิ้มหน้าบานในความใส่ใจที่มอบให้
    ^---^



    ผลไม้ต้อนรับที่นี่จัดเตรียมไว้เยอะแยะมากมาย ทั้งแตงโม มะม่วง แก้วมังกร ส้ม แอปเปิ้ล
    นอกจากนี้ยังมีชะลอมแบบไทยๆใส่ลูกอมกะทิ และขนมอื่นๆ
    อย่าง มะพร้าวแก้ว มาการอง กาละแม (กาละแมเป็นขนมขึ้นชื่อของเกาะสมุยนะ อย่าพลาดเชียว)




    ตัวห้องพักเองก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าคับแคบ ด้วยเพราะเพดานที่สูงโปร่ง
    บริเวณชั้น 2 เป็นที่นอนวางบนพื้น มีรั้วรอบขอบชิด สูงพอสมควรทีเดียว เพื่อความปลอดภัย





    ห้องพักนี้สามารถเข้าพักได้แบบครอบครัวผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 2 คน
    สนนราคาอยู่ที่ประมาณคืนละ 6,xxx บาท
    หากเข้าพักพร้อมเด็กๆแล้ว เขาจะจัดเตรียมกิจกรรมที่เรียกว่า Hunting Game ให้เด็กๆได้ร่วมสนุกตั้งแต่มาถึงที่พักเลยค่ะ

    การตกแต่งภายในแฝงไปด้วยเอกลักษณ์ของเกาะสมุย นั่นคือ”ใบมะพร้าว”
    ด้วยเพราะเกาะสมุยมีต้นมะพร้าวเยอะ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเกาะนี้
    ริ้วสีเขียวของใบมะพร้าวจึงถูกนำมาตกแต่งโดยทั่วที่พัก ไม่เพียงแต่ในห้องพักเท่านั้น



    ในส่วนห้องน้ำเป็นแนวยาว ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งได้ดี
    ผลิตภัณฑ์ Bathroom Amenities มาตรฐานเดียวกันกับที่ใช้ใน Breeze Spa



    ส่วนตัวแล้ว ชอบของที่เตรียมไว้ในตู้เสื้อผ้าค่ะ
    เพราะนอกจากเสื้อคลุมอาบน้ำแบบที่เคยเห็นทั่วไปแล้ว
    ที่นี่ยังมีขนาดเล็กสำหรับเด็กแขวนเตรียมไว้ให้ด้วย รวมถึงรองเท้าแตะขนาดเล็ก
    นับเป็นที่พักอีกแห่งที่ใส่ใจแขกตัวน้อยอย่างดี



    ตัวประตูทางเข้าห้องพักอยู่ชั้น 2  และมีระเบียงเล็กๆแบบ Pool View ค่ะ
    หลายครั้งที่แอบมาหลบมุมนั่งอยู่ริมระเบียง นั่งมองต้นไม้สีเขียวๆ
    ยิ่งบางช่วงเจอฝนตกเปาะแปะก็ให้ความรู้สึกดีๆไปอีกแบบ สัมผัสได้ถึงความสดชื่นของสายน้ำ
    นั่งอยู่นิ่งๆซะบ้าง ได้หยุดพักอยู่กับที่ มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้นบ้าง



    สระว่ายน้ำส่วนกลางของ Thai Village Wing อยู่ใต้ร่มเงาของต้นมะพร้าวสูงใหญ่
    แอบให้อารมณ์และบรรยากาศของชายทะเลนิดๆ ถึงแม้ที่พักโซนนี้จะมองไม่เห็นทะเลก็ตามที




    นอกจากนี้ บริเวณใกล้ๆกันก็ยังมี Kid’s Club ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่
    โดยเน้นกระจกใสบานใหญ่ ให้มองเห็นจากภายนอกได้
    ด้านในปูพื้นยางนิ่มๆ พร้อมกิจกรรมให้เด็กๆเลือกตามความชอบ
    สำหรับ Kid’s Club ที่นี่ จะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “VIK” หรือ Very Important Kids




