[เที่ยวเดี่ยว] แต่เปลี่ยวแค่ครึ่งทาง จาก แม่ฮ่องสอน ถึง อ่างขาง

นี้เป็นการเขียนรีวิว (อย่างเป็นทางการ) ครั้งแรกของเรา

จริงๆแล้วการเดินทางครั้งนี้มันเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา..
ตอนนั้นก็เริ่มมีข่าว ว่าทางตอนนบนของประเทศไทยเริ่มได้สัมผัสอากาศเย็นๆ กันบ้างแล้ว
แถมคนไม่เยอะมาก อากาศก็ดี 

#เที่ยวเดี่ยวแต่เปลี่ยวแค่ครึ่งทาง เป็นการ #เที่ยวเดี่ยว ครั้งที่ 2 จาก กทม-แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง-ปาย-เชียงใหม่
แต่เพื่อนดันจะไปอ่างขาง เลยขอเกาะล้อไปด้วย #เที่ยวหมู่ 555555

ไปค่ะ... เริ่มเดินทางกัน(เกริ่นเยอะเดี๋ยวลืม)  ><’

เหมือนทุกๆครั้งการเริ่มต้นของการเดินทางคงหนีไม่พ้น "ซื้อตั๋ว"

และตั๋วที่สะดวกสุดและถูกที่สุดตอนนั้นคงหนีไม่พ้น "รถทัวร์"
และ รถทัวร์ที่วิ่ง กทม-แม่ฮ่องสอน มีเจ้าเดียวที่ให้บริการ คือ "สมบัติทัวร์"

กทม-แม่ฮ่องสอน มี 2 เที่ยวต่อวัน คือ 17.00น, 18.00น ราคาก็มี 700กว่า กับ 600กว่า
เราเน้นถูกเลยเลือกรอบ 18.00 ราคา 675บาท ถึงแม่ฮ่องสอนประมาน 9.00น

ปล.ใครจะใช้บริการสายนี้แนะนำจองล่วงหน้าไว้ก็ดี เพราะเราไปวันธรรมดาคนยังเต็ม!!

กระเป๋าพร้อม!! ครั้งนี้ติดถุงนอนไปด้วย

รองเท้าพร้อม!!

เริ่มออกเดินทาง เวลาดี 18.18 15/11/2016
นอนยาววววววววว~~ 15ชั่วโมงงงงง zzZZZ


วันที่ 16/11/2016
Hiiiiiiiiiiiii แม่ฮ่องสอน!!

เรามาถึงแม่ฮ่องสอนประมาน 9โมง
ก่อนจะเดินทางต่อ ขอล้างหน้า แปรงฟัน ก่อนละกัน

เสร็จเรียบร้อย!!

เรียกวินไปส่งที่ร้านเช่ารถ ค่าเสียหายก็ 40บาท
แต่ถ้าใครมา 2คนขึ้นไป เราแนะนำเรียกสามล้อไปเลย ค่าเสียหายครั้งละ 80บาท

เห้ยแกรรรรรรรรรรร!!
ยังไม่ทันไปไหนเลย มีหนุ่มมาแจกเบอร์วะ #เขิลลลลลลลลลล
แต่ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคุณลุงวินนั้นเองงงง.. 55555
เดี๋ยวนี้เขาล้ำกันแล้วนะคะ  ลุงๆวินเขามีนามบัตรแจกวะ ลุงแกบอกว่า ไว้โทรเรียกลุงแกขากลับ

ลุงวินพามาร้านเช่ารถแถวๆ วัดจองคำ ชื่อร้าน PA
รถที่ร้านก็มีหลายแบบ หลายราคา
เราเลือกแบบเกียร์ธรรมดา และบอกที่ร้านไปว่า "คันไหนก็ได้พี่ที่ขึ้นปางอุ๋งได้และปลอดภัย"
พี่แกเลยเลือกให้เป็น ดรีม125แก่ๆมา 1คัน บังโกนแตก เบรกมือหัก
พอเราเห็นสภาพเท่านั้นแหละ ..."ขึ้นได้แน่นะพี่"
"แน่นอน! เขาเอาคันนี้ขึ้นไปปางอุ๋งกันหลายคนแล้ว" พี่ที่ร้านกล่าว..
"ขึ้นได้ก็ได้วะ" (คิดในใจ)

เรา ได้ดรีม125แก่ๆมาในราคาวันละ 180บาท (24 ชม.) เราเช่าวันครึ่ง พี่ที่ร้านเลยคิด 280บาท + เสียค่ามัดจำรถอีก 1000 บาท แถมถ้ารถมีปัญหาอะไรสามารถโทรหาที่ร้านได้ 24 ชม.

เห้ยยยยยยยย เหมือนฝนจะตก!!

