สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากรู้ว่าเราวางทริปยังไงก็ลองถามได้ที่

https://www.facebook.com/theyouthgonewild.blog

7 วันหมดไป 4000 บาท ใน 3 จังหวัด
ตกใจใช่มั้ย แต่ใช่ พวกเราไปลุยกันมาแล้วว

1. อช.ดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน

ตีห้าไม่ถึงก็จวน รถบัสเริ่มเข้าเขต อ.ปัว
เรารีบปลุกเพื่อน บอกมันว่าใกล้ถึงแล้ว ใส่เสื้อหนาวเลย หนาวแน่เมิง

แต่ไม่อะ มัน ไม่หนาว...

ไม่ไกลจากตรงนั้นจะมีตลาดสด ซึ่งท่ารถสองแถวขึ้นดอยอยู่ตรงนั้น
ตลาดที่นี่วายไวมากจ้า ฟ้ายังไม่สว่างก็ปิดเรียบแล้ว ของขายถูกมาก 30มีทอนและอิ่ม

ขึ้นมาถึงหน้าอุทยาน จ่ายค่ารถไปคนละ 50บาท ค่าเข้าอีก 20บาท ไม่ต้องบัตรนิสิตเพราะลดอยู่แล้ว
*ไปอุทยานแห่งชาติทุกที่ บัตรนักเรียนนักศึกษาลดค่าเข้าได้ครึ่งนึงนะ !*

 

พอขึ้นไปถึงมันไม่มีอะไรเลยจ้าาา คนที่อยู่ก่อนหน้านี้ก็เชียร์ให้ไปที่อื่น เราก็กางเต็นท์กันละ นอนไปงีบนึง

ทนไม่ไหว ขอไปที่อื่นดีกว่า ให้อยู่อย่างนี้ทั้งคืนไม่ไหวแน่ๆ

 

เราเลยขึ้นมากันที่ลานดูดาว โดยนั่งรถสองแถวขึ้นมา เสียไปอีก 30บาท

ขึ้นมาเห็นเต็นท์กางกันเป็นหมู่คณะแล้วสบายใจ มีเพื่อนแล้วววว
เราติดต่อขอกางเต็นท์ พี่เจ้าหน้าที่ก็บอกให้กางๆไปเลยน้อง เอ้า ไม่เก็บตังเฉย
(จริงๆตรงนี้ถ้ามาช่วงที่ต้นไม้ออกดอกจะสวยมาก คำบอกเล่าจากป้าเต็นท์ข้างๆ)

เราชอบตรงนี้นะ คนไม่เยอะมาก สะอาดไม่วุ่นวายดี
มีของกิน (เปิด-ปิดเป็นเวลา) ติดถนนด้วย รถสองแถวผ่านสะดวก

นี่คือวิวของจุดชมวิวข้างบน ของจริงสวยมากก หันซ้ายสุดไปขวาสุดก็เห็บไม่หมด

 

2. อ.เมือง จ.น่าน


ในตัวเมืองเราพักที่เฮือนม่วนใจ๋ (ม่วนจี๊งง) อยู่ระแวกบ้านเก่าของเมือง (ลุงมอไซบอกมา)
เดินไปไหนแถบนี้ก็จะเห็นแต่บ้านไม้เต็มไปหมด พี่เจ้าของบอกตามสบายเลยนะ เหมือนอยู่บ้าน
เจอหน้าพี่เค้าแค่ตอนนั้น สิบนาทีได้ หลังจากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย ก็สบายจริง จะกลิ้งตรงไหนก็ได้5555
ห้องละ 450 หารกับเพื่อนตกคนละสองร้อยกว่าบาทเอง!

 

เวลาเหลือพวกเราเลยเดินในตัวเมืองน่าน ช่วงนี้มีงานกาชาดด้วยเลยไปจับรางวัล
หวังจะเอาตู้เย็นกลับบ้าน แต่ได้มาแค่แก้ว 2ใบเองอะ

เดินกันจนขาลากเท้าพอง ตัวเมืองเดินง่ายมาก แนะนำให้ขอแผนที่ที่ขนส่งมาแล้วจะไม่หลง
ถนนที่นี่เค้าเป็นล็อคๆ สถานที่ต่างๆอยู่ไม่ไกลกัน หรืออยากสบายกว่านั้นก็เช่าจักรยานปั่นเลย

 