    สำหรับ 2 โซนแรกนี้ (Garden Wing และ Thai Village Wing) จะอยู่ในบริเวณเดียวกันและไม่ติดหาดค่ะ
    เป็นโซนที่เน้นที่พัก ไม่มีห้องอาหารใดๆให้บริการ
    เลยค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับแขกที่เข้าพัก

    แต่เพียงแค่ถนนเล็กๆที่กั้นกลาง อีกฟากฝั่งก็จะได้พบกับชายหาดทอดแนวยาว
    และสีสันสไตล์เอเชียตามแบบฉบับของอมารี

    มาค่ะ ... เดินข้ามฝั่งถนนมาชม “Beach Wing” กันต่อค่ะ

    • โพสต์-3
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    Beach Wing ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าอยู่ติดชายหาด
    บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ lobby ซึ่งเป็นแบบ open air เมื่อก้าวเท้าย่างเข้ามาก็เห็นทะเลอยู่เบื้องหน้าแล้วค่ะ



    ในโซนนี้จะมีส่วนของห้องพักเช่นกัน แต่จะเป็นลักษณะของตัวอาคารโรงแรม
    ให้ความรู้สึกแตกต่างจากโซนที่กล่าวถึงข้างต้นที่จะให้ความรู้สึกของการเข้าพักแบบรีสอร์ทมากกว่า

    ++ ส่วนอาคารห้องพัก คือทางด้านหลังในภาพนี้ค่ะ ++


    ++ สระว่ายน้ำของฝั่ง Beach Wing ++


    โซนนี้จะให้บริการส่วนกลางเป็นหลัก ทั้งห้องอาหาร สปา และ fitness
    โดยเฉพาะส่วนบริการอาหารและเครื่องดื่ม "Amaya"
    ซึ่งเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวจากหน้าหาดจนถึงถนน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ
    - Amaya Bar (ติดชายหาด)
    - Amaya Food Gallery (ส่วนตรงกลาง)
    - Amaya Café (ติดถนน)

    การตกแต่งของ Amaya จะเน้นความเป็นเอเชียด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย
    เน้นให้บริการอาหาร Asean เช่น ไทย ลาว สิงคโปร์ มาเลเชีย เวียดนาม และอาหารนานาชาติ
    พื้นที่ครัวแบบเปิดโล่ง สามารถมองเห็นการปรุงอาหารของเชฟได้
    ด้วยแรงบันดาลใจจากร้านอาหารแบบรถเข็นหรือ street food ที่พบเห็นได้ทั่วไปในบ้านเราและแถบประเทศเพื่อนบ้านนี่เอง

    ----------------------------------

    :+: Amaya Café :+:
    เปิดให้บริการ 1100 – 2200 น.



    มื้อแรกที่ Amari Koh Samui เลยขอประเดิมที่ “Amaya Café” ด้วยเมนูอาหารหลากหลายสไตล์ Asean
    แต่ก่อนที่จะเริ่มมื้ออาหาร ขอคลายร้อนด้วยน้ำมะพร้าวผสมชาวนิลา
    เสิร์ฟมาทั้งลูกพร้อมสลักชื่อ’อมารี เกาะสมุย’ลงบนลูกมะพร้าว



    เห็นแล้วชอบอีกล่ะ เหมือนตอนเห็นแตงโมแกะสลักในห้องพักตัวเอง
    ส่วนตัวชอบการนำเสนอที่แปลกใหม่แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    สำหรับเครื่องดื่มก็มีหลากหลายเช่นกัน ทั้งกาแฟ ชาของ TWG น้ำผลไม้ต่างๆ
    รวมถึงเครื่องดื่ม smoothies เพื่อสุขภาพ

    ส่วนของ Amaya Café จะอยู่ติดริมถนนและเป็นห้องแอร์ค่ะ
    นอกจากอาหารต่างๆแล้ว ก็ยังให้บริการเบเกอรี่ และอาหารทานเล่นต่างๆ อย่าง แซนด์วิช ขนมอบ
    รวมถึงขนมแบบ Gluten Free สำหรับผู้ที่แพ้ส่วนผสมของแป้งสาลี

