เมื่อคิดถึง “เขา
ทริปนี้มีเวลาวันเดียว ออกเดินทางคนเดียว โดยหวังว่าจะขอไปเยือน “เขาหงอนนาค" สักครั้ง ด้วยความที่สอยตั๋วโปรฯ ทิ้งเอาไว้ ก็เลยได้ใช้สักที จากทีแรกว่าจะจองไป กระบี่ แล้วไปเที่ยวขำๆ สักวัน แต่พักหลังมานี้ “เขาหงอนนาค" ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น ก็เลยถือโอกาสนี้ไปเยือนซะเลย!
กระบี่ เป็นจังหวัดทางภาคใต้ที่ได้ไปเยือนบ่อยมากๆ ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวมาก็เกือบครบล่ะ โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปี มานี้รู้สึกไม่ได้ห่างจากกระบี่เลย ซึ่งอันที่จริงแล้วครั้งล่าสุดที่ได้ไป ก็ตั้งใจว่าจะไปที่ “เขาหงอนนาค" นี่แหละครับ เพราะยังไม่เคยไปสักที แต่ก็ติดที่ว่าดันไปไม่ถึงซะงั้น เหตุเป็นเพราะ หลงทางบวกกับเวลาที่จำกัดก็ทำให้ได้ไปแค่ หาดคลองม่วง กับ หนองทะเล
เส้นทางที่จะไปสู่ “เขาหงอนนาค" นั้นจะมีสถานที่เที่ยวรายทาง อย่างเช่น หนองทะเล หาดคลองม่วง หาดทับแขก ซึ่งสามารถมาเที่ยวเก็บได้รวดทีเดียวได้เลย เพราะเป็นเส้นทางเดียวกันที่ต้องผ่านอยู่แล้ว และครั้งก่อนที่มา ก็ไปได้ไม่ถึงปลายทางที่ เขาหงอนนาค ทริปนี้ก็เหมือนเป็นกับการซ่อม คราวก่อนไปในตัว จะกลับไปพิชิตเขาหงอนนาค ให้สมความตั้งใจ ซึ่งแม้ว่า การจองตั๋วโปรฯ ที่ ณ ขณะที่จองก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าจะไปที่ไหน จองเล่นๆ ไว้ไป-เช้า เย็นกลับ เดินทางไปคนเดียว มีเวลาแค่ 1 วัน (ถ้าจะนับเวลาไฟล์ทไป-กลับ จริงๆ คือ มีเวลาแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น) ..ยังไงก็ต้องลองดูเนอะ!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
9.20 น. ออกเดินทาง!
เริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง.. ผมถูกต้อนรับด้วยสายฝนโปรยปรายตั้งแต่ลงรถเมล์ แล้วข้ามสะพานลอยเพื่อเข้าไปในตัวสนามบิน ก่อนหน้านี้ที่จะเดินทาง ก็ได้ลองพยายามสอบถามคนในพื้นที่ และดูข่าวพยากรณ์อากาศ เช็คสภาพอากาศที่กระบี่อยู่เสมอ เพราะช่วงเวลาก่อนที่ผมเดินทางไปนั้น กระบี่ เหมือนจะมีพายุเข้า ฝนตกทุกวัน เรือเล็กยังออกจากฝั่งไม่ได้ ก็พยายามชั่งใจ ว่าจะออกเดินทางดีหรือไม่? เกรงว่าไปถึงปลายทางแล้ว จะดูเป็นการเสียเวลาเปล่า เพราะถ้าเจอสภาพฟ้าฝนที่ไม่เป็นใจ คงจะไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนแน่ๆ แต่ด้วยลึกๆ ในใจก็เสียดายตั๋วโปรฯ ที่จะต้องทิ้งไปเหมือนกัน แม้จะเป็น โปรฯ 0 บาท เดินทางไป-กลับ แค่ 200 บาท ก็ตามที เมื่อตัดสินใจที่จะไป ก็พยายามเผื่อใจเอาไว้ด้วย ทริปนี้ 50/50 จริงๆ สภาพอากาศคงไปวัดเอากันที่หน้างานล่ะ!
10.30 น. สวัสดี..กระบี่!
นั่งลุ้นสภาพอากาศ ติดขอบหน้าต่างเครื่องบินอยู่ตลอดเวลา เหมือนคนย้ำคิดย้ำทำยังไงไม่รู้ พยายามชะโงกหน้าดูเมฆที่ลอยผ่านตาไปก้อนแล้วก้อนเล่า ในบางช่วงที่มีแสงแดดโผล่มาให้เห็น ก็ทำให้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง และภาวนาให้ปลายทางอย่าเจอกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจเลย ไม่นานเครื่องได้ลดระดับลงเรื่อยๆ เป็นสัญญาณว่า เกือบจะมาถึงปลายทางแล้ว ได้มาเยือนกระบี่อีกครั้งจนได้
เดินออกจากอาคารสนามบิน สิ่งแรกที่ทำ คือ เงยหน้าไปบนฟ้า เจอพระอาทิตย์ยิ้มทักทายอยู่บนหัว จนแทบจะหลบสายตาก้มหน้าแทบไม่ทัน เพราะแสงแดดมันแรงอะไรเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้ยิ้มกลับคืนไปให้หรอกนะ เพียงแต่ยิ้มในใจ ว่า..วันนี้อากาศดี หายกังวลไปซะทีเนอะ!
จากสนามบิน การเดินทางเข้าเมืองนั้นค่อนข้างที่จะสะดวก เพราะมี Shuttle Bus รับ-ส่ง เข้าเมือง สามารถซื้อตั๋วรถเข้าเมืองได้ที่เคาเตอร์ในสนามบิน ในราคา เข้าตัวเมืองกระบี่ 90 บาท หรือ จะไปสิ้นสุดลงที่อ่าวนางก็ 150 บาท แต่..ก็มีวิธีเข้าเมืองที่ประหยัดกว่านั้น และก็ใช้วิธีนี้ประจำ นั่นก็คือ รถสองแถวโดยสารประจำทาง โดยเดินออกมาจากสนามบินแล้วไปที่ถนนใหญ่หน้าสนามบิน เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จะมีศาลาเล็กๆ สามารถมานั่งรอรถได้ที่นี่ จะมีรถสองแถวผ่าน โบกแล้วโดดขึ้นรถเข้าเมืองได้เลย ราคา 20 บาทเท่านั้น!
11.00 น. ลานปูดำ – เขาขนาบน้ำ
อนุสาวรีย์ปูดำ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทุกทริปที่ไปเยือนกระบี่ ไม่ว่าจะมาจากสนามบินก็มักจะมาลงที่นี่ก่อน ราวกับว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ใครมาเที่ยวกระบี่ต้องมาถ่ายรูปกับอนุสารีย์ปูดำนี่ล่ะ ซึ่งมีฉากหลังเป็น เขาขนาบน้ำ ด้วยนะ และวันนี้ก็กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง นั่งรถสองแถวแล้วกดกริ่งมาลงที่นี่เช่นเคย
จาก อนุสาวรีย์ปูดำ เดินเท้าเข้าซอยไปตามแผนที่ไม่ไกล ประมาณ 300 เมตร เพื่อที่จะไปเช่ามอเตอร์ไซค์ไว้เป็นพาหนะในการเดินทางสำหรับวันนี้
เดินเท้าไม่นาน ก็มาถึง “ร้านนายหัวรถเช่า" ซึ่งคราวก่อนก็มาเช่าที่ร้านนี้ กลับมาอีกรอบก็ขอมาที่ร้านนี้ร้านเดิม เจ้าของร้านก็พอจะจำได้อยู่จากที่เคยมาใช้บริการในทริปก่อน ก็จัดการทำการเช่ารถไป โดยเช่าใน ราคาวันละ 250 บาท(เติมน้ำมัน 50 บาท) มีหมวกกันน็อค มาให้พร้อม!