3.อ.เมือง จ.เชียงราย
หลังจากที่ฉันเดิน เดิน เดิน เดินกันอยู่ได้
วันนี้ก็เลยต้องนั่ง... นั่ง... นอน... นั่ง... นั่ง...
จากน่านไปเชียงราย 6 ชั่วโมงกว่าๆ
เข้าใจแล้วว่าทำไมรถถึงมีวันละเที่ยว5555

ใครที่มีโอกาสมาเส้นนี้ก็แนะนำนะ และถ้านั่งหน้าก็คงดี เห็นวิวแบบกว้างๆ
แต่รถเก่านะ ลงจากรถแล้วยอมใจที่มาถึงเชียงรายได้โดยรถไม่พัง
ดูสภาพรถแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับลุงคนขับได้เลยแหะ

เป็นการนั่งรถที่มีวิวดีเกินราคาค่ารถมากๆค่ะ ถ้าเป็นคนชอบนั่งรถดูวิวเราว่าน่าจะชอบนะ
เค้าแวะให้เข้าห้องน้ำแค่ 2 ที่นะ ลุงคนขับรถเค้าให้ลงก็ลงเถอะ อย่าอั้นเลย เชื่อฉัน
เพราะมันนานมากกกกก และไกลมากกกกก ลงจากรถคือโดนเพื่อนด่านะ555555

พวกเราไม่ขึ้นดอย ไม่ไปแม่สาย เราแค่อยากรู้ว่าตัวเมืองเชียงรายมันเป็นยังไง
เพราะปกติเวลามาเชียงรายไม่เคยมาเที่ยวในตัวเมืองเลยค่ะ เอะอะขึ้นดอย

เราพักกันที่เฮือนกาวิน เป็นเกสต์เฮ้าส์พึ่งเปิดใหม่เลย ที่พักรวมอาหารเช้า 550บาท
คุณป้าเจ้าของทำอาหารอร่อยมากกกกก ได้ยินว่าเคยมาเปิดร้านอยู่กรุงเทพ แต่ปิดไปแล้ว
ใจดีด้วย555 ไปพักแล้วเหมือนอยู่บ้านเลย ไปที่ไหนก็เจอแต่อะไรดีๆ : )

กว่าจะถึงเชียงรายก็เย็นพอดี พวกเราเลยรีบบึ่งมอไซจากที่พักไปวัดร่องขุ่น
ที่ห่างจากตัวเมือง 10โลนิดๆ คนจีนเยอะมาก บรรยากาศดูต่างประเทศขึ้นได้เพราะท่านๆ

ค่ำๆก็มาเดินเที่ยวงานดอกไม้ มี2ที่นะ เราจำชื่องานไม่ได้ แต่ตรงนี้จะอยู่กลางเมืองเลย

มาต่ออีกทีคืองานดอกไม้อาเซียนริมแม่น้ำกก แกมันหนาวมาก
ตอนนั้นแค่ทุ่มเดียวเอง ขี่มอไซกันเหมือนเอาน้ำเย็นสาด ฝนตกอีก
ที่นี่กว้างกว่าที่แรกมาก สวยกว่าด้วย เป็นสวนติดริมน้ำเลย จัดไฟสวยมาก
มีของกินและตลาดนัดให้เดินด้วยนะ

นอกจากจะมีสวนดอกไม้แล้วยังมีงานวัดอีก
เราเดินมาเจอซุ้มขันโตก กับรำวง นั่งดูอยู่นาน
เพื่อนเราเลยบอกว่าถ้าอยากรำเป็นต้องเข้าไปตามท่าคนอื่น
เราเลยลุกไปแจม สนุกดี เข้าไปแล้วทำได้จริงๆแหะ

ปกติรำวงที่เจอในกรุงเทพจะเป็นรำวงแบบเด็กๆ เปิดเพลงเกรียนๆใช่ปะ
ที่นี่มีแต่คนสูงอายุนำนะ มีวัยรุ่นบ้างแต่ไม่เยอะเท่าลุงป้า
สเต็ปแต่ละคน เก่งมากกก คือถ้ามาอยู่ยุคนี้ลุงๆป้าๆปืนลำโพงแน่ๆ555555
มันเหมือนเป็นการออกกำลังกายของคนสูงอายุเลยแหละ น่ารักมาก เราชอบตอนนี้ที่สุดแล้ว : )