เราลืมเล่าให้ฟัง ตอนนั่งซ้อนมอไซต์ลุงมาที่ร้าน
ลุงวินแกก็เล่าเกี่ยวกับแม่ฮ่องสอน ที่เที่ยวโน่นนั้น

แกเลยถามว่าเราจะไปเที่ยวไหน?..
จะไปปางอุ๋งจ้าาา!!
แล้วนี่เตรียมเสื้อกันฝนมารึเปล่า? ช่วงนี้แม่ฮ่องสอนฝนตกทุกวันนะ! ..ลุงวินบอก
ห๊ะ!! .. (เค้าอยากเจอหมอก อยากเจออากาศหนาวนะะะะะะะะ)
แต่มองไปบนฟ้า เมฆฝนจ้าาาาาาาาาาาาาา ☁️☁️

แต่ไหนๆมาแล้วก็ต้องไปต่อค่ะ..ไปค่ะ


จุดแวะที่ 1 : ไหว้เอาเลิศเอาชัย "วัดพระธาตุดอยกองมู"

ตั้งอยู่บนภูเขา ห่างออกมาจากตัวเมืองไม่มาก ทางขึ้นก็ชัน ขรุขระบ้าง แต่ขับมอไซต์ขึ้นไปได้สบายๆ

มองเมืองสามหมอกจากมุมสูง

ที่วัดพระธาตุดอยกองมู มีมุมที่สามารถมองเมืองแม่ฮ่องสอนแบบสุดเมืองสุดเขา สวยมากอะแกรรรรรร..

สนามบินแม่ฮ่องสอน ไกล ไกล..

จุดแวะที่ 2 : ร้านก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา

ไหนๆก็มาถึงวัดพระธาตุดอยกองมู ก็ต้องแวะไปเยือนร้านกาแฟร้านดัง ที่ใครๆก็ต่างบอกวิวดี วิวสวย
ใช่ค่ะ!! "ร้าน Before Sunset Coffee" หรือ "ร้านกาแฟก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา"

ซึ่งร้านกาแฟอยู่ด้านหลังของวัด มีป้ายบอกใหญ่ เห็นชัด ตามโลดดดดดดดด..

เนี่ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิวเขาเป็นแบบนี้ สวยไม๊ละ!!??

จะมานั่งถ่ายวิวเฉยๆก็กะไรอยู่ เลยสั่งโกโก้เย็นมาดื่มให้ชื่นใจ ราคาเครื่องดื่มที่ร้านก็ราคาทั่วไปไม่ถูกไม่แพง

แค่ได้ดื่มอะไรเย็นๆกับวิวสวยๆก็คุ้มแล้วแกรรรรร..
มาก็แวะมาด้วยละ เดี๋ยวเขาจะว่ามาไม่ถึง
#ร้านก่อนตะวันลับแนวเหลี่นมภูผา (ชื่อร้านจะยาวไปไหน!!??)

 

จุดแวะที่ 3 : สะพานซูตองเป้

จากวัด พระธาตุดอยกองมูเราก็ขับมอไซต์มาอีก 14 กม. ก็มาถึงสะพานซูตองเป้ ซึ่งตอนนั้นเวลาประมานเที่ยงๆ แดดนี่แรงงงงงงงงงงงง.. แรงได้อีก!! ☀️

คงนึกกันออก แดดประเทศไทยไม่ว่าจะฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ต่างก็ร้อนนนนนนน ร้อนจนต้องร้องขอชีวิต!!

สะพานที่สร้างด้วยความศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้าน

สะพานซูตองเป้มุมสูง

ขอให้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัยทุกประการด้วยนะคะ

ส่งไปไว้คิดถึง ณ.สะพานซูตองเป้

ทำเนียมของการเดินทางของเรานอกจากจะถ่ายภาพและบันทึกการเดินแล้ว ก็มีโปสการ์ดนี่แหละที่จะพยายามจะส่งทุกที่ ที่มีโอกาส
ซึ่งที่สะพานซูตองเป้มีร้านขายโปสการ์ดด้วย ใบละ 20บาท+ค่าส่ง 3 บาท

ปล.อย่าหายระหว่างละ คนปลายทางรออยู่


จุดแวะที่ 4 : น้ำตกผาเสื่อ

เราออกเดินทางกันอีกครั้ง น้ำตกผาเสื่อก็เป็นที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่อยู่ระหว่างทางจะไปปางอุ๋ง เราก็ไม่ลืมที่จะแวะเที่ยว
ซึ่งน้ำตกผาเสื่ออยู่ห่างจากสะพานซูตองเป้ประมาน 9 กม.

