-
thidaratt • พฤษภาคม 06, 2559
-
thidaratt • พฤษภาคม 06 , 2559
ครั้งแรก...สะพายเป้ไปเขาล้อมหมวก
สวัสดีค้าา คุณผู้ชม เห้ย ไม่ใช่รายการอาหาร
เอาละค้า สืบเนื่องจากเพื่อนในทริปนี้อยากไปทะเล เนื่องจากทริปที่แล้วไปเกาะพยามจนเพื่อนอยากไป
ตามกระทู้นี้ละคะ http://pantip.com/topic/35054269
อะ ตามใจเพื่อน เนื่องจากเป็นทริปเร่งด่วน รู้ตัวก่อนวันไป 4 วัน
นั่งแพลนนุ้นนี่ ภายใน 2 ชม. ทั้งที่พัก และการเดินทาง.
ไปทะเลก็ไม่อยากไปแบบสวยๆ ชิลๆ ผู้หญิงถึกๆ แบบเราต้องปีนป่ายให้ได้ร่องรอยบาดแผลกันบ้าง
จริงๆ อยากมาสัก 2 คืน 3 วัน แต่พอดีเพื่อนเราในทีม ยังทำงานในวันที่ 30 เมษายน แต่มันไม่ใช่อุปสรรคเลย
***ขอบอกไว้เลยทั้งทริป พวกเราประทับใจหลายๆอย่างของที่นี่มาก เรียกได้ว่าได้เที่ยว ได้อร่อย ได้เจอความประทับใจจากวิถีชีวิตของคนที่นั่น จนต้องกลับมาซ้ำ จะสนุก จะเจออะไร เราไปดูกำหนดการกันก่อนดีกว่าค่ะ
(สรุป คชจ. จะสรุปตอนท้ายค่ะ)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
- ที่พักจองที่เรือนชบา รีสอร์ท 700 บาท ไม่เอาเตรียมเสริม นอนสามคน เตียง 6 ฟุต 1 คืน
- การเดินทาง รถทัวร์ ป.1 คนละ 300 กว่าบาท จากสายใต้ไป ยังตัวเมืองประจวบฯ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------นี่คือกำหนดการคร่าวๆของพวกเรา
***วันที่ 1 30-04-2559
23.59 : รถออกเดินทางไปยัง จ.ประจวบฯ****วันที่ 2 01.05-2559
05.30 : ถึง บขส.
06.00 : กินข้าวเช้า เตรียมเสบียงขึ้นเขา
07.00 : นั่งสามล้อไปยัง ที่พักเรือนชะบา รีสอร์ท 032-604-648
08.00 : เตรียมพร้อมขึ้นเขา กองบิน 52 (ค่าเข้าฟรี)
09.00 : ปีนขึ้นเขาล้อมหมวก ชมความงามของทะเลอ่าวไทย 2 อ่าว
12.30 : ปีนลงเขา
13.30 : ทานอาหารเที่ยงที่ร้านครัวบ้าน (เพชรในรู) อยู่หน้ากองบิน 032-550297
14.30- 15.00 : นอนพักผ่อนที่ห้อง และไป เดินเล่นริมชายหาด กินน้ำมะพร้าว
16.00 ; หาตั๋วรถไฟกลับ กทม
17.00 : ร่องเลือชมพระอาทิตย์ตก กับ Sunset Cruise 082-244-6919
18.00 : เดินทางไปกินข้าวที่ร้าน ครัวดาว หรือร้าน รับลม บริเวณอ่าวน้อย
ช่วงค่ำรับลมใกล้ทะเล แล้วเข้านอนซะ (อันนี้จะครัวดาว หรือรับลมขอคิดก่อนเพราะอร่อยทั้งนั้น)
ครัวรับลม -- 032 601 677 032522838
ครัวดาว -- 086 668 1339
ฟ้าทะลายโจร -- 032 661 162
ส้มตำคลองวาฬ --- 086 177 1067****วันที่ 3 02.05-2559
06.00 ฟ้าเปิดที่ ประจวบ รับประทานอาหารเช้า
09.30 ยามสาย หาของฝาก เค้กอ่าววาฬ ร้านกาแฟ
ใกล้เที่ยงเดินทางกลับ กทม
