8 - 9 Oct 2017
หากจะจำ เจียงดารา ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้านแล้ว บล๊อกนี้คือทริปเดียวกัน
เพียงแค่เจียงดาวนั้น รูปมหาศาลจนต้องรีวิวแยกต่างหาก เชียงดาว หนาวแรก บล๊อกนี้... เราเริ่มต้นที่เชียงใหม่ในวันที่ฝนตกหนักไม่ลืมหูไม่ลืมตา เรียกว่าฟ้ารั่วก็ได้เพราะพายุเข้าช่วงนั้นพอดี.. จขบ.ไปรับเพื่อนซี้ต่างวัยที่แม่ริม ในเมืองฝนตกหนักทีท่าว่าทั้งวันคงไม่หยุด แต่พอเข้าเขตแม่ริมเท่านั้นแหล่ะ "ฝนหายไปไหนฟร่ะ" ยิ่งกว่าแม่ริมก็แม่แตงนี่แหล่ะ แดดร้อนไปไหน?? นี่อยู่จังหวัดเดียวกันป่ะเนี่ย เราขับไปเส้นทางไปฝาง จนถึงเชียงดาวที่ ๆ จุดหมายปลายทางสีเขียวรอให้เราไปเช็คอิน ย่ำแบบฟิน ๆ ปลายฝนต้นหนาว เราเรียกว่า "กลมกล่อม" ทางบรรยากาศ (ใคร ใครถาม)
เชียงดาวเมืองต้นสายน้ำแม่ปิง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 70 กิโลเมตร บนถนนเส้นเชียงใหม่ - ฝางไปทางทิศเหนือ หลายคนมองเชียงดาวแค่ทางผ่าน ก่อนเดินทางสู่ฝางหรือที่ท่องเที่ยวอืน ๆ แต่สำหรับ จขบ.แล้ว เมืองแห่งสายน้ำ ขุนเขา อย่างเชียงดาวนี้น่าพัก น่าเที่ยวจริง ๆ การมาเยือนเชียงดาวคราวนี้... จุดหมายของเราไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ไม่ได้แพลน ขอแค่ได้นอนพักแผนพักงานที่รกหัวไว้ไกล ๆ ก็เท่านั้น เส้นทางขับไม่ยาก แต่ฝนตกหนักก็ต้องระมัดระวังกันนิด ๆ เนาะเพราะทางแม้ไม่ชันแต่โค้งเยอะชะมัด
. . .
ฟ้ารั่ว ฝนรินตามประสาวันพายุเข้า ซึ่ง.... แม้เราจะไม่แน่ใจปลายทางว่าจะเที่ยวได้สนุกและฟินแค่ไหนแต่เราก็ไม่ถอย ขับไปหิวไป... เพราะใกล้เที่ยงแล้ว บางทีก็คิดว่านี่ตรูเกิดมาเพื่อ "กิน" ? หรือเที่ยวกันแน่ (โหมดอื่นอย่าได้เอามาเกี่ยวในตอนที่แพลนเที่ยวอย่างนี้)
ขับมาจนเจอ
"เสี้ยว" ที่เหลือแต่ใบ ใจที่เหลือแต่ความว่างเปล่า ที่เพ้อนี่หิว "ชัด ๆ"
โอริว
ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งเดียวที่ จขบ.รู้จักในเชียงดาว
แม้จะมาเชียงดาวอยู่บ่อยครั้ง
แต่หนนี้ เห็นจะเป็นหนแรกที่ได้มีโอกาสชิม
เพราะอะไรน่ะเหรอ
ทุกทีมาไม่เห็นร้านนี้เพราะเขาเพิ่งเปิดได้ 3 อาทิตย์ ณ วันที่เยือน
เพราะป้ายบอกโอริว
เพราะป้ายมีรูปอาหารญี่ปุ่น
และเพราะป้ายอยุ่กระชั้นชิดมาก เห็นปุ๊บเบรกปั๊บแล้วเลี้ยวรถเข้าร้านเลย (ตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ เด็ก ๆ อย่าทำตาม)
จอดรถเท่านั้นแหล่ะ
มันก็จะได้ฟิลญี่ปุ่นแบบบ้าน ๆ อยู่หน่อย ๆ
ก็เพ้อ ๆ กับแนทที้ว่า... เปิดสามอาทิตย์นี่ เราพลาดหรือเปล่าที่มาแวะ แต่พอเห็นจำนวนรถ และลูกค้าที่แวะมาไม่ขาดสายในช่วงเที่ยง และพอเห็นอาหารที่วางตรงหน้า ความกังขาก็หายไป "กลับคำ" รสชาดเขาถึงนะ สามอาทิตย์ที่นี่ แต่ไปหลายปีที่ไหนมา
อิ่ม แน่น จุก . . .