แวะพักตูด พักมือ สะหน่อย..
ก่อนจะลงไปน้ำตก เจ้าหน้าที่ก็จะให้ลงชื่อไว้ด้วย
แถมบอกว่า "ช่วงนี้น้ำน้อยนะครับ"
"เออออออออ.. น้อยจริง"

เราเริ่มออกเดินทางกันอีกครั้ง ครั้งนี้ตั้งใจว่าจะให้ถึงปางอุ๋งก่อนเย็น
เปิด GPS บอกอีกแค่ 27 กม. จากน้ำตกผาเสื่อก็จะถึงปางอุ๋ง

แต่ เป็น 27 กม.ที่เกรงสุดๆ ทางเริ่มคดเคี้ยวและ ชันมากขึ้น และยิ่ง 7 กม.สุดท้าย ที่แยกจากทางไปหมู่บ้านรักไทยด้วยนะ เป็นทางเข้าหมู่บ้านที่แคบ ชันสุดดดดดดดด
สงสารอิแก่ดรีม125 ยิ่งนัก!! 55555555
ทุกการเข้าโค้ง ทุกการขึ้นเนิน ต้องมีสติสุดๆ

แกรรรรรรรรรรรรรร ฉันถึงแล้ว!!
เป็นการขับมอไซต์ 40กว่ากิโล ที่แวะตลอดทาง ใช้เวลาทั้งสิ้น 5 ชม. 55555555555
ใช้เวลาเหมือนขับข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว

ที่ปางอุ๋งจะแบ่งที่พักเป็น 2โซน คือ
1.โซนด้านนอก จะเป็นที่กางเต๊นท์ และบ้านพักเป็นหลังๆ อยู่ใกล้ป้ายอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง และท่าล่องแพ
จะพักที่นี้ต้องไปติดต่อศูนย์ศิลปชีพ (อยู่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน)

2. โซนด้านใน จะเป็นลานกางเต๊นท์อย่างเดียว ส่วนนี้จะดูแลโดยกรมป่าไม้ มีเต๊นท์ไว้ให้บริการทั้งของกรมป่าไม้และของเอกชน ใครจะแบกเต๊นท์มาเองก็ได้นะ ที่เยอะแยะ
ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดเต๊นท์
เต๊นท์เล็ก 250 บาท เหมาะแก่การนอน 1-2คน (นอน 2คนแบบไม่ขยับตัว 5555)
เต๊นท์ใหญ่ 400-450 บาท (นอน 2คน 400, นอน 3คน 450)

นี่ไงเต๊นท์เรา ราคา 250บาท กางไว้เรียบร้อย มีที่กันน้ำค้างอย่างดี แถมอยู่ริมน้ำอีก

ยังไม่ทันได้เก็บของ เจ้าหงษ์ขาวก็แวะมาทักทายสะแล้วววว

ลูกสน อีกหนึ่งอย่างที่มาปางอุ๋งต้องเจอ

หลังจากเก็บของ เรียบร้อย
ขออาบน้ำ ล้างตัว ล้างหน้าแปป!!

แกรรรรรรรรร น้ำมันเย็นมากกกกกกก.. เหมือนเอาน้ำที่ใส่น้ำแข็งมาสาดใส่ตัว ❄️❄️
แถมน้ำยังไหลเบาาาาาาาาาา เบาได้อีก!! #ทรมานชิบหาย
นี่ขนาดสี่โมงเย็นนะ ยังเย็นขนาดนี้
แบบนี้ถามว่าตอนเช้าจะอาบไม๊ ตอบเลยว่า.. #ไม่ค่ะ 55555555

ได้เวลาสำรวจพื้นที่ ขอเสพบรรยากาศก่อนนะ

มาปางอุ๋งหาเสื้อกันหนาว ที่ข้างๆว่างเยอะแยะ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ #ขอพื้นที่ฝึกแต่งกลอน

ที่ปางอุ๋ง 5โมงครึ่งก็เริ่มมืดแล้ว แถมอากาศก็เริ่มเย็นๆด้วยเหมือนกัน กลับเต๊นท์ค่ะ

นอนเต๊นท์หนาวๆ ใต้ความ 17 องศา

มา ปางอุ๋งไม่ต้องกลัวจะอด เพราะที่นี้มีร้านสวัสดีการขายอาหารตามสั่ง ขนม นม เนย ราคาก็ปกติทั่วไปมากๆ แถวมีหมูกระทะอีกด้วยนะคุณ ชุดละ 300บาท ส่งถึงหน้าเต๊นท์ กินเสร็จก็นอน

แต่ด้วยที่เรามาเดี่ยวๆ เลยสั่งเมนูสำหรับคนคิดไม่ออกว่าอยากกินอะไร "ข้าวผัดกะเพราะหมูสับไข่ดาว" กินภายใต้แสงไฟ(ฉาย)

