ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    ให้ภาพพาไป •  กันยายน 10 , 2559

    เพียงเปิดประตู...ก็มีสายน้ำและสายหมอกยามเช้าให้ชม

     


     

    -แพ500ไร่ สวยงามสมกับที่หลายคนเคยว่าไว้ แค่เพียงเปิดประตูห้องนอนก็จะได้สัมผัสสายน้ำและสายหมอกยามเช้าเสริฟถึงเตียงนอน ครั้งนี้เดินทางมาพักที่แพเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน หลายคนอาจจะมองว่าอยู่หลายวันอาจจะน่าเบื่อ และยิ่งที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วย แต่กลับดีทำให้เราได้พูดคุยกับเพื่อนที่มาด้วยกันได้มากขึ้น ที่นี่เหมาะสำหรับคนชอบบรรยากาศชิวๆอยู่กับธรรมชาติ นอนเล่น พายเรือ ว่ายน้ำ อ่านหนังสือ และมีกิจการให้เลือกหลายแบบตามแพ็คเก็จที่จองไว้ ที่นี่ไม่ให้นำเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามาแพ แต่พวกขนมของกินนำเข้ามาได้ น้ำบริเวณแพลึกประมาณ 40 เมตร แต่น้ำเขียวใสมากแต่ละห้องมีเรือและเสื้อชูชีพให้ พนักงาน ไกค์นำทาง คนขับเรือ ดูแลและอัธยาศัยดีมาก สำหรับทริปนี้ได้พักห้อง Villa พักได้ 2-4 คน มีห้องน้ำในตัว มีห้องนอนชั้นล่าง 1 ห้องและห้องใต้หลังคา 1 ห้อง รายละเอียดการเดินทางดังนี้:

    • โพสต์-2
    ให้ภาพพาไป •  กันยายน 10 , 2559

    -วันแรก : เดินทางถึงสนามบินสุราษฯ 8.00 น.มีรถตู้จากแพ 500 ไร่มารับ จากนั้นเดินทางไปที่สำนักงานเพื่อลงทะเบียน หลังจากลงทะเบียนเสร็จจะพาเดินทางไปชมเขื่อนรัชชภา โดยให้เวลาประมาณ 15 นาที

     

     

     ต่อจะนั้นเดินทางลงเรือเพื่อเดินทางสู่แพ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ระหว่างทางจะแวะให้ถ่ายรูป “เขา 3 เกลอ”

    พอถึงแพก็ทานอาหารกลางวัน วันแรกจะบ่อยให้ทำกิจกรรมตามอัธยาศัย นอนเล่น พายเรือ ว่ายน้ำ อ่านหนังสือ พอประมาณบ่าย 15.00 น.จะมีขนมหวานให้ทาน จากนั้นก็รอทานอาหารเย็นประมาณ 19.00 น.หลังจากนั้นว่าจะถ่ายดาวแต่ฟ้าไม่เป็นใจเนื่องจากฝนตกเมื่อช่วงบ่าย

     

     บรรยากาศในห้องพัก

    พอฝนเริ่มหยุดก็ออกไปพายเรือ

     

    • โพสต์-3
    ให้ภาพพาไป •  กันยายน 11 , 2559

    -วันที่2 : ตื่นมาเจอสายหมอกยามเช้าหน้าห้องพัก เนื่องจากวันแรกก่อนเข้าห้องพักฝนได้ร่วงลงมา 6.00 น.จะทีกาแฟ โอวันติน ขนมปัง ยามเช้าให้ 

    จากนั้น 7.00 น.ล่องเรือชมนก-ดูหมอกยามเช้า ขณะที่ล่องเรือได้เจอข่างแว่น นกเงือก และสายหมอก หลังจากนั้นกลับมารับทานอาหารเช้า 

    ประมาณ 9.00 น.เดินทางเพื่อไปจุดชมวิวไกรสร นั่งเรือไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็จะถึงจุดเดินเท้าระยะทางประมาณ 1.5 ก.ม.เส้นทางก็จะชันบ้างราบบ้าง แต่ประมาณ 200 ม.สุดท้ายก่อนจะชันมากประมาณ 80 องศา และจะเป็นหินแหลมคม พื้นที่บนจุดชมวิวค่อนข้างแคบ ต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่เหมาะกับรองเท้าแตะและเท้าปล่าว เดินทางกลับแพทานอาหารเที่ยงประมาณ 13.00 น. 

    พอประมาณบ่าย 15.00 น.จะมีขนมหวานให้ทานเช่นเคย จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย 

    พอ 17.00 น.ออกเดินทางไปชมวิถีสัตว์ป่า ตอนขาเข้าไปไม่เจอก็รู้สึกผิดหวังคิดว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว แต่ต้องขอบคุณพี่ไกค์และคนขับที่พยายามขับหาสัตว์จนเจอ (ต้องยอมรับสายตาดีมากๆ) ขณะแล่นเรือกลับได้เจอฝูงกระทิงหลายฝูง และได้เจอ”กระจง” ที่กำลังว่ายน้ำข้ามเกาะ แต่เสียดายที่ไม่ได้เจอช้าง (ทริปเมื่อวานเค้าเจอกัน) หลังจากส่องสัตว์เสร็จก็พาไปแวะเซเว่นกลางน้ำ (พี่เค้างั้น) ซื้อขนมตุนเสบียง

     

    กระจงกำลังว่ายน้ำข้ามเกาะ

    นึกว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว

    จากนั้นเดินทางถึงแพทานอาหารเย็น วันนี้ฟ้าเป็นใจเลยได้ออกมาเก็บดาว

    • โพสต์-4
    ให้ภาพพาไป •  กันยายน 11 , 2559

    -วันที่3 : ตื่นมาชมหมอกอีกครั้ง ทานอาหารเช้า

    เวลา 9.00 น.ก็เดินทางออกจากแพพร้อมพนง.บนแพ เนื่องจากปิดแพ ไปเที่ยวสมุยกัน (ถ้าลางานต่อได้ว่าจะตามไปด้วย ^^ ) ระหว่างทางก็จะให้แวะชม “กุ้ยหลินน้อย” ซึ่งระหว่างเรือแล่นผ่านช่องเขาสวยงามมาก

    พอขึ้นฝั่งรถตู้มารับพาไปไหว้พระที่วัดถ้ำสิขร ไปทานอาหารกลางวันซื้อของฝาก และเดินทางถึงสนามบินประมาณ 14.00 น.