12.00 กลับ กทม.ปล...นี่เป็นกำหนดการคร่าวๆ ที่ต้องเขียนไว้ก่อนการเดินทางส่วนจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด โปรดรอติดตาม เพราะการวางแผนจะนำไปสู่เป้าหมาย แต่ใช่ว่าเรื่องระหว่างทางจะไม่มีความท้าทายหรือการเปลี่ยนแปลง>>>>>> ทริปนี้เลยเริ่มขึ้น พวกเราเดินทางไปยังสายใต้เพื่อขึ้นรถ ป.1 บริษัทบางสะพานทัวร์ ด้วยรถแท้กซี่
เวลารถออกเที่ยวสุดท้ายคือ 23.59 แหม่ อะไรจะเค้าดาวท์ ขนาดนั้น
เพื่อที่จะไปรุ่งสางที่ประจวบเลยจริงๆ และเตรียมตัวเข้าที่พักฝากของไว้ เพราะเวลาในตั๋วคือถึงเวลา 05.39 อะเครจัดไปเช้าพอดีเลย จะได้หาอะไรกินที่ บขส.ก่อนนำของไปฝาก และขึ้นเขา
--------------------------------------------------------------------------------แต่แล้วๆๆๆๆๆ ห๊ะ อะไร ถึงแล้วเหรอ
กระเป๋ารถทัวร์เรียกให้ตื่น บอกว่าถึงจุดตรวจแล้ว บขส.ประจวบแล้ว
เห้ย ตีสามครึ่ง >>>>>>>>> เข้าใจอารมณ์คนนอนหลับสนิทแล้วมีคนปลุกไหมแกร
คือลากเป้ แล้วลงรถ เอาแล้วทำไมมาจอดข้างทางแว้ คือ งง คือ ง่วง คือ งุนงง ทำไม บขส.ที่นี่แบบนี้แว้
คือมันมืดมากแกรเอ๋ย อารมณ์แบบถูกทิ้งไว้กลางทาง ในใจที่คิดตอนนั้นคือ จะมุ่งไปป้อมตำรวจทางหลวง ถ้าส่งผิดที่นะ ไปฟ้องแน่ หึหึ
-ภาพปลากรอบ- มืดๆๆ ข้างบนนี่เลย น่ากลัวใช่ไหมแกร
รีบถามคนบริเวณนั้น เค้าบอกว่านี่แหละครับ บขส. โทรหารีสอร์ทอีกรอบ
โอ้ยคือโล่งใจ เปิด google map อีกครั้ง อะเครห่างกัน 4km
รถลุงสามล้อที่บอกว่าจะมารับหกโมงเช้าคงไม่มาแล้วเพราะเรามาไวกว่าเวลาปกติ ย้ำว่ามาก >>
ทางรีสอร์ทเลยให้พี่ยามเอามอเตอร์ไซส์มารับ ...
,,ติดตามกันต่อไป ของีบแปป #สนุกละ
--------------------------------------------------------------------------------กิ้งก่อง ตื่นแล้วๆๆๆ
ตื่นแล้ว ตื่นในรีสอร์ทบริเวณเค้าเตอร์ของรีสอร์ท
เนื่องจากเรามาถึงก่อนเวลา จึงขอนอนตรงนี้ กับแสงแรกของเช้าวันนี้ เอาแล้วเตรียมตัวล้างหน้าทางรีสอรทให้
พนง. ขับรถยนต์ไปส่งพวกเราในกองบิน ซี่งอยู่ไม่ห่างกัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
คือประทับใจการบริการของรีสอร์ทมากๆ เหตุที่เราต้องนอนกันที่หน้าเค้าเตอร์เพราะไม่มีห้องพักว่าง
และพวกเราก็มาก่อนกำหนดเวลา คือไม่ได้ซีเรียสขอแค่ได้งีบแปปนี่เป้นบริเวณหน้าที่พักที่พวกเราจองไว้
------------------------------------------------------นี่ไงดอกชบา หน้ารีสอร์ท
พวกเรา แวะที่จุดลงทะเบียนบริเวณทางขึ้นเขา วันนี้เป็นวันหยุดแรงงาน จึงมีจำนวนนักท่องเที่ยวพอสมควร
ได้ยินเสียงทหารหนุ่มประกาศให้ไปลงทะเบียนและรีบขึ้นเขาเนื่องจากอากาศจะร้อนขึ้นเรื่อยๆและเป็นอุปสรรคต่อการพิชิตยอดเขา สำหรับท่านใดที่มีโรคประจำตัว ควรมีการตรวจเช็คความดันตรงจุดที่ให้บริการ--------------------------------------------------------------------------------------------------
15 ข้อควรรู้ก่อนไปเขาล้อมหมวก!