#ทนความหนาวมาล่าดาวแบบกากๆ

สวัสดี 17/11/2016

สะดุ้งตื่นเพราะทนความหนาวไม่ไหว ตอนนั้นไม่รู้กี่องศา แต่ตื่นมาตอนตี 4กว่าๆ
กะว่าจะออกมาถ่ายดาว ปรากฏฟ้าปิดจ้าาาาาาา..
ไม่เห็นดาวเลย เมฆเต็ม!!
เลยกลับเข้าไปนอนในเต๊นท์ต่อ
นอนคดอยู่ในถุงนอน ทั้งผ้าพันคอ ทั้งหมวกไหมพรม อัดตัวอยู่ในถุงนอนราคา 199บาท 555555
#ซื้อมาเมื่อ3ปีที่แล้ว ได้ใช้สักทีโว้ยยยย

แต่ทำได้แค่นอนพลิกไปพลิกมา
เอาเว้ยตี 5กว่าละ เลยออกมารอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพาน

นั่งรอสักพัก ทำไมสะพานมันสั่นๆ
ปรากฏมีป้าจีนมานั่งสมาธิอยู่ที่ปลายสะพาน ไม่ได้นั่งสมาธิอย่างเดียว ต่อด้วยเดินจงกรม 555
ตอนนั้นงงมาก.. จะทำไงต่อดี จะนั่งต่อไปหรือลุกหนีดี!!??
แต่แกก็ทำท่าประมานว่า นั่งต่อเลยไม่เป็นไร
ทีนี่เดินจงกรมรอบตัวเราเลยจ้าาาา กดดันสุดๆ 555

แสงมาแว้วววววว...

เห็นแล้วละลายยยย..

น้ำค้างแรงแค่ไหน ดูที่เบาะรถ 555555

กิจกรรมที่ขาดไม่ได้คือ ล่องแพ
เที่ยวละ 150บาท นั่งได้ 2 คน ใช้เวลาประมาน 20-30นาที
แต่เรามาเป็นคี่ ก็ล่องเป็นคี่นี่แหละ 555555

เจอหงษ์ดำแล้ววววววว..

บอกลาปางอุ๋งด้วยโปสการ์ดเช่นเคย ❤️❤️ #โปสการ์ดใบที่2

เราออกจากปางอุ๋งประมาน 9โมง แต่ที่เที่ยวเรายังไปไม่ครบ สถานที่ต่อไปคือ "บ้านรักไทย" ซึ่งอยู่ห่างจากปางอุ๋ง 14 กม. แต่ทางไปสบายกว่าทางไปปางอุ๋งมากกกกกกกก.. ทางลาดยางอย่างดี ขับมอไซต์ไปโคตรมัน

จุดแวะที่ 5 : บ้านรักไทย #แม่ฮ่องสอน

เรามาถึงบ้านรักไทยเกือบๆ 9โมงครึ่ง
จริงๆหมู่บ้านบ้านรักไทย ถ้ามาแล้วต้องไปคงหนีไม่พ้นลีไวน์รักไทย รีสอร์ท แต่เราไม่ไป 555555

เรารีบบบบบบบบ!! เพราะต้องไปถึงแม่ฮ่องสอนก่อนบ่ายโมง เนื่องจากจองตั๋วรถตู้ไปปาย รอบบ่ายโมงไว้ตั้งแต่วันมาถึงแม่ฮ่องสอน

รีบเสพบรรยากาศและเดินทางต่อ..

ด้วยความที่อยากได้ตราปั๊มของอุทยานแห่งชาติ เราเลยแวะมาที่น้ำตกผาเสื่ออีกครั้ง
แต่ปรากฏว่าที่นี้ไม่มี อ้าวววววววววววว..
เจ้าหน้าที่บอกต้องไปที่ถ้ำปลา อยู่ห่างจากที่นี้ประมาน 11 กม.

ดูเวลาแล้วยังพอมีเวลาเหลือ
อะ.. ถ้ำปลาก็ถ้ำปลา!! 

ถึงแบ้ววววววววว..
รีบหาที่จอดรถ และตรงไปหาเจ้าหน้าที่ขอตราปั๊ม ครั้งนี้เราไม่ได้แวะเข้าไปดู เพราะเวลาเหลือไม่มาก กลัวไม่ทันขึ้นรถไปปาย

ได้มาแล้วครับบบบบ เสร็จภาระกิจ!!

หลังจากคืนมอไซต์เสร็จเรียบร้อย โดนค่าน้ำมันไป 70 บาท โคตรคุ้มมมมมมม..!!

แนะ : มาเที่ยวปางอุ๋งหาเช่ารถมาคุ้มสุด แถมได้เที่ยวระหว่างทางอีกด้วยยยย #ดีงามมมมมมม

-----------------------------------
ตั๋วไปปาย 150 บาท นั่งไป 3 ชม.