    เนื่องจากยังไม่ได้ทานมื้อกลางวัน เลยขอจัดหนักสักนิดนึงค่ะ ^^”
    สั่งมาหลายสัญชาติเลยทีเดียว อาทิเช่น

    Singapore Laksa (290++บาท)
    v


    Nasi Goreng (280++บาท)
    V


    Vietnamese Morning Glory (190++บาท)
    v


    Quinoa Salad (280++บาท)
    จานนี้อรอ่ยแบบเน้นเพื่อสุขภาพ
    v


    กระเพราไก่ (250++บาท)
    v


    Honey Teriyaki Salmon (560++บาท)
    v


    Malaysian Lamb Rendang (520++บาท) เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมข้าวขมิ้น
    v


    ส่วนตัวแล้วชอบตรงความหลากหลายสไตล์ Asean ค่ะ
    เพราะยังไม่เคยเจอร้านอาหารไหนที่รวบรวมความเป็น Asean ไว้ในที่เดียวกันได้มากขนาดนี้
    และเป็นอันว่าไม่มีโอกาสได้ชิมของหวานต่อ เพราะอิ่มจุกจนต่อไม่ไหวจริงๆค่ะ
    T^T

    ++ ทั้งตู้นี้ อดสิคะ ไม่ได้ชิมสักอย่าง ++

    • โพสต์-4
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    :+: Amaya Bar :+:
    เปิดให้บริการ 1000 – 2300 น.



    โซนติดริมหาดแบบเปิดโล่งรับลมทะเล นั่งจิบเครื่องดื่มสบายๆริมหาดหรือจะริมสระว่ายน้ำได้ตามอัธยาศัย
    เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่มีโอกาสได้ใช้บริการในส่วนนี้ค่ะ
    เล็งไว้แล้วว่าอยากลอง BBQ ริมหาด เพราะวันที่เข้าพักมี Beach BBQ Buffet พอดี
    แต่มาพลาดเพราะสภาพอากาศไม่เป็นใจ ฝนตก จนต้องงดจัด BBQ
    (ตามที่ลงรายละเอียดไว้ค่ะ ว่าเป็นโซนห้องอาหารแบบเปิดโล่ง พอฝนลงล่ะจบเลย TT)



    เย็นวันแรกนี้ เลยได้ไปทานมื้อเย็นที่พักเพื่อนบ้านข้างเคียงแทน

    ----------------------------------

    :+: โรงแรม OZO Chaweng Koh Samui :+:
    http://www.ozohotels.com

    โรงแรมโอโซ่จัดเป็นเครือเดียวกันกับ Amari ค่ะ (ONYX Hospitality Group)
    แนวคิดของโรงแรมโอโซ่จะเป็นแนวทันสมัยและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการ facilities อะไรมากมายนัก
    เน้นแบบง่ายๆ สบายๆ ขอเพียงแค่มีที่พักหลับนอน

    ทำเลที่ตั้งของโรงแรมโอโซ่อยู่ใจกลางหาดเฉวง
    ทำให้ดูค่อนข้างคึกคักมากกว่า และมีสีสันสนุกสนานในยามค่ำคืน  

    :+: Stacked @ OZO Chaweng Koh Samui :+:
    http://www.stacked-samui.com
    เปิดให้บริการ 1200 – 2400 น.



    ห้องอาหารนี้เองก็มีบรรยากาศคึกคักสนุกสนานเหมือนบรรยากาศของเฉวงโดยรอบค่ะ
    พิกัดอยู่ทางด้านหน้าโรงแรมโอโซ่ติดกับถนน
    บริการอาหารจานเดี่ยว บาร์บีคิว และเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน
    มีมุมบาร์บริการเครื่องดื่มค๊อกเทล เบียร์ ไวน์ ตามสไตล์ชีวิต night life



    มีทั้งส่วนห้องแอร์และชานระเบียงรับลมติดถนนด้านนอก
    ตกแต่งให้ความรู้สึกของความสนุกสนานด้วยธีมทะเล จากแนวคิดกระท่อมของนักโต้คลื่น
    มีโต๊ะที่ทำจากกระดานโต้คลื่นความยาวกว่า 3 เมตรอยู่กลางห้องอาหาร