----------------------------------------------------
1. เขาล้อมหมวกอยู่ในกองบิน 5
2. เวลาที่สามารถลงทะเบียนได้คือ 06.00 - 10.00 น. / เปิดให้บริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศหยุดเท่านั้น เช่น วันแรงงาน ที่ผ่านมา
3.โรงแรม รีสอร์ท ราคาถูกมากค่ะ
4.จุดลงรถทัวร์ บขส.ประจวบคีรีขันธ์อยู่ติดถนนใหญ่ หากใครไม่เคยมาอาจตกใจได้ หากถึงก่อนเช้า (ต้องให้ทางรีสอร์ทมารับ)
5.ห้ามจอดรถถ่ายภาพตลอดเส้นทางรันเวย์ ในกองบิน 5
6.ตอนปีนขึ้นเขาควรใส่ถุงมือ และสวมใส่เสื้อผ้าสำหรับกันหินบาด เพราะแหลมคมจริงๆ
7.รองเท้าขอให้แข็งแรงพื้นกระชับ เพื่อสะดวกต่อการปีนป่าย
8.บันไดปูนเหนื่อย กว่าการปีนขึ้นเขา เพราะมันชันได้ใจจริงๆ
9.ตลอดเส้นทาง หากคนไปเยอะ ชอบหยอกล้อเสมอๆ ว่าข้างบนการราจรติดขัด บ้างก็ให้กำลังใจกันว่า Seven เปิดนะข้างบน
10.ทางขึ้นเขา หลังจากสิ้นเส้นทางบันไดปูนจะมีเชือกให้จับตลอดเส้นทาง บ้างหากรถติดก็จะเลี่ยงเส้นทางเชือกไปใช้การปีนเขาด้วยสองมือเปล่า ทางขวา แต่แอบหวาดเสียวนิดนึง
11.ลงจากเขา จะมีจุดขายของที่ระลึก เสื้อหมวก ผู้พิชิต
12.มีจุดบริการขายน้ำดื่ม ของเหล่าแม่บ้านทหาร .
13.ควรนำน้ำดื่ม 2 ขวดอย่างต่ำ ต่อคน / หรือเจลลี่หวานๆ / เกลือแร่ สำหรับพกไปบนเขา
14.สัญญาณโทรศัพท์ชัดทุกเครือข่าย
15.ออกจากกองบิน 5 มีร้านข้าวอร่อยชื่อร้านเพชรในรู อร่อย สด ถูก (อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณา)
---------------------------------------------------///ก้าวแรกที่เดินไป ก็จะเจอบันไดปูน คือหอบ คือหายามดมแป้ป คือชันมาก สิ้นสุดทางบันไดปูน คือบอกเลยเหนื่อยมาก ขนาด จขกท. ซ้อมออกกำลังมาแล้ว และเหนื่อยกว่าการปีนขึ้นเขาในวันนั้นคือ การที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเยอะทำให้การจราจรติดขัด ประจวบกับแดดที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เราจึงเบี่ยงเส้นทางไปทางขวา และปีนขึ้นเองโดยไม่มีเชือก จริงๆไม่อันตรายมากนะ แต่ต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่มีเชือกคอยพยุง
ความชันแบบ 90 องศา คือตั้งชันเลยก็ว่าได้ แต่ท้าทายมากๆ เหนื่อยน้อยกว่าบันไดปูนอีกค่ะ
เจอจุดถ่ายภาพก็หยุดแวะถ่ายบ้าง เจอเพื่อนๆร่วมทริป บ้างก็มากับเพื่อนๆ บ้างก็มาเป็นคู่รัก ครอบครัว-------------------------------------------------------------------////
ถึงแล้วแกร เราได้มาจุดที่เราจะมาหย่อนเท้า แล้วถ่ายภาพ ตามที่เราหวังไว้แล้ว
คืออยากจะถ่ายให้มากกว่านี้นะ แต่ร้อนจนอยากจะกลับบ้านเลย
วิวตรงหน้านี่แบบ ถ้าแดดไม่ร้อนขอนั่งยาวๆ
แต่แดดขนาดนี้ หน้าแทบมืดค่ะคุณผู้ชม----------------------------------------------------------***
และมาพบรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย ได้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคล
สำหรับรอยพระพุทธบาทนี้มีข้อมูลจากกองบิน 5 กล่าวว่าเป็นพระพุทธบาทเบื้องซ้าย กองบิน 5 พบรอยพระพุทธบาทเมื่อปี 2532 เป็นการค้นพบโดยบังเอิญขณะอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานบนยอดเขา เมื่ออัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปถึงยอดเขาจึงได้หาก้อนหินบริเวณนั้นเพื่อรองเป็นฐานพระพุทธรูป พบว่าเมื่อเรียงหินห้าก้อนต่อกันมองเห็นเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย โดยจากการตรวจสอบของกรมศิลปากรพบว่ารอยพระพุทธบาทนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4และต่อมาในปี 2541 ก็ได้มีการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ พร้อมกับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานไว้เป็นที่เคารพสักการบูชาสืบมาถึงปัจจุบัน เป็นที่น่าสังเกตว่าบนเขาช่องกระจกซึ่งเป็นภูเขาอยู่ในตัวเมืองประจวบฯ ไม่ไกลจากเขาล้อมหมวกนั้นเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ส่วนเขาล้อมหมวกประดิษฐานพระพุทธบาทเบื้องซ้าย เข้าคู่กันพอดี
--------------------------------------------------------------------///
จบสิ้นละภารกิจพิชิตเขาล้อมหมวก
ระหว่างเส้นทางเราได้เจอคนหลายๆ แบบ เจอทั้งที่มีน้ำใจ เจอทั้งคนที่ลืมมองคนข้างๆ
ลืมไปว่าจริงๆ เราก็เป้าหมายเดียวกัน แค่ช้าไปหน่อย เพราะต่างคนต่างที่มา
แต่อยากขึนไปยอดเขานั้นเช่นกัน
วาร์ปไปพาร์ท ของกินของอร่อยกันได้ละนะแกร เราว่าเราหิวแล้วอะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
--------------------------------------///
หลังจากที่ ลงจากเขาสิ่งที่แรกที่ทำคือ กินน้ำอย่างกับอูฐ กระดกๆๆไป วนวนไป
ซึ่งมีความ หาแอมโมเนีย ยาพารา ตรงจุดบริการ และโทรหารีสอร์ทให้มารับร่างไป ไว้ในห้องแอร์ฉ่ำๆๆและเราก็เช่ามอเตอร์ไซต์ออกมาแว้นกัน จะเป็นร้านข้าวร้านไหนไม่ได้
ขอร้านนี้เลย ครัวในบ้าน (เพชรในรู) อยู๋หน้ากองบินเลย ก่อนเข้ากองบิน ทางซ้ายมือจ้า
เราสั่ง สามอย่าง เพราะไม่ค่อยหิวข้าวมากเท่าไหร่
- ต้มยำปลาทู
- ผัดฉ่ากุ้งหมึก
- ยำปลาหมึกไข่
- ข้าวสวย
ดูรูปกันเลยนะคะ จริงๆ ต้องขอขอบคุณ over eat กูรูนำกินเที่ยว แบบพี่วัฒน์ที่แนะนำร้านอาหารมาด้วยค่ะ- ต้มยำปลาทู คือมีความสด มีความเปรี้ยวได้ใจ คือสะใจจริงๆ เนื้อปลาหวานมากๆ
ต้องขอขอบคุณน้องเจ้าของร้านด้วยค่ะ ที่บริการดีและแนะนำที่เที่ยวอื่นๆในเมือง
ขนมหวานอร่อยมากๆ ถ้วยละ 15 บาท ทับทิมกรอบต้องไปโดนเค้าใช้แห้วแท้นะแกร
ก่อนกลับน้องเค้าให้แผนที่จังหวัดกลับมาด้วยค่ะ
ร้านอยู่ตรงบริเวณหัวมุมตลาดโต้รุ่ง ไปกันได้เลยจ้า ไม่แนะนำของดี ถูกอร่อย จะให้แนะนำอะไรละจ้า*--------------------------------------------------//
---------------------------- และรีบกลับห้องไปอาบน้ำโดยด่วน กำหนดการเราคลาดเคลื่อนเนื่องจากเราใช้เวลาปีนเขานานกว่ากำหนดการ 2 ชม.
เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวเยอะ และอากาศร้อน 17.30 เรามีนัดล่องเรือกับ Sunset Cruise
ค่าร่องเรือคนละ 300 บาท แต่บอกเลยว่าคุ้มมากๆ ด้วยบรรยากาศ โทรเบอร์นี้นะ 082-244-6919
เรือมารอเราที่สะพานสราญวิถี และชำระเงินที่เจ้าหน้าที่ประจำเรือได้เลยจ้า ----------------------------------------------------------------------------
*--------------------------------------------------//
โอเคร ถามว่าคุ้มไหม เราว่าก็โอเคนะ ได้ไปลุ้นดูปลาโลมาด้วย เห็นหลังไวไว
ค่ำละ ไปกินข้าวกันเตอะ มีป้าเล็กร้านน้ำแนะนำให้ไปกินข้าวร้าน เจ้พูนลาภ
อยู่บริเวณร้านค้าสาะารณะตรงข้ามหาด เจอสะพานสราญวิถี แล้วเลี้ยวซ้ายไป 500 เมตร
ร้านอยู่ซ้ายมือ ร้านแรกเลย
มื้อนี้ 830 แต่บอกว่าป้าในตลาดแนะนำมาป้าแกลดให้ 30 บาท ฟินมากกินอลัง แต่จ่าย 800 คือของสดมากมากด้วยอะแกร
- หมึกย่าง
- กุ้งเผา
- หอยลายตัวอ้วนผัดโหระพา
- แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว (อันนี้เราเฉยๆ เรากินได้เผ็ดกว่านี้เพราะเราเป็นลูกหลานแดนสะตอ)
- ปลาทรายทอดกระเทียม คือดีงาม
เอาบิลอาหารไปดูก่อน-----------------------------------------------------//
เช้าแล้ว คนที่นี่บอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นไว เรารีบออกจากห้อง โดยปล่อยให้เพื่อนอีก 1 นอนต่อไป
ตื่นมาด้วยอาการ น่องปวดๆ 55555++
ไปดูพระอาทิตย์กัน เช้านี้เราได้เจอน้องๆ 3 คน สาวๆๆ จาก กทม. เราได้ถ่ายภาพให้หลายๆคนในเช้าวันนี้
บางทีการเดินทางก็ทำให้เราไปเจอเพื่อนใหม่ๆว่าไหมเสน่ห์แห่งภาพย้อนแสง ยังคงสวยงาม
เดินไปท้ายตลาด จะเจอร้านโจ๊กอยุ่ตรงหัวมุม
และร้านปาท่องโก๋ และน้ำเต้าหู้
คือน้ำเต้าหู้อร่อยมาก พิกัดร้านคือ หลังไปรษณีย์ จะเป็นสองคนสามีภรรยา ขายคุ่กัน อร่อยมาก
ปาท่องโก๋กรอบหอมละมุน นี่ จขกท.ไม่ได้กินมานานมาก คือยอมกิน คืออร่อยที่สุด
ซื้อน้ำเต้าหู้กลับบ้าน อีก 4 ถุง พ่อค้านี่ยิ้มเขิลเลยที่เราชอบเที่ยวไม่ใช่แค่เราอยากพักผ่อน แต่เราอยากออกไปเจออะไรที่ไม่ใช่
แค่ตื่นมาแลกบัตรรถไฟฟ้า แล้วไปทำงานแปดโมง ติดประชุมยันค่ำ เราไม่อยากเป็นแบบนี้ทุกวัน
รู้ว่าวันนี้ยังอิสระได้ไม่พอ ทุกคนอยากเที่ยว อยากมีเวลา
แต่ถ้าในเมื่อวันนี้ทุกอย่างอาจจะยังไม่เป็นดั่งใจคิด
เราก็มีความสุขในแบบที่เราคอลโทรลได้
สนุกกับงาน และสนุกกับไลฟ์สไตล์ของใครของมัน
รู้ไหม.....