ตอนเช้าๆอย่างนี้หมอกลงต่ำทำหน้าเปียกเลยนะคะ
ตื่นแต่เช้าขี่มอไซกันมาบ้านดำ อ.ถวัลย์ ตั้งแต่ยังไม่เปิด 
แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยอะแล้ว นักท่องเที่ยวที่ว่าก็คือชาวจีน
ยังไม่ทันแปดโมงห้องน้ำก็เละแล้วจ้า ซากปุ๋ยลอยเต้มมม

เราสะดุดกับป้าย "หาดเชียงราย" ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เลยให้เพื่อนพามา
มาถึงก็ไม่มีอะไรอะ มันเป็นที่เล่นน้ำของคนที่นี่ เรียกอีกชื่อว่าพัทยา
บรรยากาศหน้าหนาวช่างเงียบเหงา นั่งอยู่แปปนึงก็เลยไปขี่รถเล่น
วนไหว้พระในตัวเมืองรอเวลารถออก

5. อช.ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ใครๆก็อยู่เชียงใหม่ นัดกันอยู่กรุงเทพไม่เคยเจอ ดันมาเจอกันที่เชียงใหม่
เลยนัดน้องอีกกลุ่มไปเดินกิ่วแม่ปานด้วยกัน

เราออกจากโรงแรมกันแต่เช้า ขี่มอไซมาไกลเป็น100โล มาเดินกิ่วแม่ปาน
ไม่เคยนั่งมอไซไกลขนาดนี้ อย่างกลัวอะตอนนั่งมา แต่ก็ตื่นเต้นดี
ตอนแรกที่มาหนาวนะ เพราะนั่งมอไซลมตีหน้ามานาน
ลมตียังเบาไป ต้องลมกระแทก พอเดินไปเรื่อยๆเริ่มร้อนแหะ

วิวสวยนะ สวยมากเลยแหละ แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเหนื่อยก็คือเหนื่อยค่ะ
หายใจเป็นยาดมเลยอะ หายใจไม่ทันแล้วววว

จากนั้นเราก็เปิด map มาแกรนด์แคนย่อน ก็ไม่วายจะโดนแม็พหลอกให้หลงอีกแล้ว
ระหว่างทางจะมาเรานั่งหลับบนมอไซ (อย่า ทำ ตาม เด็ด ขาด)
ตามันปิดเพราะตื่นแต่เช้า แล้วลมตีหน้าอีก
กำลังหลับตาเพลินๆ เพื่อนเรียกเรา แล้วรถก็ล้ม แล้วก็ลุกมาขำ งงค่า
123เป็นสเต็ปอย่างไว ขับมาไวๆเมื่อกี้นี้ไม่เป็นอะไร... มาได้แผลมาเพราะลื่นกรวด

ที่นี่เปลี่ยนไปไวมาก ตอนที่เราไปก็ปลายธันวา จากตอนต้นปีที่ยังไม่มีอะไร ตอนนี้มาเป็นที่ปีนผา

6. อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
รีบมารอคิวรถสะเมิงแต่เช้า พวกเราก็ถามว่าจะออกกี่โมง
เค้าก็บอกไม่รู้ๆ คนขับยังไม่ตื่น รอรถเต็ม คนอื่นมาก็ถามอีกว่าจะออกยัง
ก็บอกว่าไม่รู้ๆ คนขับไปห้องน้ำ พวกเรารอกันนานมาก
พี่คนนึงเลยถามว่าจะออกได้ยัง เค้าก็บอกไม่เกินสิบโมง ซักพักมีคนขึ้นมาจนเต็ม
พี่ผู้หญิงที่ตอบคำถามเราว่าคนขับยังไม่มาเดินมาสตาร์ทรถแล้วขับไป
คือคนบนรถทั้งคันงง- เชี่ย แผนหลอกลูกค้าให้รอได้ผลมาก
จีเนียสหวะ เออ กูไม่เคืองก็ได้ ตลกชิบ

เราตั้งใจจะมาเดิน canopy walkway
แต่มันพึ่งเปิดใหม่และคนแห่มากันอย่างเยอะ
มาชนกับวันที่มีเด็กมาทัศนะศึกษาด้วย
เลยอดเดินไปเพราะไม่ทันรถกลับ

ขาขึ้นจะรอรถรางขึ้นมาแต่คนเยอะมาก เลยขอติดรถขึ้นไป
ขาลงมารอรถสองแถว ไม่มาซะทีเลยโบกเลยจ้าาา
ชวนพี่ที่มาจากนครสวรรค์ลงมาด้วยอีกคน