"ลุยเดี่ยว เที่ยวหลวงพระบาง ไม่อ้างว้างอย่างที่คิด"
ครั้งนี้ลุยเดี่ยวเที่ยวหลวงพระบางมา แล้วพบว่าไม่ได้อ้างว้างอย่างที่คิด งบประมาณอันน้อยนิด 3 วัน 2 คืนคิดแล้วเพียง 4,394.71 บาท
ติดตามบันทึกการเดินทางต่อๆไปได้ที่ :
GowithAmp
https://facebook.com/GowithAmp
“หลวงพระบาง (ลาว: ຫຼວງພຣະບາງ) เป็นเมืองเอกของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกัน เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้วยเหตุผล คือ มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร และมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม" ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/หลวงพระบาง
(โดยส่วนตัวคิดว่าอารมณ์คล้ายจังหวัดน่าน ของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีวัดเยอะมาก ปั่นจักรยานชิลๆแวะไหว้พระ แวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง)
สถานที่การเดินทาง
- ตลาดมืด
- วัดหอเซียง (Wat Hua Xiang)
- วัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร หรือวัดทาดน้อย (Wat Mahathat)
- ตลาดเช้า
- วัดโพนไซซะนะสงคราม (Phonxay)
- ร้านประชานิยม (Prashaniyom Coffee)
- ร้านโจมา (Joma Bakery Cafe')
- ตาดกวางสี (Kuang Si Waterfall)
- ซอยบุฟเฟ่ต์
- วัดเซียงทอง (Wat Xieng Thong)
- วัดแสนสุขาราม (Wat Sene)
- หอพะบาง (Haw Pha Bang)
- พิพิธภัณฑ์ (National Museum)
ช่วงต้นปี 2559 ที่ผ่านมา สายการบินแอร์เอเชียร์เปิดเส้นทางบินตรงไทย-ลาวครั้งแรกที่หลวงพระบาง ด้วยโปรโมชั่น ไป-กลับ 1,690 บาท หลายๆคนคงจะได้จับจองตั๋วโปรฯนี้กันไปแล้ว หรืออาจจะเคยได้เห็นผ่านตามาบ้าง เราจึงรีบชวนเพื่อนที่คิดว่าน่าจะไปด้วยกันได้ทันที แล้วก็ดีใจมากที่เพื่อนตอบปากรับคำ เพราะปกติแล้วเวลาชวนใครจองอะไรล่วงหน้าแบบนี้จะไม่ค่อยมีใครกล้าเสี่ยงด้วย ฮ่าๆๆ เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง หาข้อมูลและศึกษาแผนที่ต่างๆรวมถึงจองที่พักผ่านเว็บไซด์ ได้ราคามาตามที่ถูกใจ แต่แล้ว!! เพื่อนลางานไปด้วยกันไม่ได้.. เราก็แอบเสียดายแต่รู้ว่าเพื่อนเราทั้งเสียดายและเสียใจ จึงได้แต่ปลอบและบอกไปว่า 'ไม่เป็นไรนะ เราไปคนเดียวได้ ' เพราะตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อผู้โดยสารได้ ทำใจอยู่ 1 คืน แล้วเร่งหาข้อมูลต่อ จัดสิคะจองไปหมดแล้วเราทำใจทิ้งไม่ลงจริงๆ
เมื่อถึงวันเดินทาง คล้ายว่าทุกอย่างจะลงตัวแล้ว แต่!!! พอลงรถแท็กซี่ ของกระเด็นออกจากเป้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย! ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเปิดกระเป๋าไว้ตังแต่เมื่อไร แล้วที่ร่วงลงพื้นไปเต็มๆหนะกล้องถ่ายรูปจ้า!!! แต่ปกติดีไม่มีปัญหา ก็เดินเข้าสนามบินไปมองหาที่เช็คอินเพราะครั้งนี้ต้องการใช้คูปองอัพที่นั่งเป็นฮอทซีทจึงต้องมาเช็คอินที่สนามบิน มองหาเค้าน์เตอร์เช็คอินอยู่สักพัก “ไปหลวงพระบางเช็คอินตรงไหนคะ" เดินไปถามเจ้าหน้าที่สายการบินด้วยอาการงงๆ “หลวงพระบางต้องไปอีกอาคารนึงนะคะ" เจ้าหน้าที่สาวสวยสง่าในชุดแดงให้คำตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คุณพระ!! เราลงรถผิดอาคาร!!! (ฮ่าๆๆๆ ขำในความก่งก๊งของตัวเอง) แล้วคิดมาตลอดทางด้วยนะว่าต้องไปลงรถที่อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ตึ่ง!!! ก็ต้องเดินย้อนไปยังอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศอีก เล่นเอาซะมีเรื่องให้ใจเต้นระทึกแต่เช้าเลยเชียว
การเช็คอินที่สนามบินสำหรับเส้นทางระหว่างประเทศนั้น สามารถเช็คอินได้ก่อนเวลาเดินทาง 3 – 1 ชั่วโมง เราถือบัตรเครดิตร่วมแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพพร้อมกับคูปองสำหรับอัพที่นั่งไปยังเค้าน์เตอร์พรีเมี่ยม เลือกที่นั่งตามที่ต้องการ แล้วเดินเข้าไปด้านใน บอกตัวเองใหม่แล้วว่า “ต้องมีสตินะ ห้ามก่งก๊งอีกเด็ดขาด เพราะต้องดูแลตัวเองนะ"