แนะ : 1. กินยาแก้เมารถกันไว้เลย เราจะไม่เสี่ยง อ้วกกลางคัน กลางทางเด็ดขาด!!
2. ใครนั่งรถตู้จากแม่ฮ่องสอน ไปปาย ไปเชียงใหม่ ช่วงบ่าย ให้เลือกที่นั่งฝั่งที่ไม่ใช่ฝั่งเดียวกับคนขับ เพราะนั่งฝั่งเดียวกับคนขับแม่งร้อนนน แดดส่อง ยิ่งเจอรถตู้ไม่มีม่านกันแดดด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ #เค้าผ่านมาแล้วววววว

นั่งมา 3 ชม. ก็มาถึงปาย เวลาประมาน 4โมงเย็น

ลงมาจากรถตู้ได้เท่านั้นแหละ แม่เจ้าาาาาาาาา!!
คนเยอะไปเปล่าวะ!!?? ที่สำคัญนี่กูยังอยู่ประเทศไทยอยู่ไหม มีแต่ฝรั่งหัวทองหัวแดงเต็มไปหมดดด
ต้องหาเช่ามอไซต์ก่อน เพราะไหล่ใกล้หักแล้ว กระเป๋าหนักชิบ_ายยยยยยย..
ร้านเช่ารถมอไซต์มีมากมายพอๆกับนักท่องเที่ยวนั้นแหละ แต่เราเลือกร้านที่ใกล้ท่ารถตู้มากที่สุด สะดวกตอนจะคืนรถ
เราเช่ามอไซต์แบบเกียร์ออโต้ วันละ 150บาท (24 ชม.) ไม่มีค่ามัดจำ แต่ใช้บัตรประชาชนมัดจำไว้

ไปต่อคือ "ที่พัก" เลยถามกับพี่เจ้าของร้านเช่ามอไซต์ว่า รู้จักที่พักถูกๆดีๆบ้างไหมพี่??
แต่ได้คำตอบมาว่า.. โอ้ยยยยย น้อง 2 3 วันนี้นักท่องเที่ยวมาเยอะมาก ที่พักส่วนใหญ่เต็มเกือบหมด!!
แต่พี่แกก็ยังใจดี โทรถามที่พักที่แกรู้จักให้ แต่ปรากฏ เต็มหมดเลยจ้าาาาาาาา!!
อ้าวววววว.. แล้วตรูจะไปพักที่ไหนวะ (คิดในใจ)
นั้นน้องลองขับไปทางแม่น้ำปายดู แถวนั้นมีที่พักเยอะ.. พี่เจ้าของร้านเช่ามอไซต์แนะนำ

สรุปเราต้องขับมอไซต์ออกจากร้าน ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า แม่น้ำปายอยู่ทางไหน? 55555555

ขับมามั่วๆ แถวนี้ดูที่พักเยอะดี ลองเข้าไปถามดูดีกว่า..

เรา : พี่คะ มีที่พักว่างไหมคะ?
เขา : เต็มหมดเลยน้องงงง.. น้องจะพักกี่คนละ?
เรา : คนเดียวพี่
เขา : มีแบบโดมเหลือเตียงเดียว 100 ต่อคืน
เรา : ร้อยเดียว!! ห้องน้ำรวมหรือคะ?
เขา: ใช่ๆ ดูห้องก่อนไหม
เรา: นั้นขอดูก่อนค่ะ
โอ้ยยยยยยยย แกร!! นี่ขนาดฉันเป็นคนนอนง่ายนะ แต่มันไม่ไหวจริง กลิ่นแบบบบบบบ..
หลังจากดูเสร็จ
เรา : พี่ไม่มีเหลือหรอคะ?
เขา : นั้นเดียวถามที่อื่นให้ละกัน
พี่แกหายไปสักพัก ขณะที่เราก็หาที่พักทางอินเตอร์เน็ตไป
เขา : น้องๆ ที่พักข้างๆยังมีห้องเหลืออยู่ เป็นพัดลมนะ 300 ห้องน้ำในตัว
ตอนนั้น ตาลุกวาววววววววว สวรรค์มาโปรดกูแล้ววววว!!
เขา : น้องขับตามพี่มาเลย
สรุป เราได้ที่พัก ชื่อ Riverside ห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัว เตียง 6ฟุต ผ้าเช็ดตัว ทีวี น้ำดื่ม 2ขวด กาแฟ ขนม สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน(ไม่มีอย่างเดียวคือตู้เย็น) ในราคาคืนละ 300 บาท ห้องก็สะอาดสะอาน