เราอยากเจอคนใหม่ๆ เราอยากเจอเพื่อนใหม่ๆ เราอยากเจอวิถีชีวิตที่เป็นเสน่ห์ของแต่ละที่
หลายคนถามเราเสมอ ทำไมเราเที่ยวบ่อย
เรามักจะบอกว่า ก็ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรมากเลย
แค่เราอยากไป เราก็ไป หลายคนคอยกดไลท์
คอยติดตาม อยากไปใต้คอมเม้น แต่ไม่เห็นจะแบกเป้สักที
ไลฟ์สไตล์ของคนเราต่างกันไป
ความชอบ เราไม่มีสิทธิไปบอกใครหรอก ว่าพักผ่อนแบบนั้นถูก แบบนั้นดีกว่า
แบบนั้นลำบากไปทำไม ......... แต่อยู่ที่ ค ว า ม พ อ ใ จ . . . . . .
-- จบมื้อเช้า เราขอตัวซื้อปาท่องโก่ไปให้เพื่อนเราที่ห้องก่อน ---
ของีบแปป แล้วเจอกัน มื้อเที่ยงก่อนกลับ กรุงเทพพพพพพพพตำบลคลองวาฬอยู่หลังกองบิน เราสามารถขับผ่านหอดูดาวหว้ากอและตรงไปเลยจ้า
เราจะไปกินส้มตำคลองวาฬ เราโทรมาคุยกับเจ้าของร้านก่อนมาแล้ว
ก่อนนี้ร้านปิดมาหลายวันเพราะ เจ้าของร้านไปคลอดน้อง
ไปลุยกันเลยดีกว่า
เมนูเด็ด
- ส้มตำกุ้งสด
- ลาบแซลมอน (อันนี้เราเฉยๆ)
- คอหมูย่าง
- ปีกไก่ทอด
- ส้มตำปูปลาร้า
-------- เท่านี้พอนะครับ ---------
มาร้านนี้อย่าลืมสั่งน้ำมะพร้าว ขวดละ 10 บาทนะจ๊ะ*-------------------------------------------------------------------------------------------------///
เราว่าเราชอบ สส้มตำกุ้งสดหนักมาก ถ้ากุ้งไม่สดจริงๆ
ทำไม่ได้นะ จานนี้ 140 บาทเอง กุ้งตัวยักษ์ 5 ตัว
รสชาติอาหาร ติดไปไปทางรสยำทั้งหมด เปรี้ยวนำ
เราสังเกตุคนที่นี่กินรสไม่จัด เปรี้ยวนำเกือบทุกดมื้อ-------------------------------------------------------------------------------//
จบแล้ว รีวิวจบแล้ว เหนื่อย สนุก ท้าทาย อร่อย ร้อน ตามแบบฉบับเที่ยวไทยไปได้ทุกเดือน
หลายคนอินบ้อคมาถาม ว่าเราถ่ายรูปกับอะไร เราใช้ ไอโฟน 5 s นะ เราว่าสำหรับเราเราสะดวกมากๆ
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวเราว่าไปเลย ที่ไหนก็ไปเลย .....
สรุป ค่าใช้จ่าย สำหรับ 3 คน 5,921
คนละ 1,973 บาท กินอลัง พักสบาย ชิลจะตาย หาเวลาไปเที่ยวกัน
- ค่าที่พัก 700
- ค่ามอเตอร์ไซต์เช่า 300
- ค่าน้ำมันรถ 50
- ค่าล่องเรือชมพระอาทิตย์ 900
- ค่าอาหารเที่ยงครัวในบ้าน (เพชรในรู) 380
- ค่าอาหารเย็นเจ๊พูนลาภ 800
- ค่าอาหารเช้าในตลาด 200
- ค่าอาหารเที่ยงส้มตำคลองวาฬ 630
- ค่ารถทัวร์ขาไป 936
- ค่ารถตู้ขากลับ 720
- ค่าขนมหวาน 45
- ค่าน้ำผลไม้ปั่น 60
- ค่าเข้า Seven 200
- ค่าของตักบาตร + ค่าของฝาก ---- อันนี้แล้วแต่-----ขอบคุณที่อ่านและติดตามกันจ้า พูดคุยในกระทู้พันทิพได้ จ้า
http://pantip.com/topic/35112475
***************************************************************************************************