เมื่อเครื่องออกเดินทางเจ้าหน้าที่สายการบินจะแจกใบขาเข้าและขาออกของประเทศลาวให้เตรียมกรอกข้อมูลไว้ค่ะ
เมื่อเริ่มเข้าเขตหลวงพระบาง กระทั่งเครื่องบินค่อยๆลดระดับลงแล้ว จะสามารถมองเห็นสายน้ำคานและวิวทิวเขาสีเขียวๆสวยงามมากเลยค่ะ
ใช้เวลาเดินทาง 1ชั่วโมง 20นาที ก็ถึงท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางแล้วค่ะ
ปวดฉี่ขั้นรุนแรง รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแป๊บเดียว คนต่อแถวรอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวเฟื้อยเลย
เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมาแล้วจะเจอทางให้เดินออกไปด้านนอกได้เลย ระหว่างทางมีบูธจำหน่ายซิมการ์ดสำหรับใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยนะคะ หากใครคิดว่าจำเป็นต้องใช้งานอินเตอร์เน็ตตลอดเวลาก็สามารถติดต่อที่นี่ได้เลย ราคาสำหรับใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวอยู่ที่ประมาณ 250 บาทค่ะ
เราแลกเงินที่สนามบินได้เรทที่ 233.51 แลกไว้ก่อน 2 พันบาท ได้มา 467,020 กีบ (รวยกันเลยพวกเรา!!) และมีของเก่าอยู่ในกระเป๋าจากทริปวังเวียงครั้งก่อนอีก 5.500 กีบ รวมกันเป็น 472.500 กีบ บางคนบอกว่าไปแลกที่ตลาดมืดจะได้เรทที่ดีกว่า เราไปสำรวจมาแล้วนะคะ เรทไม่ได้ต่างกันมาก ถ้าแลกแค่ไม่กี่ร้อยอาจจะไม่มีผลเลย เพราะที่ลาวจะใช้ธนบัตร ไม่มีเหรียญ มูลค่าต่ำสุดคือ 500 กีบ ฉะนั้นถ้าคำนวณออกมาแล้วมีเศษไม่ถึง 500 กีบต้องถูกตัดทิ้งไปโดยปริยาย (ถ้าจะเทียบกันที่จุทศนิยมแล้ว ณ ปัจจุบัน ธนาคารในสนามบินเรทดีกว่าค่ะ)
เราเข้าเมืองด้วยการใช้บริการ Taxi Service 50.000 กีบ ก่อนที่จะมาเราพยายามหาข้อมูลมาเยอะมาก แบบที่ถูกๆมีไหม แบบที่เดินออกมานอกสนามบินแล้วต่อรถสองแถวมีไหม... สรุปว่าไม่มีตัวเลือกอะไรมากนัก แบบนี้ถูกที่สุดค่ะ 3คน/ 50.000 กีบ สำหรับส่งในเมือง นั่นหมายความว่าถ้ามาคนเดียวก็ต้องจ่าย 50.000 กีบ เช่นกันจ้ะ พยายามหาคนที่จะมาร่วมหารค่ารถแต่ไม่เห็นใครเลย เพราะเราออกมาช้าด้วยแหละมั้ง ฮ่าๆๆ มีเพียงผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะอายุพอๆกันกับเรา เดินนำหน้าเราไปแป๊บเดียว เดินไม่ทันเขาจริงๆ เมื่อขึ้นรถมาก็มาเจอกับผู้หญิงคนเดิม มองดูรวมๆแล้วคิดว่าเป็นคนไทยแน่ๆจึงชวนคุยเลยค่ะ “คุณแตงโม" อายุมากกว่าเรา 1 ปี พรุ่งนี้ (12 ก.ย.) จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณแตงโม เธอมาลุยเดี่ยวหมือนกันแต่จุดประสงค์หลักของเธอคือการมาไหว้พระในวันครบรอบวันเกิดค่ะ สาเหตุของการลุยเดี่ยวของเราทั้งสองคนเหมือนกันเลยคือ ไม่มีเพื่อนเที่ยวแนวเดียวกัน ก็เลยไปมันคนเดียวนี่แหละ แต่ครั้งนี้เป็นการลุยเดี่ยวครั้งแรกของคุณแตงโมค่ะ เราสองคนพักห่างกันต่างคนต่างมีแผนมาคร่าวๆในใจอยู่แล้ว จึงไม่ได้นัดแนะหรือชักชวนกันไปเที่ยวด้วยกันแต่อย่างใด อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่เรานะที่เป็นผู้หญิงสาว(สวย)ออกเดินทางคนเดียว
ตัวเมืองหลวงพระบางอยู่ห่างจากสนามบินออกไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วค่ะ สามารถแจ้งกับคนขับรถได้เลยว่าต้องการไปลงที่ไหน
ที่พักที่จองมาชื่อ “Khonesavanh Guesthouse" ทั้ง 2 คืนเลยค่ะ จองผ่านเว็บไซต์หนึ่งมา 696.25 บาท/ 2 คืน เป็นห้องที่มีแต่เตียงนอนและชุดเครื่องนอน ห้องน้ำรวม แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ เจ้าของเป็นคนจีน พูดลาวได้นิดหน่อย อังกฤษได้อีกนิดหน่อย ซึ่งเราก็ไม่ทราบมาก่อน สื่อสารกันค่อนข้างยากแต่ดีที่มีสาวจีนอีกคนหนึ่งน่าจะเป็นเพื่อนของเจ้าของมาพูดคุยภาษาอังกฤษ (ที่นี่มีห้องพักหลายแบบนะคะ) เรามาด้วยอารมณ์กึ่งแบ็คแพ็คจึงไม่คิดอะไรมาก ห้องราคาถูกมีอุปกรณ์ให้ใช้มีเตียงนอนมีกลอนล็อกห้องดี ไม่มีกลิ่นอับไม่มีแมลง แถมยังเงียบสงบดูเป็นส่วนตัวดี ก็โอเคแล้วล่ะค่ะ