เก็บข้างของ อาบน้ำเสร็จ ประมาน 6โมงกว่าๆก็ออกมาเดินถนนคนเดิน
ถนนคนเดินที่ปายมีทุกวัน ของกิน ของฝาก เยอะแยะไปหมด แต่เราไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร เพราะก็เหมือนกันถนนคนเดินทั่วๆไปนั้นแหละ

 

วันที่ 18/11/2016 ตื่นแต่มืดดดดดด..
แว๊นซ์ออกจากที่พักประมานตี 5นิดๆ เพราะเราจะไปดูทะเลหมอกหยุนไหล ที่เที่ยวนี้ถูกแนะนำมาจากคุณป้าเจ้าของที่พัก Riverside

เอาจริงๆนะเราไม่ได้วางแผนจะมาเที่ยวปายตั้งแต่แรก เกิดปัญหานิดหน่อยเลยต้องเปลี่ยนแผนมานอนปาย 1คืน แผนเที่ยวเลยว่างมากๆ

ตอนขับมอไซต์ออกมา ที่ปายยังเงียบมากๆ เหมือนยังไม่มีใครตื่น
ขับมาอีกสักพัก ละอองอะไรวะ??
หืออออออ..ฝนตกหรอ ไม่นะ ม่ายยยยยยยยยยยย.. ฉันจะไปดูทะเลหมอกกกกกก

ตั้งสติค่ะ!! สรุปมันไม่ใช่ฝนค่ะ แต่มันคือละอองหมอกที่เป็นน้ำเหมือนละอองฝน
เหมือนฝนไม่เหมือนฝน คิดดูเอาละกันกระเป๋ากับเสื้อเราเปียกกกกกกก

จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล อยู่ห่างจากถนนคนเดินปายประมาน 6 กม.มั้ง ขับเลยหมู่บ้านสันติชลประมาน 1กม.
ยิ่งขับไปหมอกยิ่งหนา อากาศยิ่งหนาว น้ำมูกก็ดันมาไหลอีก เอาเข้าไป..

ตอนเรามาถึงจุดชมทะเลหมอก แทบจะยังไม่มีใครมาเลย มีแค่เรากับฝรั่งอีก 2คน ที่มาถึงก่อนใคร

เออลืมบอก!! ทางขึ้นก่อนถึงจุดชมทะเลหมอกชันมากกกกกกกกก และทางเป็นดินลูกรัง
ชันไม่ชันฝรั่งที่ขับขึ้นก่อนหน้าเราต้องให้คนซ้อนลงเดิน เห็นแล้วก็สงสาร แต่แค่ตัวเองก็ยังจะเอาตัวเองไม่รอด 5555555 ขับกันมาก็ระวังๆ

และที่นี่มีค่าเข้าด้วยนะ คนละ 20บาท มีอาหาร กาแฟ ชาขายพร้อม

นั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น แต่หมอกหนาไปไม๊?? วิสัยทัศน์ในการมองเห็นประมาน 5เมตร (ก็เวอร์ไปปปปปปป..)

 

ใน google มีทุกอย่าง อย่างที่บอกตอนแรกนั้นแหละ ว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะเที่ยวปาย เลยไม่ได้หาข้อมูลมาว่าปายมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ระหว่างมาเก็บกระเป๋าที่ห้อง ก็หาจ้าาาาา เที่ยวที่ไหนได้บ้าง..??
แล้วก็ตามเขาเลยจ้าาาาาา ไม่คิดอะไรทั้งนั้น 555

ก่อนออกไปเที่ยวรอบปาย เราก็ฝากกระเป๋าไว้กับที่พัก เย็นๆค่อยกลับมาเอา

แผนคราวๆในการเที่ยวปาย ครั้งนี้เป็นการเที่ยวแบบวงรี

จุดที่ 1 : วัดพระธาตุแม่เย็น
อยู่ห่างจากถนนคนเดินปายประมาน 2 กม. เราขับตาม GPS +ป้ายบอกทาง

พอมาถึงเท่าไรแหละ แม่เจ้าาาาาาาาา.. บันได เยอะไปไม๊?? แต่ไหนๆมาแล้วก็ต้องมาให้ถึง

เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
นี่เราแก่แล้วใช่ไม๊ เหนื่อยจังวะ!!