    และที่นี่เป็นร้านอาหารแนะนำของ tripadvisor ด้วยค่ะ
    เลยทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนเข้า-ออกร้านตลอดเวลา

    เมนูค๊อกเทลที่นี่ นับว่ามีความสร้างสรรค์และมีจุดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่นๆที่เคยเจอมา
    เรานั่งเกาะขอบบาร์มองดูบาร์เทนเดอร์นำพริกไทยอ่อน ผักใบเขียวต่างๆ มะเขือเทศหั่นชิ้น เบคอน มาผสม’ค๊อกเทล’
    ใช่ค่ะ ไม่ได้พิมพ์ผิด ... ส่วนผสมต่างๆที่ว่า ถ้าทั่วไปก็เหมือนจะนำมาปรุงอาหารในครัว
    แต่ที่นี่นำมาผสมเป็นเครื่องดื่มค๊อกเทลค่ะ !

    ค๊อกเทลแก้วนี้ มีชื่อว่า “Bacon-Stacked Bloody Mary” (260 บาท)
    พอเอ่ยชื่อว่า Bloody Mary อาจจะนึกถึงน้ำมะเขือเทศ (ซึ่งเราทานไม่ได้)
    แต่แก้วนี้ไม่ใช่น้ำมะเขือเทศแท้ๆค่ะ
    และรสชาติของค๊อกเทลทำให้รู้สึกได้ถึงรสชาติของพริกไทยและเกลือที่เป็นส่วนผสม
    แต่งขอบแก้วด้วยเบคอน ซึ่งแปลกดีค่ะ

    แก้วที่ 2 มีส่วนผสมของน้ำแตงโมเป็นหลัก ชื่อว่า “Nicely Stacked” (250 บาท)
    มีส่วนผสมของ gin และ cinnamon



    อาหารจานหลักที่นี่ ด้วยความที่เป็นอาหารสไตล์อเมริกันเลยต้องขอลองชิมเบอร์เกอร์ค่ะ
    แต่ระหว่างรอหม่ำเบอร์เกอร์ ก็จัดอาหารทานเล่นไปเบาๆ 2 จานก่อนค่ะ
    (คิดผิดเล็กน้อยค่ะ เพราะพอเห็นจานเบอร์เกอร์มาวางตรงหน้า
    บอกตัวเองว่าไม่น่าสั่งอาหารทานเล่นมาเลย TT เพราะเบอร์เกอร์เขาชิ้นใหญ่มาก)

    อาหารทานเล่นจานแรก “Mango-Chili Prawn Cakes” (210 บาท)
    ไม่ค่อยอยากแปลชื่อเป็นไทย เพราะกลัวแปลผิด แต่จานนี้จะคล้ายๆทอดมันกุ้งค่ะ
    v


    อาหารทานเล่นจานที่ 2 จานนี้อร่อยถูกปากค่ะ “Senor Stacked” (245 บาท) ทำจากหมูค่ะ
    ผิวเขาจะกรอบอร่อยมาก มีสลัดผักเป็นเครื่องเคียง
    เหมาะสำหรับทานเล่นแกล้มเบียร์เป็นที่สุด (ออกจะคล้ายๆลาบหมูทอดประมาณนั้น)
    v


    มาถึงเบอร์เกอร์จานหลักที่รอคอยกันบ้างล่ะค่ะ
    ที่นี่ให้บริการเบอร์เกอร์แบบคลาสสิกไปจนถึงเบอร์เกอร์ที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้าน
    อย่าง “Hot Mama”(385 บาท)เป็นเบอร์เกอร์รสเผ็ด (อ่านส่วนผสมดู เหมือนจะมีซอสพริกศรีราชาด้วย)
    เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งรสพริกจาลาปิโน มีส่วนผสมของเบคอน
    v


    อีกหนึ่งเมนูเบอร์เกอร์ “Cowboy BBQ” ไส้เบคอนรมควัน
    ตัวขนมปังโรยด้วยงาดำ ไส้ทะลักฉ่ำด้วยน้ำซอส
    v


