ทริปนี้ กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างก็เกือบจะล่มไปหลายครั้ง เพราะกว่าทุกคนจะเคลียร์เวรมาได้ กว่าจะตกลงเรื่องที่พัก การเดินทางต่างๆ ระหว่างทางก็มีปัญหาจุกจิกกวนใจหลายเรื่อง แต่สุดท้ายพวกเราก็เดินทางมาถึงจนได้ ..

เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา พวกเราเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน จองตั๋วได้ในราคาไปกลับ 1400 กว่าบาท

มาถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี 7.30 ตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่เอาเครื่องลงไม่ได้เพราะหมอกเยอะจัด ต้องไปลงที่สนามบินภูเก็ตแล้วค่อยบินกลับมาที่สุราษฎร์ธานี กว่าจะได้เจอกับคุณลุงอรุณก็เก้าโมงกว่าแล้ว 

เราติดต่อเรื่องที่พักกับคุณลุงอรุณ ก็เลยขอเหมารถให้แกมารับที่สนามบินไปที่ท่าเรือเลย เป็นรถสกายแลป ราคา 1500 บาท ไปกัน 7 คน ตกคนละสองร้อยกว่า 

ไปถึงท่าเรือเพื่อนอีก 3 คนก็ตามมาสมทบ รวมเป็น 10 คน นั่งเรือที่เหมากะลุงอรุณไว้ในราคา 2000 ไปกลับ  

ระหว่างที่นั่งเรือเข้าไปที่พัก มั่นใจว่าความรู้สึกของทุกคนต้องเหมือนกัน นั่นคือ ที่นี่มันสวยมาก ไม่ว่าจะถือกล้องส่องไปทางไหนก็สวยไปหมด น้ำสีฟ้าครามตัดกับท้องฟ้า มีภูเขาเป็นฉากหลัง คือมันดีต่อใจมากจริงๆ 

ในรูปที่ถ่ายมา มันสวยไม่ถึงครึ่งของความเป็นจริงเลย 

ธรรมชาติมันมีความยิ่งใหญ่ สงบและสง่างามอยู่ในตัวของมันเอง 

อยากให้ทุกคนได้มาที่นี่ อยากให้ได้มาเห็นเองกับตาตัวเอง

พวกเราเลือกพักที่แพนางไพร เพราะราคาไม่แพงมาก และที่สำคัญ วิวสวยมาก บรรยากาศดีสุดๆ 

ที่พักราคาคนละ 800 ต่อคนต่อคืน รวมอาหาร 3 มื้อ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แยกชายหญิง 

 

หลังเก็บของเข้าที่พัก กินมื้อเที่ยงกัน พวกเราก็ตกลงเหมาเรือเที่ยวไปถ้ำหินปะการัง+ดูพระอาทิตย์ตก ราคา 2000 บาท (มาเที่ยวที่นี่ถ้ามาหลายคนจะดีมาก เพราะมีตัวหารเยอะ อีกอย่างคือมากันหลายๆ คนมันสนุกมาก) 

พวกเรานั่งเรือไปขึ้นฝั่งที่เขาลูกนึง แล้วต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 2 กิโล ไปขึ้นเรือแพไม้ไผ่ไปที่ถ้ำหินปะการัง ข้างในถ้ำเป็นหินปะการังรูปร่างแปลกๆ มากมาย แล้วแต่ว่าเราจะจินตนาการเป็นอะไร มันมืดๆ ด้วย เลยไม่ได้ถ่ายรูปออกมา 

ขากลับฝนดันตั้งเค้ามาแต่ไกล ลุ้นกันว่าจะได้ไปดูพระอาทิตย์ตกมั้ย 

พอกลับมาที่แพ ก็มาเล่นน้ำกันที่หน้าแพ ตรงที่เปิดให้เล่นเป็นน้ำลึกประมาณ 40 เมตร ถ้าจะลงเล่นน้ำต้องใส่เสื้อชูชีพทุกคนเพื่อความปลอดภัยค่ะ

บรรยากาศยังกะอยู่ริมทะเล 55

จริงๆ เราว่ายน้ำไม่เป็น แต่มาถึงที่นี่แล้วจะไม่เล่นน้ำก็ยังไงๆ อยู่ ลงน้ำครั้งแรกเราเกาะขอนไม้แน่นเลย กลัวจมน้ำ 555 พอเริ่มชินก็ไม่กลัวละ กลายเป็นสนุกซะอีก

กว่าจะได้รูปนี้มา กินน้ำไปหลายอึกทีเดียว 555

 

ตอนเย็นโชคดีที่ฝนไม่ตก นั่งเรือไปดูพระอาทิตย์ตก มันสุขเกินจะบรรยายเลยล่ะ

 

กลางคืนที่พักเปิดให้ใช้ไฟถึง 24.00 น.

เห็นชาวต่างชาติออกมานั่งอ่านหนังสือที่ระเบียงหน้าห้องพัก ส่วนชาวไทยอย่างเราน่ะเหรอ ตั้งวงค่ะ 555

ตื่นแต่เช้ามานั่งชมบรรยากาศฟินๆ มีหมอกยามเช้า สูดลมหายใจเข้าไปแบบเต็มปอด เหมือนมารีเฟรชตัวเอง ตัดขาดจากโลกภายนอกทุกอย่าง ปิดทุกการรับรู้ ^^   ออกไปพายเรือชมบรรยากาศยามเช้า  สดชื่นมาก รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ^^

หลังจากเก็บบรรยากาศยามเช้า กินข้าวเช้าเสร็จก็ถึงเวลาที่ต้องบอกลา บอกตามตรงเลยว่าไม่อยากกลับค่ะ 55 แต่ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา หมดเวลาพัก ได้เวลากลับเข้าสู่โหมดทำงาน

มันเป็น 2 วัน กับอีก 1 คืนที่เรามีความสุขและประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอีกครั้ง 

แล้วเจอกันใหม่นะ :)

ค่าใช้จ่าย

ค่าที่พัก 800

ค่าเรือเข้าแพ 200

 ค่าเรือเที่ยว 200

ค่ารถจากสนามบินไปท่าเรือ เอาประมาณๆ 200 

ทั้งหมดก็ 1400 โดยประมาณ ไม่รวมค่าเครื่องบิน

สำหรับเราคือมันคุ้มค่ามาก กับสิ่งที่เราได้ไปพบเจอ 

;)