แต่ยัง!! บันไดยังไม่หมด ขึ้นไปอีกค่ะ
เดิน เดิน เดิน เดิน ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้นจริงๆแล้วมันสามารถขับรถขึ้นมาถึงลานจอดที่วัดได้เลย แต่เราจอดตั้งแต่ด้านล่าง ล่างสุดดดดดด!! เลยได้เดินเยอะเป็นพิเศษ

 

จุดที่ 2 ที่เราจะไปคือ สะพานประวัติศาสตร์(ท่าปาย) แต่ก่อนไปถึงวิว 2ข้างทางก็งามไปอีก ทางที่เราขับไปจะเจออุโมงค์ต้นไม้ดอกสีเหลืองเป็นระยะๆ สวยอะ สวยจนต้องจอดถ่ายรูป

จริงๆระหว่างทางที่เราขับผ่านไป ก็ยังมีที่เที่ยวให้แวะอีกเยอะ พวกบ้านต้นไม้ หมู่บ้านช้าง ภูโคลน อยู่โซนๆนี้หมดเลย

ถึงของจริง!! จุดที่ 2 : สะพานประวัติศาสตร์(ท่าปาย)
ใครจะมาที่นี้จากการนำทางด้วย GPS ก็ระบุให้ถูกด้วยนะเออ.. เดี๋ยวจะไปสะพานอื่นจะหาว่าเราไม่เตือน

 

จุดที่ 3 : กองแลน หรือ แคนยอนเมืองปาย

เดินขึ้นจากลานจอดไปประมาน 150เมตรเอง ก็จะถึงแคนยอน แต่เรามาถึงที่นี่ประมานเที่ยงกว่าๆ แบบแดดร้อนมากกกกกกกกก แสบแขน แสบหน้าไปหมด เลยแวะที่นี่ได้ไม่นาน


จุดที่ 4 : Coffee in Love
แต่ก่อนที่เราจะข้ามไป Coffee in love  เราแวะกินข้าวก่อน ซึ่งร้านข้าวก็อยู่ตรงข้ามกับ CIL นั้นแหละ มีหลายร้าน เลือกได้ตามกำลังทรัพย์ในกระเป๋าเลย

กินข้าวเสร็จ เราก็เดินข้ามไปเที่ยว คนมาที่นี่เยอะพอสมควร ที่จอดรถเต็มทุกอนู มาที่นี้ยากพอควรที่จะถ่ายรูปไม่ติดคน แต่เราสามารถ 555555

กลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้
คืนมอไซต์
นั่งรอรถตู้เปรมประชาไปเชียงใหม่ รอบ 15.00
จากปายมาเชียงใหม่ใช้เวลาประมาน 3ชม.ครึ่ง
และทางจากปายมาเชียงใหม่นี่แบบโคตรโค้ง โค้งแล้วโค้งอีก โค้งไม่จบไม่สิ้น เกือบอ้วก!!
เราไม่คิดว่ามันเป็นถนนนะ คิดว่าเป็นเส้นมาม่า 5555555
มาถึงอาเขตเชียงใหม่ก็ประมาน 6โมงครึ่ง

คืนนี้เราจะพักที่เชียงใหม่ จองผ่าน booking.com

นี่ที่พักเราคืนนี้ Hug Bed and breakfast อยู่แถวบขส.ช้างเผือก ตรงข้ามกับร้านโจ๊กสมเพชร
เราเลือกนอนเป็นโฮสเทล เพราะถูก!!! 555

เราว่าที่นี้โอเคเลยนะ สะดวกใกล้แหล่งของกิน สะอาด เจ้าของบริการดีมากกกกกก.. มีความเป็นส่วนตัวด้วย มีอาหารเช้า wifiฟรี มีผ้าเช็ดตัวให้ด้วย
ข้อดีมีเยอะ!!
แต่ข้อเสียก็มีนะ คือ ถ้าอยู่เตียงบนจะปีนขึ้นยากนิดหน่อย กับที่แขวนผ้าในห้องน้ำจะอยู่สูงไปไหน เห็นใจคนที่สูงไม่ถึง 160หน่อยค่ะ 55555555

เช้าวันที่ 19.11.2016

เช้านี้เรามีนัดกับเพื่อน ไปเที่ยวอ่างขาง
ไปอ่างขางพวกเราเช่ารถยนต์กันไปค่ะ ไปทางเชียงดาว ผ่านหมู่บ้านอรุโณทัย ไกลหน่อย แต่ทางไม่โหดมาก ค่อยๆไป

แต่ก่อนถึงอ่างขางเราแวะจุดชมวิว เราจำไม่ได้ว่าที่นี้เรียนกว่าอะไร แต่วิวมันสวยมากกกกก ถึงขั้นต้องถอยรถกลับมาจอดถ่ายรูป

ถึงแล้วอ่างขาง
พวกเราพักกันที่ บ้านจี๊ดจ๊าด โซนบี ราคา 2000 นอนได้ 4 คน ตกคนละ 500บาท มีอาหารเช้าให้ด้วย
ห้องสะอาด ดีงามมม มมมม แถมห้องที่เราได้ยังวิวดีงามไปอีกกกกกก