    สำหรับใครที่ไม่สะดวกมาทานที่ร้าน เขามีบริการส่งถึงที่ในบริเวณใกล้เคียงด้วยนะคะ



    อ่า .... รีวิวนี้ หลังๆชักจะเริ่มหนักเรื่องอาหารแทนซะแล้วสิ ^^”

    • โพสต์-5
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    คืนแรกที่อมารี นอนหลับอืดเลยทีเดียว เพราะจัดหนักทั้ง 2 มื้อกลางวันและเย็น
    ไหนจะสายฝนพรำที่ทำให้บรรยากาศชวนนอนมากขึ้น

    แต่ถึงกระนั้นตี 5 กว่าก็ดีดตัวออกจากเตียงด้วยเสียงนาฬิกาปลุกอย่างที่ตั้งใจไว้
    เพราะอยากจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาดเฉวง เนื่องจากเป็นทิศตะวันออก
    ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ ถึงแม้ฟ้าจะไม่เปิดเท่าไหร่ แต่ก็ได้เห็นแสงทองแรกของวันอย่างที่ตั้งใจ




    :+: Amaya Food Gallery :+:
    เปิดให้บริการ 0630 – 2300 น. (อาหารเช้าให้บริการ 0630 – 1000 น.)





    เดินเล่นเก็บภาพยามเช้าริมหาดและริมสระได้พักใหญ่ ก็ถึงเวลาอาหารเช้าพอดี
    บริการอาหารเช้ากันที่ “Amaya Food Gallery” โซน Beach Wing ค่ะ
    ห้องอาหารนี้เป็นโซนห้องอาหารแบบเปิดโล่ง เพื่อได้สัมผัสบรรยากาศของทะเลอย่างใกล้ชิด






    จุดเด่นของบุฟเฟ่ต์ไลน์อาหารเช้าที่นี่และไม่เคยพบที่อื่นมาก่อน
    ขอยกให้กับ”เครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ แบบแยกกาก”ค่ะ
    จะแครอท แตงกวา แตงโม หรือจะครีเอทเพิ่มเติมใส่ชิ้นสัปปะรด แคนตาลูป แก้วมังกร ก็ตามแต่ต้องการเลยค่ะ
    นอกจากสนุกแล้ว (ตามประสาที่บ้านไม่มีให้เล่น) ยังรู้สึกถึงความใส่ใจในสุขภาพ
    Mix & Match ปรุงแต่งได้ตามชอบ



    สำหรับมุมอาหารอื่นๆ ก็ยกคงเอกลักษณ์ของความเป็นเอเชียได้ตามรูปลักษณ์และการตกแต่งของห้องอาหาร
    ไม่ว่าจะเป็นซูชิ กิมจิ หรืออาหารอินเดียอย่าง Chicken Tikka Masala
    รวมถึงมีข้าวต้มเครื่องอย่าง ไข่เค็ม กุนเชียง ปลากรอบ ฯลฯ



    อาหารหลักตามมาตรฐานมื้อเช้าทั่วไปก็มีนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูไข่ หรือว่าขนมปังหลากหลายชนิด
    นอกจากนี้ยังมีมุม Kid’s Corner อย่างขนมมัฟฟิ่นให้เด็กๆด้วยค่ะ



    ขอชมความใส่ใจในรายละเอียดของเครื่องดื่มมื้อเช้าที่นี่อีกสักนิด
    เพราะพนักงานที่รับออเดอร์กาแฟเย็น สอบถามแม้กระทั่งความต้องการว่าชอบหวานมากหรือหวานน้อย



    ส่วนตัวแล้วตั้งแต่ที่ Amaya Café (ลูกมะพร้าว)
    เราว่าที่นี่ใส่ใจในรายละเอียดและมีความพิถีพิถันในการบริการเครื่องดื่มหลายๆอย่าง
    อย่างเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ
    อาจจะด้วยเป็นคนติดน้ำหวานทุกชนิด ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่าเป็นทุนเดิม
    เลยรู้สึกปลื้มกับจุดนี้ของอมารีเกาะสมุยเป็นพิเศษ
     

