เมื่อย่างเข้าสู่เดือน พฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็นประปราย ก็ถึงเวลาเข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว ร่างกายต้องการอากาศหนาวๆ อยากได้ฟิลแบบโรแมนติกหน่อยๆ หลังจากที่บาดเจ็บกับทริป บันทึกเที่ยว วังเวียง และ บันทึกเที่ยว น้ำตกเอราวัณ ที่มันควรจะหนาว หน้าของเราควรจะปะทะกับอากาศหนาวๆ จนหน้าแตกไม่ใช่หรอ ??? ดันอากาศร้อน แดดแรงๆ กระแทกเข้าที่หน้าทั้ง 2 ทริป ....... แต่ไม่เป็นไร เราจะไม่ยอมแพ้ ในทริปนี้เราควรแตะความเย็นได้บ้างล่ะวะ ไปกันเลย
  บันทึก เที่ยวเชียงคาน ไปปั่นจักรยานตะลุยหมอก ทริปนี้ ไม่มีการวางแผนแต่อย่างใด จองรถ + ที่พัก วันนี้ พรุ่งนี้ไป เย้ ......... เริ่มแรกจากการจองตั๋วรถ ตอนแรกจองของแอร์เมืองเลย ไป-กลับ เรียบร้อยละ แต่พอตื่นเช้ามา อีเ-ี้ยยยยย มันเทททททททท มันแจ้งกว่าระบบขัดข้อง แล้วยังไง ???? ต้องหาตั๋วใหม่ไงแกรรรร หาตอนเช้า ไปเย็น ........ จะร้องไห้ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ขาไป เหลือแต่ ป1 ของ บขส TT เป็นอะไรที่เลวร้ายมาก แต่มันก็ไม่สามารถทำลายความตั้งใจจะไปของเราได้ ใจสู้ปะล่ะ   เริ่มจากการจองตั๋วโดยสารกันเลย ขอแนะนำให้เป็นของ บขส จะดีที่สุด ปลอดภัยสุด ถ้าได้ VIP จะเป็นอะไรที่ดีมากๆ    จองได้ที่นี่ บขส. http://www.busticket.in.th/ หรืออีกเว็บไซต์จะเป็นการรวมรถทัวร์หลายๆ เจ้าให้เราได้เลือก แต่จะไม่มีของ บขส เพราะงั้นเช็คของ บขส. ก่อน ถ้าไม่มีค่อยมาดูที่นี่ www.จองตั๋วรถทัวร์.com   ที่พักสามารถหาเอาใน Agoda , booking หรือจะ walk in เลยก็ได้ มีเยอะแยะ    ..........   เราจะไปขึ้นรถกันที่ หมอชิต โดยขาไปจะใช้บริการของ บขส รอบรถเวลา 20:00 น. แต่มันจะซวยอะไรตั้งแต่ขาไปวะะะะะ คือเรื่องมีอยู่ว่า ด้วยความล่าช้าของการนัดกับผู้ร่วมทริป ออกมาสายไง บวกกับพี่ Taxi ที่เป็นคนใจเย็น และพาไปทางรถติดไง ชิลๆ ยามเย็น ....... 19:45 น. ยังคงไม่ถึง ในรถก็ร้อนรนกัน 2 คน จะทำไงดีวะ จึงตัดสินใจลงกลางทางแม่ง แล้วใช้บริการพี่วิน ต้องพี่วินเท่านั้น จากนั้นเราก็ต้องวิ่ง วิ่งข้ามสะพาน แล้ววิ่งเข้าหมอชิต เพื่อไปเอาตั๋วรถ โชคดีที่พี่ตรงจุดจำหน่ายตั๋ว เขาให้ไปช่องลัด ต้องขอบคุณมากๆ ไม่ทริปล่มแน่ 555555   ค่ารถขาไป กรุงเทพฯ-เชียงคาน คนละ 419 บาท   20.00 น. รถออก เวลาตรงเป๊ะะะะะ    ที่นั่งค่อนข้างแคบ แต่ทำใจไว้ส่วนนึงละว่า มันเป็น ป1 อ่ะ ทำไงได้ บนรถจะแจกผ้าห่ม บรรจุอยู่ในถุง ดูสะอาดดี และแจกน้ำ+ขนม ให้ด้วย   นี่ไงรถของเราาาาาาาาา ดูใหม่ใช่ม๊าาาา บรรยากาศบนรถ มีผ้าห่มให้สีส้ม ตอนรถวิ่ง เราเดินลงไปห้องน้ำเห็นคนเอาผ้าห่มห่อตัว หัวล้านๆ นั่งข้างผู้หญิง เราก็สงสัยว่า เอ๊ะ พระนั่งข้างผู้หญิงได้ด้วยหรอวะ 55555555 ลืมไป มันเป็นผ้าห่ม  แจกขนมแล้วววว เรามาลุ้นของข้างในกันดีกว่า