มาเชียงดาว คราวนี้... มาออกพรรษากับคนศีลเข้มอย่างเพื่อนซี้ต่างวัย เขาก็จะลากเราไปเข้าวัดเข้าวาอยู่หน่อย ๆ เต็มใจไปนะ เพราะไม่เคยไปที่นี่เลย วัดถ้ำผาปล่อง ที่ ๆ พี่กะว่าก๋า แนะนำอยู่บ่อย คงสวยน่าดูเพราะเห็นเขาได้ภาพสวย ๆ แบบธรรมชาติกอด ๆ มาไม่น้อย จขบ.ก็ตามสิคะ ตามระเบียบ (ภาพเปิด.. อย่าคิดว่าไปฟาร์มผีเสื้อหล่ะ)
ใครเห็นป๋มบ้างฮับ
ยิ้มอ่อนก่อนลากขาขึ้นบันได ????
กี่ขั้นฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าขาขึ้นมันเหนื่อยคอต ทางแก้เหนื่อยเหรอ... ลืมความเหนื่อยละทำให้เพลิน เสี้ยวนึงที่ฟินญี่ปุ่นมาก อากาศมันได้ ภาพมันพาไป ใช่ญี่ปุ่นแบบกลาย ๆ มนุษย์เพ้อ...
นี่มาวัด หรือมาศึกษาธรรมชาติกันแน่นะ ก็แหง๋ล่ะรายทางยังไง ฟ้องด้วยภาพยังงั้น
ศรัทธา...
เหตุผลสั้น ๆ อันเป็นที่มาของภาพ
จำได้ว่าข้ามสะพานและใบแปลก ๆ นี้ไปก็ถึง (สักที)
บางทีก็เกลียดเลนส์ฟิกซ์ที่ละลายไร้สาเหตุ บ่นตัวเองเพราะใช้ผิดที่ ผิดวัตถุถามกลับทำไมไม่เปลี่ยนเลนส์ ตอบขี้เกียจ จบ. แนทที้กราบพระตามวิถีพุทธ ส่วน จขบ.กราบวิวตามวิถีคนชอบเที่ยว ทริปนี้ลงตัว แม้เราแตกต่าง
. . .
ขาลงจากวัดถ้ำผาปล่อง เราเห็นมุมฮิปของเชียงดาว จริง ๆ ก็แวะเชียงดาวเนสต์แบบไม่ทันตั้งตัว คนโดนถามน่ะ เขาไม่ทันตั้งตัว พอเราได้พิกัดเราก็ทิ้งเขาเลย ขับผ่านมุมนี้.. บ้านใครไม่รู้ รู้แต่ว่ายืม wallpaper แป๊บนะ องค์นางแบบ ลง
จากเชียงดาวเนสต์ เราถามทางไปน้ำพุร้อน แต่เรา "หลง" มาทางอย่างงี้ได้ไง ว่าแล้วก็สงสาร รถ เหมือนกัน ทนหน่อยนะมีเจ้าของอย่างงี้
ขับไป หลงไป แต่ดอยหลวงก็ขนาบข้าง เสมอ ๆ
ผ่านไร่ป่ายางโตน ฟาร์มสเตย์ ผ่านบลา ๆ ๆ จนคิดว่า นี่ใช่เหรอ ใช่จริงหรือเปล่า ใช่ละ ใช่ทางลูกรัง
ละก็เจอ
Hotaru No Yu ญี่ปุ่นเล็ก ๆ ที่แฝงตัวอยู่ในเชียงดาว ดูจากแพทเทิร์นแล้ว ญี่ปุ่นชัด ๆ ที่ ๆ ไม่ได้โทรจอง และที่ ๆ คนเต็ม ขอเข้าไป และได้รูปติดกล้องมารูปเดียวจริง ๆ คือเกรงใจคนแช่อยู่น่ะ แค่อยากรู้ว่าข้างในเป็นยังไง
ผิดหวังนิด ๆ ไม่ใช่ผิดหวังที่ไม่ได้แช่ แต่ผิดหวังที่มโนไว้เกิน วันหลังอ่านบล๊อกใครจะได้ไม่มโนเกินจริง ที่จริงกว่านั้นคือ ออนเซนแบบไม่เสียตังประจำถิ่น ดูเขาแช่ก็ฟินตามเขาไป
ส่วนปลายทางของเราน่ะเหรอ.. เดินเลยจุดนั้นเข้าป่าไปอีกหลายก้าว...
สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขามีรั้วกั้นชัดเจน แต่เราทำไมเข้าไปได้นะ เพราะสายน้ำลากเราเข้าไปในเขตราชการในวันหยุดอย่างนั้น ขออนุญาตใครก็ไม่ได้ เราเอ่ยลอยลม "ขออนุญาตนะคะ" มุดรั้วแล้วตามสายธารไป
เจอสะพานแขวนเล็ก ๆ ข้ามลำธาร มันน่ารักนะ พจมานขอ 1 แชะ ละพุงไว้ในฐานที่เข้าใจว่ามันอิ่ม 5555
นี่ ๆ เรานั่งบนสะพานแขวนนะ นี่ ๆ เอนตัวนอนสุด ๆ ละกับเลนส์ฟิกซ์ได้แค่นี้ก็บุญนักหนาสาหัส จะหงายหลังตกสะาพาน
มันก็จะเขียว ๆ หน่อย
มันก็จะฟินหน่อย ๆ
สำหรับคนทำงานหนักจนเพี้ยนอย่างเรา ๆ ธรรมชาติแค่เนี๊ยะ
ก็เยียวยาแผลเหวอะหวะทางอารมณ์ได้มากเช่นกัน
ยังแอบขอบคุณ "จั๊กจั่น" ที่ทำให้ป่าของเรา ไม่เงียบเลย
แอบกลัวน้ำป่ามาเหมือนกัน
แต่เรามีแผน B
อาจารย์แม่กับใบไม้วัยใกล้กัน เอิ่ม ของ จขบ.ก็ใบไม้วัยใกล้เคียง เช่นกัน
ฟูมฟาย ให้ได้อย่างสายน้ำ
ผ่านไปไม่ไหลกลับ ให้เป็นอย่างสายน้ำเช่นกัน
เยียวยากันไปพักใหญ่ ๆ รู้ตัว เอ่อ... มันเปลี่ยว (ความรู้สึกช้ากันจริง) แต่ดูจากอายุป้า ๆ กันแล้ว คงไม่มีใครอยากได้ตัว แต่ถ้ากระเป๋าป้า ๆ กันแล้วไม่แน่ เราได้ทีละที่นั้น ได้แต่พูดกันว่าป่าใหญ่อย่างนี้ไว้มากันอีก มาหน้าร้อนก็คงฟินไม่ใช่เล่น "ต้นน้ำ" น่าจะอยู่ไกลจากที่นี่เป็นแน่ แค่ยอดดอยหลวงเชียงดาว น่าตาม เราเอาจริงนะ... ถัดมาคือเราจองทริปดอยหลวงเชียงดาวไว้ลากสังขารปีนเขากัน อารมณ์นั้น ข่าวร้ายคือ... วันที่เราจอง "เต็ม" แต่เรามีแผน B (อีกละ) ไว้มาดูกัน . . .
จากจุดนั้น บล๊อกก็จะกระโดดไป ๆ มา ๆ กับ เจียงดารา และความเมาช่วงข้ามคืน หลังจากฟินเต็มที่กับหนาวแรกที่เจียงดารา เชียงดาว เช้านั้นกันแล้ว เราบ่ายหน้าหาทางไป มะขามป้อม อาร์ทสเปซ ที่หลงไปค่อนเชียงดาวแล้วเพราะเชื่อ GPS ที่ยังไง ๆ ก็ชัวร์ไม่เท่าแผนที่ปาก จากเจียงดารา ซอยตรงกันข้ามกันนั้นคือ ซอยทางเข้า มะขามป้อม อาร์ทสเปซ (ป้ายเธอเลอะเลือนมาก) ฮาแตกที่.. มรึงขับไปไหนมา ??
บอกตรง ๆ ว่า วันที่เยือนนั้นป้าไม่ฟินตาม เพราะอุตส่าห์พับแผนสอนมาพัก เลือกพักที่นี่อารมณ์ดันคล้ายงานป้าอีก ไม่ได้ผิดที่เขา แต่ผิดที่เราต่างหาก แต่กับสิ่งนี้ ป้าฟินค่ะ
เครื่องดื่มหลักสิบ กับลมเอื่อย ๆ หนาวนิด ๆ มันก็จะฟินหน่อย ๆ
............... ....... .
อย่าถือคนบ้า อย่าว่าป้าเลย เยียวยากันเสร็จแล้ว พักยาว แล้วลุยงานกันต่อไป
มาเรียแบมบู . . .
ขอบคุณที่แวะมา