    • โพสต์-6
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    :+: Voyager Lounge :+:
    อิ่มจากมื้อเช้าแล้ว เลยถือโอกาสไปเดินเล่นในส่วนชั้น 2 ของอาคารเดียวกับ Amaya
    ซึ่งเป็นบริเวณโถงพักผ่อนและ facilities ส่วนกลางต่างๆ



    สำหรับ Voyager Lounge เป็นบริเวณห้องพักสำหรับแขกที่ early check-in หรือ check-out แล้ว แต่รอเวลา
    โดยมีนิตยสารและคอมพิวเตอร์ไว้คอยให้บริการ



    หรือจะเล่น fitness (FitCentre) ที่อยู่ติดกัน ก็มีบริการห้องอาบน้ำให้ด้วยค่ะ


    แบบห้องโถง open air ไว้รับลมชมวิวทะเลก็มีนะคะ


    สำหรับ Breeze Spa ขอละเว้นไว้ ไม่กล่าวถึงในรีวิวนี้ เพราะไม่มีโอกาสได้ใช้บริการค่ะ

    ----------------------------------

    :+: Prego :+:
    เปิดให้บริการ 1200 – 2400 น.
    http://www.prego-samui.com



    สำหรับมื้อเย็นของวันที่ 2 ของการเข้าพัก เราทานอาหารกันที่ห้องอาหาร“เปรโก้”
    อีกหนึ่งห้องอาหารของอมารีเกาะสมุยที่อยู่แยกตัวออกมาจากตัวที่พักสักนิดนึง
    ฝั่งเดียวกันกับ Thai Village Wing ค่ะ ให้บริการอาหารอิตาเลี่ยน



    มีบาร์ให้บริการด้านหน้า ภายในร้านตกแต่งด้วยอิฐบล๊อกสีส้มและไม้
    อันเป็นเอกลักษณ์สไตล์แคว้น Tuscany ของประเทศอิตาลี่
    และยังคงเน้นครัวเปิดด้วยเตาอบพิซซ่าแบบไม้ฟืนดั้งเดิม
    ภายในห้องอาหารมีทั้งส่วนเปิดโล่งและห้องแอร์



    เริ่มต้นมื้ออาหารกันด้วยค๊อกเทล ซึ่งเป็น Prego Signature ทั้ง 3 แก้ว (ราคาแก้วละ 240++บาท)
    ซึ่งได้นักปรุงเครื่องดื่มชื่อดังอย่างโจเซฟ โบโรสกี้ เป็นผู้คิดค้นสูตรเครื่องดื่มต่างๆให้
    - Stark & Thorny
    - Hashtag # Tickle Your Taste Budd
    - Bumblebee Bruiser




    สำหรับอาหารต่างๆ เริ่มต้นด้วยหมวด Antipasti หรือเมนูเริ่มต้นเรียกน้ำย่อย อย่างเช่นสลัดต่างๆ
    ซึ่งได้ลองสั่งเมนู Chef’s Recommendation มาลองชิม
    เมนูนี้ชี่อว่า “Antipasto Misto” (590++บาท) ค่ะ ประกอบด้วย cold cut ต่างๆ ผักและชีส



    จานถัดมา เป็น “Risotto taleggio e tartufo” ใส่เห็ดทรัฟเฟิล
    ** ริซอตโต (Risotto) เป็นอาหารอิตาเลียน ลักษณะของเมนูข้าวผัดที่มีลักษณะแฉะ ข้น และเหนียว
    เกิดจากการนำข้าวพันธุ์อิตาลีไปหุงหรือผัดใส่ครีม ไวน์ขาว น้ำซอส ใส่เนยและชีส
    v


    ทานอาหารอิตาเลี่ยนทั้งที จะขาดพิซซ่าได้อย่างไร??
    แถมพิซซ่าที่นี่เป็นแบบครัวเปิดอบเตาฟืนซะด้วย ต้องขอไปเดินชมดูสักหน่อย



    เมนูนี้ ชื่อว่า“Prosciutto crudo e rucola”
    เป็นพาร์ม่าแฮม โรยด้วยมอสซาเรลล่าและพาร์มีซาน
    v


    ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Tiramisu
    v


    จุดเด่นอีกอย่างที่เหมือนกับ Amaya Café
    ที่นี่มีเมนู Gluten Free สำหรับคนที่แพ้อาหารที่มีส่วนผสมของแป้งด้วยค่ะ

    • โพสต์-7
    Nina •  มกราคม 30 , 2560

    เช้าวันสุดท้ายที่อมารี เกาะสมุย
    เรายังคงออกมาเดินเล่นริมหาด ซึมซับบรรยากาศยามเช้าของหาดเฉวงเมื่อพระอาทิตย์ทอแสง
    ก่อนจะต้องอำลากันช่วงเที่ยงนี้




    นอกเหนือจากที่พักและบรรยากาศดีๆแล้ว ส่วนตัวยังประทับใจกับอัธยาศัยและความเอาใจใส่ของพนักงานที่นี่ค่ะ
    ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงที่เดินทักทายแขกตามโต๊ะอาหารมื้อเช้า

    ไม่บ่อยครั้งหรอกนะ ที่จะได้เห็นระดับ GM โรงแรม มาทักทายพูดคุยกับแขกที่เข้าพักระหว่างอาหารมื้อเช้า
    หรือแม้แต่พนักงานอีกท่าน ที่เห็นเราเดินถือกล้องถ่ายภาพเก็บภาพภายในที่พัก
    แล้วแอบมาเปิดพัดลมเพดานให้ ก่อนจะนำผ้าเย็นมาให้เช็ดคลายร้อนโดยที่เราไม่ได้ร้องขอ



    ช่วงเวลา 3 วัน 2 คืนที่ได้เต็มอิ่มกับการพักผ่อน อาจจะเจอสายฝนโปรยปรายบ้าง
    แต่เมื่อได้หยุดอยู่กับที่ ลองให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวนอะไรอีกครั้ง
    นึกถึงเรื่องราวของ'การเดินทางครั้งแรก’ของเราสองคน ณ สถานที่แห่งนี้

    ล่วงเลยผ่านมามากกว่า 15 ปีแล้วสินะ
    กับการเดินทางที่ไม่เคยหยุดพัก นับหลายร้อยทริป
    แต่“เกาะสมุย”ก็ยังคงเป็นสถานที่พิเศษสำหรับเราสองคนเสมอ  



    จริงๆแล้วการเดินทางครั้งนี้ มีความพิเศษมากกว่าการกลับมายังสถานที่แห่งความทรงจำครั้งแรก
    เพราะก่อนเดินทางเพียง 1 วัน สามีผ่านการสอบเพื่อเลื่อนตำแหน่งงาน
    หลังจากที่ต้องอ่านหนังสืออย่างหนักและเข้ารับการอบรมอย่างเข้มข้น

    ทริปนี้จึงเหมือนเป็นการพาเขามาพักผ่อน ก่อนจะเริ่มต้นบทบาทความรับผิดชอบในตำแหน่งงานใหม่
    รวมถึงฉลองความสำเร็จกับสิ่งที่เฝ้ารอมานาน

    จะว่าเป็นความโชคดี ... ทีได้รางวัลตั๋วเครื่องบิน
    จะว่าเป็นความโชคดี ... ที่อมารี เกาะสมุย กรุณาสนับสนุนที่พักครั้งนี้
    จะว่าเป็นความโชคดี ... ที่สามีสอบผ่านได้เลื่อนตำแหน่งงาน

    จะเป็นความโชคดีด้วยเรื่องอะไร ก็ตามแต่
    สำหรับเราแล้ว เราว่าเราโชคดีที่มีผู้ชายคนนี้เป็น’คู่ชีวิต’

    ขอบคุณนะคะ ที่รัก ... ที่วันนี้ยังคงคอยอยู่เคียงข้างและก้าวเดินไปด้วยกันเหมือนในวันเก่าๆ
    ถึงแม้เวลาจะผ่านมามากกว่า 15 ปีแล้วก็ตาม

    และนี่คือที่มา ของชื่อรีวิวนี้
    >> สมุยอีกกี่ครั้ง ก็ยังมีเธอ <<