ชิ้นแรก  และ กาแฟ แต่ต้องไปชงกับน้ำร้อนที่จุดพักรถ   รถออกตรงเวลา 20:00 น. แต่ ...... กว่าจะออกไปถึงรังสิต ประมาณ 21.30 น. เพราะต้องแวะรับตลอดทางเลย 55555555 แวะรับประมาณ 3 ที่ได้ ชิลๆ หลับไปตื่นนึง อ้าว รังสิต 5555555   เมื่อขับมาได้สักพักใหญ่ๆ จะถึงจุดพักรถประมาณเที่ยงคืนได้ จุดนี้เราสามารถนำคูปองไปแลกข้าว หรือเป็นส่วนลดอาหารได้     รถแต่ละคันจะมีเวลาให้พักประมาณ 20 นาที หางตั๋วจะแลกได้ใบละ 20 บาท มั้ง ประมาณนี้แหละ จุดพักรถ มีร้านขายผลไม้ อาหาร ลูกชิ้น ขนมจีบ ของฝาก เยอะแยะมากมาย แต่ราคาชาร์จนิดหน่อย เมื่อครบ 20 นาที เราก็ขึ้นรถ ไปนอนฟังเดอะช็อค รวมเรื่องเล่าผี กันยาวๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เข้า จังหวัดเลย แล้ววววว ละอีกสักพักเราก็จะมาถึงเชียงคาน เย้ รถจะมาปล่อยเราลงที่ตลาดสด เมื่อเรามาถึงตลาด เราสามารถเดินไปหาที่พักเองได้ หรือบางที่เค้าจะออกมารับเรา ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินหา ดีจัง เดี๋ยวแนะนำที่พักให้   ตอนรอที่พักมารับ เราก็ยืนดูน้องหมาไปก่อน เพลินๆ ที่พักของเราในทริปนี้ชื่อว่า Chiangkan Modern Home รู้มั้ยที่นี่ดีงามยังไง  ขอเมาท์ให้ฟังก่อนเลยละกัน คือ ประทับใจตั้งแต่เริ่มจองแล้ว ตอนเราจองใน Booking เค้าส่งเมลมาว่าเราจะต้องจ่ายเงินจองก่อน เราเลยส่งเมลถามกลับว่า ให้เราโอน หรือส่งหลักฐานการโอนยังไง นางก็โทรมาเลยจ๊าาาาา ไม่ต้องเสียเวลาคุยผ่านเมล พี่เค้าบอกว่า ถ้าเราไปแน่นอน ไม่ต้องจ่ายค่าจองก็ได้ ให้ไปจ่ายตอนไปถึงเลย ที่เค้าตั้งไว้แบบนั้นเพราะมีคนจองแล้วยกเลิก จำนวนมาก พี่เค้่าก็ไม่สามารถปล่อยห้องให้คนอื่นได้ (ก็น่าเห็นใจพี่เค้านะ) ถ้าเรามาถึงแล้ว ให้โทรไปหา พี่เค้าจะออกมารับ เอาเบอร์มั้ย ??  Chiangkan Modern Home : 0947957443   ที่พักรอบนี้เราจองผ่าน Booking ในราคา 700 บาท  จองช่วงหน้าหนาวต้องทำใจนิดหน่อย เพราะที่ดังๆ เค้าเต็มกันหมดแล้ว ยิ่ง ส-อ นี่ยากมากๆ และเราจองแบบทริปไฟไหม้ด้วยแล้ว ได้ที่พักถือว่าโอเคมากๆ   เอาล่ะ เมื่อพี่เค้ามารับแล้ว เราไปดูที่พักกัน ด้านหน้าที่พัก มีมุมให้ถ่ายรูป น่ารักดี ติดต่อห้องพักได้เลยจ๊าาาา        ที่จริงจะทะลุอีกฝั่งได้ ซึ่งอีกฝั่งจะดูใหม่ ดูโมเดิร์นกว่า ส่วนฝั่งของเราจะดูบ้านๆ ได้ฟิลดี  ห้องพักเราอยู่ชั้น 2 มาลุ้นสภาพห้องกัน เถอะ ......   ห้องที่เราได้จะเป็นห้องที่มีระเบียง เพียงห้องเดียว สามารถเปิดออกไปนั่งเล่นข้างนอกได้เราชอบนะ ตอนกลางคืนออกไปนั่งรับอากาศเย็นๆ มั้ง พร้อมเบียร์ซักขวด คงฟินดี    ขนาดห้องไม่ใหญ่มาก มีเตียงเป็นเตียงสปริง เอาผ้ามาปะไว้บนหัวนอน มีแอร์ TV wi-fi อ้อที่สำคัญ ห้องไม่เก็บเสียงนะ อิอิ ...... ออกมาหน้าระเบียง จะมีเก้าอี้ และฟูกนอน ให้เราออกมาดื่มด่ำยามค้่ำคืน    มาถึงห้องน้ำกันบ้าง ...... ห้องน้ำเล็กๆ แต่สะอาด ผ่าน สบายใจละ 5555    ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน มาพร้อมกับ ซันซิล และสบู่    ตอนกลางคืน ออกมานอนดูดาว โรแมนติก ปะล่ะ เก็บข้าวของกันเสร็จแล้ว ต่อไปเราจะไปปั่นจักรยานเล่น หาอะไรกินกัน ที่พักของเรามีจักรยานให้ใช้ฟรีจ๊าาาาา    ปั่นมาดูวิว ที่แม่น้ำโขง      บ้านเก่าๆ ดูคลาสสิค     ปั่นมาเรื่อยๆ เราจะเจอกับวัด ศรีคุนเมือง
ตั้งอยู่ซอย 7 ถนนชายโขง เค้าบอกว่าที่วัดนี้เป็นแหล่งรวมศิลปะ ล้านนา และล้านช้าง และมีศิลปะวัตถุที่สำคัญ เช่น พระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรัก ปิดทอง ปาง ประทานอภัยแบบล้านช้าง           แต่คนบาปอย่างเรา จะย่างกร่ายในวัดนานไม่ได้ เพราะงั้น ออกเถอะ 55555 ปั่นกันเพลินๆ ดูบ้านของที่นั่น จะได้กลิ่นอายความเก่า และความคลาดสิค รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น แหละ วาดภาพเหมือน หน้าละ 199  เจอแล้ว มุมมหาชน ที่ใครไปเชียงคาน ก็ต้องถ่ายกับบ้านหลังนี้   เมื่อเราขับตรงไปสุดทาง จะเจอกับสวนสาธารณะ  เราต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ เพื่อบอกให้คนอื่นรู้ว่า กูมาแล้ว 5555  มีความกลมกลืน  เส้นทางรถถีบ จะบอกทางแบบง่ายๆ ว่าเราสามารถไปปั่นไปที่ไหนได้บ้าง    เส้นทางไปแก่งคุดคู้  เส้นทางไปชมทะเลหมอก ภูทอก เมื่อเรารู้เส้นทางแล้ว ................ แล้วไงอ่ะ หิว ก็ต้องไปกินปะ ไปเดะะะ   ร้านป้าข้างทาง 50 บาท กรอบอร่อย ต้องโดนจริงๆ ขนาดเราซื้อมาทิ้งไว้หลายชั่วโมง ยังกรอบอยู่เลย ด้วยความที่บับบบ อยากกินโจ๊กอ่ะ โจ๊กร้านดังๆ คนเยอะๆ แต่คิวยาวอ่ะ เลยตัดใจ ปั่นมาที่ร้านอื่น มาเจอร้านนี้เข้าพอดีเลออออ ชื่อร้านว่า "อิ่มอร่อยสมใจ" มันต้องอร่อยแน่ๆ  สั่งโจ๊กมาเลยจ๊า คนละชาม
มีหมูสับ หมูยอ ไข่ โรยกระเทียมหน่อยๆ  มาคุยกันถึงเรื่องรสชาติ ........พร้อมละนะ "คือ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยกินโจ๊กอะไรที่มันไร้รสชาติขนาดนี้มาก่อนในชีวิต จืดมากกกกกกกก เหมือนเอาข้าวไปผสมกับน้ำเปล่าให้กิน โอ้โห เท แมคกี้ไป 3 รอบใหญ่ ยังคงจืดอยู่ เหมือนกินน้ำเปล่ากับข้าวไปพร้อมกัน ส่วนหมูน่ะหรอ จืดพอๆกับข้าวเลย เกิดไม่เคยพบเคยเจอ ใครที่ทำโจ๊กได้รสชาติส้นตีน ขนาดนี้มาก่อน" กระเพาะช็อคไปเป็นที่เรียบร้อย

มื้อนี้โดนไป 90 บาท โจ๊ก 2 ชาม กับน้ำเปล่า 1 ขวด หลังจากที่อิ่มอร่อยสมใจ กับอิโจ๊กนี่ไปแล้ว ชีวิตเหมือนไม่มีความสุข ร่างกายอ่อนเปลี้ย เราต้องนอน เราต้องไปนอนเอาแรง Reset ตัวเองใหม่ !!!!!
พักผ่อนไปได้ประมาณ 3 ชั่วโมง กระเพาะเราเริ่มกลับมาแล้ว มันเริ่มหิวแล้วววววว
เราจะออกไปหาอะไรกินกัน แล้วจะปั่นไปแก่งคุดคู้   อ่านต่อที่ http://tisphateawdiary.blogspot.com/2016/11/blog-post.html   บันทึก เที่ยวกับติส TisDiary  http://tisphateawdiary.blogspot.com/