11.20 น. เมืองกระบี่สู่เขาหงอนนาค
เวลาไม่คอยท่า.. ผมต้องรีบทำเวลาไปให้ถึง “เขาหงอนนาค" ให้เร็วที่สุด ถ้าจะต้องเดินขึ้น-ลง เขาหงอนนาค ให้ได้ใน 1 วัน ผมต้องมีเวลาเพียงพอ และต้องกลับมาให้ทันไฟล์ทกลับในช่วงหัวค่ำ ฉะนั้น จึงต้องทำเวลาพอสมควร และเผื่อเวลาไว้สำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิด ซึ่งยังไงเสียก็ต้องรีบไปให้ไวที่สุดเสียก่อน
จาก ตัวเมืองกระบี่ ไป เขาหงอนนาค ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร โดยตั้งเป้าหมายไปที่ หาดคลองม่วง หรือ หาดทับแขก ก็ได้ เพราะยังไงไปเขาหงอนนาคก็ต้องผ่านหาดนี้ ผมตั้งจุดหมายว่าจะไปที่ โรงแรมอมารี โวค กระบี่ ซึ่งเป็นโรงแรมสุดท้าย ก่อนที่จะถึงอุทยานฯ ทางขึ้นเขาหงอนนาค เพราะจะทำให้สังเกตได้ง่าย
แว๊นซ์ มอเตอร์ไซค์ไปทาง บ้านหนองทะเล ตามเส้นทาง 4034 ได้สักประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะถึง บ้านหนองทะเล ถ้าสังเกตระหว่างทาง ด้านขวามือจะเป็น โรงเรียนบ้านหนองทะเล ซึ่งด้านหลังโรงเรียนนี้ ก็จะเป็น บึงหนองทะเล สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งในกระบี่ที่น่าสนใจ ซึ่งผมเองก็ได้มาเยือนในครั้งที่แล้ว ก็เลยขอปล่อยผ่าน เลยโรงเรียนบ้านหนองทะเลมาหน่อยก็เตรียมเลี้ยวซ้ายได้แล้ว จะมีแยกไฟแดงเป็นจุดสังเกต
เมื่อถึงไฟแดงบ้านหนองทะเลแล้ว ก็เลี้ยวซ้ายไปตามเส้น 6024 จะมีป้ายบอกทางไป หาดคลองม่วง ก็แว๊นซ์ไปเรื่อยๆ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่สวยเส้นทางหนึ่งเลยนะ บรรยากาศชื้นๆ และ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยภูเขาหินปูน รูปร่างแปลกตา บางจุดมีภูเขาตั้งอยู่สองข้างทาง เหมือนว่าถูกถนนตัดผ่ากลางภูเขาให้แยกจากกัน เวลาขับรถผ่านจึงทำให้การเดินทางรู้สึกตื่นเต้นมีมิติมากขึ้น
12.00 น. หาดคลองม่วง – หาดทับแขก
เวลาเที่ยงตรง มาถึงตรงนี้ ถือว่าทำเวลาได้ดี! จุดหมายปลายทางที่จะไป จะต้องผ่านบรรดาหาดเหล่านี้ ถ้ามาถึงตรงจุดนี้ ก็มาถูกทางแล้วล่ะ ความตั้งใจแรกคือ กะว่าจะไม่แวะ หาดคลองม่วง-หาดทับแขก เพราะว่าเคยมาเยือนมาแล้วในครั้งก่อน และจะโฟกัสไปที่ “เขาหงอนนาค" อย่างเดียว จะบึ่งรถไปให้ถึงโดยไม่สนใจกับสองข้างทาง แต่สายตาที่เหลือบมองซ้าย ไปที่ชายหาดเป็นระยะๆ ก็พึมพำอยู่ในใจ “วันนี้ทะเลสวยว่ะ!" น้ำทะเลดูใส กว่าคราวก่อนอีก อดใจไม่ไหวก็เลยขอจอด เก็บภาพ และนั่งพักเหนื่อยอยู่ริมหาดสักพัก
วันนี้.. หาดคลองม่วง บรรยากาศดีมาก ฟ้าสวย น้ำใส ไร้ฝน ซึ่งเมื่อวานก็ยังได้ข่าวฝนตก อยู่เลย ก็ถือว่า..โชคดีมากๆ เลยที่ไม่เจอกับสภาพอากาศเช่นนั้น