พวกเราแวะเก็บกระเป๋า แล้วออกไปเที่ยวในโครงการหลวงอ่างขางเลยค่ะ
ค่าเข้าคนละ 50บาท ถ้าเอารถเข้าไปด้วยก็คันละ 50บาท
ที่นี้มีพรรไม้ ดอกไม้ แปลกๆสวยๆ เต็มไปหมดเลยค่ะ

 

ไม่ลืมส่งโปสการ์ด (ใบที่ 4ของทริป)

ที่ดอยอ่างขางก็มีถนนคนเดินเหมือนกันนะคุณณณณณณ..
เป็นซอยเล็กๆ ของที่ขายส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารพื้นเมืองบ้าง อาหารทั่วไปบ้าง ของฝาก เสื้อผ้าก็มีเยอะเหมือนกัน

แต่พวกเราเน้นที่ของกิน เดินไปกินไป ส่วนมื้อใหญ่ก็มาจัดที่ระเบียงหน้าห้อง

เช้าวันที่ 20.11.2016
พวกเราตื่นกันประมานตี 5 เพราะจะไปดูพระอาทิตย์กัน
โอ้ยยยยยยย โคตรหนาวววววว ❄️❄️
เท้าไม่สามารถสัมผัสพื้นห้องได้เลย มันเย็นไปปปปปปปปป...
น้ำก็เย็นจนมือชาาาาาา
นี่ฉันมาเที่ยวหรือพาตัวเองมาทรมาน 5555555
ออกจากห้องก็ตี5ครึ่ง มาดูที่วัดอุณหภูมิ 13 องศาาาาาา

หมอกก็เยอะ กระจกรถเป็นฝ้าอีก ขับกันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบทุลักทุเลมากกกก 555
อีกใจก็กลัวนะ แต่ก็ช่วยๆกันดูทางกันไป 4คน
 

โอ้ยยยยยยยยยยยย ทะเลลลลลลลลลลหมอก!!

มาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ 55555
เอาจริงๆนะ นี่คือทะเลหมอกครั้งแรกที่มาเห็นด้วยตาตัวเอง ครั้งแรกจริงๆ ไปเที่ยวมาก็เยอะ

โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย... มันสวยจริงๆ

 

หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ลานกางเต๊นท์ม่อนสนแล้วพวกเราก็ไปเที่ยว ไร่ชา 2000 กันต่อจ้าาาา

หูยยยยยยยย~~ อลังการรรร..

นี่ขนาดเรามากันสายแล้วนะ 8โมงกว่าได้ ยังมีไอเย็นลอยขึ้นมาเลย
ที่ไร่ชาหนาวใช้ได้เลย แค่หายใจยังมีไอออกมาให้เห็น

จากไร่ชาแล้ว พวกเรามาต่อกันที่ไร่สตอเบอรี่

ก่อนจบทริปพวกเราแวะเจ้าไปที่โครงการหลวงกันอีกรอบ

ปิดท้ายทริปจริงๆ ที่ร้านโอ้กะจู๋ 

จบทริปเที่ยวเดี่ยวครั้งที่ 2 + เที่ยวกลุ่มอย่างสวยงาม

- ครั้งแรกของการนอนเต๊นท์คนเดียว ไม่เหงานะ แต่หนาวสัสสสสสสสสส..
- "ภาษาไม่มีปัญหา ถ้าคุณกล้าจะสื่อสาร" พูดไทย อังกฤษ จีน มันไปด้วยกันได้.. 55555
- แบกกล้องใหม่เบา เล็ก และดีกว่าเดิม #sonyA5100
- ตั้งกล้องถ่ายคนเดียวเหมือนคนบ้า อ่ะ!! แต่มีคนจำเราได้นะคะ
- ทะเลหมอกที่เห็นกับตาตัวเองครั้งแรก สวยมากกกกกกกกก สวนเกิ๊นนนนนนนนน..
- เพื่อนปัท พี่มิ้ว กิ๊ฟ ขอบคุณที่ให้เกาะล้อไปเที่ยวอ่างขางด้วย

"ไปเที่ยวไม่ยาก แค่ก้าวออกจากบ้าน" ไปค่ะ!!!

ปล. ว่าแต่ #เที่ยวเดี่ยว ครั้งที่3 จะไปไหนดี!!!????

สวัสดีค่ะ.

-----------------------------------------------------------------------------------------

สรุป
วันเดินทาง : 15-20/11/2016
จุดหมายปลายทาง : แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง-ปาย-อ่างขาง
ค่าใช้จ่าย :
#เที่ยวเดี่ยว แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง-ปาย (รวมค่ารถกลับ กทม.ด้วย) = 3,549 บาท (รวมทุกอย่าง)
#เที่ยวกลุ่ม อ่างขาง = 1,443 บาท (รวมทุกอย่าง)

สรุปง่ายๆ ทริปนี้กำเงิน 5,000 บาทไปมีทอน